บทที่ 9 เพลิงเผาใจในห้องย้อม
เด็กหนุ่มไม่ได้ไล่ตามไป เขายืนอยู่บนยอดหลังคา มองตามเงาที่หายลับไปในความมืด ก่อนจะหันกลับมามองยังหน้าต่างที่ซือซือแอบดูอยู่ เขายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว ก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเขินๆ แล้วะโหายไปจากหลังคาอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงความงุนงงสงสัยให้กับครอบครัวสกุลหลี่
ความเงียบ กลับคืนสู่โรงย้อมสกุลหลี่อีกครั้ง แต่เป็ความเงียบที่หนักอึ้งและเต็มไปด้วยคำถามมากมาย
"เมื่อครู่ มันเกิดอะไรขึ้น?" หลี่เหวินเป็คนแรกที่ทำลายความเงียบขึ้น น้ำเสียงของเขายังคงเจือด้วยความตื่นตระหนก "พวกมัน พวกมันคือโจรหรือ?"
"ไม่ใช่แค่โจรธรรมดา" หลี่เจิ้งกล่าวเสียงเครียด ดวงตาของปรมาจารย์ผู้ผ่านโลกมามากฉายแววรู้ทัน "ดูจากการเคลื่อนไหวและเป้าหมายของพวกมัน พวกมันคือคนที่ถูกจ้างมาเพื่อวางเพลิงชัดๆ!"
คำว่า "วางเพลิง" ทำให้หลี่เหวินถึงกับหน้าซีดเผือด "วางเพลิง!? ใครกันที่จะใจคออำมหิตถึงเพียงนี้!"
"นอกจากตระกูลสวีแล้ว... ยังจะมีใครได้อีกเล่า?" หลี่เจิ้งตอบกลับเสียงเ็า ในแววตาของเขาปรากฏประกายไฟแห่งความโกรธแค้นขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน "คนไร้คุณธรรม ย่อมใช้วิธีการที่ต่ำช้า ข้าไม่คิดเลยว่าพวกมันจะเลวทรามถึงขั้นคิดจะเผาบ้านของเราทิ้ง!"
‘เผาบ้าน!? ถ้าเด็กหนุ่มคนนั้นไม่มาช่วยไว้ ป่านนี้พวกเรา ทั้งโรงย้อม ทั้งผ้าผืนนั้น ก็คงจะกลายเป็เถ้าถ่านไปแล้ว!’ ความคิดนี้ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ไม่ใช่เพราะความหนาว แต่เพราะความกลัวและความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาพร้อมกัน
ท่ามกลางความตึงเครียดและความโกรธแค้นของสองพ่อลูก หลี่ซือซือกลับเป็คนที่สงบที่สุด นางเดินออกมาจากเงามืดของตัวบ้าน แววตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังความมืดที่เด็กหนุ่มปริศนาหายตัวไป
"แล้วเด็กคนนั้นเล่า เขาเป็ใครกัน?" หลี่เจิ้งหันมาถามลูกสาว "ดูเหมือนเขาจะมาเพื่อช่วยพวกเราโดยเฉพาะ"
ซือซือส่ายหน้าช้าๆ "ข้าเองก็ไม่ทราบเ้าค่ะ แต่ข้าคิดว่า เขาคงไม่ใช่แค่เด็กส่งปลาที่บังเอิญผ่านมาอย่างที่เขาว่าแน่"
นางไม่ได้บอกเื่ที่นางััได้ถึงพลังงานพิเศษจากตัวเด็กหนุ่มคนนั้น หรือเื่ที่มันเชื่อมโยงกับบุรุษลึกลับใต้ร่มกระดาษน้ำมัน เซียวจิ่นเหยียน
นางรู้โดยสัญชาตญาณว่าเื่นี้ซับซ้อนเกินกว่าจะเป็แค่การต่อสู้ทางธุรกิจระหว่างสองโรงย้อมผ้าไปเสียแล้ว การปรากฏตัวของคนจากหอการค้าจิ่นอวี้ หมายความว่าเกมกระดานที่นางกำลังเล่นอยู่นี้ มีผู้เล่นระดับัซ่อนเงาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
‘เซียวจิ่นเหยียน... คุณส่งคนมาช่วยฉันทำไม? คุณ้าอะไรจากฉันกันแน่? หรือคุณแค่อยากจะปกป้องการลงทุนของคุณ ปกป้องผ้าผืนนั้นที่คุณหมายตาไว้ในวันประมูล? ไม่ว่าเหตุผลจะเป็อะไร ตอนนี้ฉันเป็หนี้คุณหนึ่งครั้ง’
"ช่างเถอะ! ไม่ว่าเขาจะเป็ใคร อย่างน้อยคืนนี้พวกเราก็ปลอดภัยแล้ว" หลี่เหยวินกล่าวพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก "พวกเราควรจะรีบเข้าไปพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปที่โรงประมูล"
"พักผ่อนรึ?"
