ถังหว่านส่งเสียงเย็น 'หืม...' แล้วยื่นแขนสะบัดอย่างรวดเร็วเข้าที่ปกเสื้อของหยางเฉิน
"เสื้อสั่งตัดจากอิตาลี ออกแบบเป็พิเศษสำหรับเชื้อพระวงศ์ ซึ่งไม่มีแบรนด์หรือโลโก้ ส่วนกระดุมเสื้อคือบลูไดมอนด์จากแอฟริกาใต้ เจียระไนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 10 ล้านหยวน คุณคิดจริงๆ หรือว่าไม่มีใครรู้จัก"
หยางเฉินหน้าเสียเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะมีใครรู้จักเสื้อตัวนี้ พลางหัวเราะกล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า
"คุณนายถังช่างมีสายตาที่ยอดเยี่ยมนัก แต่คุณก็ยังผิด กระดุมนี้ผลิตที่นามิเบีย ไม่ใช่แอฟริกาใต้"
"แล้วคุณจะยังคงปฏิเสธอีกหรือ? มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นในจงไห่ที่สามารถใส่เสื้อตัวนี้ได้ ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ" ถังหว่านชำเลืองมอง เธอไม่มีอะไรจะพูดอีก
หยางเฉินไม่พูดพร่ำเพรื่อ เขาโยนบุหรี่ทิ้งลงน้ำพร้อมกล่าวเสียงเศร้า
"คุณนายถัง คุณเป็คนสวยมาก ถ้าผมหยางเฉินอยากจะนอนกับคุณล่ะก็ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะหลอกคุณว่าเป็แค่คนขายแพะย่าง ผมบอกไปแล้วว่าผมมันแค่คนขายแพะย่าง ใครบอกว่าคนขายแพะย่างจะใส่เสื้อราคา 10 ล้านหยวนไม่ได้? หากคุณไม่เชื่อล่ะก็ เปลี่ยนเื่คุยกันเถอะ"
"นั่นเป็คำพูดที่หยาบคายมาก" ถังหว่านไม่ลังเลที่จะต่อว่าหยางเฉินแม้แต่น้อย แต่ใบหน้าเธอนั้นยิ้มแย้มปานดอกไม้บาน
"แต่ฉันชอบความตรงไปตรงมาของคุณ เอาล่ะ ฉันจะคิดว่าคุณเป็คนขายแพะย่างชั่วคราวก็แล้วกัน คุณหยาง ฉันไม่เคยคิดจะนอนกับคุณหรือกับคนขายแพะย่าง ฉันไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อย"
"แล้วทำไมคุณถึงคุยกับผมนานนักล่ะ" หยางเฉินรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เขาคิดว่าเจอเหยื่อสุดเชื่องเข้าให้แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกลับไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย
ถังหว่านหัวเราะเบาๆ แต่ก็ทำใหู้เาขนาดย่อมสั่นไหว
"คุณหยาง คุณนี่มันบ้าบิ่นจริงๆ มากกว่าผู้ชายหลอกลวงพวกนั้นอีก น่าสงสารจริงๆ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่คุณคิด ส่วนเหตุผลที่ฉันยืนคุยกับคุณเนิ่นนานนั้นเพราะว่าฉันรู้สึกอัดอั้นตันใจเล็กน้อย"
"แล้ว?"
