ภรรยานายพรานตัวน้อยกับระบบร้านค้ามือสอง [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “ไท่ไท่ท่านนี้ ไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อสิ่งใดดีขอรับ?” พนักงานคนหนึ่งเข้ามาถามหลินหวั่นชิว เห็นนางจ้องดอกไม้ลูกปัดที่วางแสดงก็พูดว่า “นี่เป็๲ดอกไม้ลูกปัดที่เพิ่งมาใหม่ของร้านเรา ขายถูกกว่าร้านจวี้ฝูหนึ่งร้อยอีแปะ”

        ขายถูกกว่าร้านจวี้ฝูหนึ่งร้อยอีแปะ แต่ได้กำไรเท่ากัน

        เพราะพวกเขารับซื้อถูกกว่าร้านจวี้ฝูหนึ่งร้อยอีแปะ

        หลินหวั่นชิวไม่ได้อยากรู้ว่าเฉียวว่านชิงรู้ราคารับซื้อของร้านเฟิ่งไหลได้อย่างไร นางรู้ผลลัพธ์ก็พอ

        “ข้ามีดอกไม้ลูกปัดแบบนี้แล้ว วันนี้ยังไม่ซื้อก่อน แต่อีกไม่กี่วันน้องสาวข้าจะมาเที่ยวเล่นในอำเภอ ไม่ทราบว่าถึงตอนนั้นพวกเ๽้าจะยังมีสินค้าหรือไม่”

        พนักงานตอบว่า “เช่นนั้นท่านคงต้องเสี่ยงดวงแล้วขอรับ หากบังเอิญขายหมดคงทำกระไรไม่ได้ แต่ท่านวางใจได้ แม้จะสินค้าจะหมดแต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น อีกไม่นานก็มีมาเติม”

        หลินหวั่นชิวยิ้มเยาะในใจ คิดในใจว่าจ้าวหงฮวาคงคิดจะมาขอวัสดุเพิ่มจากตัวเองอีก

        “ข้าอยากซื้อต่างหูเงินสองสามคู่กับปิ่นปักผมทองสองสามอัน ลวดลายต้องสวย ใช้ช่างฝีมือเก่า” หลินหวั่นชิวบอกพนักงาน เครื่องประดับเงินแท้ทองแท้ที่ทำโดยช่างฝีมือเก่าขายดีบนเสียนอวี๋มาก นำไปขายแล้วถูกระบุว่าเป็๞วัตถุโบราณ ราคาน่าพึงพอใจมากเช่นกัน

        พนักงานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้าง โค้งตัวผายมือเชิญหลินหวั่นชิว “เชิญมากับข้าขอรับ ต่างหูเงินอยู่ทางนี้ เชิญท่านเลือกเครื่องประดับเงินไปก่อน เสร็จแล้วข้าน้อยจะพาไปเลือกเครื่องประดับทองขอรับ”

        ต่างหูที่จะให้เป็๞ของขวัญ นางเลือกเป็๞ต่างหูแบบก้านกับต่างหูแบบวงเรียบๆ

        จากนั้นหลินหวั่นชิวเหลือบไปเห็นกำไลเงิน มีแบบเส้นบาง แบบแกะสลัก แบบเกลียว…ทุกชิ้นสวยหมด ฝีมือประณีตกว่าร้านจวี้ฝูเช่นกัน

        ต่อด้วยปิ่นปักผมเงิน…

        ปิ่นหยก…

        ไม่นาน หลินหวั่นชิวก็เลือกสินค้าออกมาเต็มถาด

        “เ๽้าช่วยคิดราคาของพวกนี้ให้ก่อน ข้ากลัวนำเงินมาไม่พอ” นางแค่พูดไปอย่างนั้น ช่องเก็บของในเสียนอวี๋มีตั๋วเงินเป็๲บึก!

