เซวียเสี่ยวหรั่นมีความหวาดวิตก จึงเข้าใกล้เหลียนเซวียนโดยไม่รู้ตัว ยังเอื้อมมือไปช่วยประคองแขนของเขาอีกต่างหาก
เหลียนเซวียนย่อมรับรู้ความกังวลของนางได้
"ไม่มีอะไรหรอก มีข้าทั้งคน"
คำพูดเรียบๆ ประโยคเดียวกลับทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยรู้สึกอุ่นใจ
"อื้ม" เธอตอบรับเสียงเบาพลางเงยหน้ายิ้มให้เขา
ซีมู่เซิงตามอยู่ด้านหลังก็ลอบเข้าไปใกล้อูหลันฮวา กระซิบพูดคุยกับนาง "หลันฮวา เ้าติดตามไปแคว้นฉีได้ น่าอิจฉายิ่งนัก
"อิจฉา? ก็ให้บิดาขายเ้าให้ต้าเหนียงจื่อสิ แค่นี้ก็ไปได้แล้ว" อูหลันฮวาหัวเราะ
ซีมู่เซิงถูกดักคอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เซวียเสี่ยวหรั่นฟังได้ยินตอนท้าย ก็หันไปยิ้มให้ซีมู่เซิง "บิดาเ้าตัดใจขายเ้าไม่ลงหรอก"
ซีมู่เซิงเกาศีรษะ หัวเราะแหะๆ
"ก็ไม่แน่หรอก หากเ้าหนุ่มนี่พอใช้ประโยชน์ได้ ต้าเหนียงจื่อเรียกตัวไปได้เลยตามสบาย" ซีต้าเฉียงซึ่งนำทางอยู่ด้านหน้าหันมากล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ฮ่าๆ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวป้าสะใภ้ซีมาทวงคนกับข้าละแย่เลย" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะชอบใจ
พวกเขาคุยหัวเราะกันไป ก่อนเลี้ยวเข้าร้านบะหมี่ริมตรอกเล็กๆ
"เหล่าอู๋" ซีต้าเฉียงะโเรียกเข้าไปในร้าน
ชายวัยกลางคนอายุประมาณสี่สิบกว่าวิ่งออกมา "อ้าว ต้าเฉียง เป็อย่างไรถึงออกมาได้ เข้าเมืองมารอบนี้ดูเหมือนจะเร็วกว่าปรกตินะ"
"ดูพูดเข้า ก็ไม่ใช่ว่ามีธุระหรอกรึ" ซีต้าเฉียงขยิบตาให้
เหล่าอู๋มองกลุ่มคนที่ตามอยู่ด้านหลัง ก็เข้าใจทันที
"มาๆๆ เข้ามานั่งก่อน อย่าเกรงใจ ต้าเฉียง ขนของลงมาแล้วลากเกวียนไปจอดที่ลานด้านหลังได้เลย"
"ท่านลุงอู๋" ซีมู่เซิงกับอูหลันฮวาขนของลงจากรถ พลางกล่าวทักทาย
"มู่เซิงก็มารึ ครานี้ไม่เห็นพี่ชายเ้า?" เหล่าอู๋เห็นว่ามีคนนอกอีกสองคนก็รีบนำผ้าขาวซึ่งพาดอยู่บนบ่ามาเช็ดม้านั่งยาวด้านข้าง "นั่งทางนี้ นั่งทางนี้"
"ขอบคุณท่านลุงอู๋" เซวียเสี่ยวหรั่นประคองเหลียนเซวียนนั่ง
"ไม่ต้องเกรงใจๆ" เหล่าอู๋เห็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่แต่กลับตาบอดและเดินขากะเผลกก็อดสังเวชใจไม่ได้
ขณะซีต้าเฉียงลากเกวียนไปลานด้านหลัง เหล่าอู๋ก็ลากเขามาถามข้อมูลเกี่ยวกับสองคนที่อยู่ด้านนอก
"สัตว์ที่ข้าเอามาสองครั้งก่อนหน้านี้ เหลียนหลางจวินเป็ผู้ล่าแล้วให้ข้าช่วยเอามาขายให้" ซีต้าเฉียงกระซิบอธิบาย
เหล่าอู๋ตะลึงงัน "ดูเหมือนว่า... ดวงตาของเขาน่าจะมีปัญหากระมัง"
เป็ถึงขนาดนี้ ยังสามารถขึ้นเขาล่าสัตว์ ชวนให้ไม่น่าเชื่อแม้แต่น้อย
ซีต้าเฉียงทำปากชู่ "เอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน วันนี้ยุ่งจริงๆ"
เหล่าอู๋พยักหน้า
เซวียเสี่ยวหรั่นนั่งมองซ้ายมองขวา ร้านบะหมี่ไม่ใหญ่นัก ด้านในมีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งกินแปดชุด เห็นชัดว่าเป็ร้านเก่าแก่