"ตอนนี้อารมณ์ฉันดีขึ้นแล้ว ต้องขอบคุณคุณด้วยเช่นกัน ไว้คราวหน้าที่เราเจอกันฉันจะเลี้ยงน้ำชาคุณเอง"
เธอไม่พูดอะไรอีก พลางเดินตรงไปยังรถและหันกลับมายิ้มกล่าวว่า
"ฉันขอแนะนำคุณสักหน่อยว่าอย่าสูบบุหรี่ต่อหน้าผู้หญิงอีก ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ได้เป็ผู้หญิงอย่างนั้น พวกเธอคงไม่ชอบแน่ๆ ที่คุณทำตัวไม่สุภาพ" พูดจบก็เดินขึ้นรถไป
หลังจากรถแลนด์โรเวอร์ก็หายลับไปจากสายตา หยางเฉินพึมพำกับตัวเอง
"หรือว่าการขายแพะย่างมันจะไม่ดีอย่างที่เขาว่าจริงๆ ฉันควรเปลี่ยนงานไหมนะ"
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากตื่นนอน หยางเฉินได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง 'ปัง ปัง ปัง' ให้รู้สึกรำคาญอย่างยิ่ง เขาลุกจากเตียงตรงไปยังประตูห้องทั้งที่ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เขาเปิดประตูทันที เป็ไปตามคาดเ้าของใบหน้าเ็านี้ เธอคือหลินรั่วซี
เมื่อเห็นร่างเปลือยท่อนบนของหยางเฉิน หลินรั่วซีก็หน้าขึ้นสี แต่เธอพยายามเก็บอาการและพูดออกไปว่า "ใส่เสื้อเร็วๆ เข้า ฉันรีบ"
หยางเฉินเกาหัวแกรกๆ ก่อนกล่าวว่า "แค่จดทะเบียนเอง ทำไมคุณรีบนักล่ะ รอผมอาบน้ำแต่งตัวกินข้าวสักเดี๋ยวสิ"
"ไม่ได้ ฉันมีประชุมตอนสิบโมง"
"แล้วอย่าลืมบัญชีธนาคารกับบัตรประชาชนด้วยล่ะ" เธอไม่อนุญาตให้หยางเฉินปฏิเสธ
หยางเฉินใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเดินตามหลินรั่วซีขึ้นรถเบนท์ลี่ย์คันแดง
เธอหยิบกระเป๋าใหญ่สองใบโยนให้หยางเฉินโดยไม่แม้แต่จะหันมอง
"ใส่ซะ แล้วอย่าทำอะไรให้พวกเราขายหน้าล่ะ"
หยางเฉินสังเกตชุดที่หลินรั่วซีใส่อยู่ เป็ชุดสูทสั่งตัดพิเศษด้วยฝีมือผู้เชี่ยวชาญ พร้อมกับลายเสื้อตามส่วนเว้าโค้งของร่างกาย ด้วยลักษณะอันเ็าแสดงให้เห็นความงามอีกระดับ ในสายตาชายหนุ่มทุกคน ความงามของเธอเป็ความงามล่มเมืองอย่างแท้จริง
"เฮ้ ที่รัก เรายังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็ทางการเลย ทำไมรีบซื้อชุดให้สามีเร็วนักล่ะ" หยางเฉินจัดแจงสวมเสื้อผ้าในกระเป๋า มันเป็เสื้อสูท Armani นอกจากนี้ยังมีรองเท้า Pierre Cardin ในขณะที่หลินรั่วซีทำเป็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เธอี้เีจะตอบโต้กับความไร้ยางอายของหยางเฉินเต็มที
ร่างกายของหยางเฉินยืดหยุ่นอย่างมาก แม้จะนั่งในที่แคบเขาก็สามารถแต่งตัวด้วยชุดใหม่ได้อย่างง่ายดาย เขาใช้กระจกรถต่างกระจกหวีผม ลักษณะของเขาตอนนี้เปลี่ยนไปเป็คนละคน
ถึงแม้สายตาหลินรั่วซีจะจับจ้องอยู่ที่ถนนด้านหน้า แต่เธอก็แอบชำเลืองมองหยางเฉินเป็บางครั้ง หยางเฉินในชุดสูทตะวันตกทำให้หัวใจเธอเต้นรัว สิ่งนี้ทำให้เธอเขินอายเล็กน้อย ด้วยท่าทีไม่อินังขังขอบพร้อมกับสายตาเศร้าเล็กน้อย ทั้งหมดนี้เพิ่มความดึงดูดให้แก่เขา
หลินรั่วซีรู้สึกสบายใจขึ้น อย่างน้อยด้วยรูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ทำให้เธอขายหน้า
ไม่นานทั้งคู่ก็ถึงที่ว่าการอำเภอ หลินรั่วซีเดินลงจากรถ เธอกัดฟันควงแขนหยางเฉินพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มไร้เดียงสา
หยางเฉินไม่สามารถกลั้นหัวเราะอีกต่อไป เขาหัวเราะและกล่าวว่า