น้ำเสียงเยือกเย็นของซือซือทำให้สองพ่อลูกต้องหันกลับมามอง
"พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าหมาป่าที่ล่าเหยื่อไม่สำเร็จ มันจะยอมกลับเข้ารังไปนอนเลียแผลเฉยๆ หรือ?" นางถามกลับ "ไม่เลย มันจะยิ่งโกรธแค้นและหิวโหยยิ่งกว่าเดิม และมันจะกลับมาอีกครั้งในเวลาที่เราคาดไม่ถึง"
"เ้าหมายความว่า พวกมันจะกลับมาอีก!?"
"แน่นอน" ซือซือตอบอย่างมั่นใจ "แผนวางเพลิงล้มเหลว ตระกูลสวีจะต้องร้อนใจเป็อย่างมาก พวกมันรู้ดีว่าหากผ้า ชาดแรกอรุณ ถูกนำออกประมูลได้สำเร็จ ชื่อเสียงของพวกมันที่สั่งสมมาจะต้องป่นปี้ไม่มีชิ้นดี ดังนั้น พวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อ ขัดขวางไม่ให้พวกเราไปถึงโรงประมูลได้ในวันพรุ่งนี้"
คำพูดของนางทำให้บรรยากาศที่เพิ่งจะผ่อนคลายกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
"แล้ว แล้วเราจะทำอย่างไร?" หลี่เหวินถามเสียงสั่น
ซือซือหันไปมองหน้าบิดา "ท่านพ่อ ท่านยังจำเส้นทางลับหลังโรงย้อมที่ท่านปู่เคยสร้างไว้เพื่อใช้หนีภาษี เอ๊ย เพื่อใช้ขนส่งผ้าในยามฉุกเฉินได้หรือไม่เ้าคะ?"
หลี่เจิ้งถึงกับสำลักน้ำลายกับคำพูดทีเล่นทีจริงของลูกสาว ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "จำได้สิ มันเป็อุโมงค์เล็กๆ ที่เชื่อมต่อไปยังตรอกหลังร้านบะหมี่ของอาแปะจาง แต่มันถูกปิดตายไปนานมากแล้วนะ"
"ดีเลยเ้าค่ะ!" ดวงตาของซือซือเป็ประกาย "พี่ใหญ่ เราต้องทำงานกันอีกสักหน่อยแล้ว"
"ทำงานอะไรอีก!?"
"เราจะย้ายของสำคัญ ของเราไปเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุดในคืนนี้" นางกล่าวพลางตบเบาๆ ที่หีบไม้จื่อถานที่หลี่เหวินเพิ่งขัดจนขึ้นเงา "พรุ่งนี้เช้า เราจะจัดละครฉากใหญ่ให้พวกตระกูลสวีได้ชมกัน"
รุ่งอรุณของวันประมูลมาถึงพร้อมกับแสงแดดที่สาดส่องสดใสราวกับจะเยาะเย้ยความวุ่นวายที่ซ่อนอยู่ในเงามืด
หน้าโรงย้อมสกุลหลี่ ชายฉกรรจ์ท่าทางน่าสงสัยสี่ห้าคนในชุดชาวบ้านธรรมดา มาเดินป้วนเปี้ยนทำทีเป็จับจ่ายซื้อของอยู่ั้แ่เช้ามืด พวกมันคือคนของสวีฝูที่ถูกส่งมาเพื่อจับตาดูและหาโอกาสลงมือ
เวลาผ่านไปจนเกือบจะถึงยามซื่อ (9.00 น.) ซึ่งเป็เวลาที่โรงประมูลจะเปิดทำการ ประตูของโรงย้อมสกุลหลี่ก็ยังคงปิดเงียบสนิท
"แปลกจริง ทำไมยังไม่ออกมาอีก?" หนึ่งในสมุนพึมพำ
"หรือว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้ว?"
"เป็ไปไม่ได้! เมื่อคืนก็ไม่มีอะไรผิดปกติ!"
ในขณะที่พวกมันกำลังสับสนอยู่นั้นเอง
เอี๊ยด...
ประตูโรงย้อมก็เปิดออก!
หลี่เจิ้งในชุดผ้าไหมตัวเก่งที่สุด เดินนำออกมาด้วยท่วงท่าสง่างาม ตามมาด้วยหลี่เหวินที่กำลังประคองหีบไม้จื่อถานใบใหญ่อย่างระมัดระวังราวกับกำลังถือสมบัติล้ำค่าที่สุดในแผ่นดิน ส่วนหลี่ซือซือเดินรั้งท้ายด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
"มาแล้ว! พวกมันออกมาแล้ว!"