        สตรีเราก็เช่นนี้…การได้เลือกซื้อของช่างเป็๞กระไรที่น่าอภิรมย์เสียจริง

        เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มจนปากเบี้ยวแล้ว “เชิญท่านรอประเดี๋ยว” เขานำลูกคิดออกมาคำนวณ เพียงครู่เดียวก็คิดเสร็จ “ทั้งหมดยี่สิบสองตำลึงกับสามเฉียนขอรับ ท่านซื้อเยอะ ข้าขอไปถามเถ้าแก่ให้ก่อนว่าข้าลดราคาให้ได้หรือไม่”

        “ได้ ขอบคุณเ๯้ามาก พาข้าไปเลือกเครื่องประดับทองก่อนก็ได้ ถึงเวลาจะได้คิดทีเดียว”

        “ได้เลยขอรับ!” เสี่ยวเอ้อร์ถือถาดพาหลินหวั่นชิวไปที่ตู้วางเครื่องประดับทอง

        จุดที่ขายเครื่องประดับทองมีลูกค้าน้อยกว่าเครื่องประดับเงินมาก ที่นี่มีลูกค้าแค่สองสามคน ตอนหลินหวั่นชิวเข้าไปมีลูกค้ากลับออกมาสองคน อีกคนที่เหลือจ่ายเงินแล้วก็ไปเช่นกัน

        หลินหวั่นชิวรอให้พนักงานยกถาดออกมาให้เลือก

        นางเลือกต่างหูที่ฝีมือประณีตออกมาสองสามคู่ แม้ลวดลายจะแก่ไปบ้างแต่มีเครื่องหมายของความเป็๞สิริมงคล วัตถุโบราณก็เช่นนี้ ยิ่งลวดลายแก่ยิ่งโบราณ

        อืม นางเข้าใจวัตถุโบราณเช่นนี้

        จากนั้นใช้จังหวะเดียวกับตอนเลือกเครื่องประดับเงิน ทั้งกำไลทั้งปิ่นปักผม ขอแค่สวยก็เอาหมด

        “มีมงกุฎหงส์สำหรับงานแต่งหรือไม่?” หลินหวั่นชิวเลือกของเสร็จก็ถาม

        เมื่อคืนนางเห็นประกาศรับซื้อบนเสียนอวี๋ อีกฝ่ายยินดีรับซื้อมงกุฎหงส์ที่คนโบราณใช้แต่งงาน ขอเพียงเป็๞ของแท้และราคาสมเหตุสมผล เช่นนั้นจะยอมจ่ายราคาให้มากกว่าที่เสียนอวี๋ประเมินห้าสิบเปอร์เซ็นต์

        ให้ตาย

        เศรษฐีอวดรวย!

        แต่นางรักเศรษฐีอวดรวย!

        “มีขอรับ!” เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงท้ายทอยแล้ว

        มงกุฎหงส์เชียวนะ…วันนี้เขาเจอลูกค้ารายใหญ่เสียแล้ว หากซื้อขายสำเร็จ เขาจะได้ค่านายหน้าเท่าไร…

        แค่คิดก็มีความสุขแล้ว

        “เชิญด้านในขอรับ!” เสี่ยวเอ้อร์รีบเชิญหลินหวั่นชิวเข้าห้องแขกพิเศษ ลูกค้ารายใหญ่ก็แบบนี้ ปฏิบัติไม่เหมือนกัน

        เขาวางเครื่องประดับสองถาดที่หลินหวั่นชิวเลือกเสร็จแล้วไว้บนโต๊ะ ให้สาวใช้ในห้องแขกพิเศษไปแจ้งว่ามีลูกค้าอยากเลือกมงกุฎหงส์ 

        ผ่านไปสักพักก็มีพนักงานเดินเรียงกันเข้ามา ทุกคนถือกล่องไม้จันทร์ ยืนเรียงตรงหน้าหลินหวั่นชิวและเปิดกล่องออกตามลำดับ นำมงกุฎหงส์ด้านในออกมาวางบนผ้ากำมะหยี่บนแท่นจัดแสดงอย่างระมัดระวัง

        ทุกชิ้นทำจากทองคำ

        มีสองชิ้นที่ค่อนข้างเรียบง่าย ใช้ทองคำไม่มาก

        ที่เหลือหรูหราอลังการหมด ไม่เพียงทำจากทองคำบริสุทธิ์ แต่ยังเลี่ยมฝังอัญมณีหลายชิ้น

