“เจ็บเหลือเกิน!”
ติงเหว่ยขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดใจ เมื่อกลางวันถูกท่านพ่อดุก็แย่พอแล้ว เหตุใดกลางคืนอยากนอนหลับสักตื่นจึงได้ลำบากถึงเพียงนี้
นางยื่นมือออกไปผลักของบางอย่างที่ทับอยู่บนร่างกายออกไปโดยไม่รู้ตัว ความอบอุ่นที่ััได้ในมือทำให้นางพึมพำด้วยความสงสัย แต่แล้วก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
แน่นอนว่านางไม่ทันสังเกตเห็นว่า “ของหนัก” บางอย่างที่นางปัดตกไปไว้ข้างกายนั้นได้ลืมตาขึ้น แต่เพียงชั่วครู่ก็เข้าสู่ภวังค์แห่งความฝันเช่นเดียวกัน
……
แสงเทียนสลัวส่องผ่านม่านสีฟ้า สะท้อนไปบนใบหน้าของชายหญิงคู่หนึ่งบนเตียง คนหนึ่งหน้าตาสดใสและหล่อเหลา อีกคนหนึ่งก็สวยงามและอ่อนหวาน พวกเขานอนหันหน้าเข้าหากัน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็มีความเข้ากันอย่างน่าประหลาด
ภายนอกหน้าต่าง พ่อบ้านาุโสวมเสื้อผ้าไหมแขนยาว รูปร่างค่อนข้างท้วมกำลังเงี่ยหูฟัง เมื่อไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวใดๆ จากภายในห้อง จึงลองกระซิบถามเบาๆ ว่า “นายน้อย ท่าน้าให้ข้าเข้าไปรับใช้หรือไม่?”
แต่หลังจากรออยู่นาน ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้อง พ่อบ้านาุโลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก แววตาแห่งความดีใจปรากฏขึ้นมาในดวงตา เขารีบหันหลังกลับและกวักมือไปทางเงาที่อยู่ใต้ชายคา หญิงสาวที่ดูธรรมดาแต่งตัวเรียบร้อยคนหนึ่งย่องตามเขาเข้าไปในห้องอย่างแ่เบา
พ่อบ้านาุโค่อยๆ เปิดผ้าม่านออก กวาดสายตามองไปยังคนสองคนที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย แล้วรีบปล่อยมือ พลางกระซิบกับหญิงสาวคนนั้นว่า “ยวิ๋นอิ่ง จากนี้ฝากเ้าดูแลนางด้วย ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องนางให้ปลอดภัย แล้วข้าจะรีบตามเ้าไป”
หญิงสาวนามว่ายวิ๋นอิ่งคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น พร้อมก้มศีรษะแสดงความเคารพ และตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ท่านพ่อบุญธรรมโปรดวางใจ ต่อให้ยวิ๋นอิ่งต้องตายก็จะทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงให้ได้”
พ่อบ้านาุโถอนหายใจ พร้อมพูดเบาๆ ว่า “มีพ่อบุญธรรมอย่างข้า คงลำบากเ้าไม่น้อย”
แต่หญิงสาวนางนั้นกลับส่ายศีรษะ ไม่พูดอะไรให้มากความ ลุกขึ้นดึงผ้าห่มออกและม้วนตัวหญิงสาวที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ก้มตัวลงอุ้มนางออกจากประตูและหายไปท่ามกลางความมืดอย่างรวดเร็ว
พ่อบ้านาุโมองไปยังชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงอย่างโดดเดี่ยวด้วยความรู้สึกผิด จากนั้นเขาก็เข้าไปช่วยจัดเสื้อผ้าให้ด้วยความระมัดระวัง พร้อมกับพึมพำว่า “นายน้อยรุ่นที่สามเพียงคนเดียวของตระกูลกงจื้อ วันนี้ท่านถูกวางกับดัก ข้าไม่อาจทนสูญเสียสายเืของท่านไปได้จริงๆ ข้าจึงคิดแผนการนี้ขึ้นมา ในวันหน้าหากท่านแม่ทัพรู้เข้า จะลงโทษบ่าวคนนี้เช่นไรก็ไม่เป็ไร ข้าเพียงหวังว่าบรรพบุรุษของตระกูลกงจื้อจะปกป้องคุ้มครอง และขอให้หญิงสาวนางนั้นตั้งครรภ์”
ในขณะที่เขาพูดถ้อยคำเหล่านี้ เขาก็จัดเสื้อผ้าของชายหนุ่มให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว หลังจากตรวจอยู่นานว่าไม่มีตรงไหนไม่เหมาะสมแล้ว เขาก็ยกชาสมุนไพรเย็นมากรอกใส่ปากของชายหนุ่ม
อาจเพราะสมุนไพรที่ไหลผ่านในลำคอนั้นเย็นเกินไป ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและระมัดระวัง ราวกับมีมีดคมๆ สองเล่มฟาดฟันไปทั่วทั้งห้อง พ่อบ้านาุโรีบพูดขึ้นทันที “นายน้อยท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”
หลังจากชายหนุ่มผู้นั้นได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวพร้อมถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?”
