เซี่ยเสี่ยวหลานที่ยืนอยู่ตรงหน้าตู้เ้าฮุยเป็อย่างไรน่ะหรือ?
เพราะอากาศหนาว เซี่ยเสี่ยวหลานจึงสวมเสื้อขนเป็ดตัวหนามาเรียน เสื้อผ้าสีเข้มสกปรกยาก ดังนั้นเสื้อที่เธอใส่จึงเป็สีน้ำเงินเข้มซึ่งพบเห็นได้ทั่วทุกหนแห่งในปัจจุบัน เนื่องจากชุดทำงานส่วนใหญ่มักจะเป็สีนี้ ไม่ว่าจะเป็คนงานก่อสร้างหรือข้าราชการก็ใส่สีนี้ ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยสีน้ำเงิน
ตู้เ้าฮุยเคยเห็นเสื้อผ้าสีนี้ที่เผิงเฉิง หยางเฉิง มาปักกิ่งก็ยังจะเห็นอีก
เขาไม่ชอบสีโทนอึมครึมเช่นนี้เลยสักนิด
แต่พอเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นเซี่ยเสี่ยวหลาน ตู้เ้าฮุยก็รู้ทันทีว่าตนนั้นคิดผิด ชุดสีน้ำเงินเข้มจะดูอึมครึมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่ามันอยู่บนตัวใคร!
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้บรรจงแต่งตัวแต่อย่างใด เธอเพียงมัดผมหางม้าลวกๆ เท่านั้น ่นี้ภารกิจทบทวนบทเรียนและอะไรอีกหลายๆ อย่างกำลังรุมเร้าเธอ สีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงดูไม่สดใสสักเท่าไร ใต้ตาของเธอดำคล้ำอย่างเห็นได้ชัดเจน
ทว่าเธอยังสาว!
์ประทานใบหน้ามาให้เธอชัดๆ ใบหน้ามีน้ำมีนวล ผิวขาวเนียน โครงหน้างดงาม
สายตาของตู้เ้าฮุยนั้นเฉียบขาดเหลือเกิน แม้เซี่ยเสี่ยวหลานจะสวมเสื้อผ้าตัวหนา แต่เขาก็สามารถดูออกว่าใต้เสื้อผ้าชุดหนานั้นคือรูปร่างอันสุดเซ็กซี่
มากหรือน้อยกว่านี้ก็ไม่ได้ ตอนนี้กำลังดีแล้ว ความเย้ายวนเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หาใช่เกิดจากการแต่งหน้าแต่งตัว เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่พวกหนอนหนังสือ ไม่ใช่หญิงร่างบึกบึน เธอต่างจากที่ตู้เ้าฮุยคิดไว้อย่างสิ้นเชิง!
เธอจะเป็ลูกสาวของเซี่ยต้าจวินได้อย่างไร?
คนอย่างเซี่ยต้าจวินมีลูกสาวแบบนี้ได้ด้วยหรือ?
หัวหน้าภาควิชาบอกว่านี่คือเซี่ยเสี่ยวหลาน ตู้เ้าฮุยยังไม่ค่อยอยากเชื่อนัก
“เซี่ยเสี่ยวหลาน? พ่อของเธอชื่อเซี่ยต้าจวินใช่ไหม?”
เซี่ยเสี่ยวหลานเข้ามาแล้วไม่เจอหลิวเทียนเฉวียน ทว่ากลับเจอชายหนุ่มแปลกหน้าแต่งตัวหรูหรา ทั้งห้องมีแค่เขาที่เหมาะสมกับภาพลักษณ์ ‘นักธุรกิจฮ่องกง’ มากที่สุด แน่นอนว่าไม่ใช่นักธุรกิจที่มีรูปร่างพุงพลุ้ย แต่เป็แบบฉบับของทายาทนักธุรกิจตัวจริง
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกคุ้นหน้าตู้เ้าฮุยแม้แต่น้อย ผู้ชายที่แต่งตัวจัดขนาดนี้ ถ้าเคยเจอกันเธอย่อมจำได้อย่างแน่นอน
ในขณะที่เธอกำลังข้องใจ ‘เศรษฐี’ ผู้นี้ก็เอ่ยปากพูดถึงเซี่ยต้าจวิน เซี่ยเสี่ยวหลานอยากฝืนยิ้มยังรู้สึกลำบาก
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับฉันหรือคะ”
นี่เท่ากับยอมรับว่าเซี่ยต้าจวินคือพ่อของเธอนั่นเอง
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากยอมรับแต่เธอจะทำอย่างไรได้ ไม่ว่าจำเช่นไรก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าเซี่ยต้าจวินคือพ่อตามสายเืของเธอ แม้เธอจะเกลียดชังผู้ชายโง่เง่าแถมชอบใช้ความรุนแรง ไม่คิดถึงภรรยาและลูกสาวก็ตาม ต่อให้หลิวเฟินหย่าขาดกับเซี่ยต้าจวินแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังคงมีสถานะเป็ ‘พ่อ’ ของเธออยู่ดี
ก็เหมือนที่จู่ๆ เธอก็มีแฟนเก่าชื่อหวังเจี้ยนหัว
ความสัมพันธ์ทางสังคมพวกนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากสนใจ แต่ก็ไม่สามารถขจัดทิ้งไปได้
เฉกเช่นตอนนี้ เซี่ยต้าจวินหายหน้าไปเกือบหนึ่งปี แต่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในโลกของเธออีก อยู่ต่อหน้าคนของมหาวิทยาลัยเช่นนี้ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่อยากเล่าเื่ที่บ้านมากนัก
คนนอกอาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าถึงพ่อแม่จะหย่าร้างกัน อย่างไรก็เป็เื่ของเซี่ยต้าจวินกับหลิวเฟิน แล้วส่งผลอะไรกับความสัมพันธ์ที่มีต่อลูกสาว?
