หลงอวี้ตอนนี้กำลังจับตามองการเคลื่อนไหวของฮวาปู๋เซี่ยและหั่วฝู่อยู่
สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่คุกคามเขามากที่สุดไม่ใช่หวังเทียนจั๋วและองครักษ์สองคนที่พามา แต่เป็ฮวาปู๋เซี่ยกับหั่วฝู่ที่กำลังต่อสู้กับจักรพรรดิหมาป่าต่างหาก!
เ้าสองคนนี้ ไม่ว่าคนไหนก็ตาม หากมันลงมือก็ล้วนมีโอกาสฆ่าเขาตายได้ทั้งสิ้น
เมื่อครู่นี้หลงอวี้ยังคิดว่า หากทั้งสองคนนั้นมีความเคลื่อนไหวอะไรก็จะรีบใช้ท่าัปรภพทะยานฟ้าหนีออกจากที่นี่ทันที
แต่ดูจากตอนนี้ ไป๋หังกับหลิ่วยวนช่วยเหลือเขาได้ไม่น้อยเลย ถึงกับช่วยขวางฮวาปู๋เซี่ยกับหั่วฝู่สองคนนั้นไว้ได้
หลงอวี้มองดูหลิ่วยวนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าทำไมสาวน้อยผู้งดงามผู้นี้ถึงได้ลงมือช่วยเขารั้งตัวหั่วฝู่ไว้
“ถ้าอย่างนั้นถือว่าข้าติดหนี้บุญคุณเ้าหนึ่งครั้งก็แล้วกัน!”
หลงอวี้คิดในใจก่อนจะหันไปมองทางองครักษ์ของตระกูลหวังที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวแล้วอย่าง หลี่ว์เทากั๋ว
องครักษ์ตระกูลหวังระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่งที่หวังเทียนจั๋วพามาด้วยนั้น หนึ่งในนั้นถูกหลงอวี้ฆ่าตายไปอย่างรวดเร็ว
หลี่ว์เทากั๋วที่เหลืออยู่นั้น พอเห็นลั่วเหลียงฟู่ถูกฆ่าตาย หวังเทียนจั๋วาเ็สาหัส เขาก็ไม่เหลือกำลังใจที่จะสู้ต่อแล้ว
“เ้าฆ่าองครักษ์ของตระกูลหวังข้า เ้าตายแน่!”
หลี่ว์เทากั๋วเอ่ยพูดด้วยเสียงดุร้าย
“ไม่ว่าข้าจะตายหรือไม่ตาย แต่อย่างไรเ้าก็ต้องตายก่อนข้าแน่”
หลงอวี้หัวเราะอย่างเ็า ไม่สนใจคำขู่ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ค่อยๆ ก้าวเท้าออกไปทางหลี่ว์เทากั๋วทีละก้าว
หลี่ว์เทากั๋วถูกหลงอวี้ข่มขวัญจนหันหลัง วิ่งหนีเตลิดออกไปทันที!
“เขตแดน!”
หลงอวี้ที่มุ่งหน้าออกไปพลางปล่อยเขตแดนสยบฟ้าไปด้วย
เขตแดนสยบฟ้า เพียงพริบตาเดียวก็ได้ปกคลุมหลี่ว์เทากั๋วไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้มันไม่สามารถใช้วิชาท่าร่างใดๆ ได้เลย พอจะฝืนขยับตัวได้บ้าง แต่ความเร็วนั้นถูกลดทอนจนช้าลงสุดขีด ไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของหลงอวี้ได้แน่!
“แตะเกล็ดั! ตาย!”
หลงอวี้แผดเสียงะโอย่างเกรี้ยวกราด กัดนิ้วป้ายเืลงบนหอกัปรภพทันที
วิทยายุทธ์เชื่อมิญญา แตะเกล็ดั ถูกใช้ หลงอวี้เหวี่ยงหอกัปรภพไปทางหลี่ว์เทากั๋วจากระยะไกล!
ปราณปรภพถูกรวบรวมไว้ที่ปลายหอก พุ่งออกไปอย่างรุนแรงจนเกิดเป็กระแสอากาศสายหนึ่ง ตรงดิ่งใส่ใบหน้าของหลี่ว์เทากั๋วอย่างรวดเร็ว!
“ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ ป้องกัน!”
หลี่ว์เทากั๋วเผยสีหน้าดุร้าย ิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ที่อยู่ด้านหลังพลันแผดเสียงคำรามและพุ่งต้านรับหอกัปรภพ!
