ในที่สุดวันที่บุรุษทั้งหลายต่างรอคอยก็มาถึง วันที่หออ้ายซ่างเปิดให้ประมูลพรหมจรรย์สาวนางโลมอีกครั้ง
และครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะเป็หญิงสาวที่บุรุษหลายคนเฝ้ารอ
เหมยหลินนั่งให้บรรดาพี่เลี้ยงทั้งหลายจัดแต่งให้นางได้สวยงามโดดเด่น ผิวกายขาวเนียนถูกชโลมด้วยขี้ผึ้งหอม ใบหน้างามแต่งให้คมเข้มขึ้นกว่าทุกที ริมฝีปากบางทาชาดสีแดงให้อวบอิ่มดูยั่วยวน
ร่างบางปกคลุมด้วยอาภรณ์ทำจากผ้าไหมชั้นดี ทำให้จากเดิมหญิงสาวงดงามอยู่แล้ว กลับดูงดงามเพิ่มเข้าไปอีก
"ตื่นเต้นหรือ"
"มีบ้างเ้าค่ะ" เหมยหลินตอบพี่สาวที่นั่งมองนางจากฝั่งตรงข้ามโต๊ะเครื่องแป้ง
วันนี้ทุกคนต่างชมนางว่างดงาม แต่สำหรับนางความงามยังเทียบไม่ได้สักนิดของพี่สาว
"เมื่อถึงเวลานั้นปล่อยให้เขาเป็ผู้นำ ถึงเ้าจะรู้ความแต่จงทำเป็ลูกแมวน้อย กลัวทุกสิ่งที่เขาชักนำ แต่อย่าทำจนน่ารำคาญ"
"เ้าค่ะ ข้าจะจำที่พี่สาวสอนอย่างดี"
รั่วซีมองหญิงสาวตรงหน้า จากเด็กน้อยที่วิ่งตัดหน้ารถม้า บัดนี้กลับถึงวันที่นางจะต้องเสียพรหมจรรย์เสียแล้ว
แท้จริงพรหมจรรย์ควรเป็สิ่งที่มอบให้ชายที่รัก ทว่าชีวิตนางโลมอย่างพวกนาง กลับต้องยอมเสียมันเพราะแลกกับเงิน
หญิงสาวได้แต่ยิ้มเย้ยหยัน ให้โชคชะตาของพวกนาง
"เ้าเตรียมตัวไปเถิด ถึงเวลาข้าจะไปส่งเ้าที่หน้าห้องอีกที"
"เ้าค่ะ" เหมยหลินมองตามพี่สาวจนสุดสายตา
ในชีวิตนางมีแต่พี่สาวเท่านั้นที่ดีกับนาง
เหมยหลินไม่เคยรู้สึกเสียใจสักครั้งที่ต้องมาเป็หญิงคณิกาเช่นนี้ ถ้าตอนนั้นพี่สาวไม่พานางกลับมาด้วย ป่านนี้จะเป็บ่าวชั้นต่ำโดนกระทำต่ำทรามเช่นไรมิรู้
และไม่ต้องพูดถึงพรหมจรรย์ นางน่าจะเสียมันไปก่อนวัยเสียด้วยซ้ำ
นางหวังอย่างเดียว ขอให้ชายคนแรกที่ได้เสพสังวาสรับพรหมจรรย์นางไป จะอ่อนโยนกับนางบ้าง
เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ปัง ปัง
"หออ้ายซ่าง ยินดีต้อนรับทุกท่านเ้าค่ะ"
เสียงตีกลองดังขึ้นตามด้วยเสียงกล่าวต้อนรับ ของหญิงสาวที่ปรากฎกายขึ้นกลางเวที รูปร่างอรชรแต่งกายเผยเนื้อหนังล่อตาล่อใจบุรุษทั้งหลายยิ่งนัก
ทันทีที่เสียงหวานเอ่ยจบ เสียงโห่ก็ร้องดังขึ้นตามมาทันที จนนางต้องรอให้บรรดาเสือหิวทั้งหลายได้เงียบเสียงลง ถึงประกาศเื่สำคัญของค่ำคืนนี้