ในใจพ่อบ้านาุโยังคงรู้สึกผิด จึงอธิบายความจริงครึ่งหนึ่ง ปกปิดอีกครึ่งหนึ่งว่า “บางทีส่วนผสมของยาฉือฮว่าเฟิน [1] อาจมีข้อผิดพลาด ท่านนอนหลับไปได้ครึ่งชั่วยาม”
ชายหนุ่มขยับเท้าไปมาโดยไม่รู้ตัว ััที่มึนงงและชาทำให้แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ มือที่วางอยู่ข้างลำตัวก็กำเข้าหากันแน่น แต่เมื่อเขาเอ่ยปากกลับเป็คำสั่งผ่านน้ำเสียงที่ราบเรียบ “เริ่มกันเถอะ”
พ่อบ้านาุโได้ยินเช่นนั้นจึงหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากอ้อมแขนสองขวด เปิดขวดที่หนึ่งแล้วเทยาเม็ดสีแดงออกมาใส่จอกเหล้า หลังจากนั้นก็เปิดอีกขวดหนึ่งเทยาเม็ดสีดำออกมา แล้วใช้สองมือประคองส่งให้ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มผู้นั้นหยิบยาขึ้นมากำลังจะใส่เข้าไปในปาก ทันใดนั้นพ่อบ้านาุโกลับคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมขอร้องอย่างเศร้าสร้อยว่า “นายน้อย พวกเราส่งคนไปรายงานท่านอ๋องเถอะ หากท่านอ๋องรู้ว่าองค์รัชทายาทโเี้ถึงเพียงนี้ ต้องทรงช่วยท่านเป็แน่”
ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นคิดอะไรอยู่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาและเต็มไปด้วยความสับสน แต่สุดท้ายเขาก็ส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่จำเป็! หลังจากที่ข้ารอดพ้นจากหายนะในครั้งนี้ ข้าจะไปเอาชีวิตเขา!”
หลังจากพูดจบ เขาก็โยนเม็ดยาเข้าปากโดยไม่ลังเล ค่อยๆ เคี้ยวช้าๆ ราวกับลิ้มรสอาหารอันโอชะที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ แล้วสั่งการว่า “หากมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจริงๆ จงนำเงินครึ่งหนึ่งที่เก็บไว้ในจวนไปแจกจ่ายให้กับองครักษ์เงา และอีกครึ่งหนึ่งเ้าจงเก็บไว้ใช้ยามเกษียณอายุ!”
หลังจากพ่อบ้านาุโได้ฟัง “คำสั่งเสีย” ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหลอาบหน้า “นายน้อย ท่านจะต้องอดทนไว้ ข้าได้ส่งยอดฝีมือเฟิงฮั่วชานหลิน [2] ทั้งสี่กลุ่มให้แยกย้ายออกไปตามหาหมอเทวดาแล้ว ยาพิษปลอมนี้สามารถช่วยยื้อเวลาไปได้อีกครึ่งเดือน ข้าจะรอคอยวันที่นายน้อยตื่นขึ้นมา และเมื่อนั้นจะเป็่เวลาแห่งการฟื้นคืนอย่างแน่นอน”
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ได้เอ่ยอะไรอีก ร่างกายที่แข็งแกร่งเอนลงบนขอบเตียง ลมหายใจค่อยๆ แ่เบาลง
พ่อบ้านาุโล้มลงกับพื้นอย่างแรง เขาจับขอบโต๊ะเพื่อพยายามที่จะลุกขึ้นมาแต่มือกลับปัดไปโดนจอกเหล้าหกกระเซ็นไปที่คอเสื้อและปากของชายหนุ่ม จากนั้นจึงรีบร้องะโเสียงดังว่า “มีคนอยู่หรือไม่ ใครก็ได้ช่วยด้วย! นายน้อยท่านเป็อย่างไรบ้าง? รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า ใครก็ได้ช่วยด้วย!”