เสียงกระแทกดังสนั่นหวั่นไหว หอกที่ซัดออกด้วยวิชาแตะเกล็ดัปะทะเข้ากับิญญาแท้ราชันพยัคฆ์จนะเิเป็กระแสลมอันเชี่ยวกราก พัดเศษฝุ่นจนลอยฟุ้งไปทั่ว
“ต้านไว้ได้หรือ?”
หลี่ว์เทากั๋วรู้สึกยินดีทันที เขารู้สึกได้ว่าิญญาแท้ของตนยังอยู่ ไม่ได้ถูกหลงอวี้ทำลายทิ้งไปเหมือนกับหวังเทียนจั๋ว!
แต่เขาไม่รู้เลยว่า ที่หลงอวี้ซัดหอกออกมาก็เพราะ้าจะหลอกล่อเขาเท่านั้น
ต่อจากนั้นที่ด้านหลังของหลี่ว์เทากั๋วก็มีปราณปรภพสายหนึ่งแผ่ออกมา จำลองเส้นทางปรภพ ปกคลุมเขาไว้ภายใน ทำให้เขาหมดสติทันที!
“หมัดัปรภพ ย้าก!!!”
หลงอวี้ที่เคลื่อนตัวเข้าประชิดหลี่ว์เทากั๋วจากทางด้านหลังแล้วหลบเลี่ยงิญญาแท้ราชันพยัคฆ์ของอีกฝ่าย ชกหมัดเข้าไปที่แผ่นหลังของมันอย่างเต็มแรง!
พละกำลังนับพันชั่งอัดใส่ร่างกายของหลี่ว์เทากั๋วเต็มๆ จนตัวมันกระเด็นก่อนจะตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกต่อไป
ปราณปรภพกัดกร่อนเส้นลมปราณทั้งหมดในตัวของอีกฝ่ายไปแล้ว
ความตายกำลังย่างกรายเข้ามาในไม่ช้า!
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของผู้คนทั้งหมดที่อยู่รอบข้าง ทำให้ในหัวของพวกเขาเหลือแต่เพียงความรู้สึกตื่นใ
เหล่ายอดฝีมือสุดแกร่งทั้งสี่ที่กำลังต่อกรกับหมาป่าจักรพรรดิอย่างดุเดือด ตอนมองหลงอวี้ล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วเช่นกัน
ต่อให้เป็พวกไป๋หังหรือหั่วฝู่ หากต้องเผชิญหน้ากับพวกหวังเทียนจั๋วสามคนด้วยตัวคนเดียวก็คงไม่มีทางเอาชนะได้ง่ายไปกว่าหลงอวี้!
นั่นก็หมายความว่า หลงอวี้ในตอนนี้มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับพวกเขาแล้ว?
แต่เ้าหลงอวี้มันยังอยู่ในขอบเขตวิถียุทธ์ขั้นเก้าอยู่เลยนะ!
แต่เพียงไม่นานผู้คนทั้งหลายก็นึกขึ้นได้ว่า อันที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของหลงอวี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับที่พวกเขาจินตนาการไว้
ที่หลงอวี้สามารถสังหารพวกหวังเทียนจั๋วสามคนได้เมื่อครู่นี้ ล้วนเป็เพราะมันค่อยๆ จัดการไปทีละคนก็เท่านั้น
หากพวกหวังเทียนจั๋วบุกโจมตีเข้าไปพร้อมกันทั้งสามคน เชื่อว่าถึงเป็หลงอวี้ก็ไม่มีโอกาสชนะมากขนาดนั้น
แต่พร์ในการต่อสู้ที่หลงอวี้แสดงให้เห็นนั้น ทำให้ผู้คนทั้งหมดจดจำได้ ชายหนุ่มชุดดำผู้นี้ มีนามว่าหลงอวี้!
