ถึงแม้การอดนอนตลอดทั้งคืน จะไม่เป็ปัญหาใดๆสำหรับหยางเฉิน เขาออกไปซื้ออาหารเช้าตามปกติ และแบกถุงอาหารขนาดใหญ่มุ่งหน้าสู่ออฟฟิศตามเดิม
เมื่อเห็นหยางเฉินเข้ามา เหล่าสาวๆในออฟฟิศไม่อาจก้มหัวเล่นโทรศัพท์ต่อไปได้อีก ต่างคนต่างยื้อแย่ง กัดแขน ข่วนหลังถุยน้ำลาย ป้ายขี้มูก กระตุกสร้อย เพื่อให้ได้อาหารตามที่ตัวเอง้า
จ้าวหงเยี่ยน ยิ้มอย่างสนุกสนานกล่าวว่า "นายรับงานนี้เพราะ้าแบบนี้ใช่ไหม"
หยางเฉินเคี้ยวปาท่องโก๋พลางกล่าวว่า "ถ้าคุณจูบผมผมอาจจะบอกให้ก็ได้"
"นายจ้องแต่จะฉวยโอกาสผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอยู่เรื่อย!"จ้าวหงเยี่ยนกลอกตาไปมา และไม่สนใจหยางเฉินอีก
ทันใดนั้นหยางเฉินก็นึกอะไรออก เขาหยิบขนมปังและเดินไปหาเฉินป๋อซึ่งเขาแปลกใจไม่น้อยที่เห็นเฉินป๋องีบหลับบนโต๊ะในตอนเช้า
"นี่ เฉินป๋อ" หยางเฉินสะกิด
เฉินป๋องัวเงียเงยหน้าขึ้นมาด้วยท่าทางคล้ายสตรีเมื่อเห็นขนมปังยื่นมาต่อหน้าแล้ว เขาเผยรอยยิ้มน่ารักกล่าวว่า
"ขอบคุณครับซื้ออาหารเช้ามาให้ผมทุกวันเลย"
หยางเฉินมองไปที่เฉินป๋อด้วยสายตาหวานซึ้งแล้วกล่าวว่า
"อย่าหักโหมนักเลยถ้านาย้าให้ช่วยก็บอกได้ บางทีพวกเราอาจช่วยนายได้"
เฉินป๋อได้ยินดังนั้นก็รีบส่ายหัวใบหน้าตื่นใเล็กน้อย กะพริบตากล่าวว่า "ไม่... ไม่เป็ไรครับ ผมแค่นอนไม่พอน่ะครับ"
"อย่าหักโหมล่ะ" หยางเฉินไม่ได้สอบถามเพิ่มเติมอีก พลางตบไหล่เฉินป๋อแล้วเดินกลับไปนั่งที่
เวลาล่วงเลยไปไม่นานมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในแผนก เธอเดินไปยังโต๊ะของหลิวิอวี้พูดคุยกันสองสามคำ หลิวิอวี้ในชุดสูทสีขาวก็มีท่าทางไม่สบายใจก่อนหยิบเอกสารขึ้นมาแล้วเดินตามหญิงสาวคนนั้นไป
เมื่อทั้งสองออกไปแล้วจางไช่ซึ่งกำลังกินคัพเค้กก็บรรลุศาสตร์แห่งการพูดคุยรีบเดินไปคุยกับจ้าวหงเยี่ยนด้วยสีหน้ากังวล
"พี่หงเยี่ยนมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ิอวี้หรือเปล่า หัวหน้าหม่ายังไม่ยอมตัดใจอีกเหรอ"
"ผู้หญิงคนนั้นถูกหัวหน้าหม่าส่งมางั้นหรือ?"หยางเฉินกล่าวถามด้วยความอยากรู้
จ้าวหงเยี่ยนพยักหน้าตอบว่า
"เธอคือหนึ่งในลูกน้องของหัวหน้าหม่าลือกันว่าเธอเป็คนรักลับๆ ของเขาฉันเดาว่าหัวหน้าหม่าต้องเรียกพี่ิอวี้ไปหาแน่ๆ เมื่อก่อนเขามาที่นี่ด้วยตัวเองอยากรู้จริงว่าเขาส่งผู้หญิงคนนั้นมาทำไม"
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความไปหาหลิวิอวี้ไม่นานนักหลิวิอวี้ก็ตอบกลับมาเมื่อหยางเฉินเห็นดังนั้นเขารีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า หยิบขนมปังสองอันบนโต๊ะเดินออกจากออฟฟิศไปอย่างรวดเร็ว
"หยางเฉิน นายจะไปไหนน่ะถ้าหัวหน้าโม่ไม่เจอนายอยู่ที่นี่ล่ะก็ นายต้องมีปัญหาแน่" จ้าวหงเยี่ยนเอ่ยเตือน
"ผมรู้สึกท้องไส้ไม่ดีน่ะครับเลยว่าจะกินไปนั่งส้วมไป" หยางเฉินหันหลังกลับมาตอบ
ทุกคนในแผนกได้ยินดังนั้นต่างขมวดคิ้ว
จากท่าทีดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าหยางเฉินไม่ได้ไปห้องน้ำ อย่างไรก็ตามถึงเขาจะไม่ได้ไปห้องน้ำแต่ความอยากอาหารของหยางเฉินนั้นก็พุ่งทะลุก้อนเมฆ