เสียงร้องโหยหวนของพ่อบ้านาุโราวกับมีดคมๆ ที่ตัดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนอันเงียบสงบ เรือนอื่นๆ ภายในจวนต่างเริ่มมีความเคลื่อนไหวทันที มีผู้คนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันที่นี่ พอเห็นสีหน้าอันมืดหม่นของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ในท้ายที่สุดชายาุโที่คล้ายจะเป็ที่ปรึกษายังตั้งสติไว้ได้ ะโสั่งกองทหารรักษาการณ์ว่า “พวกเ้าจงรีบไปที่ประตูจวนแล้วออกไปเชิญหมอที่เก่งที่สุดในเมืองมา และปิดจวนทั้งหลังทันที จากนั้นจงตรวจสอบคนงานทั้งหมด หากพบว่าใครมีที่มาน่าสงสัยหรือมีผู้ใดหายไปให้รีบมารายงาน!”
“รับทราบขอรับใต้เท้า!” ทหารรักษาการณ์กลุ่มหนึ่งตอบรับเสียงดัง และแยกย้ายไปดำเนินการทันที เพียงเวลาไม่นาน หมอจำนวนห้าหกคนก็ถูกทหารรักษาการณ์จับตัวมาบนหลังม้าในสภาพที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างของพวกเขาแตะถึงพื้นก็ถูกลากเข้าไปในห้องอีกครั้ง ผลปรากฏว่ามีไม่กี่คนที่เหลือบมองชายหนุ่มบนเตียงพร้อมรายงานด้วยเสียงสั่นเทาว่า “คุณชายท่านนี้...ข้าเกรงว่าเขาจะเสียชีวิตแล้ว”
“เ้าว่าอะไรนะ?” ถึงแม้ว่าทุกคนจะเตรียมใจไว้บ้างแล้วแต่ยังคงรับความจริงไม่ได้ ชายที่ดูแข็งแกร่งคนหนึ่งยื่นมือไปจับคอเสื้อหมอาุโพร้อมยกกำปั้นขึ้นมา “เ้าโกหก เมื่อตอนกลางวันท่านแม่ทัพยังดื่มเหล้ากับข้าอยู่เลย อยู่ดีๆ จะเสียชีวิตได้อย่างไร? หรือเป็เ้าที่ไม่ยอมช่วยชีวิตกันแน่!”
“ท่านใต้เท้าได้โปรดเมตตาไว้ชีวิตข้าด้วย!” หมอาุโใกลัวจนปัสสาวะราด แต่สถานการณ์เร่งด่วนเช่นนี้ไม่มีเวลามาสนใจอะไรขนาดนั้น “คุณชายท่านนี้ถูกพิษเชียนจูเฉ่า ไม่ใช่ฝีมือของข้าน้อยแน่นอน!”
พ่อบ้านาุโที่กำลังกอดศพท่านแม่ทัพร้องไห้อยู่ได้ยินเช่นนั้น ก็หยิบจอกเหล้าพร้ะโกนขึ้นมาทันที “หรือในเหล้านี้จะมียาพิษอยู่?”
ที่ปรึกษาาุโรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยิบจอกเหล้า ดมกลิ่นอย่างระมัดระวังอยู่นานสองนาน และเทเหล้าออกมาหนึ่งหยดเพื่อลิ้มรส ดวงตาของเขาฉายแววเข้าใจ แต่สีหน้ายังคงดูเศร้าโศก เขาถอนหายใจและพูดว่า “ในเหล้ามีน้ำเชียนจือเฉ่าผสมอยู่จริงๆ”
“มันคือใคร ใครกล้าทำร้ายท่านแม่ทัพกัน?” รองผู้บัญชาการจับหมอาุโโยนออกไปแล้วดึงมีดยาวที่เอวของเขาออกมา ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับเื ทุกคนต่างใพากันถอยหลังไปคนละก้าวสองก้าว ในระหว่างที่กำลังโน้มน้าวอยู่นั้น ทหารรักษาการณ์ก็เข้ามารายงานว่า “ข้าน้อยตรวจสอบคนในจวนทั้งหมดพบว่า คนครัวที่รับผิดชอบเื่เหล้าหายตัวไป และใต้ผ้าปูที่นอนในห้องของเขาก็มีสัญลักษณ์หน้าปีศาจซ่อนอยู่”
“หรือจะเป็ฝีมือของชาวเผ่าเถียเหล่ย [3] ที่หลงเหลืออยู่?” ทุกคนต่างพากันกรีดร้อง พ่อบ้านาุโถึงกับร้องไห้เสียงดัง “ท่านแม่ทัพ ท่านเพิ่งจะเอาชนะชนเผ่าเถียเหล่ย นึกไม่ถึงว่าขณะที่กำลังจะถึงเมืองซีจิงอยู่แล้ว กลับมาถูกฆ่าโดยคนพวกนี้ ทำไมข้าถึงตายแทนท่านไม่ได้ ท่านแม่ทัพรอข้าก่อน ข้าจะตามไปเดี๋ยวนี้!”