ในมุมมืดแห่งหนึ่ง หลิงหานและหลิงอีเยว่รวมถึงหลู่กวนิ ทั้งสามคนที่ชมความเก่งกาจดุจเทพเ้าของหลงอวี้พากันตื่นตะลึงจนนิ่งอึ้ง
หากการที่หลงอวี้ลงมือสังหารเซี่ยโฮ่วเทียนเจี๋ยด้วยตัวเองก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่านี่เป็เื่ธรรมดาล่ะก็ อย่างนั้นตอนนี้ การที่หลงอวี้ฆ่าหลี่ว์เทากั๋ว ลั่วเหลียงฟู่ และทำร้ายหวังเทียนจั๋วได้ในพริบตาเช่นนี้ ก็อยู่เหนือความคาดหมายของทั้งสามคนอย่างสิ้นเชิง
“แต่เดิมข้ายังคิดจะลอบโจมตีเ้าสามคนนั้นแบบสายฟ้าแลบ ดูท่าตอนนี้สหายหลงคงไม่จำเป็ต้องให้พวกเราช่วยแล้วล่ะ”
หลิงหานยิ้มแห้ง
เขานึกถึงตอนที่ได้เจอหลงอวี้ครั้งแรก ตอนนั้นหลงอวี้ยังมีวิถียุทธ์เพียงขั้นหกเท่ากับน้องสาวของเขาหลิงอีเยว่อยู่เลย
แต่ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่เดือนหลงอวี้กลับพัฒนามาถึงจุดที่สามารถสังหารยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นหนึ่งสามคนได้อย่างง่ายดายเช่นนี้แล้ว!
“ด้วยความแข็งแกร่งของสหายหลงแล้ว ยังมีหวังว่าจะชิงเศษชิ้นส่วนจันทรามาได้อยู่”
หลู่กวนิเผยแววตายินดี
“แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือพวกเราต้องไม่ไปรบกวน ไม่ไปถ่วงแข้งขาเขา”
หลิงอีเยว่กล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็น
ในบรรดาทั้งสามคนนั้น กลับกลายเป็นางที่อ่านสถานการณ์ได้ขาดมากที่สุด แม้จะอายุน้อยที่สุด แต่ความคิดกับละเอียดรอบคอบมากที่สุด!
หลู่กวนิและหลิงหานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย
ด้วยระดับพลังของพวกเขาในตอนนี้ หากปรากฏตัวตอนนี้จะต้องทำให้หลงอวี้เป็ห่วงจนเสียสมาธิแน่!
ตอนนี้สี่ยอดฝีมือสุดแกร่งยังคงรับมือกับหมาป่าจักรพรรดิกันอยู่
แม้ว่าจะเป็หนึ่งต่อสี่ แต่หมาป่าจักรพรรดิก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสียเปรียบแม้แต่น้อย!
แน่นอนว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากหลงอวี้ ระหว่างสี่ยอดฝีมือด้วยกันยังต้องคอยต่อสู้ขัดขวางกันเอง ทำให้พวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับหมาป่าจักรพรรดิได้อย่างเต็มกำลัง
‘ต้องฆ่าไอเดรัจฉานตัวนี้ก่อน ส่วนเ้าหลงอวี้ ไม่ช้าก็เร็วย่อมมีโอกาสให้ขยี้มันเป็หมื่นๆ ชิ้นอยู่แล้ว!’
ฮวาปู๋เซี่ยคิดในใจเช่นนั้น บนใบหน้าของเขาได้มีประกายอำมหิตสว่างขึ้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ได้พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่หมาป่าจักรพรรดิ
ขอเพียงสังหารหมาป่าจักรพรรดิได้แล้ว หลิ่วยวนก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องไปขัดขวางหั่วฝู่แล้ว
หากเขาฮวาปู๋เซี่ยกับหั่วฝู่ร่วมมือกัน คนหนึ่งขวางไป๋หัง อีกคนหนึ่งจัดการกับหลงอวี้ จะอย่างไรก็ต้องฆ่ามันได้อย่างแน่นอน!
“ครั้งหน้า เ้าไม่มีโอกาสหนีรอดอีกเป็ครั้งที่สองแน่”
พอฮวาปู๋เซี่ยนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่หลงอวี้ใช้ท่าัปรภพทะยานฟ้าหนีไปได้ ในใจก็เกิดความรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาไม่น่าเสียเวลาไปหยอกเล่นกับมันจนปล่อยให้มันมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้!
แต่ถึงเขาจะมาเสียใจตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ตอนนี้ได้แต่ต้องสังหารหมาป่าจักรพรรดิให้ได้ก่อน
น้ำแข็งอันเย็นะเืลอยว่อน ฮวาปู๋เซี่ยใช้วิทยายุทธ์ระดับิญญาโจมตีหมาป่าจักรพรรดิ ทำให้ร่างกายของมันถูกแช่แข็งไว้ชั่วขณะ!
