คำพูดนี้ เพียงชั่วครู่กลับทำให้เหล่าสตรีที่ทั้งวันต้องแต่คอยห้อมล้อมดูแลสามีและลูกๆ มีความรู้สึกเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
พวกนางมีผู้ใดบ้างที่หลังจากออกเรือนออกไปแล้ว ไม่มีหน้าที่คลอดลูกเลี้ยงลูก คอยดูแลสามีอย่างระมัดระวัง กับแม่สามียังต้องใช้ชีวิตโดยการคอยมองสีหน้าของพวกนาง
สามีออกไปหาอนุด้านนอก เลี้ยงดูสตรี
หลังจากกลับมาที่เรือน เพราะเก็บกดอารมณ์พวกนี้มาจากด้านนอก ยังพาอารมณ์มาปล่อยที่ตนเองซึ่งเป็เื่ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง...
ั้แ่ไหนแต่ไรมา เมื่อเกิดเื่น่าน้อยใจเช่นนี้ขึ้น มักไม่มีผู้ใดกล้าร้องเรียน ขอความยุติธรรมให้ตนเอง เพียงเพราะว่าวัฒนธรรมของพวกนาง มักจะถูกสั่งสอนเช่นนี้มาโดยตลอด ทั้งหมดนี้คนที่เป็สตรีสมควรจะเคารพแล้วยอมรับ
แต่ยามนี้ มีคนออกมาบอกกับพวกนางว่า ความจริงแล้วพวกนางสามารถมีชีวิตที่ดีกว่านี้ และมีคนคอยห่วงใย คนพวกนี้จึงต่างรอคอยแล้ว
“ดี ข้าชอบงานเลี้ยงรวมตัวเช่นนี้ของพวกเ้า เมื่อถึงวันนั้นข้าจะต้องมาเข้าร่วมด้วยตนเองอย่างแน่นอน”
หรูฮูหยินเป็คนแรกที่ตอบรับ ตามด้วยฮูหยินเ้าเมืองที่รับคำต่อมา
เมื่อเห็นสตรีมีชื่อเสียงสองคนของเขตเปียนโม่ต่างตอบรับแล้ว คนอื่นๆ จึงตอบรับตามกันมา
เฉินเนี้ยนหรานเห็นภาพที่ยิ่งเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเคาะกระดานขึ้นมาในตอนนั้น และตัดสินใจว่า ห้าวันต่อจากนี้นางจะเริ่มเปิดการบรรยายครั้งแรก
ถึงตอนนั้นนางจะจัดรายการที่มีความหมายมากกว่านี้ ยังมีการแสดงต้อนรับทุกคน
ร้านเพื่อสตรีจะต้องกลายมาเป็สถานที่ที่สตรีทุกคนต่างรักมันมากที่สุด
เมื่อเป็เช่นนี้ สตรีทุกคนย่อมจะมีการรอคอยอยู่เล็กๆ แน่นอนว่า เื่ที่ยังมาไม่ถึง ทุกคนจึงทำได้เพียงมองเท่านั้น
วันนี้ยุ่งทั้งวัน เหนื่อยจนเฉินเนี้ยนหรานพูดไม่ออก คนที่สบายมากที่สุดคือโจวอ้าวเสวียนแล้ว
แม้เขาจะไปที่ร้านด้วย แต่เขารับผิดชอบเพียงนั่งอยู่ตรงนั้น มีคน้าลองดูประสิทธิภาพชุด เขาจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็คนสวมชุดนำเสนอให้ ก่อนจะออกมา แล้วปล่อยให้เหล่าสตรีได้ชื่นชมกัน
ส่วนหนิงเซียง และพวกสาวใช้สีล้วนเหนื่อยจนพูดไม่ออก ทว่าแม้จะเหนื่อย แต่การปรับเปลี่ยนร้านในวันนี้ ในที่สุดก็โด่งดังแล้ว
สำหรับรายได้เช่นนี้ เฉินเนี้ยนหรานพอใจมาก
ในคืนนี้ เสี่ยวอู่กับชุนเทียนได้ทำของอร่อยไว้ เพื่อเป็การขอบคุณทุกคนที่ทำงานหนัก ตอนดึก เสี่ยวอู่และโจวอ้าวเสวียนแยกตัวออกไปอีกกระโจมหนึ่งกันสองคน
เฉินเนี้ยนหรานรู้ สองคนนี้ไปพูดคุยเื่ของตู้ซินถงกัน
ถูกต้อง แม้จะให้ตู้ซินถงไปทำงานแทนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็อย่างไรบ้าง หากเกิดเื่ขึ้น เช่นนั้นย่อมเสียหายไม่น้อย
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เฉินเนี้ยนหรานอยากจะทำชุดให้กับเชวียนเชวียน จึงวางแผนที่จะทำชุด แล้วรอให้โจวอ้าวเสวียนกลับมา
เพียงแต่ พอนั่งลง หนังตากลับปิดลงมา
ยามที่โจวอ้าวเสวียนกลับมา จึงเห็นด้านใต้ตะเกียง ปรากฏสตรีร่างอ้อนแอ้นกำลังนอนกอดชุดตัวเล็กหลับอย่างสงบมากอยู่ตรงนั้น
เมื่อเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของนาง เขาจึงยกมือขึ้นมาลูบด้วยความเอ็นดู การัันี้ทำให้ดวงตาที่ปิดสนิทของนางค่อยๆ ลืมตาขึ้น
แขนเล็กๆ ยกขึ้น “เหล่ากง[1]...”
