เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80 (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     คังเหว่ยมองค้อน เส้ากวงหรงดูจะไม่รู้เ๱ื่๵๹อะไรด้วย

        ครั้งนี้ไม่ใช่เขาจริงๆ นะ เขาไม่ได้ปากสว่างจริงๆ !

        ชายหญิงหนึ่งกลุ่มใหญ่ หัวโจกก็คือโจวอี๋และต่งลี่ลี่ โจวอี๋ทักทายลูกพี่ลูกน้อง แสดงละครฉากบังเอิญพบ เซี่ยเสี่ยวหลานรอให้โจวเฉิงแนะนำ สายตาสังเกตของคนสิบกว่าคนล้วนจับจ้องมาที่เธอ

        หนึ่งในผู้ที่มีแววตาร้อนแรงที่สุดคือหญิงสาวสวมแจ็กเก็ตหนัง ทาลิปกลอสแวววาว ๻ั้๫แ๻่ศีรษะจรดปลายเท้าเต็มไปด้วย ‘ความโก้เก๋’

        จากมุมมองความงามของยุค เธอดูทันสมัยมาก

        แต่จากมุมมองความงามของเซี่ยเสี่ยวหลาน เธออยากช่วยอีกฝ่ายเขียนขอบตาใหม่ ดวงตาสวยคู่หนึ่ง ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยเล่า?

        แววตานี้ไม่ประสงค์ดีเอาเสียเลย เซี่ยเสี่ยวหลานจึงไม่พูดอะไรออกไป

        โจวเฉิงลุกขึ้นยืน “พี่ พี่ก็มากินข้าวหรือ?”

        โจวอี๋พยักหน้า สายตาจับจ้องเซี่ยเสี่ยวหลานตลอดเวลา โจวเฉิงเลยแนะนำอย่างเปิดเผย “คนนี้คือแฟนผม เสี่ยวหลาน เสี่ยวหลาน คนนี้คือลูกพี่ลูกน้องฉัน โจวอี๋”

        “สวัสดีค่ะพี่”

        พี่สาวของโจวเฉิงนี่นา เซี่ยเสี่ยวหลานต้องทักทายแน่นอนอยู่แล้ว

        ส่วนคนอื่นๆ โจวเฉิงไม่ได้แนะนำ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงทำได้เพียงยิ้มแย้มเล็กน้อย

        หาจุดบกพร่องจากตัวเธอไม่ได้เลย ยืนเคียงบ่ากับโจวเฉิง รูปร่างก็สูงเพรียว ใบหน้าก็สะสวย ด้านบุคลิกก็ดูไม่ออกว่าเป็๲เด็กสาวชนบทจากคำบอกเล่า โจวอี๋คิดอยู่ลึกๆ ว่าวันนี้ต่งลี่ลี่มาด้วยความใจร้อนเกินควร อาจเอาเปรียบไม่ได้ไปสักพัก

        ไม่มีจุดอ่อนอะไรเลย ถ้าอยากเหยียดหยามคนอื่นว่าไม่คู่ควรกับโจวเฉิง ก็ต้องหาหลักฐานที่ไม่สามารถหักล้างได้ออกมาบ้างหรือเปล่า

        ต่งลี่ลี่ราวกับภรรยาหลวงที่จับการล่วงประเวณี เธอพาคนหนึ่งโขยงมาล้อมจิ้งจอกสาวผู้ทำโจวเฉิงหลงรักหัวปักหัวปำ ปรากฏว่าจิ้งจอกสาวผู้นี้รูปงามมากเหลือเกิน ต่งลี่ลี่รู้สึกเสียหน้าอย่างรุนแรง

        ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานแต่งกายมอซอสักนิด กิริยาไม่สง่างามสักหน่อย เธอจะเหยียดหยามอีกฝ่ายให้หนัก และดูแคลนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่คู่ควรกับโจวเฉิงต่อหน้าธารกำนัล

        แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับแต่งกายเหมาะสม อยู่ในร้านอาหารชั้นสูงก็ไม่ปล่อยไก่ ไม่รู้ว่าเอาความมั่นใจมาจากไหน ยิ้มแย้มไม่พูดจาแบบนั้น แถมยังเรียกโจวอี๋ว่า ‘พี่’ อย่างเป็๲ธรรมชาติ... ไม่ได้บอกว่าเป็๲แค่เด็กสาวบ้านนอกจากต่างมณฑลหรือ? ทำไมถึงไม่ต๊อกต๋อย เสื้อผ้าที่ใส่อยู่โจวเฉิงก็ซื้อให้สินะ?

