เซี่ยเสี่ยวหม่านก้าวเท้าสวบๆ ไล่ตามไป
เพียงแต่ว่าวินาทีที่เขาไล่ตามมาถึงศาลพิจารณาคดีมันก็สายเกินไปแล้ว จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จเข้าไปในศาลพิจารณาคดีแล้ว เสียงอึกทึกครึกโครมภายในห้องโถงใหญ่ก็เกิดความเงียบลงในทันที
เซี่ยเสี่ยวหม่านเห็นเพียงแค่ว่าบรรดาผู้คนมีสีหน้าตื่นตระหนกใและมองหน้ากันเลิ่กลั่กราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจไม่หมด! มีเพียงเฉิงอี้เฟยที่ก้าวเท้าพรวดพราดไปด้านหน้าพลางเอ่ยถาม “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย แพทย์หญิงกูไม่เป็อะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ”
จวินจิ่วเฉินเหลือบมองเฉิงอีกเฟยครู่หนึ่ง ทว่าเขายังไม่ทันที่จะได้ตอบ เฉิงอี้เฟยก็รู้สึกถึงความไม่เหมาะสมจึงรีบอธิบายออกไป “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย อู๋กงกงฆ่าตัวตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าทั้งหลี่เก๋อฉุนและเฉินซานหยวนจะไม่อาจไต่สวนอะไรออกมาได้ การที่จะตามหาคนร้ายตัวจริงในตอนนี้มีเพียงการตามสืบที่มาที่ไปจากของกลาง ซึ่งคาดว่าต้องพึ่งพาแพทย์หญิงกูแล้ว” จวินจิ่วเฉินพยักหน้าขึ้นลงแสดงเจตนาเห็นด้วย จากนั้นเขาจึงเอ่ยว่า “ไม่มีอะไรร้ายแรง”
ในที่สุดเฉิงอี้เฟยก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาลอบมองไปที่เสื้อคลุมของจวินจิ่วเฉินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ก่อนจะกลับไปนั่งอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเสี่ยวหม่านที่แอบอยู่ด้านข้างมองดูจนถึงตรงนี้ จากนั้นจึงย้อนกลับไปหากูเฟยเยี่ยนทันที ภายในจิตใจของเขานั้นเรียกได้ว่า…โมโหมาก!
บริเวณห้องด้านหลัง กูเฟยเยี่ยนเพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เสื้อผ้าชุดเดิมของนางถูกเืพิษกัดกร่อนไปหมดแล้ว
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าต้องออกมาเผชิญหน้ากับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย ภายในใจจึงเกิดความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทว่านางไม่อาจรอช้าได้จึงรีบเปิดประตูออกมา
แต่อย่างไรก็ตามกูเฟยเยี่ยนไม่พบจิ้งหวาง ตรงกันข้ามกลับเห็นถึงใบหน้าบูดบึ้งของเซี่ยเสี่ยวหม่านแทน เขายืนกอดอกขวางอยู่หน้าประตูโดยมีท่าทางราวกับว่าเป็เทพเ้าเฝ้าประตูองค์หนึ่งที่ยืนหันหน้าผิดทิศทาง
กูเฟยเยี่ยนไม่มีเวลามาใส่ใจใบหน้าบูดบึ้งของเขา นางรีบนำเสื้อคลุมบนมือยื่นออกไป “เตี้ยนเซี่ยล่ะ? รีบนำไปคืนแก่พระองค์”
เซี่ยเสี่ยวหม่านชิงเสื้อคลุมกลับมา และซักถามด้วยความโกรธเคือง “เกิดอะไรขึ้นกับเ้าและเตี้ยนเซี่ย พูด! ”
เขาเพียงแค่เข้าใจว่าเตี้ยนเซี่ยได้นำเสื้อคลุมของตนเองให้แก่กูเฟยเยี่ยน แต่ยังคงไม่เข้าใจว่าตกลงแล้วเกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่
เมื่อกูเฟยเยี่ยนนึกถึงเื่ราวเมื่อสักครู่นี้ ใบหูก็เกิดความร้อนขึ้นมาทันที นางเลี่ยงพลางเอ่ยขึ้นเบาๆ “บนเสื้อผ้าของข้าเปื้อนเืพิษไปไม่น้อย จำเป็ต้องรีบเปลี่ยน เตี้ยนเซี่ยก็เลยนำเสื้อคลุมของพระองค์มาให้ข้ายืม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหม่านจึงดีขึ้น กูเฟยเยี่ยนรีบยัดเสื้อคลุมให้เขาแล้วเอ่ยเร่งรัด “รีบนำไปให้เตี้ยนเซี่ย! ”
“ไม่จำเป็แล้ว! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านอดไม่ได้ที่จะบ่นว่านายเหนือหัวของตน ปกติเ้านายจะมีความสุขุมเยือกเย็นและรอบคอบมาโดยตลอด ทว่าครั้งนี้เกิดความโง่เขลาแล้วหรือ? พระองค์ถึงกับให้เขานำเสื้อผ้าชุดใหม่มาเปลี่ยน? พระองค์ไม่รู้จักรอให้กูเฟยเยี่ยนเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วคืนเสื้อคลุมกลับไปหรือ?
