จูฉีเจี้ยนวิ่งลนลานกลับบ้าน เมื่อเห็นว่าสวี่ฮุ่ยไม่ได้ไล่ตามมาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาเกลียดจนอยากจะทุบตียัยงั่งนั่นให้ตายคามือ!
ถ้ามีวันนั้นจริง ๆ เขาจะเรียกเยว่เยว่ที่รักของเขามาดูด้วย
เยว่เยว่ที่รักของเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ ส่วนยัยงั่งนั่นคงเ็ปแสนสาหัส
ถูกผู้ชายที่ตัวเองชอบตีตาย ถูกศัตรูหัวใจมายืนดู คงตายตาไม่หลับสินะ
จูฉีเจี้ยนยิ้มอำมหิตเงียบ ๆ
ยายแก่จูได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเพียงคนเดียวในห้อง จึงพูดด้วยความโกรธ “ยัยเด็กเวรนั่นไม่ได้มากับแกเหรอ?”
จูฉีเจี้ยนถึงได้สติกลับมาจากความฝันอันแสนหวาน “ไม่ครับ.”
“งั้นก็ไปจับสวี่เยว่มารับใช้ฉัน เธอเอากำไลเงินของแกไปก็ต้องทำงาน!” ยายแก่จูพูดอย่างดุร้าย
ตัวจูฉีเจี้ยนเองยังไม่อยากซักผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้าเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะเลย แล้วเขาจะยอมให้สุดที่รักของเขาทำงานสกปรกแบบนี้ได้อย่างไร
งานสกปรกแบบนี้เหมาะกับยัยงั่งอย่างสวี่ฮุ่ยเท่านั้น
เขาไม่อยากฟังย่าด่ากราดในห้อง เลยเดินออกจากบ้านเพื่อหลบไปหาความสงบ แล้วก็มีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของตำรวจก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเขา
จูฉีเจี้ยนวิ่งหนีโดยสัญชาตญาณ
แต่เขายังวิ่งไปไม่ถึงห้าสิบเมตรก็ถูกหลี่ไห่ที่ลงมาจากรถตำรวจไล่ตามทัน
หลี่ไห่กวาดขาออกไปทีหนึ่ง จูฉีเจี้ยนก็ล้มหน้าคะมำลงกับพื้นจนอึเกือบแตก
ถึงจะไม่ขี้แตก แต่หน้าของเขากลับมุดลงไปในกองขี้วัวสดกองเบ้อเริ่ม
หลี่ไห่เห็นดังนั้นก็ร้องแหวะ ก่อนจะเดินเข้าไปเตะจูฉีเจี้ยน “ไปล้างหน้าซะ!”
จูฉีเจี้ยนลุกขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเศร้าหมอง แล้วไปล้างหน้า ล้างปาก ล้างตัวที่บ่อน้ำใกล้ ๆ อยู่นานจนขี้วัวที่ติดตามตัวออกหมด
หลี่ไห่ค่อยหยิบกุญแจมือออกมา ใส่กุญแจมือเขาแล้วผลักเขาไปที่รถตำรวจ
จูฉีเจี้ยนใกลัวและดิ้นรนสุดชีวิต “คุณตำรวจ ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมาย คุณจะจับผมได้ยังไง?”
“นายคุกคามและตามตื๊อผู้หญิง นี่ไม่ใช่การทำผิดกฎหมายเหรอ?”
จูฉีเจี้ยนพูดไม่ออกทันที
เขาคิดว่าวิ่งกลับมาแล้วจะไม่เป็ไร ไม่คิดเลยว่ายัยงั่งนั่นจะไปแจ้งความให้ตำรวจมาจับเขา!
เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ จูฉีเจี้ยนก็นึกถึงบทเรียนครั้งก่อน สารภาพจะได้รับการผ่อนปรน
การคุกคามและตามตื๊อผู้หญิงเป็คดีเล็กๆ น้อยๆ อาจจะถูกคุมขังสองสามวันหรือถูกปรับ
หลี่ไห่ไม่ได้ใช้อำนาจในทางมิชอบ เขาจึงเลือกวิธีหลัง ปรับเงินจูฉีเจี้ยน จากนั้นก็สั่งสอนเขาก่อนจะปล่อยตัวเขาไป
...
ตอนเที่ยงสวี่ฮุ่ยไปกินอาหารบำรุงที่ลู่ฉี่เสียนสั่งไว้ให้ที่ร้านอาหารเหอเชิ่ง
วันนี้มีกับข้าวสองอย่างคือน้ำแกงเป็ดตุ๋นพุทราจีนกับเห็ดหูหนูผัดเนื้อหมูสับ ปริมาณเยอะมาก
สวี่ฮุ่ยตักอาหารทั้งสองอย่างใส่ชามตัวเองก่อนกิน ส่วนที่เหลือเธอไม่แตะอีก เพื่อให้แน่ใจว่าอาหารจะสะอาด
หลังกินข้าวเสร็จ สวี่ฮุ่ยก็ห่ออาหารที่เหลือไปให้คุณปู่ที่เป็ตุ่มหนองเมื่อวานกับหลาน ๆ ของเขากิน
อาหารสองอย่างนี้ อย่างหนึ่งเย็น อย่างหนึ่งอุ่นไม่ทำให้แผลอักเสบ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสำหรับคุณปู่
เพียงแค่ข้ามคืน คุณปู่ก็หายไข้และมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก
เมื่อเห็นสวี่ฮุ่ยมาอีกครั้ง แถมยังนำอาหารอร่อย ๆ มาฝากอีก คุณปู่ก็ขอบคุณเธออย่างสุดซึ้ง
สวี่ฮุ่ยกลับถึงบ้าน เห็นทุกคนในครอบครัวนั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหาร บรรยากาศอบอุ่นมาก
สวี่เยว่เห็นเธอเข้ามาจึงถามสวี่ต้าซานอย่างแฝงเจตนา “พ่อ วิตามินอีต้องกินวันละกี่ครั้งคะ?”