        ที่สำคัญคือฝีมือประณีตละเอียดมาก มีมงกุฎหงส์อัญมณีชิ้นหนึ่งทำเป็๲ลายหงส์กางปีก รอบๆ มีมวลบุปผาล้อมรอบ ใต้มวลบุปผาเป็๲พู่ระย้าทองคำ…จินตนาการถึงตอนส่ายไปมาตามจังหวะก้าวเดินได้เลยว่าจะงดงามเพียงใด ใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังพู่ระย้าต้องเขินอายเพียงใด

        หลินหวั่นชิวถูกใจมงกุฎหงส์ชิ้นนี้ทันที

        เศรษฐีอวดรวยอยากได้ความหรูหรา มงกุฎหงส์ชิ้นนี้น่าจะตรงกับความ๻้๵๹๠า๱ของเขา

        อีกอย่าง ต่อให้เศรษฐีอวดรวยไม่ซื้อ นำไปขายในเสียนอวี๋ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้

        “ชิ้นนี้เท่าไร?” หลินหวั่นชิวชี้มงกุฎหงส์แล้วถาม

        “ชิ้นนี้หนึ่งพันสามร้อยสี่สิบตำลึงขอรับ ไท่ไท่ มงกุฎหงส์ชิ้นนี้ใช้อัญมณีมากที่สุด เป็๞ผลงานที่ช่างฝีมือเก่าแก่ของร้านเราใช้เวลาสร้างถึงหนึ่งปีเต็มๆ แต่สองชิ้นนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน ชิ้นนี้สองร้อยแปดสิบตำลึง ชิ้นนี้สามร้อยห้าสิบหกตำลึง…”

        ไม่ใช่ว่าพนักงานดูถูกหลินหวั่นชิว แต่นางแต่งกายธรรมดาเรียบง่ายมาก ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้บอกว่ากลัวนำเงินมาไม่พอ…

        เขามองว่าหลินหวั่นชิวน่าจะเป็๞ไท่ไท่ของครอบครัวร่ำรวยเล็กๆ ที่เลือกของเยอะขนาดนี้คงซื้อเป็๞สินเดิมให้น้องสาวบ้านสามี

        แต่นางกลับเลือกมงกุฎหงส์ที่แพงที่สุด เ๱ื่๵๹นี้ทำให้พนักงานลำบากใจ กลัวนางซื้อไม่ไหวแล้วโกรธ ยกเลิกของที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้หมด

        “เอาชิ้นนี้แหละ! ให้เถ้าแก่พวกเ๯้ารวมราคามา บอกให้ช่วยลดราคาให้ข้าด้วย”

        พนักงาน “…”

        กระไรนะ

        นางจะซื้อ?

        พนักงานไม่กล้าชักช้า รีบวิ่งไปหาเถ้าแก่

        เถ้าแก่ออกมารับหลินหวั่นชิวด้วยตัวเอง “ทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบห้าตำลึง ให้ราคาท่านเป็๲เลขกลมๆ ทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยตำลึงขอรับ”

        นอกจากมงกุฎหงส์ เครื่องประดับอย่างอื่นที่หลินหวั่นชิวเลือกก็เป็๞ราคาหลายร้อยตำลึงไปแล้ว

        “ได้! เถ้าแก่เป็๲คนสบายๆ ข้าเองก็สบายๆ เช่นกัน” หลินหวั่นชิวหยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ(ความจริงคือหยิบจากช่องเก็บของในเสียนอวี๋) นับออกมาสิบหกใบ เหลือในมือสองใบ

        นางมอบตั๋วเงินให้เถ้าแก่แล้วเก็บตั๋วเงินที่เหลือ

        พนักงานที่อยู่ด้านข้างมองหลินหวั่นชิวตาปริบๆ…

        พี่สาว ทั้งที่ท่านพกเงินมาเยอะขนาดนี้ เหตุใดตอนเลือกซื้อของแค่ยี่สิบกว่าตำลึงถึงต้องบอกว่ากลัวเงินไม่พอเล่า…

        ฮือฮือฮือ เศรษฐีอวดรวยที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นไม่ใช่เศรษฐีอวดรวยที่ดี!

         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้