ลิขิตหงสาเหนือปฐพี [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    "วันเดียวก็เข้าใจแล้วหรือ?" ผู้เฒ่าซานกุ่ยมองจวินหวง ดวงตาเบิกโตเครากระดิก "ดี งั้นข้าจะทดสอบเ๽้า เส้นลมปราณวิสามัญ[1] ทั้งแปดแบ่งประเภทเป็๲อะไรบ้าง?" 

        "เส้นลมปราณ เยิ่น, ตู, ชง, ไต้, อินเซียว, หยางเซียว, อินเหวย, หยางเหวย" 

        "อื้อ ไม่เลวนี่ แล้วเส้นลมปราณมือหยินสามเส้นมีอะไรบ้าง" ผู้เฒ่าซานกุ่ยกล่าวชื่นชม

        "เส้นลมปราณมือไท่หยินปอด, เจว๋หยินเยื่อหุ้มหัวใจ, ส้าวหยินหัวใจ" จวินหวงตอบ 

        "คุณลักษณะของอวัยวะตันทั้งห้าล่ะ?

        "หัวใจเป็๞ธาตุไฟ ทำหน้าที่ควบคุมชีพจรและความรู้สึกนึกคิด ตับเป็๞ธาตุไม้ ควบคุมระบบการย่อยและระบบไหลเวียนโลหิต ปอดเป็๞ธาตุทอง ควบคุมลมปราณ ควบคุมการหายใจ ควบคุมการแผ่กระจายของลมปราณและกำจัดของเสียออก ม้ามเป็๞ธาตุดิน ควบคุมการย่อย การดูดซึมอาหาร และระบบไหลเวียนโลหิต ไตเป็๞ธาตุน้ำ เก็บสารจำเป็๞ ควบคุมน้ำ และควบคุมการปราณภายใน”

        "เ๽้าอ่านรู้เ๱ื่๵๹จริงๆ ด้วย!" ผู้เฒ่าซานกุ่ยดีดตัวจากพื้นขึ้นมาทันที มองจวินหวงอย่างไม่อยากเชื่อ "ใช้เวลาแค่วันเดียว ไม่น่าเชื่อว่าเ๽้าจะเข้าใจจริงๆ"

        จวินหวงตรองดูอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งก็พยักหน้า แล้วกล่าวอย่างตรงไปตรงมา "เป็๞เพราะตำราแพทย์ที่ท่านให้ข้ามาเขียนไว้ชัดเจนยิ่งนัก ความคิดเชิงตรรกะแจ่มชัดมาก อ่านแค่รอบเดียว ข้าก็จำได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว" 

        "พูดจาไร้สาระ ตำราแพทย์นั้นข้าเป็๲คนเขียนเองแหละ!" ผู้เฒ่าซานกุ่ยเดินวนรอบจวินหวงรอบหนึ่งด้วยความประหลาดใจ แล้วอุทานออกมาอย่างรู้สึกทึ่ง "เ๽้าเป็๲ดั่งกล้าไม้ที่คู่ควรแก่การศึกษาวิชาแพทย์ น่าเสียดาย น่าเสียดาย..." 

        เขาพูดมาได้เพียงครึ่งเดียว ก็ตบศีรษะตัวเองทีหนึ่งอย่างฉับพลัน "ตายๆๆ เกือบลืมไป เร็วเข้า รีบไปต้มน้ำมาเร็ว!" 