สวี่ต้าซานพูดอย่างอ่อนโยน “มีอยู่ในใบสั่งยา ลูกดูในใบสั่งยาสิ”
เขาเห็นสวี่ฮุ่ยจ้องมองน้ำแกงปลาช่อนบนโต๊ะอาหารตาไม่กะพริบ สีหน้าของเขาดูเคอะเขินเล็กน้อย “ฮุ่ยฮุ่ย ไปล้างมือมากินข้าวเร็ว”
สวี่ฮุ่ยไม่สนใจเขา หันหลังวิ่งออกไปนอกบ้านเพื่อดูปลาช่อนสองตัวที่เธอใส่ไว้ในถังใต้ชายคาบ้าน มันเหลือแค่ตัวเดียว
เธอเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้วถามด้วยน้ำเสียงเ็า “น้ำแกงปลาช่อนนี่พวกคุณขโมยปลาช่อนหนูไปทำใช่ไหม?”
สวี่รั่วเฉินทำหน้าบึ้ง “เยว่เยว่หัวแตก แล้วแผลยังอักเสบอีก น้องกินปลาช่อนของลูกตัวเดียวจะเป็ไรไป ยังใช้คำว่าขโมยอีก!”
สวี่ฮุ่ยยกชามน้ำแกงปลาช่อนใบใหญ่นั้นไปเททิ้งนอกบ้าน พลางพูดอย่างเ็า “กินปลาช่อนของหนูโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังกล้าพูดจาแบบนี้อีก งั้นก็อย่ากินมันเลย!”
สวี่รั่วเฉินตบโต๊ะลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ “แกอยากโดนตีนักหรือไง?”
สวี่ฮุ่ยเชิดหน้าขึ้น “นายจะลงมือก็เชิญเลย ฉันจะได้ให้พี่ลู่จับนายไปอบรมสั่งสอนที่สถานีตำรวจ!”
“อ้อ! นายควรลงมือให้หนัก ๆ ตีฉันให้พิการด้วยนะ นายจะได้กินข้าวแดงไง!”
“มา ลงมือสิ อย่าขี้ขลาด!”
แม้สวี่รั่วเฉินจะโกรธจนกำหมัดแน่น แต่ก็ไม่กล้าแตะต้องสวี่ฮุ่ยแม้แต่ปลายเล็บ
สวี่ฮุ่ยไม่สนใจสายตาขุ่นเคืองสวี่ต้าซานและคนอื่น ๆ ที่มองมาที่เธอ แล้วเธอก็กลับไปนอนกลางวันที่ห้องตัวเอง
ในห้องนั่งเล่น สวี่เยว่ร้องไห้ฟูมฟาย “เป็ความผิดของหนูเอง ที่ไปฟังคนอื่นบอกว่าการกินปลาช่อนไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันแผลอักเสบเท่านั้น แต่ยังบำรุงร่างกายอีกด้วย”
“ั้แ่ที่หนูหัวแตก ไม่รู้ว่าเป็เพราะเสียเืหรือเปล่า หนูเลยรู้สึกมึนหัวตลอดเวลาจนอยากกินปลาช่อน”
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้พ่อกับพี่ชายถูกพี่สาวเกลียด”
สวี่ฮุ่ยได้ยินถึงตรงนี้ ก็ออกจากห้องแล้วพูดเสียงเย็น “สวี่เยว่ อย่ามาเล่นเกมจิตวิทยาเพื่อให้คนอื่นเกลียดฉัน”
“เธอคิดไม่ถึงงั้นเหรอ? เธอคิดทุกอย่างไว้แล้วต่างหาก!”
“เธอแค่อยากใช้ปลาช่อนตัวเดียวทำให้ทุกคนในบ้านเกลียดฉัน”
เธอเชิดหน้าขึ้นอย่างหยิ่งผยอง “จะทำอย่างไรได้ล่ะ? ฉันสุขภาพดี ฉลาด แถมยังสวยและขยันไม่เหมือนเธอนี่นะ”
“ฉันเป็คนที่์เลือก ไม่จำเป็ต้องพึ่งพาพ่อแม่ พี่น้อง และจะมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต”
ก่อนจะมองสวี่เยว่ด้วยความดูถูก “ไม่เหมือนเธอ โง่แล้วยังสุขภาพไม่ดีอีก เป็แค่ปรสิตที่ถูก์สาปแช่ง ไม่พึ่งครอบครัวก็ต้องพึ่งผู้ชาย ชีวิตมีแต่จะแย่ลงทุกวัน ๆ !”
สวี่เยว่ถูกดูถูกจนหน้าซีดสลับเขียว
สวี่ต้าซานพูดด้วยความโกรธ “ฮุ่ยฮุ่ย ทำไมลูกถึงแช่งน้องแบบนี้?”
สวี่ฮุ่ยใช้สายตาเหมือนมองคนปัญญาอ่อนมองสวี่ต้าซาน “นี่หนูแช่งเหรอ หนูพูดความจริงต่างหาก! พ่อกลัวที่จะฟังความจริงขนาดนั้นเลย?”