“ได้โอกาสล่ะ!”
ไป๋หังเห็นเช่นนั้นก็ได้รวบรวมพลังของเคล็ดกระบี่พลัง์ หนึ่งกระบี่อันน่าตะลึงพลันถูกใช้อย่างเกรี้ยวกราด สร้างาแขึ้นบนตัวของหมาป่าทันที มีปราณหยินแผ่ซ่านออกมาจากในาแนั้น!
ภายในตัวของหมาป่าจักรพรรดิไม่มีเื มีเพียงปราณหยิน เพราะตัวมันเกิดขึ้นมาจากการอัดแน่นของปราณหยิน!
“ประกายแสงเงากระบี่!”
กระบี่สั้นสี่ชาดได้กรีดกรายเป็ประกายแสงสีขาวหลายสาย ร่ายรำไปมาอย่างพลิ้วไหวในสองมือที่ขาวดุจหิมะของหลิ่วยวน เงาร่างอันงดงามในชุดดำพุ่งผ่านแวบวาบไปมารอบตัวหมาป่าจักรพรรดิด้วยความเร็วสูงสุด
ในบรรดายอดฝีมือทั้งสี่คนนั้น หลิ่วยวนมีความเร็วมากที่สุด กฎเกณฑ์ฟ้าดินที่แฝงอยู่ใน วิชาภูตโฉมสะคราญ เป็วิชาฝึกพลังของหอโฉมสะคราญนั้น คือความเร็วและพลังเสน่ห์
การต่อกรกับหมาป่าจักรพรรดินั้น กฎเกณฑ์เสน่ห์ย่อมไม่มีผล แต่การเพิ่มความเร็วนั้นไม่ว่าจะเป็การต่อสู้แบบไหนก็ล้วนเป็ปัจจัยสำคัญทั้งสิ้น
หลงอวี้ที่เริ่มพักผ่อนอยู่ข้างๆ สังเกตการต่อสู้ของสี่ยอดฝีมือไปพร้อมกันด้วย
“แม้เ้าพวกนั้นจะยังเก็บงำฝีมือไว้ทุกคน แต่วิธีการต่อสู้ของแต่ละคนก็ล้วนมีเอกลักษณ์ที่โดนเด่นอย่างมาก”
หลงอวี้สังเกตไปพลาง คิดวิเคราะห์
หลิ่วยวนมีความเร็วสูงสุด อีกทั้งวิชาประกายแสงเงากระบี่ก็น่าจะเป็วิทยายุทธระดับิญญาขั้นกลาง มีพลังทำลายมากกว่าวิทยายุทธ์ที่คนอื่นใช้เสียอีก
ส่วนหั่วฝู่ใช้ิญญาแท้เปลวเพลิง ทั่วร่างเต็มไปมีกลิ่นอายบ้าคลั่งเดือดดาลแผ่ซ่าน เพียงสะบัดมือออกก็สามารถะเิตรงหน้าให้ราบเป็หน้ากอง เหมาะกับการต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากมากที่สุด
ไป๋หัง เคล็ดกระบี่พลัง์ของมัน มีความเร็วสูงมาก อานุภาพเองก็ร้ายกาจสุดขีด แต่ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหลิ่วยวน แต่แน่นอนว่า เคล็ดกระบี่พลัง์ย่อมไม่ใช่วิทยายุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดของไป๋หัง
ส่วนฮวาปู๋เซี่ยนั้น ทั่วร่างมีกลิ่นอายน้ำแข็งเยือกแผ่ซ่าน สามารถใช้มหาพลังฟ้าดินแห่งน้ำแข็งเยือกได้ เพียงสะบัดมือก็สามารถทำให้ลมปราณของคู่ต่อสู้ติดขัด ความเร็วช้าลง ทำให้ตัวเองได้เปรียบมากขึ้นกว่าเดิม
ยอดฝีมือทั้งสี่ต่างก็มาจากสำนักลัทธิที่แตกต่างกัน รูปแบบการต่อสู้จึงแตกต่างกัน
หลงอวี้แอบคาดเดาว่า หากตัวเขาต้องต่อสู้กับหนึ่งในนั้น เขาควรใช้วิธีการแบบไหนรับมือดี?