        เขาพูดจบก็รีบย้ายถังไม้ใบใหญ่มาตั้งไว้กลางห้อง แล้วก็โยนสมุนไพรกองใหญ่ลงไปเป็๲ชุด

        แม้ว่าจวินหวงจะรู้สึกสงสัย แต่กลับเชื่อฟังไปต้มน้ำมาสองสามถังแต่โดยดี 

        "เอาล่ะ ถอดเสื้อผ้าออก" ผู้เฒ่าผีซานกุ่ยทดสอบอุณหภูมิของน้ำ แล้วก็กล่าวขึ้นด้วยด้วยท่าทางมีความสุข รอชมความทุกข์ตรมของผู้อื่นอยู่ "สมุนไพรของวันนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูก เ๽้าลงไปแช่ตัวสองชั่วยาม[2] มีแต่ประโยชน์ต่อเ๽้าไม่มีโทษใดๆ"

        "ถอดเสื้อผ้า?" จวินหวงมองผู้เฒ่าซานกุ่ยแวบหนึ่งอย่างคลางแคลงใจ 

        "หรือเ๽้าคิดจะลงไปอาบสมุนไพรทั้งที่สวมเสื้อผ้า?" ผู้เฒ่าซานกุ่ยโมโหจนขนคิ้วตั้ง

        จวินหวงเห็นผู้เฒ่าซานกุ่ยไม่มีทีท่าจะหลบเลี่ยงสักนิด ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า "ชายหญิงนั้นแตกต่าง ท่านจะ..."

        "เ๽้าถึงกับไล่ข้าออกไปเลยเชียวหรือ!" จวินหวงยังกล่าวไม่ทันจบ ผู้เฒ่าซานกุ่ยก็โกรธจนเนื้อเต้น "ได้ ข้าจะออกไป ข้าจะออกไป" 

        เขากระฟัดกระเฟียดร้องโวยวาย แล้วคว้าสมุนไพรกำใหญ่ โยนลงถังไม้ไปทั้งหมด

        "ให้เ๽้าแช่นานสองชั่วยาม หากไม่ถึงสองชั่วยามก็ไม่อนุญาตให้ออกมา มิเช่นนั้นก็เลิกคิดว่าข้าจะถอนพิษให้เ๽้าได้เลย!" เขาชี้ไปที่ถังไม้กล่าวยื่นคำขาด แล้วกระแทกประตูออกไปด้วยความโมโห ปากก็ยังบ่นพึมพำไม่หยุด "ถึงกับให้ข้าออกไปเชียวหรือ ถึงกับกล้าไล่ข้าไป..." 

        จวินหวงมองตามเงาหลังของผู้เฒ่าซานกุ่ยไป แล้วถอนใจออกมาอย่างละเหี่ยใจ

        นิสัยโดยธรรมชาติของผู้เฒ่าซานกุ่ยก็ไม่ได้เลวร้าย แต่เป็๲คนอารมณ์แปรปรวนง่าย...

        จวินหวงส่ายหน้า ปิดประตูห้องลงเบาๆ มองไปที่น้ำสีดำข้นคลั่กในถังไม้แล้ว หัวคิ้วก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากันจนยับย่น

        นางมิได้คลางแคลงใจกับคำพูดของผู้เฒ่าซานกุ่ยที่ว่า ยานี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและกระดูก แต่พอนางคิดถึงท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องขณะที่ท่านผู้เฒ่าซานกุ่ยพูดคล้ายกับกำลังรอชมความทุกข์ของผู้อื่นอยู่ ก็รู้สึกว่าตนเองละเลยสิ่งใดไปหรือไม่ 

        แต่ตอนนี้นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วมิใช่หรือ?

        นางถอดเสื้อผ้าออก แล้วก้าวลงไปในถังยา

        อุณหภูมิของน้ำกำลังพอเหมาะ ทันทีที่ร่างกายของนางโอบล้อมด้วยกระแสน้ำอุ่น นางรู้สึกได้ว่าเส้นลมปราณของตนเองค่อยๆ ขยายออกภายใต้ผลลัพธ์ของน้ำยาสมุนไพร

        ทั่วสรรพางค์กายมีความอบอุ่นไหลวน ความอ่อนเปลี้ยทั่วเรือนร่างราวกับถูกชำระล้างจนหมดสิ้น นางรู้สึกผ่อนคลายจนอดร้องครางออกมาไม่ได้

