ไม่ใช่ว่าเย่ชิงหนิวไม่รู้ตัว ความจริงแล้วเขานั่งอยู่บนรถม้าใช้พลังิญญาสำรวจดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรอบทั้งสี่ทิศอยู่ตลอด หรืออาจจะพูดให้ถูกก็คือั้แ่ออกมาพ้นนครแห่งเทพได้ร้อยกิโลเมตรเขาก็เริ่มเฝ้าระวังภัยอยู่ตลอดเวลา
เนื่องจากตอนที่อยู่นครแห่งเทพมีจั่นเสินเว่ยอยู่ทำให้เยาเสต้องจากไปอย่างจำใจ แต่เขาเป็กังวลอยู่ตลอดว่าเยาเสหรือไม่ก็คนของเผ่าคนเถื่อนจะมารอดักสังหารเย่ชิงหานกลางทาง เพราะเย่ชิงหานที่มีพร์ร้ายกาจจนเกินไป ประกอบกับอายุเท่านี้พลังฝีมือระดับนี้ ที่สำคัญที่สุดคือวิชาต่อสู่ร่างอสูรที่เทียบได้กับระดับเทพ ถ้าหากให้เวลาแก่เย่ชิงหานพัฒนาเติบโตขึ้นละก็ รับรองได้เลยว่าจะต้องกลายเป็ฝันร้ายของเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนอย่างแน่นอน
เพียงแต่ก่อนที่เยาเสจะปรากฏตัวออกมาทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือปรากฏกระแสคลื่นพลังฟ้าดินที่รุนแรงระลอกหนึ่งขึ้นอย่างผิดปกติ เย่ชิงหนิวและผู้าุโทั้งหลายต่างััได้จึงได้ทำการสำรวจไปยังความผิดปกติที่เกิดขึ้นทางนั้น
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นที่บนท้องฟ้า ท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังลอยมา พวกเขาแผ่พลังคุกคามออกมาอย่างยโสโอหังไม่เกรงกลัวใคร แม้อยู่ไกลๆ ก็ยังสามารถััรับรู้ได้
พวกเย่ชิงหานระดับพลังฝีมือต่ำเกินไปจึงไม่อาจรับรู้ได้ แต่พวกเย่ชิงหนิวรับรู้ได้ั้แ่แรกเริ่ม จึงได้เริ่มทำการตรวจสอบขึ้นในทันทีว่าผู้ที่มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนั้นเป็มิตรหรือศัตรูกันแน่ แต่เมื่อเย่ชิงหนิวััได้ถึงกลิ่นไอพลังที่คุ้นเคยทำให้เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
เย่เทียนหลงมาได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังนำยอดฝีมือระดับสูงมาด้วยมากมาย?
ยังไม่ทันที่เขาจะมีเวลามาคิดให้เข้าใจกับคำถามที่อยู่ในหัว เสียงร้องที่พลันดังขึ้นของเฟิงจื่อทำเอาเขาสะดุ้งใขึ้นมาอีก จากนั้นจึงรีบใช้พลังิญญากวาดตรวจสอบออกไป เขาพบว่าด้านหลังของเย่ชิงหานมีเงาร่างของเผ่าปีศาจจำนวนสามคนกำลังพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา
ไม่มีเวลาให้คิดว่าเยาเสแอบเล็ดลอดผ่านการเฝ้าระวังเข้ามาได้อย่างไรโดยที่ไม่ทำให้เขาและผู้าุโทั้งหลายที่อยู่บนรถม้ารู้ตัว เขารีบปล่อยอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับร้องคำรามออกไป ตัวคนลอยขึ้นไปกลางอากาศพุ่งทะยานออกไปยังทิศทางที่พวกเย่ชิงหานและเยาเสอยู่ ในเวลาเดียวกันก็รวมร่างสัตว์อสูรคุณภาพระดับแปดวัวศึกในทันที
“เยาเส เ้าเป็ถึงจ้าวปีศาจศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกครองแห่งเผ่าปีศาจแต่กลับไร้ยางอายถึงเพียงนี้มาดักรอโจมตีคนรุ่นอ่อนกว่า?” เย่ชิงหนิวปลดปล่อยพลังรุนแรงออกมาระลอกหนึ่งรีบพุ่งทะยานเข้าไปหาพวกเย่ชิงหานอย่างรวดเร็วราวกับกระบี่ที่แหลมคม ในขณะเดียวกันก็ยื่นมือล้วงเข้าไปภายในอกหยิบเอาะเิสัญญาณออกมาแล้วขว้างขึ้นไปบนท้องฟ้า
“เ้าปีศาจ เ้ากล้า?”