“หา?”
โจวอ้าวเสวียนไม่เข้าใจ คนที่นี่ต่างเรียกสามีของตนเองว่า เซียงกงหรือฟูจวิน [2]
แต่เหล่ากง?
นี่คือคำเรียกสิ่งใด?
หรือตอนที่แยกกับนาง สตรีคนนี้ไปหาบุรุษคนอื่นอย่างนั้นหรือ?
แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่ได้รู้ ยามนั้นข่าวบอกว่านางหาพ่อค้าคนหนึ่งมาเป็สามี
หรือนางมีความสัมพันธ์กับเขา จากนั้น ตอนนี้นอนหลับไปแล้วจึงเรียกชื่อของบุรุษคนนั้นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ?
ตอนนั้นเขาไม่สามารถตัดสินได้ หลังจากพาฮูหยินของตนมาวางไว้บนที่นอนแล้ว เขาจึงจ้องนางตาไม่กระพริบอยู่นาน
ในใจอยากสะกิดให้ตื่น แต่อดใจไม่ไหวจริงๆ
แต่หากไม่สะกิดให้ตื่น ตอนนี้มีเื่อยู่ในใจย่อมนอนไม่หลับจริงๆ
คนบางคนที่กังวลว่าจะเสียนางไปจึงเดี๋ยวลุก เดี๋ยวมองนาง จ้องไปเรื่อยๆ ไฟในใจพลันปะทุขึ้นมา
“ข้ากำลังมีเื่วุ่นวายใจ เ้ากลับนอนหลับเหมือนหมู การปฏิบัติเช่นนี้จะไม่ยุติธรรมไปสักหน่อยหรือ?”
ชายหนุ่มที่โทสะปะทุอ้าปากกัดนางไปหนึ่งที สตรีที่นอนหลับสนิทจึงยิ่งออดอ้อนโดยการยกมือขึ้นมาโอบคอของเขาไว้ เมื่อเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นนุ่มนิ่ม ความรู้สึกไม่ดีเช่นนี้ จะอย่างไรมันย่อมโผล่ออกมา
ไม่ต้องคิดแล้ว โจวอ้าวเสวียนเริ่มจะค่อยๆ ตบะแตกแล้ว
ผ่านไปครู่เดียว ทำให้สตรีที่นอนหลับสนิทถูกปลุกให้ตื่น นางตกตะลึงไป ต่อมาจึงพูดค้านออกมา “เหล่ากง เหตุใดดึกดื่นแล้วยังไม่นอน?”
การกระทำของชายหนุ่มชะงัก เขาเงยหน้าขึ้นจ้องนางตาเขม็งด้วยความโกรธ
“เหล่ากงคือผู้ใด?”
ถูกความโกรธของเขาทำให้ใ เฉินเนี้ยนหรานยังคงมึนงง ต่อมา หลังจากเข้าใจว่าเขากำลังหึงหวง นางจึงหัวเราะออกมา
“เหล่ากงหรือ...ฮ่าๆ...เหล่ากงน่ะ แน่นอนว่าเป็บุรุษคนหนึ่ง...”
ร่างของชายหนุ่มยืนตรง
“พูดมา บุรุษคนนี้คือผู้ใด?”
“ซี๊ด...”
“เหอะๆ...หากข้าพูดว่าบุรุษคนนี้เป็ผู้ใดท่านจะไปจัดการกับเขาใช่หรือไม่?”