        ต่งลี่ลี่จับเจอจุดสำคัญจนได้

        ต่งลี่ลี่อยากพูด โจวอี๋เกรงว่าเธอจะพูดจาไม่น่าฟัง จึงแย่งเอ่ยปากก่อนเธอ

        “โจวเฉิง ในเมื่อเธอลางานได้ ทำไมไม่กลับไปเยี่ยมปู่ย่าเสียหน่อย ตรุษจีนไม่เจอเธอ พวกท่านคิดถึงเธอมากนะ... แฟนมาปักกิ่งทั้งที ก็พากลับไปให้ปู่ย่าพบได้ ใช่สิ อารองและอาสะใภ้เจอเสี่ยวหลานหรือยัง?”

        วาจาของโจวอี๋ผู้เป็๲พี่หาความผิดปกติไม่พบ ทว่าฟังแล้วก็รู้สึกผิดปกติมากทีเดียว

        หญิงสาวสวมแจ็กเก็ตหนังยิ่งน่าขันกว่า สีหน้ามาจับสามีและชู้รัก นึกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมองไม่เห็นสินะ

        คนทั้งกลุ่มกระซิบกระซาบกัน น่าจะกำลังนินทาเธออยู่

        อาจเพราะเกรงกลัวโจวเฉิง เสียงสนทนาของพวกเขาจึงเบาบางยิ่งนัก เซี่ยเสี่ยวหลานฟังไม่ชัดเจน แต่ใครจะอยากโดนคนล้อมเหมือนดูลิงกัน?

        โจวเฉิงจับมือของเซี่ยเสี่ยวหลาน “ฉันเพิ่งขอลางานออกมาได้ ถ้าเสี่ยวหลานอยากไปที่บ้าน ฉันพาเธอไปได้ทุกเวลา พี่อี๋ พี่คารมดีขนาดนี้ ช่วยฉันกล่อมเสี่ยวหลานดีกว่า ให้เธอเห็นชอบพบผู้หลักผู้ใหญ่โดยเร็ว รีบตกลงเ๱ื่๵๹แต่งงานของพวกเรา ฉันถึงจะวางใจได้”

        คำกล่าวของโจวเฉิงนี้ช่างพูดได้ดีเหลือเกิน!

        รวบรัดชัดถ้อยชัดคำ ยกย่องเซี่ยเสี่ยวหลานไว้บนตำแหน่งสูงสุด

        ไม่ใช่เขาไม่ยอมพาเซี่ยเสี่ยวหลานกลับบ้านไปพบผู้ใหญ่ แต่เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานไม่เห็นชอบ หากเซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้าตกลง โจวเฉิงหวังให้ทั้งสองแต่งงานกันได้ในเร็ววัน!

        โจวอี๋ตกตะลึง

        นี่ยังเป็๞น้องชายผู้ไม่รู้จักอ่อนโยนต่อสตรีของเธออยู่หรือ?

        มิใช่โจวเฉิงไม่รู้จักอ่อนโยนต่อสตรี เพียงแต่หญิงสาวที่ตามจีบเขาก่อนหน้านี้ รวมถึงต่งลี่ลี่ ล้วนไม่ใช่ผู้ที่ทำให้เขาเรียนรู้การอ่อนโยนต่อสตรี

        โจวเฉิงคงชอบหญิงสาวชนบทคนนี้มาก

        โจวอี๋กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากเธอช่วยสหายต่อไป ก็ต้องทำให้น้องชายขุ่นเคืองแน่นอน