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ภายในรถม้าหลายคันมีคนจำนวนมากลอยออกมาพร้อมกับพลังปราณรบโอบล้อมทั่วร่าง ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยความโกรธ นายน้อยและคุณหนูทั้งหลายของตระกูลตนเองล้วนอยู่เบื้องหน้านั้น ถ้าหากถูกเยาเสฟาดตายในฝ่ามือเดียวทั้งหมดพวกเขายังจะมีหน้ากลับไปรายงานกับท่านหัวหน้าตระกูลได้อย่างไรกัน?
แน่นอนว่าพวกเขาต่างััได้ถึงกระแสพลังที่แข็งแกร่งพลุ่งพล่านที่ปรากฏอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างััได้ถึงไอพลังัที่ดุดันรุนแรงของเย่เทียนหลง ถ้าหากะเิสัญญาณของตระกูลเย่ะเิขึ้น เชื่อแน่ว่าพวกเย่เทียนหลงคงจะรีบเร่งตรงเข้ามาอย่างเต็มกำลัง พวกเขาทำแค่ถ่วงเวลาไว้สักหน่อยก็จะสามารถปกป้องนายน้อยและคุณหนูทั้งหลายของตระกูลไว้ได้
ปัง!
ะเิสัญญาณยังไม่ได้ะเิ แต่อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ชิงหนิวกลับถูกทำลายแหลกละเอียดลงก่อน เยาเสและเผ่าปีศาจอีกสองคนร่วมมือกันโจมตีใส่อย่างสุดกำลัง อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ชิงหนิวจึงพังทลายลงในทันที ในเวลาเดียวกันด้านหลังของเยาเสปรากฏเงาสถิตร่างขนาดใหญ่มหึมาของราชสีห์ขนทองขึ้นมา ดวงตาโลหิตแดงก่ำของมันจ้องมองไปที่เย่ชิงหานที่กำลังออกแรงวิ่งตะบึงอยู่พร้อมกับพูดขึ้นอย่างเหี้ยมโหด “เย่ชิงหาน กล้าสังหารลูกชายข้า ข้าจะทำให้เ้าตายอย่างไร้ซากศพ!”
เยาเสพูดจบเงาร่างราชสีห์ด้านหลังร้องคำรามออกมา จากนั้นเงาร่างเปลี่ยนเป็ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ฟาดลงไปจากกลางอากาศพุ่งต่ำลงไปหาพวกเย่ชิงหานที่กำลังวิ่งอยู่
“เยาเส เ้ากล้า?”