“เหอะ...” เขาร้องเหอะเสียงเย็นออกมา
“ฮ่าๆ คน คนที่ข้าพูดคือท่านอย่างไร ท่านคือเหล่ากงของข้า และเป็ฟูจวินของข้า และยิ่งเป็...บิดาของพวกเด็กๆ อีกด้วย...”
เมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจ และรู้ว่าตนเองเข้าใจผิด บุรุษบางคนไม่เพียงจะไม่รู้สึกขอโทษแล้ว กลับกันกลับดีใจจนความโกรธหายไป
ตอนที่จูบหญิงสาว การกระทำจึงอ่อนโยนขึ้นมาก
…
วันต่อมาเฉินเนี้ยนหรานอยากจะนอนตื่นสายมาก
ปวดไปหมด สถานการณ์เช่นนี้ผู้ใดจะอยากออกไปทำงาน
มองบุรุษที่กำลังแต่งตัวอยู่ด้วยท่าทางที่สดชื่น พลังเต็มเปี่ยม เฉินเนี้ยนหรานพลันทุกข์ใจมาก นางมองค้อนใส่เขา “ไม่ยุติธรรม เหตุใดท่านถึงได้มีพลังเต็มเปี่ยมเช่นนั้น? ข้าขอต่อต้าน ขอต่อต้านอย่างรุนแรง”
ตอนเช้าตรู่ อารมณ์โกรธยามตื่นนอนของนางยังรุนแรง ถึงได้ยกเื่พลังขึ้นมาพูด โจวอ้าวเสวียนไม่ได้โต้แย้งนาง แต่กลับเดินเข้าไปหาอย่างเห็นด้วย
“อืม เ้าคิดว่าแรงของตนแย่มาก?”
เขาเชยคางนางด้วยความอ่อนโยน ดูท่าทางใส่ใจ แม้ท่าทางของเ้าตัวร้ายคนนี้จะเกินกว่าที่คาดไว้ แต่เฉินเนี้ยนหรานยังคงพยักหน้าให้
“ถูกต้อง เ้าไม่คิดว่าข้าสมควรจะพักผ่อนมากกว่านี้สักหน่อยหรือ เ้าดูสิ เ้าออกกำลังมาเช่นกัน แต่พละกำลังของเ้านี่อย่างไรกัน มันชัดเจนมากว่าแรงของเ้าดีกว่าข้ามากนัก เื่นี้คือเหตุผลที่ข้าเหนื่อยมาก”
โจวอ้าวเสวียนคร่อมตัวลงมา แล้วจุมพิตลงไปที่ปากดุร้ายของนางหนึ่งที
เฉินเนี้ยนหรานที่เขินอายจนยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง “เกลียดเ้านัก ข้ายังไม่ได้แปรงฟันเลย”
“ไม่เป็ไร ข้ายังไม่ได้แปรงเช่นกัน” โจวอ้าวเสวียนยิ้มสดใส ในวินาทีนั้น เฉินเนี้ยนหรานจึงมองเหม่ออีกครั้ง
เหตุใด เหตุใดบุรุษคนนี้ถึงได้หน้าตาดีเช่นนี้นะ
ไม่ว่าเขาจะแต่งตัวเป็บุรุษหรือสตรี ล้วนแต่ทำให้คนทั้งหมดหลงใหล ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
“รู้สึกหรือไม่ว่าข้าเป็สามีที่ดี”
โจวอ้าวเสวียนเสพติดการจูบไปแล้ว และไม่คิดที่จะรีบตื่นนอนด้วย
เขาคล้ายจะชื่นชอบท่าทางบื้อมึนของสตรีนางนี้ยามที่มองตนเองนิ่งเช่นนี้
“อะแฮ่ม เ้ามันเป็ปีศาจนี่ ปีศาจย่อมต้องหน้าตาดีอยู่แล้ว” สายตาของเฉินเนี้ยนหรานเบนไปทางอื่น
“แม้เ้าจะน่าพอใจอยู่เล็กน้อย แต่ในสายตาของข้าแล้ว เ้านั้นดีที่สุด ดังนั้นเ้าอย่าได้ดูถูกตัวเอง”
เฉินเนี้ยนหรานเดือดดาลขึ้นมาแล้ว “เ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ข้าแย่ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
บัดซบ บุรุษเช่นเ้านี่แม้ข้าจะหน้าตาแย่กว่าเ้าสักหน่อย แต่เ้าไม่จำเป็ต้องพูดกับข้าเช่นนี้
“เนี้ยนหราน เ้ารู้สึกหรือไม่ว่าตอนนี้ปวดมาก ตรงนี้ล้ามาก?”