ขณะที่พ่อบ้านาุโพูดเขาก็ปล่อยร่างของท่านแม่ทัพและจะวิ่งไปชนมุมตู้ ทุกคนช่วยกันห้ามและดึงเขาออกมา พยายามโน้มน้าวให้เขาจัดเตรียมงานศพของท่านแม่ทัพจางหลัว ให้เขาฝืนใจล้มเลิกความคิดที่จะสังเวยชีวิตของตนเอง อาลักษณ์าุโพารองแม่ทัพไปสั่งให้ทหารทั้งเมืองค้นหาและจับกุมชาวเถียเหล่ยที่หลงเหลืออยู่ ในที่สุดพ่อบ้านาุโก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและรองเท้าให้กับท่านแม่ทัพด้วยมืออันสั่นเทา ในตอนนี้เขาจึงมีข้ออ้างเพื่อใช้ออกจากจวน และกลับไปยังที่พักชั่วคราวของตนเอง
……
และเป็ดังที่คาดไว้ คนที่รออยู่ที่นั่นกำลังเดินไปมาด้วยความกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นเขากลับมาก็รีบเข้าไปถามว่า “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ที่ปรึกษาาุโก้มศีรษะแสดงความเคารพ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความยินดี “ขอแสดงความยินดีกับฝ่าา บัดนี้เสี้ยนหนามในใจท่านได้ถูกกำจัดออกไปเป็ที่เรียบร้อย จากนี้จะไม่มีอะไรมาขัดขวางท่านอีกต่อไป และจะมีเื่ที่ยิ่งใหญ่รอท่านอยู่”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ใบหน้าของชายคนนั้นก็เต็มไปด้วยความยินดี มือของเขาในแขนเสื้อสั่นเทาอย่างรุนแรงด้วยความตื่นเต้น เขาพยายามลดเสียงลงแล้วถามว่า “เขาเสียชีวิตแล้วจริงๆ หรือ?W
“เสียชีวิตแล้วจริงๆ ข้าตรวจดูชีพจรและตรวจดูเหล้าด้วยตนเองแล้ว คาดว่าชาวเถียเหล่ยที่หลงเหลืออยู่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำเชียนจือเฉ่า จึงทำให้ท่านแม่ทัพเสียชีวิตเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้ และไม่มีทางที่จะรอดชีวิต”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างเยี่ยมยอดจริงๆ” ชายคนนั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป เงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะเสียงดัง ต่อมาก็แกล้งถอนหายใจพูดว่า “เหยียนจินเจียนน้องชายที่น่าสงสารของข้า แต่เดิมข้าสงสารที่เขาทำศึกมายาวนานหลายปี คิดจะให้เขากินยาฉือฮว่าเฟิน จะได้นอนอยู่บนเตียงไปตลอดบั้นปลายชีวิต ใครเล่าจะคิดว่าเขาจะโชคร้ายขนาดนี้ ว่ากันว่าเป็กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา [4] เขาฆ่าชาวเถียเหว่ยไปหลายแสนชีวิต วันนี้ตายด้วยเงื้อมมือของชาวเถียเหว่ยก็นับว่าได้ชดใช้หนี้แล้ว”
ที่ปรึกษาาุโก้มศีรษะลง และอดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นด้วยความดูถูก ตนเองเป็ฝ่ายได้ประโยชน์แท้ๆ แต่กลับทำเหมือนว่าไม่อยากได้ และยังพูดจาประชดประชันผู้อื่นเฉกเช่นพูดเื่ทั่วไป นี่ไม่ใช่วิสัยทัศน์ของผู้กล้า อย่างไรก็ตาม วันนี้ผู้ปกครองของซีห่าวได้ถูกกำหนดไว้แล้ว หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เมื่อท่านอ๋องสิ้นพระชนม์ คนผู้นี้ก็จะขึ้นเป็ฮ่องเต้องค์ถัดไป หากเขา้าแสดงสิ่งที่ได้เรียนรู้มาตลอดครึ่งชีวิตของเขา ก็คงทำได้เพียงอาศัยประโยชน์จากคนผู้นี้เท่านั้น