"เตรียมตัวให้พร้อม! พอพวกมันเลี้ยวเข้าตรอกเมื่อไหร่ ก็ลงมือทันที!" หัวหน้าสมุนสั่งการเสียงเบา
ครอบครัวสกุลหลี่เดินไปตามถนนสายหลักอย่างไม่รีบร้อน ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่ออกมายืนรอชมและให้กำลังใจอยู่สองข้างทาง
"เถ้าแก่หลี่! สู้ๆ นะ!"
"คุณหนูซือซือ! พวกเราเป็กำลังใจให้!"
เมื่อเดินมาถึงหัวมุมถนนที่จะต้องเลี้ยวเข้าตรอกแคบๆ อันเป็เส้นทางลัดไปยังโรงประมูล เหตุการณ์ที่ซือซือคาดการณ์ไว้ก็เกิดขึ้น!
ชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งในมือถือไม้พลองกรูกันออกมาจากซอกตึก ขวางทางพวกเขาไว้ทันที!
"ส่งหีบใบนั้นมาซะดีๆ!"
"โจร! มีโจรปล้นกลางวันแสกๆ!" ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันแตกฮือร้องเสียงหลง
หลี่เหวินกอดหีบไว้แน่น "พวกเ้าเป็ใคร! ้าอะไร!?"
"ข้าบอกให้ส่งหีบมา!" หัวหน้าโจรไม่พูดพร่ำทำเพลง มันเงื้อไม้พลองขึ้นหมายจะฟาดลงมาที่แขนของหลี่เหวิน
"ระวัง!" หลี่เจิ้งร้องเสียงหลง
แต่แล้ว...
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ก้อนแป้งซาลาเปาหลายลูกพุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็วสูง กระแทกเข้าที่ใบหน้าของเหล่าโจรอย่างจัง!
"โอ๊ย! อะไรวะเนี่ย!"
เหล่าโจรเสียหลักไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีร่างกำยำของอาแปะจางร้านบะหมี่ และเหล่าพ่อค้าหนุ่มในตลาดอีกหลายคนกระโจนเข้ามาขวางหน้าไว้!
"คิดจะมารังแกคนดีๆ ในถิ่นของข้ารึ! มันจะมากเกินไปแล้ว!" อาแปะจางตวาดลั่น ในมือถือทัพพีอันใหญ่เป็อาวุธ
"ใช่! พวกเราไม่ยอม!"
ชาวบ้านที่เคยเป็แค่คนดูละคร บัดนี้ได้ลุกขึ้นมาเป็ "กองทัพ" ปกป้องครอบครัวสกุลหลี่ตามที่ซือซือเคยกล่าวไว้ไม่ผิดเพี้ยน!
ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายนั้น หลี่ซือซือก็ดึงแขนพ่อกับพี่ชาย
"ไป! ทางนี้!"
นางพาพวกเขาวิ่งหนีไปอีกทางหนึ่ง... แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีชายฉกรรจ์อีกกลุ่มหนึ่งที่ดูแข็งแกร่งและน่ากลัวกว่ากลุ่มแรกมากนัก มาดักรออยู่ข้างหน้า
"ดูเหมือนว่า... พวกเ้าจะหนีไปไหนไม่รอดแล้วนะ" ชายผู้เป็หัวหน้าแสยะยิ้มอย่างเืเย็น
สถานการณ์พลิกผันเข้าสู่ภาวะคับขัน!
แต่หลี่ซือซือกลับหัวเราะออกมาเบาๆ
"หนีรึ? ใครบอกว่าพวกเรากำลังจะหนีล่ะ?"
นางหันไปพยักหน้าให้หลี่เหวิน เขาก็เข้าใจในทันที เขาโยน "หีบไม้จื่อถาน" ในมือขึ้นไปบนฟ้า!
หัวหน้าโจรเบิกตากว้าง รีบกระโจนขึ้นไปหมายจะคว้าหีบไว้
แต่เมื่อมันเปิดหีบออกกลางอากาศ... สิ่งที่อยู่ข้างใน... กลับมีเพียงก้อนอิฐหนักๆ สองสามก้อนเท่านั้น!
"อะไรกัน!?"
"หีบจริงน่ะ... อยู่นี่ต่างหาก"
เสียงที่สามดังขึ้นจากบนหลังคา! เด็กหนุ่มหน้ามอมเ้าของหนังสติ๊กคนเมื่อคืน ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหีบไม้จื่อถาน "ของจริง" อีกใบหนึ่ง!
"ละครฉากใหญ่... เพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้นแหละ" ซือซือกล่าวพลางยิ้มเยาะใส่หน้าหัวหน้าโจรที่กำลังตกตะลึงจนพูดไม่ออก
นี่คือแผน "ล่อเสือออกจากถ้ำ" และ "สับเปลี่ยนักับหงส์" ของนาง!
ม่านแห่งวันประมูล... กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้วอย่างดุเดือดและเหนือความคาดหมาย