"ที่รัก คุณแสดงได้อย่างมืออาชีพจริงๆ"
"หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้ เรากำลังเป็ที่สนใจอยู่นะ ทำหน้าที่ของนายไปได้แล้ว" หลินรั่วซีส่งสายตาให้หยางเฉิน
หยางเฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ บางครั้งเขาก็รู้สึกได้ถึงัันุ่มนิ่มที่แขนของเขา อย่างน้อยเขาก็ยังได้ประโยชน์อยู่บ้าง
หลินรั่วซีรู้ตัวดี แต่เธอก็ได้แต่อดทนและกัดฟันแน่น หลังจากนี้เราต้องแสดงกันอีกหลายครั้ง เธอยกประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ นี้ให้หยางเฉินไป
เมื่อเดินเข้าประตูหลัก ทั้งสองคนเป็ที่ดึงดูดของทุกคน หยางเฉินดูสง่าแม้จะถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้า ในขณะที่ความงามของหลินรั่วซีมากพอที่จะทำให้ปลาลืมว่ายน้ำนกลืมวิธีบิน ในสายตาของทุกคนแล้ว คู่นี้เป็ดั่ง์สร้าง
พนักงานของสำนักงานเพียงตรวจสอบเอกสารของพวกเขาอย่างรวดเร็ว และดำเนินขั้นตอนต่างๆ ด้วยรอยยิ้มแสดงความยินดี พร้อมกล่าวกับทั้งสองว่า
"ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยค่ะ นี่เป็หนังสือรับรองการสมรส คุณทั้งสองทำให้ผู้คนอิจฉาจริงๆ ขอให้รักและอยู่ด้วยกันไปนานๆ นะคะ"
หลินรั่วซียังคงจับมือหยางเฉินอยู่ เมื่อถูกจ้องมองจากคนรอบข้าง ทำให้หน้าเธอแดงเป็ลูกตำลึง หลังจากรับทะเบียนสมรสแล้ว เธอรู้สึกเหมือนฝันไปในดินแดนเวทมนตร์
'ฉันแต่งงานแล้วจริงๆ กับชายที่เพิ่งรู้จักได้วันเดียว' หลินรั่วซีใช้สายตาสับสนมองหยางเฉิน ซึ่งตอนนี้จับจ้องอยู่ที่ทะเบียนสมรสอย่างเคลิบเคลิ้ม
เขารู้สึกอย่างไรกันนะ? เขากำลังคิดอะไรอยู่ รู้สึกดีหรือแย่กันแน่? หลินรั่วซีถามตัวเอง ไม่นานเธอก็ถามตัวเองอีกครั้ง ทำไมฉันต้องสนใจหมอนั่นด้วย?
จู่ๆ หยางเฉินก็หันศีรษะเผชิญหน้ากับหลินรั่วซีพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย "เป็อะไรหรือที่รัก คุณรู้สึกเสียใจอย่างนั้นหรือที่จดทะเบียนสมรสกับผม คุณบังคับผมมาที่นี่เองนะ"
"นายคิดว่าฉันจะแต่งกับนายจริงๆ อย่างนั้นหรือ?" เธอพูดเสียงแ่เบา "นายควรจะรู้ไว้ด้วยว่าฉัน หลินรั่วซี เมื่อตัดสินใจอะไรแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ และนายก็ต้องแสดงอย่างนี้ไปอีกสามปี หวังว่านายจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้ฉัน"
หลังออกจากที่ว่าการ หลินรั่วซีชักมือกลับอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนเป็ใบหน้าเ็าดุจน้ำแข็งทันที
"เอาล่ะ ฉันจะไปประชุมต่อ นายกลับบ้านไปก่อน"
"กลับบ้าน? อย่าบอกนะว่าจะให้ผมเดินกลับ" หยางเฉินรู้สึกขมในปาก หลังจากจดทะเบียนไม่นาน ภรรยาผู้ประเสริฐจะให้เขาเดินกลับบ้านที่ห่างออกไป 10 กิโลเมตร
หลินรั่วซีนำการ์ดใบหนึ่งออกจากกระเป๋ายื่นให้หยางเฉิน ้าของการ์ดมีอักษรสวยงามเขียนอยู่ "89 สวนหลงจิ่ง ถนนเหวินหัว"
"เราแต่งงานแล้วก็ควรจะมาอยู่ด้วยกันเพื่อไม่ให้เป็ที่สงสัย แต่ถึงอย่างนั้นนายก็ห้ามเล่นตุกติกเด็ดขาด ย้ายจากบ้านซอมซ่อนั่นมาให้ไว" จบคำเธอก็สะบัดก้นจากไปอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินหัวเราะอย่างสง่างาม และพึมพำกับตัวเองว่า "สุดท้ายก็ต้องเดินไปสินะ"