"อย่างที่ทุกท่านทราบ วันนี้หออ้ายซ่างของเราจะมีการประมูลพรหมจรรย์กันอีกครั้ง และกติกายังคงเป็เช่นเดิม ท่านใดเสนอราคาให้มากที่สุด ก็จะได้พรหมจรรย์ของสาวงามในค่ำคืนนี้ไป"
สิ้นเสียงสาวงามกลางเวลาประกาศจบ บรรดาแขกทั้งหลายก็โห่ร้องขึ้นมาเสียงดังอีกครั้ง และในครั้งนี้ดูยากจะเงียบเสียงลง เพราะข้างสาวงามคนแรกที่ยืนอยู่กลางเวลา กลับปรากฎมีสาวงามในชุดสีชมพูมายืนประกบข้างกันอีกคน
เหมยหลินในชุดเกาะอกสีชมพูหวาน ถึงกระโปรงจะคลุมยาว แต่กลับมีแหวกสูงให้เห็นขาเรียวขาวทุกครั้งที่นางก้าวเดิน บนใบหน้ารูปไข่มีดวงโตกลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดยั่วยวน
ยามก้าวเดินสองเต้าอวบด้านหน้าเด้งตามเป็จังหวะโดดเด่น ผิวกายขาวเนียนดุจหิมะ ในใจบุรุษทุกคนต่างอยากขยี้นางให้ช้ำอยู่กลางอก
"หลินเอ๋อร์ ฝากตัวกับทุกท่านด้วยเ้าค่ะ"
"สาวงามมาอยู่ตรงหน้าเช่นนี้แล้ว เรามาเริ่มประมูลกันเลยดีหรือไม่เ้าคะ"
"ดี ดี // เร็ว ๆ เลยข้าอดใจไม่ไหวแล้ว // เริ่มเลย ๆ"
"เช่นนั้น เริ่มประมูลได้เ้าค่ะ" เมื่อทุกฝ่ายบอกดี การประมูลพรหมจรรย์เหมยหลินจึงเริ่มขึ้น
'สองร้อยตำลึงทอง’
‘ห้าร้อยตำลึงทอง’
‘เจ็ดร้อยตำลึงทอง'
รั่วซีนั่งฟังเสียงะโบอกจำนวนราคาที่ดังขึ้นแข่งกันไม่ขาด แต่นางกลับไม่ได้ยินเสียงจากชั้นที่นางอยู่ หรือเหมยหลินไม่งดงามถูกตาต้องใจ บรรดาบุรุษเงินหนา้า
‘สามพันตำลึงทอง’
ในที่สุดเสียงบอกราคาจากชั้นบนสุดก็ดังขึ้นมา เสียงดังแข่งกันก่อนหน้าต่างพากันเงียบหาย
นี่คงเป็อีกครั้งที่บุรุษจากชั้นบนสุดประมูลพรหมจรรย์สาวงามไปได้ ทำให้บรรดาแขกชั้นล่างต่างอารมณ์เสียไปตาม ๆ กัน
"มีใครให้มากกว่านี้อีกหรือไม่เ้าคะ ตอนนี้ราคาอยู่ที่สามพันตำลึงทอง ถ้าไม่มี จะเริ่มนับถอยหลังแล้วนะเ้าคะ"
เมื่อไม่มีเสียงผู้ใดขัดค้าน เสร็จสิ้นการนับถอยหลัง การประมูลพรหมจรรย์เหมยหลิน จึงจบด้วยจำนวนเงินสามพันตำลึงทอง
"หลินเอ๋อร์ ขอบพระคุณคุณชายที่เมตตาเ้าค่ะ"
เมื่อสิ้นสุดการประมูล รั่วซีจึงเดินไปรอเหมยหลินที่หน้าประตู นางมารออย่างที่รับปากเด็กน้อยไว้ แต่ผู้ที่เดินตรงมาหานางกลับไม่ใช่เหมยหลิน กลายเป็บุรุษที่ชนะการประมูลเดินเข้ามาหานางแทน
"ใต้เท้าซ่ง" รั่วซีย่อกายคำนับชายหนุ่มตรงหน้า