หยางเฉินก้าวเท้ายาวๆ ไปยังลานจอดรถของบริษัทก่อนหน้านี้เขาส่งข้อความถามหลิวิอวี้ว่าเธอจะไปที่ไหน และเธอก็เข้าใจความหมายนั้นเธอตอบกลับมาว่า "โรงแรมเมฆาล่อง"ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่มั่นใจว่าการไปทำงานนอกสถานที่ครั้งนี้จะเป็กับดักของหัวหน้าหม่าหรือเปล่า แต่เธอก็ต้องระมัดระวังตัวไว้ก่อน เธอต้องบอกให้ใครสักคนรู้ว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน
หยางเฉินใช้ทางลัดไปยังโรงแรมเมฆาล่อง ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าไม่นานนักก็เข้ามาถึงล็อบบี้โรงแรม เขาหยิบหนังสือพิมพ์และแสร้งนั่งอ่านรออยู่ตรงมุมหนึ่งของล็อบบี้
โรงแรมเมฆาล่องเป็โรงแรมสี่ดาวขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่จึงพลุกพล่านไปด้วยแขกมากมายและไม่มีใครสนใจหยางเฉินแม้แต่คนเดียว
หลังจากรอประมาณห้านาทีหยางเฉินก็สังเกตเห็นหญิงสาวสองคนเดินเข้ามาในโรงแรมหนึ่งในนั้นเป็หลิวิอวี้นั่นเอง ทั้งสองนั้นงดงามทั้งคู่จึงกลายเป็จุดรวมสายตาชั้นดีของชายหลายคนในล็อบบี้ได้อย่างไม่ยาก
หลังจากพูดคุยกันสองสามคำแล้วหลิวิอวี้ก็ลังเลชั่วครู่ แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ติดตามหญิงสาวนางนั้นขึ้นลิฟต์ไปหยางเฉินเห็นดังนั้นก็รีบตามไป เงยหน้ามองเลขชั้น เริ่มจากชั้นหนึ่งแล้วไปหยุดอยู่ที่ชั้นห้า จากนั้นขึ้นไปชั้นสิบสาม แล้วหยุดอีกครั้ง จากนั้นจึงลดลงมา
เมื่อดูตามคำแนะนำของโรงแรมแล้วชั้นห้าเป็ชั้นสปา ชั้นสิบถึงชั้นสิบห้าเป็ห้องพัก และชั้นบนสุดเป็สำนักงานหยางเฉินคิดว่าชั้นสิบสามมีความเป็ไปได้มากที่สุด เขาเดินเข้าไปในลิฟต์แต่เพื่อให้แน่ใจหยางเฉินจึงกดโทรศัพท์หาหลิวิอวี้อีกหนึ่งที
"เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้..."
สำหรับคนที่ทำงานในตำแหน่งพีอาร์แล้วโทรศัพท์ต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อที่จะไม่พลาดโอกาสในการคุยธุรกิจ นี่จึงถือว่าเป็เื่แปลกที่เธอไม่ได้เปิดโทรศัพท์ไว้นั่นยิ่งทำให้หยางเฉินรู้สึกกังวลเล็กน้อย
เมื่อหยางเฉินขึ้นลิฟต์มาถึงชั้น 13 เขาเดินออกจากลิฟต์ตรงหน้าเขาเป็ห้องพักเรียงรายอยู่ตามทางเดินที่เงียบสงบ ประมาณ 30-40 ห้อง และไร้ซึ่งเงาของพนักงานโรงแรมให้เห็นสักคน
หยางเฉินผู้สวมิญญาเทพนักสืบ เห็นประตูห้องเป็ระบบล็อกแบบอิเล็กทรอนิกส์ดังนั้นก็หนักใจ เพราะเขาไม่สามารถใช้กุญแจผีไขเข้าไปได้และถ้าเลือกที่จะพังประตูเข้าไปตรงๆ คนต้องแห่กันออกมาแน่ๆ
"เ้านั่นมันเข้าใจเลือกสถานที่จริงๆ"หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง
ถึงแม้เขาจะรู้จักหลิวิอวี้เพียงครึ่งเดือนแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ดีเยี่ยมความสัมพันธ์ของคนเราไม่จำเป็ต้องใช้เวลาเป็เครื่องพิสูจน์บางคนเพิ่งรู้จักกันแต่ก็สนิทเหมือนรู้จักกันมานานโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ถ้าพวกเขาเชื่อใจกัน การทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อคนคนนั้น ก็เป็สิ่งที่พึงกระทำ
ในขณะที่กำลังเคร่งเครียดอยู่นั้นเขาก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออกผู้หญิงที่นำทางหลิวิอวี้ก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้