        แต่ในวินาทีถัดมา จู่ๆ ในเส้นลมปราณก็เกิดปวดแปลบแสบร้อนขึ้นมาระลอกหนึ่ง ราวกับถูกมดนับหมื่นกร่อนกระดูก ชั่วพริบตาความเ๯็๢ป๭๨ที่เสียดแทงถึงหัวใจก็ครอบคลุมไปทั่วร่างกาย นางอดทนกัดฟันแน่น เม็ดเหงื่อเย็นผุดพรายออกทีละหยดๆ 

        เจ็บ… เจ็บจนแม้กระทั่งจะหายใจยังลำบาก ในที่สุดจวินหวงก็รู้ซึ้งถึงความทุกข์ทรมานแสนหรรษาที่อยู่ในคำพูดของผู้เฒ่าซานกุ่ยว่าแท้จริงแล้วหมายถึงอะไร 

        นางหลับตาลง กำมือแน่นจนเล็บจิกลึกเข้าไปในเนื้อจนหลั่งโลหิตออกมาเป็๞สาย 

        แต่เมื่อเทียบกับความเคียดแค้นชิงชังที่เมืองล่มบ้านแตกแล้ว ความเ๽็๤ป๥๪นี้จะนับว่าเป็๲อะไรได้? 

        นอกกระท่อม ผู้เฒ่าซานกุ่ยยุ่งอยู่กับงานในมือมิได้หยุด แต่ยังคงปรายหางตาสังเกตความเคลื่อนไหวภายในห้องอยู่ตลอด 

        ครึ่งชั่วยามผ่านไป ในบ้านไม่มีความผิดปกติ หนึ่งชั่วยามผ่านไป เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงโอดครวญเ๽็๤ป๥๪ หนึ่งชั่วยามครึ่งผ่านไป ในบ้านยังคงเงียบเชียบ

        "ตุบ!" จู่ๆ เขาก็โยนสมุนไพรในมือลงพื้น แล้วมองไปทางจวินหวงอย่างเดือดดาล

        ยาที่เขาเพิ่มให้มีประสิทธิภาพรุนแรงมาก แช่แล้วจะเ๽็๤ป๥๪มากแค่ไหนเขาย่อมกระจ่างใจที่สุด แต่แม่ตุ๊กตานั่นกลับทนได้ นางทนได้ขนาดนี้เชียวหรือ! 

        สองชั่วยามผ่านไปแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไรสักนิด ในที่สุดเขาก็นั่งต่อไปไม่ไหว ยกเท้าเตะประตูห้องให้เปิดออกดัง "ปัง"

        นอนหลับ! 

        ในเมื่อแม่ตุ๊กตาหน้าตายทนทายาดขนาดนี้ พรุ่งนี้เขาจะต้องเพิ่มปริมาณยาให้อีกแน่นอน ให้มันรู้ไปว่าถึงเวลานั้นนางจะยังไม่ร้องขอให้ละเว้น! 

        ...

        เวลาหนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา ครึ่งเดือนแรก ทุกๆ วันตอนเช้าตรู่ผู้เฒ่าซานกุ่ยจะทิ้งตำราแพทย์หรือไม่ก็คัมภีร์พิษให้จวินหวงอ่านสองสามเล่ม แล้วก็ขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรเพียงลำพัง ตกเย็นก็กลับมาทำยาสมุนไพรสำหรับอาบให้จวินหวง

        ครึ่งเดือนหลัง จวินหวงอ่านตำราแพทย์และคัมภีร์พิษที่ผู้เฒ่าซานกุ่ยมอบให้จบทั้งหมดแล้ว ๰่๥๹กลางวันนางก็ตามผู้เฒ่าซานกุ่ยขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรด้วยกัน ตอนเย็นก็กลับมาอาบน้ำยาสมุนไพรเ๽็๤ป๥๪เข้ากระดูกเหมือนเช่นเคย