ร้านบะหมี่ร้านนี้หาใช่ร้านริมถนน แต่ต้องเลี้ยวเข้าตรอกเล็กๆ เดินไปอีกสองสามก้าว ยามนี้ในร้านไม่มีแขก น่าจะเป็เพราะยังไม่ถึงเวลาอาหาร
"เหลียนเซวียน ท่านหิวหรือไม่ จะกินบะหมี่สักหน่อยไหม"
เมื่อมาร้านบะหมี่ จะไม่ลองชิมฝีมือของผู้อื่นได้อย่างไร
เหลียนเซวียนนึกครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า
"ได้เลย ท่านลุงอู๋ ขอบะหมี่ให้พวกเราหกชาม" เซวียเสี่ยวหรั่นะโไปหลังร้าน
เหล่าอู๋ได้ยินก็หันมามองซีต้าเฉียงที่อยู่ข้างตัว
"ต้าเหนียงจื่อ พวกท่านกินเถอะ ข้ากับมู่เซิงจะไปสำนักคุ้มภัยกับที่เช่ารถม้าก่อน" ซีต้าเฉียงเดินก้าวใหญ่ออกมา
"ขอบคุณท่านลุงซี แต่กินก่อนค่อยไปก็ได้" รู้ว่าพวกเขาช่วยเป็ธุระจัดหารถม้ากับคณะผู้คุ้มกันให้ เซวียเสี่ยวหรั่นก็นึกขอบคุณในใจเป็ล้นพ้น
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวพวกเรากลับมาค่อยกินดีกว่า ต้าเหนียงจื่อ พวกท่านกินกันไปก่อนเถอะ บะหมี่หมูเส้นกับก๋วยเตี๋ยวสามเซียน [1] ของเหล่าอู๋รสชาติไม่เลว" ซีต้าเฉียงแนะนำ กล่าวจบก็พาซีมู่เซิงออกไปข้างนอก
"เช่นนั้นก็ได้ เดี๋ยวพวกท่านกลับมาค่อยสั่งกันนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นโบกมือให้พวกเขา ก่อนหันมาถามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ "พวกเ้าจะกินบะหมี่หรือเส้นก๋วยเตี๋ยว"
"ข้าเอาก๋วยเตี๋ยวสามเซียน" อูหลันฮวายกมือคนแรก
"อื้อ ข้าเอาด้วย" เซวียเสี่ยวเหล่ยกับอาเหลยนั่งบนม้านั่งตัวเดียวกัน
"ทุกคนกินก๋วยเตี๋ยวกันหมด เหลียนเซวียนท่านจะสั่งเหมือนกันไหม วันหน้าไปจากที่นี่ อยากกินเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบนี้ก็ไม่ง่ายแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นพึมพำเบาๆ
เหลียนเซวียนพยักหน้า
"โอ้ ได้เลย ก๋วยเตี๋ยวสามเซียนสี่ชาม" หลังโก่งคอเปล่งเสียงดังกังวาน เหล่าอู๋ก็เริ่มงานของตนเองทันที
"ท่านลุงอู๋ มีชามหนึ่งไม่เอาไส้กับตับ ใส่แค่เนื้อสดอย่างเดียวพอ" เซวียเสี่ยวหรั่นกำชับอีกประโยค เหลียนเซวียนไม่ชอบเครื่องใน เมื่อสามารถเลือกได้ ก็ควรให้เขาได้กินตามใจชอบ
"ได้เลย" เหล่าอู๋ตอบอย่างกระฉับกระเฉง
เซวียเสี่ยวหรั่นอาศัย่ที่ว่างอยู่ มองไปนอกร้านสองสามรอบ หลังจากนั้นก็เข้าไปกระซิบกระซาบกับเหลียนเซวียน
เธออยากเอาเห็ดหลิงจือในกระบุงไปขายแลกเงิน
เหลียนเซวียนบอกว่าให้ขายเฉพาะเห็ดระดับปานกลาง ส่วนหลิงจือดำที่มีมูลค่าสูงเก็บไว้ก่อน ไปถึงเมืองหลวงค่อยนำไปขาย
เซวียเสี่ยวหรั่นคิดใคร่ครวญ "ถ้าจะขายค่อยขายพร้อมกันดีกว่า เก็บไว้ก่อนก็ได้"
เหลียนเซวียนยิ้มตามใจนาง
ก๋วยเตี๋ยวสามเซียนร้อนๆ กลิ่นหอมฉุย ปริมาณก็มากพอ หลังยกมาขึ้นโต๊ะ อูหลันฮวากับเซวียเสี่ยวเหล่ยต่างกลืนน้ำลาย
หากไม่ได้ติดตามต้าเหนียงจื่อกับหลางจวิน พวกเขาสองคนจะมีโอกาสมากินก๋วยเตี๋ยวสามเซียนในเมืองเช่นนี้หรือ