ซ่งหานอายุน่าจะประมาณเดียวกันกับนาง ได้รับใช้ราชสำนักั้แ่อายุยังน้อย นางมิเคยเห็นเขามาเที่ยวหออ้ายซ่างมาก่อน
ทว่ามาครั้งแรกก็ยอมเสียเงินทองมากมายเช่นนี้ ราชสำนักคงให้ผลตอบแทนเขาไม่น้อย
"แม่นางรั่วซี น่าเสียดายกว่าข้าจะได้ตำแหน่ง หาเงินทองมาเที่ยวเล่นเช่นนี้ได้ แม่นางรั่วซีก็ไม่รับแขกเสียแล้ว"
"เชิญใต้เท้าในห้องก่อนเถิดเ้าค่ะ อีกประเดี๋ยวหลินเอ๋อร์น่าจะเดินมาถึง"
ชายหนุ่มได้เพียงรอยยิ้มกับคำไล่อย่างสุภาพให้เขาเข้าไปในห้องพัก
ซ่งหานได้ยินเื่หญิงสาวมาไม่น้อย แต่เขาต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้ตำแหน่งได้เงินทองมา ไม่คิดว่ากว่าจะมีวันนี้ นางกลับได้ขึ้นเป็นายหญิงใหญ่ของหออ้ายซ่าง ปฏิเสธรับแขกทุกทาง ทำให้เขานึกเสียดายยิ่งนัก
"เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"
รั่วซีย่อกายคำนับชายหนุ่มตรงหน้า จนเขายอมเดินเข้าห้องพักไป นางถึงให้จิงจิงปิดประตูให้สนิทดังเดิม
"พี่สาว มาหาข้าหรือเ้าคะ"
หลังจากจบการประมูลเหมยหลินไม่ได้พูดคุยกับผู้ใด นางเพียงก้มหน้าเดินตามสาวใช้ขึ้นห้องพัก้า ในใจนางย่อมเป็กังวลอยู่ไม่น้อย เหตุเพราะผู้ที่ชนะการประมูลอยู่สูงเกินไปที่นางจะมองเห็นใบหน้า หญิงสาวเลยมิเห็นว่าเป็ผู้ใด
เมื่อเดินขึ้นมาถึงเห็นพี่สาวมายืนรออยู่ตรงหน้าห้องพัก ทำให้นางเผยรอยยิ้มสดใสขึ้นมาอีกครั้ง พี่สาวมาหานางอย่างที่บอกไว้จริง ๆ
"มายืนอยู่ตรงนี้ไม่มาหาเ้า จะให้มาหาผู้ใด" รั่วซีอดไม่ได้จะหยิกหยอกที่แก้มเนียน
"กังวลหรือไม่"
"ไม่เ้าค่ะ พี่ก็รู้ว่าข้าเก่งเพียงใด"
"อืม ข้ารู้ว่าเ้าเก่ง เข้าไปเถอะ ทำหน้าที่ของเ้าให้ดี"
"เ้าค่ะ"
รั่วซียืนอยู่รอจนเหมยหลินปิดประตูห้อง นางถึงเดินกลับเข้าห้องตนเองบ้าง
หญิงสาวนั่งนิ่งทบทวนจมอยู่กับความคิด นางรู้สึกทั้งอยากขอโทษและขอบคุณเหมยหลินในเวลาเดียวกัน
ขอโทษที่ทำให้ทั้งชีวิตของเหมยหลินต้องเป็เช่นนี้ และขอบคุณ ถ้าไม่มีเหมยหลิน ตัวนางเองก็จะติดอยู่ที่นี่นานขึ้นเช่นกัน
นิ้วเรียวยกปาดน้ำใสที่ปลายหางตาออก แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลงมือตรวจสมุดบัญชีบนโต๊ะต่อไป
คืนทั้งคืนเหมยหลินไม่ได้นอนอย่างไร รั่วซีเองก็ไม่ได้นอนเช่นนั้น