ในขณะนี้ฝ่าาทรงประชวรอย่างหนัก เื่ที่พระองค์ทรงเป็ห่วงมากที่สุดก็คือการอภิเษกสมรสของเ้านาย ฝ่าาทรงแอบคัดเลือกคนมาตั้งนานแล้ว หากว่ามีข่าวลือระหว่างเ้านายกับกูเฟยเยี่ยนออกไป ฝ่าาจะไม่ทรงรีบร้อนมากขึ้นอีกหรือ? ทางด้านเ้านายก็ไม่ทรงโปรดปรานผู้ที่ฝ่าาทรงคัดเลือกมาให้ เมื่อถึงเวลานั้นจะทำอย่างไร?
เซี่ยเสี่ยวหม่านยิ่งคิดยิ่งเกิดโทสะ ทว่ากูเฟยเยี่ยนกลับรู้สึกคาดไม่ถึงจึงรีบถามออกไป “หมายความว่าอย่างไร? เตี้ยนเซี่ยล่ะ? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านตอบกลับด้วยความไม่พอใจ “เปลี่ยนชุดใหม่แล้ว ไปที่ศาลพิจารณาคดีตั้งนานแล้ว! นังหนู เ้ามันคือผู้ที่ชอบสร้างปัญหา เ้า…”
เซี่ยเสี่ยวหม่านยังพูดไม่ทันจบ กูเฟยเยี่ยนก็รีบร้อนวิ่งไปทางศาลพิจารณาคดีแล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าเตี้ยนเซี่ยจะทรงเปลี่ยนเสื้อคลุมตัวใหม่แล้วไปที่ศาลพิจารณาคดี เมื่อทำเช่นนี้แล้วข้าราชการและประชาชนมากมายด้านนอกจะคิดอย่างไรกัน? ต้องทราบไว้ว่าเมื่อสักครู่นี้เตี้ยนเซี่ยทรงลากนางออกมาท่ามกลางผู้คน ชื่อเสียงของนางย่ำแย่ขนาดนั้น หากว่าก่อให้เกิดการคาดเดาที่ไม่จำเป็ จนทำให้เตี้ยนเซี่ยได้รับความเดือดร้อนจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน เช่นนั้นโทษของนางก็จะใหญ่หลวงมากเลย
กูเฟยเยี่ยนยังไปไม่ถึงศาลพิจารณาคดีก็ได้พบกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เฉิงอี้เฟย ใต้เท้ากงและคนอื่นๆ ที่มุ่งหน้าตรงเข้ามา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาทำการไต่สวนเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมองมาที่ตนเอง ใบหูของกูเฟยเยี่ยนก็เกิดความร้อนที่ไม่อาจควบคุมได้อีกครั้ง นางเขินอายจนไม่กล้าสบตาเขา ทว่าสายตาก็ไม่รู้จะมองไปทิศทางใด ทางด้านของจวินจิ่วเฉินนั้นยังคงมีสีหน้าเ็าไร้ความรู้สึกราวกับว่าเื่ราวทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น เขาหยุดเดินพลันเอ่ยกับใต้เท้ากงว่า “จับตาดูเฉินซานหยวนกับหลี่เก๋อฉุนไว้ให้ดี คุมตัวผู้คนที่เคยติดต่อกับนักโทษอู๋มาสืบสวนให้ถึงที่สุด อีกอย่างคือปล่อยตัวฉีฟู่ฟางกลับไปแล้วจับตามองตระกูลฉีต่อ คนอื่นๆ รอให้เปิ่นหวางทูลไปที่ฟู่หวงแล้วให้ฟู่หวงทรงตัดสินใจ! ”
ใต้เท้ากงตอบด้วยความเคารพนับถือเป็อย่างยิ่ง “พ่ะย่ะค่ะ! ”
หลังจากที่จวินจิ่วเฉินเอ่ยจบก็หันไปกำชับใต้เท้าหนานกง จากนั้นจึงก้าวเท้าไปทางกูเฟยเยี่ยน
กูเฟยเยี่ยนก้มหน้าลงด้วยความประหม่า นางไม่กล้ามองไปที่เขา
เขาไม่ได้หยุดเดินและไม่ได้มองนางอีก มีเพียงคำพูดแค่ว่า “กลับจวน”
“เพคะ! ” กูเฟยเยี่ยนโน้มกายแสดงความเคารพแล้วตามไปอย่างเชื่อฟัง