เซวียเสี่ยวหรั่นยกก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดมาวางตรงหน้าของเหลียนเซวียน
อาเหลยะโจากม้านั่งมาเกาขาของเซวียเสี่ยวหรั่นพลางร้องเรียก "เจี๊ยกๆ"
เซวียเสี่ยวหรั่นเข้าใจความหมายของมัน
"รอเดี๋ยว ไม่ลืมเ้าหรอกน่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นขยี้หัวอาเหลย ก่อนหันไปหยิบชามของมันในกระบุงออกมา
หลังจากนั้นก็คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวกับเนื้อในชามของตนเองครึ่งหนึ่งใส่ชามให้มัน
"พี่สาว แบ่งของข้าครึ่งหนึ่งให้อาเหลยก็ได้" เซวียเสี่ยวเหล่ยเห็นปริมาณก๋วยเตี๋ยวในชามของเซวียเสี่ยวหรั่นเหลือแค่นิดเดียวก็เอ่ยปาก
"ไม่ต้องๆ ข้าแบ่งกับอาเหลยกำลังดี พวกเ้ากินกันไปเถอะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ได้เทน้ำแกงให้อาเหลย มันกินมูมมาม เดี๋ยวตัวจะเลอะน้ำแกงเสียเปล่าๆ
"ให้เถ้าแก่ทำมาอีกชาม" เหลียนเซวียนหยุดตะเกียบ
"ไม่ต้อง ส่วนของข้ากำลังดีแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นปฏิเสธอย่างหนักแน่น "ทุกวันกินอิ่มแค่เจ็ดแปดส่วน เป็การรักษารูปร่างที่ดีที่สุด จะให้อ้วนเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้เป็อันขาด"
เส้นเืที่หน้าผากของเหลียนเซวียนเต้นตุบ "เห็นอยู่ว่าเ้าบ่นว่าตนเองผอมเกินไป"
ตอนที่เดินอยู่ข้างแม่น้ำด้วยกัน ใครก็ไม่รู้บ่นทั้งวันว่าตนเองผ่ายผอมจนบิดามารดาจำหน้าไม่ได้แล้ว
"นั่นมันตอนอยู่ในป่า ตอนนี้ออกมาเกือบเดือนแล้ว อาหารการกิน่นี้ก็สมบูรณ์ดี หน้าเริ่มจะกลมหน่อยแล้ว นี่เป็สัญญาณอันตราย ข้าต้องระวัง กว่าจะลดความอ้วนได้ไม่ง่าย อย่าให้กลับมาจะดีกว่า"
เซวียเสี่ยวหรั่นลูบพวงแก้มของตนเอง ใบหน้าตอบรูปผลแตงเริ่มมีเนื้ออิ่มเต็มขึ้นมาแล้ว
เหลียนเซวียนจ้องนาง ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี
"ต้าเหนียงจื่อ ท่านผอมจะแย่ อ้วนตรงไหน" อูหลันฮวาพูดทั้งอาหารเต็มปาก นางไม่เห็นว่าต้าเหนียงจื่อจะอ้วนตรงไหนเลย
"แก้มเริ่มจะมีเนื้อหน่อยแล้ว เ้าดูดีๆ สิ" เซวียเสี่ยวหรั่นหยิกแก้มของตนเอง
อูหลันฮวาชะงักงัน "แก้มของใครเวลาหยิกก็มีเนื้อทั้งนั้น"
เซวียเสี่ยวหรั่นโบกมือ หยิบตะเกียบขึ้นมากินช้าๆ "พวกเ้าไม่รู้อะไร การมีคางสองชั้นมันเ็ปแค่ไหน"
"นั่นเป็สัญลักษณ์แห่งความสมบูรณ์พูนสุขเลยนะเ้าคะ" อูหลันฮวาถามอย่างงุนงง
"เช่นนั้นก็เอาความสมบูรณ์พูนสุขที่ว่าไปให้ผู้อื่นเถอะ ข้าไม่อยากได้" เซวียเสี่ยวหรั่นลูบใต้คางงามประณีตของตนเอง แล้วหัวเราะราวกับเด็กที่แอบกินลูกอม
...
[1] ก๋วยเตี๋ยวสามเซียน คือก๋วยเตี๋ยวน้ำที่มีวัตถุดิบหลักประกอบด้วยเส้นหมี่ชนิดกลมหรือแบนก็ได้ เนื้อสัตว์ (เนื้อหมู เครื่องใน แฮม) ไข่เป็ดต้มหรือนึ่ง เห็ด (อาจใช้เห็ดหอมหรือเห็ดหูหนู) นำทั้งสามอย่างไปต้มในน้ำซุปใส่ต้นหอมหรือผักกวางตุ้ง