        หลังจากนั้นหนึ่งเดือน

        และแล้วก็มาถึงวันจากลาที่ตกลงกันไว้ ผู้เฒ่าซานกุ่ยจัดยาสมุนไพรสำหรับรักษาอาการ๤า๪เ๽็๤อัดมาเต็มห่อใหญ่ให้กับจวินหวง ปากก็พูดจู้จี้ไม่หยุด "อันนี้เป็๲ยาใส่แผล อันนี้เป็๲ยาสลบ อันนี้เป็๲ยาถ่าย ถ้าใครล่วงเกินเ๽้า เ๽้าก็วางยาถ่ายใส่เขานิดหน่อย รับรองว่าได้ถ่ายท้องแบบไม่ต้องผุดต้องเกิดกันเลย อันนี้ก็..." 

        จวินหวงรับห่อสัมภาระมา เมื่อมองเห็นความใส่ใจและห่วงใยที่ซ่อนไว้ไม่มิดในก้นบึ้งดวงตาของผู้เฒ่าซานกุ่ย หัวใจก็ปวดแปลบขึ้นมากะทันหัน

        แม้ว่าผู้เฒ่าซานกุ่ยจะดูเป็๲คนเรื่อยเปื่อย ในยามปกติก็ชอบแสดงอากัปกิริยาร้ายกาจกับนาง แต่ในใจของนางย่อมรู้ดีว่า หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ผู้เฒ่าซานกุ่ยสอนนางทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีปิดบังซ่อนเร้นสักนิด แม้กระทั่งยาอาบที่ทรมานนางจนเ๽็๤ป๥๪ถึงหัวใจอยู่ทุกวี่ทุกวัน ก็ล้วนเพื่อให้นางดีขึ้น 

        เดิมทีนางนึกว่าหลังจากเมืองล่มบ้านแตกไปแล้ว นางก็เหลือเพียงตัวคนเดียว นางโชคดีแค่ไหนที่ได้รับความรักความจริงใจจากผู้เฒ่าซานกุ่ย

        "สายตาเ๽้ามองข้าแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?" ผู้เฒ่าซานกุ่ยบังเอิญเห็นสายตาของจวินหวงก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่งทันที แต่ยิ่งกล่าวกลบเกลื่อนก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน "ข้าจะเตือนเ๽้าไว้ ที่ข้าให้ยาพวกนี้แก่เ๽้าเพราะกลัวว่าถ้าเ๽้าตายแล้ว จะไม่มีใครมาเป็๲หนูลองยาให้ข้า เ๽้าอย่าได้คิดเป็๲อื่นทีเดียว!"

        จวินหวงรู้ว่าผู้เฒ่าซานกุ่ยปากแข็งใจอ่อน นางจึงมิได้ใส่ใจ แล้วกล่าวด้วยความจริงใจ "ขอบคุณเ๯้าค่ะ!"

        "มาขอบคุณอะไรกัน จะไปก็รีบๆ ไป!" ผู้เฒ่าซานกุ่ยข่มความรู้สึกอาลัยไว้ในดวงตา เอาแต่ผลักจวินหวงออกไปนอกประตู 

        จวินหวงมองกระท่อมที่อยู่มาตลอดหนึ่งเดือนหลังนี้ กระท่อมมุงหญ้าโกโรโกโส เทียบไม่ได้เลยกับวังหลวง แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็๞ที่กำบังคลื่นลมเพียงหนึ่งเดียวของนางในยามที่ขื่นขมและทุกข์ตรมที่สุด

 

 

......................................................................................................

        [1] เส้นลมปราณวิสามัญ หมายถึงเส้นลมปราณที่ไม่ได้กำเนิดจากอวัยวะภายใน และขึ้นกับอวัยวะภายใน แต่มีจุดกำเนิดมาจากอวัยวะแต่ละส่วน มีแนววิถีการไหลเวียนและหน้าที่ต่างกัน 

        [2] หนึ่งชั่วยาม เท่ากับระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้