เย่ชิงหนิวร้องคำรามอย่างเดือดดาลออกมาอีกครั้งพร้อมกับระดับความเร็วที่เพิ่มขึ้นไปอีก ในขณะเดียวกันพลังปราณรบที่อยู่ในมือเปล่งแสงแวววับขึ้น จากนั้นเปลี่ยนเป็วัวศึกตัวเขียวที่เต็มไปด้วยพลังดุดันรุนแรงแหวกอากาศพุ่งเข้าไปปะทะชนฝ่ามือของเยาเส
“มารดามันเถอะ! ยังมีผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์อีกคน? ปีศาจเสือดาวระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจักรพรรดิปีศาจอีกคน? พวกเ้าสี่คนไปถ่วงเวลาเ้าปีศาจระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์คนนั้นไว้ ข้าคนเดียวจะไปต้านเ้าปีศาจเสือดาวตัวนั้นเอง” ฮวารั่วรั่วผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิของตระกูลฮวายิ้มอย่างเจื่อนๆ ออกมา หลังจากร้องะโบอกพวกเย่ผิงแล้วจึงรีบอำพรางกายเข้าไปหาปีศาจเสือดาวที่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจักรพรรดิปีศาจที่อยู่ทางด้านซ้ายของเยาเสทันที
“หลงเส้าเซียง เยว่เซียงเฟย เฟิงหั่ว พวกเราทั้งสี่คนไปสกัดเ้าปีศาจลิงระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้นกัน ขอเพียงพวกเราสามารถถ่วงเวลาได้สักห้านาที ท่านหัวหน้าตระกูลของข้าก็จะมาถึง!” เย่ผิงกัดฟันพูดออกมาต่อผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิของเมืองั ตระกูลฮวาและตระกูลเฟิง
พวกเขาหลายคนล้วนเคยผ่านงานประลองาระหว่างเขตปกครองแบบตะลุมบอนไม่จำกัดพลังฝีมือเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน เผ่าปีศาจทั้งสามคนที่ร่วมมือกันโจมตีใส่อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ชิงหนิวเมื่อสักครู่ทำให้พวกเขามองออกได้อย่างไม่ยากนักถึงพลังฝีมือของปีศาจทั้งสาม
เยาเสไม่ต้องพูดถึง จ้าวปีศาจศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกครองแห่งเผ่าปีศาจ ห้าสิบปีก่อนเหยียบย่างเข้าสู่ระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์ ส่วนที่อยู่ทางด้านขวาสูงสี่ห้าเมตรดูราวกับปีศาจวานรนั้นเห็นได้ชัดว่าพลังฝีมือก็อยู่ในระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน สุดท้ายปีศาจเสือดาวที่ระดับความเร็วค่อนข้างรวดเร็วเป็พิเศษพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจักรพรรดิปีศาจ ถ้าหากปีศาจเสือดาวอยู่ในระดับขอบเขตปีศาจศักดิ์สิทธิ์ละก็ ระดับความเร็วจะรวดเร็วยิ่งกว่านี้อีกมาก ถ้าเป็เช่นนั้นพวกเย่ชิงหานคงได้ตายอยู่ภายใต้กรงเล็บของมันไปั้แ่แรกแล้ว
ปัง!
ะเิสัญญาณในที่สุดก็ะเิขึ้นจากความพยายามของเย่ผิงที่ซัดขึ้นไปบนอากาศสูงกว่าสิบเมตร แสงสีแดงส่องสว่างไปทั่วทั้งสี่ทิศ หลังจากที่แสงสีแดงลานตาเลือนหายไป ้าท้องฟ้าห่างไกลออกไปพลันมีเสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาลเสียงหนึ่งดังลอยมา
“เยาเส ถ้าเ้ากล้าสังหารเย่ชิงหานข้าจะสังหารคนของเผ่าปีศาจหนึ่งแสนคนตายตามเขาไป!”
.................................