เมื่อฮวาปู๋เซี่ยเลิกตอแยกับหลงอวี้และหันมาเอาจริงกับหมาป่าจักรพรรดิ ในที่สุดหมาป่าจักรพรรดิก็ตกเป็ฝ่ายเสียเปรียบ
ตอนนี้ได้มีปราณหยินแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณอีกครั้ง ทั้งหมดล้วนออกมาจากาแของหมาป่าจักรพรรดิทั้งสิ้น!
และในตอนที่หมาป่าจักรพรรดิกำลังจะถูกทำลายจนแตกสลาย ปราณหยินที่เข้มข้นสุดขีดสายหนึ่งก็ได้ปะทุออกมาจากใจกลางของหลุมแร่อย่างกะทันหัน
ทั่วทั้งหลุมแร่พลันเกิดการะเืขึ้นอย่างรุนแรง!
พื้นดินใต้เท้าของหมาป่าจักรพรรดิเริ่มแตกร้าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนทั้งหมดตึงเครียด แม้แต่สี่ยอดฝีมือก็รู้สึกสงสัยประหลาดใจ ต่างก็พากันล่าถอยไปก่อน
หมาป่าจักรพรรดิแผดเสียงร้องกึกก้อง ปราณหยินแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ!
ภายในพื้นดินที่แตกร้าวใต้เท้าของมัน ปราณหยินที่เข้มข้นขีดสุดสายหนึ่งพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่นาน ก้อนหินสีเทาขนาดเล็กก้อนหนึ่งก็ได้ลอยออกมาจากในรอยร้าวนั้น!
“เศษชิ้นส่วนจันทรา!”
แทบทุกคนพลันตอบสนองทันที!
พริบตานั้นผู้คนทั้งหมดล้วนเผยสีหน้าตึงเครียด ในที่สุดเศษชิ้นส่วนจันทราก็ปรากฏ แต่มันกลับปรากฏที่ใต้เท้าของหมาป่าจักรพรรดิ!
ดูท่าทางเหมือนกำลังจะหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับหมาป่าจักรพรรดิ!
หากมันหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกันได้ แล้วหมาป่าจักรพรรดิจะน่ากลัวมากขึ้นแค่ไหนกัน?
นอกจากนี้เศษชิ้นส่วนจันทรายังเป็เป้าหมายหลักที่ผู้คนทั้งหมดตามหาในครั้งนี้ หากมันหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับหมาป่าจักรพรรดิ อย่างนั้นการเดินทางของผู้คนทั้งหมดในครั้งนี้ก็สูญเปล่าน่ะสิ?
ในตอนที่ผู้คนทั้งหมดกำลังคิดจะบุกเข้าไป เงาร่างสีดำสายหนึ่งก็ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงแวบเดียวก็ไปอยู่ใต้ท้องของหมาป่าจักรพรรดิ
“หลงอวี้นี่!”
ไป๋หังตื่นตะลึง เ้าหลงอวี้นี่มันใจกล้ามากเหลือเกิน ถึงกับกล้าเข้าไปชิงสมบัติจากปากหมาป่าเช่นนี้!
ในตอนที่เศษชิ้นส่วนจันทราปรากฏนั้น ผู้คนทั้งหมดต่างก็หวาดกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตราย ต่างก็เลือกที่จะถอยห่างออกมา
มีเพียงหลงอวี้คนเดียวเท่านั้นที่ยอมเสี่ยงชีวิตพุ่งเข้าไปยังพื้นดินที่แตกร้าวใต้เท้าของหมาป่า
ด้วยเหตุนี้เอง ตอนนี้จึงมีเพียงหลงอวี้คนเดียวเท่านั้นที่เข้าใกล้กับเศษชิ้นส่วนจันทรามากที่สุด ขอเพียงเขายื่นมือออกไปก็สามารถคว้าเศษชิ้นส่วนมาไว้ในมือได้แล้ว!
แต่ว่า เ้าหลงอวี้มันจะกล้าได้อย่างไร?
หากเปลี่ยนเป็หลิ่วยวน หั่วฝู่ หรือว่าฮวาปู๋เซี่ย คนใดคนหนึ่งเข้าไปแทน ไป๋หังจะไม่ตื่นใขนาดนี้ แต่หลงอวี้มีขอบเขตพลังเพียงระดับขั้นเก้าเท่านั้น
ในขณะที่หมาป่าจักรพรรดิมีพลังระดับิญญาแท้ขั้นสาม เกรงว่าแค่กระทืบเท้าทีเดียวก็เหยียบหลงอวี้จนตายคาเท้าได้แล้ว!