สายตาของเฉิงอี้เฟยจ้องมองไปที่พวกเขาตลอด เมื่อเห็นว่าแพทย์หญิงตัวน้อยไม่เป็อะไร เขาก็ยิ่งซาบซึ้งใจในตัวของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเป็อย่างมาก ถึงแม้ว่าจะเป็การเผชิญหน้ากับจิ้งหวางที่ตนเองเลื่อมใสศรัทธา ทว่าจิตใจของเขาก็ไม่อาจควบคุมความไม่สบายใจเล็กน้อยได้ เขาคาดหวังให้ระยะเวลาสามเดือนดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว!
ใต้เท้าหนานกงเฝ้ากังวลชุดใบเซียมซีเท็จของวัดต้าฉือมาโดยตลอด เมื่อแน่ใจว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จออกไปแล้ว ในที่สุดเขาก็เผยสีหน้าตื่นตระหนกใออกมาราวกับว่าค้นพบความลับอันมโหฬาร สำหรับใต้เท้ากงและข้าราชการหลายท่านนั้นอดใจไม่ไหวที่จะซุบซิบนินทามาสักระยะหนึ่งแล้ว ั้แ่ศาลพิจารณาคดีมาจนถึงตรงนี้พวกเขาอัดอั้นมาเป็เวลานานพอสมควร!
กูเฟยเยี่ยนก้าวเดินตามแผ่นหลังของจวินจิ่วเฉินไปทางประตูด้านหลังโดยไม่กล้าเข้าใกล้นัก
จวินจิ่วเฉินขึ้นไปบนเกี้ยวพระที่นั่ง กูเฟยเยี่ยนมีฐานะเป็แพทย์หญิง เมื่ออยู่ภายในจิ้งหวางฝู่มีฐานะที่สูงกว่าหญิงรับใช้เพียงหนึ่งขั้นเท่านั้น นางทำได้เพียงเดินข้างเกี้ยวพระที่นั่งเช่นเดียวกับเซี่ยเสี่ยวหม่าน
หญิงสาวเดินอยู่ทางด้านขวาเพียงคนเดียว เซี่ยเสี่ยวหม่านดึงหมางจ้งไปเดินทางด้านซ้ายพลันกระซิบถามหมางจ้งถึงเื่ราวเมื่อสักครู่นี้ เมื่อสักครู่นี้เขาเห็นถึงปฏิกิริยาตอบสนองของข้าราชการเ่าั้กับเหล่าประชาชนแล้ว เขาจึงไม่เชื่อว่าเื่ราวจะมีความง่ายดายขนาดนั้น
เมื่อหมางจ้งเอ่ยถึงเื่ราวของพิษเื เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ตกตะลึงตาค้าง “นักโทษอู๋สารเลว! กล้ามากไปแล้ว! เช่นนี้แสดงว่าเปิ่นกงกงเข้าใจกูเฟยเยี่ยนผิดไปสินะ”
เขากำลังรู้สึกผิดที่เมื่อสักครู่นี้ตนเองด่าทอกูเฟยเยี่ยนไปว่าเป็ผู้ที่ชอบสร้างปัญหา ทว่าก็ได้ยินหมางจ้งกระซิบถามกลับมา “เสี่ยวหม่าน ตกลงแล้วเมื่อสักครู่นี้ภายในห้องด้านหลังเกิดอะไรขึ้นกัน? กูเฟยเยี่ยนกรีดร้องทำไม? นางให้ใครออกไป? ไม่ใช่…เตี้ยนเซี่ยใช่ไหม? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่เข้าใจ “เ้าพูดอะไร? ”
หมางจ้งจึงรีบพูดถึงเื่ราวที่ได้ยินเสียงกรีดร้องภายในศาลพิจารณาคดีออกมา ในคราวนี้เซี่ยเสี่ยวหม่านก็ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าภายในห้องด้านหลังเกิดเื่อะไรขึ้น เขาหันไปจ้องมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความดุร้าย! เขาสามารถคาดการณ์ได้เลยว่าในค่ำคืนนี้เื่ราวจะถูกแพร่กระจายไปถึงหูของฝ่าาอย่างแน่นอน และเช้าวันพรุ่งนี้เื่นี้ก็จะแพร่กระจายไปทั่วเมือง!
เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเซี่ยเสี่ยวหม่าน หมางจ้งก็รับรู้ได้คร่าวๆ แล้ว เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ข้าบอกั้แ่แรกแล้วว่านายเหนือหัวของพวกเราสนใจนาง! เ้ายังไม่เชื่ออีก! ช่างเถอะๆ ข้าจะบอกเ้าอีกเื่หนึ่ง วันนั้นที่เ้านายไม่ได้เข้าไปในพระราชวัง พระองค์ไปที่จวนตระกูลเฉิง พระองค์เป็ห่วงนาง! ในวันหลังเ้าก็กวนโมโหนางให้น้อยๆ หน่อย ไม่อย่างนั้น…เ้าจักต้องทนทุกข์ทรมานในอนาคตแน่ๆ ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านเกิดโทสะแล้ว “หมางจ้ง เ้าลืมคุณหนูสามตระกูลหานไปแล้วหรือ? ”
หญิงสาวธรรมดาทั่วไปไม่กล้ารักใคร่ชื่นชอบจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย อย่างน้อยก็ไม่กล้าแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าชื่นชอบ อย่างมากก็แค่เพ้อฝันว่าจะมีโอกาสได้เข้ามารับใช้ในจิ้งหวางฝู่ แต่ในบรรดาหญิงสาวที่กล้าแสดงออกถึงความชื่นชอบอย่างเปิดเผย คุณหนูสามตระกูลหานนับได้ว่ายอดเยี่ยมที่สุด และเป็ผู้ที่เซี่ยเสี่ยวหม่านกับหมางจ้งเห็นแล้วสบายตาสบายใจมากที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเป็เพียงคนเดียวที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่เกิดความรู้สึกไม่พอใจ
เซี่ยเสี่ยวหม่านคิดมาโดยตลอดว่าหากวันใดวันหนึ่งฝ่าาทรงยืนกรานที่จะพระราชทานงานอภิเษกสมรส จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสามารถผลักดันคุณหนูสามตระกูลหานมาบังได้ เพราะถึงอย่างไรภูมิหลังของตระกูลหานก็ไม่ธรรมดาและมีสายเืสูงศักดิ์ ฝ่าาจะทรงยอมรับได้
หมางจ้งครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพลางเอ่ยด้วยความจริงจัง “เดิมพันกันไหม? หนึ่งร้อยเหรียญทองก็พอ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านเชิดหน้าทันที “แม้แต่หนึ่งเหรียญทองก็อย่าได้คิด! ”
นับั้แ่ที่ถูกจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยหักเงินไปครึ่งปี เซี่ยเสี่ยวหม่านก็เลิกเล่นเดิมพันไปเลย
ทางด้านของกูเฟยเยี่ยนนั้นไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดคุยเื่อะไรอยู่ จิตใจที่เป็กังวลของนางสงบลงเล็กน้อยแล้ว บัดนี้หญิงสาวกำลังคิดทบทวนว่าจะอาศัยเพียงแค่เบาะแสอันน้อยนิดจับตัวจิ้งจอกเฒ่าอย่างไรดี!
นางลูบไล้ไปที่หวางเป่าติงเบาๆ แม้จะไม่มั่นใจนักว่าหวางเป่าติงจะสามารถช่วยเหลือได้หรือไม่ ทว่านางก็ยังคงคิดที่จะกลับไปลองสักครั้ง