มือปีศาจของเขายังคอยบีบนวดให้นางตลอด แต่ไม่ใช่เพื่อให้นางผ่อนคลายแน่นอน
เมื่อถูกดูแลเช่นนี้ เฉินเนี้ยนหรานจึงพูดออกมาจากใจจริงว่า สบายสิ นางหลับตาลง “อืม อา ดีมากจริงๆ สบายมากจริงๆ”
สาวใช้สีที่อยู่นอกห้อง ได้ยินคำนี้จึงรีบหมุนตัวเดินออกไปเงียบๆ
น่าอายเกินไปแล้ว ในยามเช้าเช่นนี้เหตุใดคุณชายกับนายหญิงถึงได้ยังตัวติดกันอีก
ครั้นเดินออกมา ก็เห็นชุนเทียนกับอู่เอ๋อร์กำลังโบกมือไปมาด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน นางถลึงตาใส่สองคนนั้นด้วยความหงุดหงิด
“ต่อไปเื่เช่นนี้พวกเ้าอย่ามาหาข้าอีก”
น่าเกลียดที่สุด นี่ไม่เท่ากับไปหาเื่หรือ
ชุนเทียนส่งยิ้มให้นาง แต่ยังไม่สามารถควบคุมความอยากรู้อยากเห็นได้จึงพุ่งเข้าไปหานาง
“แม่นางสี เื่นั้น เมื่อใดเ้านายจะตื่นนอนหรือ? พวกเรายังรออยู่นะ หากยังไม่ออกมา ร้านย่อมไม่สามารถเปิดได้นะ”
สาวใช้สีพอคิดถึงเสียงในห้องนั้น นางจึงถลึงตาใส่เขาด้วยความหงุดหงิด “อยากรู้ก็ไปดูเองแล้วกัน”
ชุนเทียนใจนหัวหด “ไม่เอา ข้าไม่ไป พวกเขาทำเื่น่าอาย ข้ากลัวเจอเื่นี้นะสาวใช้สี”
สาวใช้สีถลึงตาใส่เขา ก่อนจะต่อว่าเขา
“ถุย เ้ามันคนชั่ว”
เมื่อถูกสาวใช้สีด่า ชุนเทียนกลับทำท่าทางไร้เดียงสา ก่อนเขาจะหันไปถลึงตาใส่อู่เอ๋อร์ที่ยิ้มร้ายอยู่
“อู่เอ๋อร์เอ๋ย เหตุใดสตรีนางนี้ถึงได้วุ่นวายเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ข้าพูดความจริง เหตุใดนางจะต้องถุยน้ำลายใส่ข้าด้วยเล่า?”
อู่เอ๋อร์หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ฮ่าๆๆ...เ้ามันคนโง่ ไม่รู้กลับ้าจะรู้ เช่นนั้นเ้าก็ไปถามพวกเ้านายเองไปแล้วกัน”
โจวอ้าวเสวียนที่อยู่ในเรือนนวดให้แม่นางได้พอสมควรแล้ว ถึงได้เริ่มพูดเื่สำคัญ
“เนี้ยนหราน ข้ารู้สึกว่า ร่างกายของเ้าเช่นนี้ไม่ไหวจริงๆ ข้าคิดแล้วนะ ต่อไปพวกเราจะต้องอยู่ด้วยกันไปทั้งชีวิต เ้าพูดสิ หากวันหนึ่งเ้าเดินไม่ไหวแล้ว แต่ข้ายังสามารถวิ่งไปข้างหน้าด้วยพลังกำลังเต็มเปี่ยม เมื่อเป็เช่นนี้ เ้าที่อยู่ด้านหลังจะต้องวุ่นวายใจมาก และข้าจะต้องแบ่งสมาธิมาดูแลเ้า เ้าว่าหากพวกเราไม่สามารถก้าวไปพร้อมกันได้ นี่จะเป็เื่ที่ข้าต้องหงุดหงิดใจ?”
เฉินเนี้ยนหรานพยักหน้า คิดถึงตอนที่แก่ไปแล้ว ตัวนางหายใจหอบอยู่คนเดียวด้านหลังวิ่งไล่ตามรถม้า
แต่บุรุษที่อยู่ด้านหน้ากลับวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดพัก
จะทำอย่างไรก็วิ่งตามไม่ทัน...
เชิงอรรถ
[1] 老公 เหล่ากง หมายถึง สามี
[2] 夫君和相公 ฟูจวินหรือเซียงกงหมายถึง สามี