        โจวเฉิงมีสถานะสำคัญในตระกูลโจว หนุ่มแน่นมากความสามารถ อนาคตของตระกูลโจวยังต้องพึ่งพาโจวเฉิง เธอริษยาโจวเฉิงจริง ทว่าภายภาคหน้าหากออกเรือนไปก็ต้องพึ่งพาโจวเฉิงอยู่ดี โจวอี๋เกิดความลังเล ต่งลี่ลี่กลับไม่ใส่ใจขนาดนั้น

        “โจวเฉิง เธอโดนยายจิ้งจอกนี่ลวงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วสินะ? เธอจะพาหล่อนกลับบ้านโจวหรือ? เหลวไหล บ้านโจวจะอนุญาตให้เธอแต่งงานกับผู้หญิงบ้านนอกคอกนาจากต่างถิ่นได้อย่างไร?”

        ต่งลี่ลี่โมโหโทโส เธอชอบโจวเฉิงมาตั้งหลายปีแล้ว

        ทั้งยังยกยอตนเอาเองว่าทั้งสองครอบครัวคู่ควรกัน และเธอไม่สนว่าผู้หญิงตามจีบผู้ชายจะเหมาะสมหรือไม่ ก่อนตรุษจีนเธอขอให้โจวอี๋เป็๲แม่สื่อ แต่โจวเฉิงปฏิเสธทันที

        ต่งลี่ลี่ยังไม่ตัดใจ

        สองปีมานี้หากใครในวงสังคมเผยว่ามีความรู้สึกที่ดีต่อโจวเฉิง ทุกคนจะพ่ายแพ้ความอุตสาหะของเธอ

        มีเพียงเธอที่คู่ควรเป็๞ผู้หญิงของโจวเฉิง!

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่พูดไม่จา รอดูว่าโจวเฉิงจะจัดการอย่างไร

        โจวเฉิงอยากทำอะไรน่ะหรือ เขาอยากตีผู้หญิงคนนี้

        โจวอี๋เป็๲พี่สาวของเขา จุ้นจ้านไม่เข้าเ๱ื่๵๹เขาก็อดทนสักครั้ง ส่วนต่งลี่ลี่เป็๲ใครกัน โจวเฉิงไม่สนิทกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

        “บ้านโจวจะให้ผมแต่งงานกับใครยังไม่รู้... แต่อย่างไรเสียผมไม่แต่งกับคุณ!”

        “โจวเฉิง เธอพูดจาไร้มารยาทเกินไปแล้ว”

        ตาชั่งของโจวอี๋ยังคงเอนเอียงไปทางสหายรัก ต่งลี่ลี่อยู่ต่อหน้าคนเป็๞สิบ พอโดนโจวเฉิงพูดจาเช่นนี้ใส่ ยังเหลือเกียรติอีกที่ไหน? แต่การปิดหน้าร่ำไห้วิ่งหนีมิใช่นิสัยของต่งลี่ลี่ เธอโกรธจนฟันสั่นกระทบกัน ชี้หน้าด่าทอเซี่ยเสี่ยวหลาน “ถ้าแม่จิ้งจอกนี่แต่งงานกับเธอได้ ฉันต่งลี่ลี่จะเขียนชื่อกลับหลัง! ถ้าเธอไม่แต่งงานกับฉัน ก็แต่งกับใครไม่ได้ทั้งนั้น!”

        โอ้โห—

        ต่งลี่ลี่เอาแต่ใจน่าดูเชียว

        นิสัยตาต่อตาฟันต่อฟันกับโจวเฉิง เซี่ยเสี่ยวหลานถึงขั้นอยากปรบมือให้ ฝูงชนรอบข้างมองด้วยความอึ้ง

        เซี่ยเสี่ยวหลานจับมือโจวเฉิงไว้ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก

        “ต่งลี่ลี่สินะ คุณมีการหมั้นหมายกับโจวเฉิงอยู่หรือ?”

        พอโจวเฉิงนึกถึงคำถามของเซี่ยเสี่ยวหลานก่อนทั้งสองจะยืนยันความสัมพันธ์ ก็เหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง

        “ไม่มีแน่นอน ฉันและเธอไม่สนิทกันสักนิดเดียว!”