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงก้มศีรษะลงและเอ่ยโน้มน้าวว่า “ท่านไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไปจะดีกว่า ท่านรีบกลับไปที่ซีจิงโดยเร็วที่สุด ที่นี่มีข้าน้อยคอยดูแลอยู่ รับรองว่าจะไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้”
“เอาเช่นนั้นก็ได้ หากเ้าเป็คนจัดการข้าก็วางใจ” ชายคนนั้นเอื้อมมือไปตบบ่าที่ปรึกษาาุโ จากนั้นสวมผ้าคลุมหน้าสีดำอีกครั้งแล้วเปิดประตูออกไป ทิ้งไว้เพียงที่ปรึกษาาุโให้ยืนอยู่ที่ประตู เขาได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากจวนท่านแม่ทัพที่อยู่ไม่ไกล ในใจค่อยๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ส่ายศีรษะแล้วพูดอย่างโเี้ว่า “ผู้ใดมิเห็นแก่ตัว ผู้นั้น์จักลงทัณฑ์ ท่านแม่ทัพได้โปรดอย่าโทษข้าน้อยเลย ขอให้ไปสู่สุคติเถอะ”
ในยามค่ำคืน ไม่รู้ว่าลมจากที่ใดพัดหมุนใบไม้แห้งที่มุมสนามราวกับเล่นด้วย เมื่อได้ยินเขาพูดกับตัวเองแบบนี้ เขาผิวปากด้วยความรังเกียจและวิ่งจากไป จันทร์ครึ่งเสี้ยวหายเข้ากลีบเมฆไปอย่างรวดเร็ว ราวกับไม่อยากเห็นโศกนาฏกรรมของการทรยศบนโลกใบนี้…
……
“เหว่ยเอ๋อร์ของแม่รีบตื่นได้แแล้ว วันนี้มีเื่ต้องทำ ทำไมยังไม่ยอมตื่นล่ะ?”
ติงเหว่ยในขณะนี้กำลังนอนหลับฝันหวาน นางได้ยินเสียงใครบางคนพึมพำข้างหูไม่หยุด นางจึงเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มด้วยความฉุนเฉียวและะโว่า “ข้ายังนอนไม่เต็มอิ่ม ข้าไม่ลุก”
แต่น่าเสียดายที่คนคนนั้นไม่ยอมอ่อนข้อให้ นางยังคงยิ้มแย้มและตบหน้าพร้อมพูดหลอกล่อ “เหว่ยเอ๋อร์คนดี รีบตื่นเถอะ วันนี้แม่จะพาไปบ้านท่านยาย หากว่าเ้ายังนอนี้เีอยู่บนเตียงจนทำให้ไปสายแล้วต้องรีบร้อนเดินทาง ชาวบ้านเขาจะหัวเราะเยาะเอาได้นะ เ้าเองก็รู้ว่าป้าสะใภ้เ้าเป็คนยังไง เดี๋ยวพอถึงตอนนั้นก็พูดจาไม่น่าฟัง ดูเ้าสิ แบบนี้ต่อไปจะหาบ้านสามีดีๆ ได้ยังไง…”
-----------------------------------------
[1] ฉือฮว่าเฟิน 石化粉 หมายถึง ยาพิษชนิดหนึ่งที่จะทำให้ร่างกายค่อยๆ เป็อัมพาตทีละส่วน และเสียชีวิตในที่สุด
[2] เฟิงฮั่วชานหลิน 风火山林 หมายถึง สำนวนที่อ้างอิงมาจากกลยุทธ์ซุนจื่อ《孙子兵法》ซึ่งมีที่มาจากแม่ทัพผู้มากความสามารถสี่คน มีความหมายคือ รวดเร็วดุจสายลม ใจเย็นดุจผืนป่า รุนแรงดุจไฟ มั่นคงดุจูเา ในที่นี้นำมาเปรียบเป็ชื่อของยอดฝีมือสี่กลุ่ม
[3] เถียเหล่ย 铁勒 หมายถึง ชื่อเผ่าโบราณของจีน ในราชวงศ์ฮั่นเรียกว่าติงหลิง และในราชวงศ์เว่ยเหนือเรียกว่าชื่อเล่อ (敕勒) หรือ เถียเหล่ย (铁勒)
[4] 冤有头,债有主 หมายถึง เป็หนี้ต้องจ่าย เป็คนร้ายต้องชดใช้กรรม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้