ในตอนที่เย่ชิงหนิวปล่อยพลังิญญาออกมาสำรวจนั้นเย่เทียนหลงก็รู้สึกถึงการมีอยู่ของเย่ชิงหนิวแล้ว ที่เขาปลดปล่อยไอพลังออกมาอย่างยโสโอหังเช่นนี้ก็เพื่อหวังว่าเย่ชิงหนิวจะััได้ถึงการมาของเขา
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะดีใจ ยังไม่ทันที่เขาจะมีเวลามาครุ่นคิดว่าจะแสดงอาการชมเชยหลานที่ตนเองปล่อยปละละเลยไม่สนใจดูแลมาสิบกว่าปีคนนี้อย่างไร เขาพลันรู้สึกได้ถึงอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ชิงหนิวรวมไปถึงพวกเยาเสที่กำลังโจมตีใส่อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์นั้น และยังมีกระแสคลื่นพลังฟ้าดินที่ไหลเวียนอย่างปั่นป่วนยุ่งเหยิง ต่อจากนั้นเขามองเห็นเงาร่างราชสีห์ขนทองขนาดใหญ่มหึมาและแสงสีแดงลานตา
แสงสีแดงคือะเิสัญญาณเฉพาะของตระกูลเย่ ส่วนเงาราชสีห์ขนทองทั่วทั้งทวีปมีเพียงคนเดียวคือเยาเสหนึ่งในสองจ้าวปีศาจศักดิ์สิทธิ์ผู้ปกครองแห่งเผ่าปีศาจ ดังนั้นเขาจึงรวมร่างสัตว์อสูรในทันทีแล้วโคจรพลังปราณรบอย่างเต็มกำลังเหาะทะยานไปยังด้านล่างตีนเขาของูเาสุสานทวยเทพอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับร้องคำรามออกมาอย่างเดือดดาล
“อดทนเอาไว้ อดทนเอาไว้อีกนิด!”
เย่เชียงและพวกเย่เทียนสิงที่อยู่ด้านหลังต่างก็มองเห็นเงาร่างราชสีห์ขนทองที่อยู่ใตู้เาสุสานทวยเทพแล้ว ทุกคนไม่ได้พูดอะไรกันออกมาต่างรวมร่างสัตว์อสูรกันในทันที แม้ไม่ได้พูดออกมาแต่ภายในใจต่างภาวนากันอยู่อย่างเงียบๆ ตอนนี้พวกเขาห่างจากูเาสุสานทวยเทพไม่ไกลนัก หากคิดตามระดับความเร็วปกติรีบเร่งเหาะเร็วขึ้นอีกหน่อยเพียงแค่นาทีสองนาทีก็สามารถไปถึงได้แล้ว
เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่เมื่อพวกเขาเริ่มเข้าไปภายในพื้นที่แรงโน้มถ่วงของูเาสุสานทวยเทพที่ครอบอยู่ระดับความเร็วของพวกเขาจะช้าลงไปอีกมาก ดังนั้นโดยรวมแล้วต้องใช้เวลาอย่างน้อยประมาณห้านาทีถึงจะสามารถไปถึงยังสถานที่ที่พวกเขากำลังทำการต่อสู้กันอยู่ได้
.................................
เสียงร้องคำรามของเย่เทียนหลงทำให้พวกเย่ชิงหานที่วิ่งตะบึงหลบหนีกันอยู่รู้สึกยินดีขึ้นมา เย่เทียนหลงกำลังจะมาถึงแล้ว ขอเพียงมาถึงพวกเขาก็จะปลอดภัย เย่ชิงหนิวแม้พลังโจมตีจะแข็งแกร่งน่ากลัวแต่พลังป้องกันไม่ค่อยเท่าไร อาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาเมื่อสักครู่ที่ถูกเผ่าปีศาจสามคนร่วมมือกันโจมตีจนพังทลายลงในพริบตาเป็เครื่องยืนยันได้เป็อย่างดี
แต่เย่เทียนหลงต่างออกไป สัตว์อสูรของเขาหมีั์เ้าดินแดนมีพลังป้องกันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ ขอเพียงอาณาเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาครอบปกคลุมพวกตนเอาไว้ พวกเยาเสคิดที่จะทำลายลงคงไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น
เพียงแต่ความยินดีของพวกเขาปรากฏขึ้นมาเพียงไม่กี่วินาที ฝ่ามือใหญ่สีทองที่อยู่เหนือศีรษะพลันฟาดลงมาใส่พวกเขา พลังกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาจากฝ่ามือใหญ่สีทองทำให้พวกเขารู้สึกว่าอากาศโดยรอบหยุดการไหลเวียนไปด้วยฉันนั้น ราวกับหัวใจจะกระเด็นออกมาจากหน้าอก จากเดิมการเคลื่อนที่ที่เชื่องช้าอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งคล้ายกับถูกขุนเขาทั้งลูกกดทับลงมาจนไม่สามารถที่จะขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้