ทว่าพวกเขาคงไม่รู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่มีความผูกพันใดๆ ระหว่างพ่อกับลูก ผู้ชายคนนั้นนำพามาแต่ความคิดในแง่ลบ เซี่ยเสี่ยวหลานเห็นหลิวเฟินเป็แม่ตัวเองจากใจจริงได้ เห็นหลิวหย่งเป็ลุงแท้ๆ ของตนได้ แต่สำหรับเซี่ยต้าจวิน ขอโทษที เธอทำแบบนั้นไม่ได้
ความเหินห่างในน้ำเสียงของเธอ มีหรือที่ตู้เ้าฮุยจะฟังไม่ออก
คุณชายใหญ่ตู้ตั้งสติ เขาอยากคุยกับเซี่ยเสี่ยวหลานดีๆ สักครั้ง ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานหน้าตาอัปลักษณ์เหมือนที่เขาจินตนาการ ตู้เ้าฮุยคงบอกความคิดของตัวเองแล้วกลับทันที แต่หน้าตาของเซี่ยเสี่ยวหลานเหนือความคาดหมายของเขามากโข เดิมทีเซี่ยเสี่ยวหลานอาจจะสวยสัก 90 คะแนน แต่เพราะจินตนาการกับความจริงที่ได้เจอนั้นแตกต่างกันมากเกินไป ความประทับใจจึงเพิ่มขึ้นเป็ 100 คะแนน ถ้าให้ตู้เ้าฮุยให้คะแนนเซี่ยเสี่ยวหลานอีกครั้ง ความงามตามธรรมชาติเอาไปเลย 90 ทว่าขอหัก 10 คะแนนเพราะไม่รู้จักแต่งตัว!
เซี่ยเสี่ยวหลานหน้าสดแต่ได้ 90 คะแนน ดังนั้นย่อมมีคุณค่าพอให้คุณชายใหญ่ตู้ใจเย็นด้วย เธอดูไม่สนใจใยดีเซี่ยต้าจวิน เช่นนั้นจะยอมไปฮ่องกงได้อย่างไร
“ทุกท่าน ผมอยากคุยกับนักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลานเป็การส่วนตัว พ่อของเธอมีบางอย่างฝากผมมาแจ้งเธอให้เธอทราบ พวกคุณว่า...”
เื่ครอบครัวคนอื่นคงไม่สะดวกที่จะอยู่ฟัง
ตอนนี้ก็เป็กลางวันแสกๆ ย่อมไม่ต้องกลัวว่าตู้เ้าฮุยจะทำอะไรเกินเลย
คุยก็คุย เห็นแก่ที่เขาบริจาคเงิน จะยกห้องทำงานให้ตู้เ้าฮุยชั่วคราวก็แล้วกัน
“นักศึกษาเซี่ย ่บ่ายยังมีคาบเรียนสินะ คุยเสร็จแล้วรีบกลับไปเรียนล่ะ!”