        โจวเฉิงคิดในใจ หากต่งลี่ลี่กล้าพูดพล่ามไร้สาระ เขาจะบีบผู้หญิงคนนี้ให้ตายไปเสีย

        ต่งลี่ลี่ถูกโจวเฉิงจ้องมอง เกิดอาการอ่อนกำลังลง จะให้เธอโกหกท่ามกลางคนมากมาย ต่งลี่ลี่เองก็ไม่ได้หน้าทนพอ แวดวงสังคมก็ใหญ่แค่นี้ ใครกับใครมีหรือไม่มีการหมั้นหมาย จะโกหกพกลมไปได้หรือ?

        ต่งลี่ลี่ถลึงตาด้วยความดื้อด้าน ปากหลุดออกมาคำเดียวเบาๆ

        “หึ!”

        เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้ม “เช่นนั้นก็ไม่มีสินะคะ ฉันขอถามอีกอย่าง โจวเฉิงเคยบอกว่าชอบคุณหรือยัง?”

        โจวเฉิงแทบจะควักหัวใจออกมาให้เซี่ยเสี่ยวหลานดู ให้ทุกๆ คนดู ในใจเขาขีดเขียนเพียงชื่อของสตรีคนเดียว มีเพียง ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ทุกขีดทุกเส้นถูกสลักไว้ ไม่มีผู้ที่ไร้ความเกี่ยวข้องอื่นใดอีก!

        “เสี่ยวหลาน—”

        “เธอรอก่อน ฉันกำลังถามคุณต่งลี่ลี่นะ!”

        เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวอย่างร่าเริงนุ่มนวล ทว่าขัดคำพูดของโจวเฉิงอย่างแน่วแน่

        ผู้อยู่ในเหตุการณ์เกิดความรู้สึกในใจอย่างไรน่ะหรือ โจวอี๋คิดว่าน้องชายเธอมี๥ิญญา๸ร้ายเข้าสิงแล้ว ๻ั้๹แ๻่วัยเด็กจวบจนเติบใหญ่ โจวเฉิงค่อนข้างเผด็จการ ในแวดวงสังคมไม่กล้าขัดต่อวาจาของเขา เมื่อครั้งวัยเยาว์นิสัยของเขาเรียกว่า ‘เด็ดขาด’ พอโตขึ้นกลายเป็๲คนกล้าแกร่งและเก่งกาจด้านการตัดสินใจ อย่างไรเสียหลังจากเขาถูกแต่งตั้งในหน่วยงานและได้รับการเลื่อนยศอย่างรวดเร็วดุจจรวด นิสัยนี้ของเขาก็ถือว่าเป็๲จุดเด่น

        เวลาที่โจวเฉิงพูด กระทั่งผู้เฒ่าบ้านโจวยังต้องฟังความคิดเห็นของเขาอย่างตั้งใจ

        ทุกคนในตระกูลโจวล้วนให้ความสำคัญกับวาจาของโจวเฉิงยิ่งนัก... ไม่มีใครคิดเอ่ยปากขัดเวลาโจวเฉิงกำลังพูด นับประสาอะไรกับการไม่อนุญาตให้โจวเฉิงพูด เซี่ยเสี่ยวหลานทำแบบนี้ลงไปแล้ว โจวเฉิงดันทำหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ แต่ดูออกว่าไม่โกรธเคือง!

        โจวอี๋อยากถอนตัวขึ้นมา ไม่ว่าต่อไปจะเป็๞อย่างไร ตอนนี้น้องชายของเธอหลงใหลจิ้งจอกสาวคนนี้หัวปักหัวปำเสียแล้ว

        รอบข้างเงียบสงัด เหลือแค่ต่งลี่ลี่ที่เผยให้ได้ยินเสียงหายใจฟึดฟัด

        ต้องเป็๞เพราะเครื่องทำความอบอุ่นในร้านอาหารมันร้อนเกินไปแน่ ใบหน้าของต่งลี่ลี่จึงขึ้นสี อกกระเพื่อมขึ้นลง แม้พ่ายแพ้ก็ยังยืนหยัดในปณิธาณ

        “ไม่ช้าก็เร็วโจวเฉิงจะต้องชอบฉัน พวกเราเหมาะสมกัน ฟ้าดินสรรค์สร้าง!”



 


 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้