พวกที่ถูกเรียกว่าผู้เที่ยงธรรมนั้นต่างเหลือบมองผมไปพลางวิพากษ์วิจารณ์ผมไปพลางมีทั้งที่เสียงดังและเสียงเบา คำพูดที่ใช้ก็ช่างหยาบคายจนไม่อาจทนฟังได้
ซ่งฉียวนคว้ามุมเสื้อของผมแล้วยกมือขึ้นจากนั้นโยนผมออกไปในที่ซึ่งดูคล้ายกับแท่นบูชาที่อยู่ไม่ไกลนักจนเกิดเสียงปังดังขึ้น
ผมรู้สึกราวกับว่าอวัยวะภายในร่างกายล้วนอยู่ผิดที่ผิดทางนอนฟุบลงบนแท่นและไม่สามารถขยับตัวได้
หลังจากที่เขาจับผมโยนเรียบร้อยแล้วก็รับผ้าจากกู้จิ่นเฉิงที่ยืนอยู่ข้างกายเช็ดมือที่เรียวยาวคู่นั้นรวมถึงซอกนิ้วโดยเช็ดไปมาอย่างน้อยห้าถึงหกรอบ
บัดซบ! ผมไม่มีพิษนะ!! เขารังเกียจผมมากขนาดนี้เลยหรือ??
ส่วนเ้า! กู้จิ่นเฉิง! เ้าไม่ใช่ผู้กล้าเดนตายของข้าแล้วหรือ? ทำไมไม่ช่วยข้า??? ยัง ยังจะยื่นผ้าให้เขาอีก??
ผมฟุบลงบนแท่นที่เย็นเยือกอย่างน่าเวทนา ใบหน้าแนบลงไปกับแผ่นหินรู้สึกอยากจะร้องไห้
ความรู้สึกที่ถูกทั้งโลกทอดทิ้งเช่นนี้ช่างทรมานจริงๆ...
ผมถูกโยนไปยังทิศทางซึ่งตรงกับที่ตั้งของสำนักกระบี่ฉิงชาง
สิ่งที่เห็นก็คือทัศนียภาพอันกว้างใหญ่ของสำนักฉิงชางที่อยู่ไกลออกไปซึ่งแวดล้อมไปด้วยูเาที่เขียวชอุ่ม ยอดเขาฉิงชางคือยอดเขาที่สูงที่สุด ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกระบี่อันแหลมคมที่เสียบขึ้นไปบนท้องฟ้าวิหารใหญ่ซึ่งอยู่้าตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆที่เลือนราง ช่างเป็ภาพที่สง่างามอย่างยิ่ง
ในทางกลับกันแท่นบูชาที่ผมนอนฟุบอยู่นี้คล้ายกับว่าเพิ่งจะสร้างเสร็จแผ่นหินราบเรียบ ความกว้างเท่ากับสนามกีฬาที่มีขนาดประมาณสี่ร้อยคูณสี่ร้อยเมตร ตรงมุมทั้งสองข้างด้านที่ผมเห็นนั้นเป็เสาหินตั้งตระหง่านซึ่งสลักด้วยอักษรโบราณเต็มไปหมดตามแิที่คุ้นเคยแล้วด้านหลังของผมซึ่งตรงกับมุมอีกด้านนั้นก็น่าจะมีเสาสองต้นแบบเดียวกัน
อย่าถามว่าทำไมผมไม่หันกลับไปมอง
เพราะว่าผมเจ็บอย่างไรเล่า
จากมุมนี้ผมมองไม่เห็นกลุ่มผู้เที่ยงธรรมกลุ่มใหญ่นั่นที่ผมเป็คนสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับตัวเองทำให้อารมณ์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เมื่อตระหนักได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังหันก้นให้กับซ่งฉียวนจะบอกว่าหลอกตัวเองและคนอื่นก็ช่างไม่ว่าอย่างไรผมก็รู้สึกเหมือนว่าได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาเล็กน้อย
ความรู้สึกของการมาอยู่บนโลกใบนี้ช่างเลวร้ายจริงๆ
“นำหงส์เพลิงมาที่นี่”
ขณะที่ผมกำลังสงสัยโลกนี่อยู่ ก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำอันไพเราะของซ่งฉียวนดังมาจากด้านหลังที่รู้ว่าเป็เขาเพราะพลังปราณที่ส่งออกมา ซึ่งเสียงนั้นดังเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจำนวนมากที่ยืนล้อมผมอยู่รอบแท่นได้ยิน
เดี๋ยวนะ... หงส์เพลิง?
แย่แล้ว! หงส์เพลิง?? หงส์เพลิงลูกสุดที่รักที่ผมใช้ขี่หรือ?
ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจความเ็ปบนร่างกายแล้ว พยายามขยับแขนและขาอย่างยากลำบากด้วยความเร็วราวกับเต่าคลานเป็ระยะทางประมาณครึ่งวงกลม ทำให้ตัวเองสามารถยืดคอมองสิ่งที่เกิดขึ้นทางด้านหลังได้อย่างชัดเจน
ผลสุดท้ายเมื่อมองไป ผมโมโหจนกระอักเืออกมาคำหนึ่งบนแท่นบูชาแผ่นหินที่สะอาดราบเรียบเปื้อนเป็รอยแดง
ผมไม่ทันได้เช็ดคราบเืที่กระอักออกจากปาก ก็มีเสียงร้องดังขึ้นจนต้องเหลือบมองไปยังสัตว์เลี้ยงสุดที่รักซึ่งมีาแเต็มตัวด้วยความเ็ปใจ
หงส์เพลิงเป็สัตว์เทพที่ผมชอบมากที่สุดในบรรดาสี่จตุรเทพดังนั้นอวี๋เคอในนิยายจึงมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อหงส์เพลิงอย่างแน่นอนตอนแรกที่ได้รับหงส์เพลิงมานั้น เขาก็พูดกับกู้จิ่นเฉิงที่อยู่ข้างๆ หนึ่งประโยค
“หากวันใดเขาตายไป ข้าก็จะไม่มองหาสัตว์พาหนะตัวอื่นอีก”
ช่างรักนกเท่าชีวิตอย่างแท้จริง
ลำคอและเท้าเรียวยาวทั้งสองข้างของหงส์เพลิงต่างก็ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กสีดำซึ่งมีขนาดใหญ่เท่าแขนเดิมทีขนที่เคยเป็สีแดงสดสว่างนั้นกลับหม่นหมองไร้สีสัน หลายแห่งถูกกัดฉีกจนโกร๋นลวดลายหลากสีที่ปกคลุมอยู่้าถูกคราบเืบดบังจนแทบจะมองไม่เห็นสีดั้งเดิม
เมื่อคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วนี่จะต้องเป็ฝีมือของัเขียวอย่างแน่นอน
เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างซ่งฉียวนและอวี๋เคอก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างัเขียวและหงส์เพลิง ถึงขั้นที่ว่าแค่เห็นหน้าก็จะต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง
เวลานี้ซ่งฉียวนมีอำนาจ มีความเป็ไปได้อย่างยิ่งว่าหงส์เพลิงซึ่งเป็สัตว์พาหนะของอวี๋เคอจะตกเป็เป้าหมายระบายอารมณ์ของเ้าบ้านี่
บนปีกขนาดใหญ่ของมันเต็มไปด้วยอักษรโบราณสลักอยู่ถี่ยิบน่าจะถูกสลักเป็ข้อจำกัดบางอย่าง โดยใช้อักษรโบราณควบคุมไว้ ปีกของหงส์เพลิงมีน้ำหนักประมาณพันชั่ง[1] เมื่อลากลงไปบนพื้นตามการเคลื่อนไหวของหงส์เพลิงแล้วทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
แม้ว่าจะตกอยู่ในสภาพจนตรอกอย่างเช่นตอนนี้กระทั่งถูกคนรอบข้างวิพากษ์วิจารณ์ หัวเราะเยาะกับรูปลักษณ์ มันก็ยังคงเชิดหัวดวงตาสีแดงราวกับทับทิมของหงส์เพลิงมีความทะนงและหยิ่งยโสสะท้อนอยู่ในนั้น แม้ว่าทุกย่างก้าวของมันจะเต็มไปด้วยความลำบากทว่ากลับดูมั่นคงมีความองอาจอย่างยิ่ง
หงส์เพลิงมีศักดิ์ศรีและความทะนงของมัน
เมื่อเดินใกล้เข้ามามันก็เห็นผมที่นอนนิ่งอยู่บนแท่น ทันใดนั้นก็หยุดเคลื่อนไหว ผมมองไปที่ดวงตาคู่นั้นของมันรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกและโกรธแค้นซึ่งอยู่ภายใน
“ลี่.......”
หงส์เพลิงที่เดิมทีสงบนิ่งนั้นกลับยกหัวขึ้นส่งเสียงร้องแหลมและแหบแห้งซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคนเกิดความสั่นะเืขึ้นในอากาศเป็เวลาเนิ่นนานไม่จางไป
ขอบตาของผมชื้นเล็กน้อย จนต้องรีบเอาหัวมุดลงพื้นยอมให้ใบหน้าเปื้อนคราบเืที่ติดอยู่บนพื้น เพราะไม่อาจทนมองสภาพอันน่าเวทนาของหงส์เพลิงได้อีก
หากมองนานไปกว่านี้ผมกลัวว่าตัวเองจะละอายใจจนน้ำตาไหล
ผมไม่อยากขายหน้าต่อหน้าพวกคนกลุ่มนี้
......
เชิงอรรถ
[1] ชั่งคือ หน่วยน้ำหนักของจีน หนึ่งชั่งเท่ากับประมาณห้าร้อยกรัม