หัวหน้าภาควิชากำชับเซี่ยเสี่ยวหลานก่อนออกจากห้อง และถือเป็การช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่กลายๆ
ตู้เ้าฮุยไล่ลูกน้องของตนออกไป รวมถึงไกด์นำทางด้วยเช่นกัน เขาอยู่ในห้องกับเซี่ยเสี่ยวหลานตามลำพัง คุณชายใหญ่ตู้รู้สึกไม่เป็ตัวเองเท่าไรนัก ห้องทำงานไม่มีผ้าม่าน คนข้างนอกย่อมสามารถมองเห็นสถานการณ์ในห้องได้อย่างชัดเจน ตู้เ้าฮุยกล่าว
“เื่เป็อย่างนี้ ก่อนหน้านี้เซี่ยต้าจวินพ่อของเธอทำงานให้ฉัน และตอนนี้เขาได้รับาเ็ รักษาตัวอยู่ที่ฮ่องกง เขาอยากเจอเธอสักครั้ง ถึงอย่างไรเขาก็าเ็เพราะงาน ค่ารักษาพยาบาลเธอไม่ต้องเป็ห่วง ฉันจะเป็คนรับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงชีวิตความเป็อยู่ในอนาคตของเขาด้วย... นอกจากนี้เครือของเรายังมีสวัสดิการบางอย่างให้พนักงาน โดยสามารถทำให้เธอได้ใช้ชีวิตที่ฮ่องกง รวมถึงช่วยจัดการสถานะพลเมืองฮ่องกงให้เธอได้”
ก่อนเจอหน้า ตู้เ้าฮุยมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
แต่หลังเจอหน้า ตอนพูดถึงเื่ ‘สวัสดิการ’ เขาดูจริงจังขึ้นไม่น้อย
นั่นเป็เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานสวยเกินไป คนฮ่องกงอาจจะไม่ยอมรับการศึกษาของแผ่นดินใหญ่ แต่ยอมรับความสวยของเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างแน่นอน
สถานีโทรทัศน์จะต้องพากันแย่งเซ็นสัญญากับเซี่ยเสี่ยวหลาน ถึงอย่างไรหน้าตาแบบนี้ต่อให้ไม่มีพร์ด้านการแสดง ก็สามารถเป็นางเอกละครได้
ถ่ายละคร เล่นหนัง จากนั้นก็ถ่ายโฆษณา
แค่กวักมือเรียกก็มีเศรษฐีจำนวนมากยินดีต่อคิวให้เธอได้เลือกสรร
สมองของตู้เ้าฮุยช่วยวางแผนชีวิตของเซี่ยเสี่ยวหลานที่ฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว และเพราะเธอไม่จำเป็ต้องพึ่งพาเขา เขาจึงพูดจามีมารยาทมากขึ้น
ชายหนุ่มทุกคนย่อมมีมารยาทและถ่อมตัวต่อหน้าสาวสวย ถ้าใครแสดงกิริยาป่าเถื่อน หากไม่ใช่พวกรักร่วมเพศ เช่นนั้นสมองก็คงมีปัญหา และอยากใช้ความแปลกเรียกร้องความสนใจจากสาวงามสินะ
คุณชายใหญ่ตู้คิดว่าตนนั้นถ่อมตัวและมีมารยาทมากพอ แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับขมวดคิ้วมุ่น
“ขอโทษค่ะ ฉันคิดว่าคุณอาจจะเข้าใจอะไรผิดไป ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพ่อบังเกิดเกล้าไม่ค่อยจะดีนัก ดังนั้นฉันไม่มีทางไปเยี่ยมเขาที่ฮ่องกง และไม่มีแผนที่จะไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกงในอนาคตอย่างไรก็ต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีนะคะ”
แม้แต่ประวัติความเป็มาของตู้เ้าฮุยเซี่ยเสี่ยวหลานก็ี้เีถาม
เธอไม่มีความผูกพันกับเซี่ยต้าจวิน แล้วจะไปดูแลเขาได้อย่างไร
เมื่อก่อนคนที่ได้รับความเมตตาจากเซี่ยต้าจวินคือเซี่ยจื่ออวี้ไม่ใช่หรือ ตอนนี้พออยากได้คนดูแลดันเรียกเธอไปเนี่ยนะ! ชีวิตที่ฮ่องกง สิทธิการพำนักอยู่อย่างถาวรในฮ่องกงอะไรนั่น สิ่งเหล่านี้ไม่ดึงดูดใจเซี่ยเสี่ยวหลานสักนิดเดียว
เธอพูดเสริมอย่างจริงจัง
“ที่จริงเขายังมีหลานสาวอีกคนอยู่ที่ปักกิ่ง ทั้งสองคนผูกพันกันเสียยิ่งกว่าพ่อลูกแท้ๆ อย่างฉัน คุณลองไปถามเธอดูไหมคะ”
เซี่ยจื่ออวี้เองก็ไม่แน่ว่าอยากไปฮ่องกง
ต่อให้สถานะพลเมืองฮ่องกงเย้ายวนใจแค่ไหนก็คงสู้หวังเจี้ยนหัวไม่ได้หรอกกระมัง?
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เข้าใจสักนิด เธอคงพูดได้แค่ว่าสิ่งที่เซี่ยจื่ออวี้ทำให้หวังเจี้ยนหัวคือรักแท้ แม้แต่เื่ชั้นเรียนกวดวิชาก็ยอมรับบทลงโทษแทนเขาได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้