หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน
เดิมทีนางไม่ได้ตั้งใจจะตากผ้านวม ถ้านางไม่เห็นเด็กสองคนนั้นมา นางก็คงจะไม่ขอให้ฉือหางนำผ้าห่มออกมาตากให้แห้ง พูดตามตรง นางแค่ไม่้าให้คนเ่าั้มาััที่นอนของนาง
ถ้าเนื้อตัวดูสะอาดกว่านี้ย่อมไม่เป็ไร แต่ร่างกายของฉือซงสกปรกมาก พี่สะใภ้ใหญ่ก็ไม่รู้จักช่วยพวกเขาอาบน้ำบ้างเลย แม้แต่ถุงเท้าก็ไม่รู้จักใส่ เดินเท้าเปล่าจนโคลนสกปรกติดเท้ามากขนาดนั้น คืนนี้โต้ซาจะต้องนอนกับพวกนาง
เมื่อหลินกู๋หยู่เข้าไปในห้องก็เห็นโต้ซากุมศีรษะร้องไห้เสียงดัง
"เกิดอะไรขึ้น?" หลินกู๋หยู่เดินไปหาโต้ซาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นมือของเขาเปลี่ยนเป็สีแดง ใบหน้านางกลายเป็ย่ำแย่
“อาสะใภ้สาม” ฉือิยืนข้างหลินกู๋หยู่ด้วยความรู้สึกผิด
หลินกู๋หยู่ไม่มีเวลาคุยกับฉือิในตอนนี้ นางะโเรียกคนด้านนอก "พี่ฉือหาง รีบไปเอาน้ำอุ่นมา"
พอฉือหางตักน้ำอุ่นมาวางข้างๆ หลินกู๋หยู่ ก็เห็นว่ามือของหลินกู๋หยู่เต็มไปด้วยเื สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป "เกิดอะไรขึ้น?"
ในตอนนี้หลินกู๋หยู่ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูด นางรีบเช็ดเืให้โต้ซา เช็ดาแอยู่ที่หน้าผากของเขา
หลังจากเช็ดทุกอย่างรอบๆ แผลให้สะอาดแล้ว หลินกู๋หยู่ก็หยิบยาจินฉวงออกมา ใส่ยามันอย่างระมัดระวัง
โชคดีที่แผลไม่ลึกมาก หากกลายเป็รอยแผลเป็จะทำอย่างไร?
"อาสะใภ้สาม โต้ซาไม่เป็อะไรใช่หรือไม่?" ฉือิยืนอยู่ข้างๆ ดูการกระทำของหลินกู๋หยู่ เขาไม่กล้าพูดจาเป็เวลานาน
หลินกู๋หยู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รีบอุ้มโต้ซาขึ้นมา นางพยายามใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยน โดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ "โต้ซาทำอย่างไรถึงได้รับาเ็?"
“พี่ชายรอง” โต้ซาสูดจมูก มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยสายตาที่เศร้าโศก “เขาอยากได้ม้าไม้ตัวน้อยของข้า!”
เมื่อฉือซงได้ยินคำพูดของโต้ซา เขาก็ยกม้าไม้ในมือขึ้น ทุบมันเต็มแรงสองสามครั้ง ลงจากเตียงด้วยความโกรธแล้ววิ่งออกจากห้องไป
“ขอโทษ” ฉือิกล่าวอย่างเสียใจ
"ไม่เป็ไร" หลินกู๋หยู่พูดอย่างใจเย็น จากการแสดงออกของเด็กตรงหน้า นางก็รู้ว่าฉือิรู้สึกผิดอย่างมาก
ฉือซงถือของเล่นในมือข้างหนึ่ง ยังมีม้าไม้ตัวเล็กๆ ที่โต้ซาชอบ วิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
ฉือิมองไปที่ฉือซงอย่างเป็กังวล กล่าวลาและไล่ตามเขาออกไป
ฉือหางเดินไปที่ด้านข้างของโต้ซา มองไปที่าแบนหน้าผากด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความกังวล
หน้าผากแดงแล้ว โต้ซาสูดจมูก ใบหน้าบวมที่ถูกตบยังไม่ทุเลาลง ตอนนี้ก็ถูกม้าไม้ตัวเล็กฟาดอีก
แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เด็กๆ จะทะเลาะกัน แต่การจงใจแย่งม้าไม้ของลูกตัวเองนั้น มันใช่เื่ไหม
“ข้าจะไปหาพี่สะใภ้ใหญ่” หลินกู๋หยู่กล่าว วางโต้ซาลงบนเตียงแล้วก้มลงช่วยเขาใส่รองเท้า
“เ้าจะไปทำอะไรหรือ?” ฉือหางมองไปที่ใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของหลินกู๋หยู่ พูดเบาๆ ว่า “โชคดีที่โต้ซาไม่เป็อะไร”
อะไรคือโชคดีที่ไม่เป็อะไร?
หลินกู๋หยู่ช่วยโต้ซาใส่รองเท้าของเขา จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองฉือหาง พูดด้วยความโกรธว่า "แล้วถ้าเกิดกลายเป็รอยแผลเป็เล่า จะทำอย่างไร?"
“มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เื่เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ” ฉือหางพูดอย่างระมัดระวัง โดยไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย
“คนเลวเ่าั้กลายเป็คนเลวได้อย่างไร นั่นไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาขาดการอบรมสั่งสอนระเบียบวินัยเมื่อยังเด็กไม่ใช่หรือ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงจะไม่กลายเป็คนเลวหรอก” หลินกู๋หยู่กล่าว อุ้มโต้ซาและเงยหน้าขึ้นมองฉือหาง “ไม่พูดถึงเื่อื่น แค่พูดถึงลูก เมื่อก่อนเวลาโต้ซาล้มลง รู้ว่ามีโคลนอยู่บนตัว ก็ยังรู้จักที่จะตบมันออกจากตัว"
"แต่..."
หลินกู๋หยู่หยิบผ้าพันคอผืนเล็กของโต้ซาออกมาพันรอบคอโต้ซา จากนั้นหยิบหมวกหลวมๆ ออกมา และสวมให้อย่างระมัดระวัง "ข้าแค่จะไปคุยกับพี่สะใภ้ใหญ่ เ้าอย่าคิดมากขนาดนั้น"
โดยไม่รอให้ฉือหางพูด หลินกู๋หยู่ก็กล่าวต่อว่า "หากวันหนึ่งพวกเราทำให้ลูกของพวกเขาาเ็ เ้าคิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะไม่มาคิดบัญชีหรือ?"
ฉือหางไม่เอ่ยวาจาใด
ซ่งซื่อรักลูกทั้งสองคนของนาง เรียกได้ว่ารักแบบตามใจพะเน้าพะนอ
หลินกู๋หยู่เดินตรงไปที่เรือนใหญ่พร้อมกับโต้ซาในอ้อมแขน เห็นซ่งซื่อจับมือของฉือิและกำลังถามคำถาม
เมื่อดวงตาของซ่งซื่อเห็นหลินกู๋หยู่กำลังเดินมา สีหน้าของนางก็แปรเปลี่ยนไป นางเดินไปหาหลินกู๋หยู่ด้วยรอยยิ้มประจบบนใบหน้า "น้องสะใภ้สาม ข้าได้ยินมาว่าฉือซงเ้าเด็กไม่เชื่อฟังคนนั้นตบโต้ซา โต้ซาไม่เป็ไรใช่หรือไม่?"
หลินกู๋หยู่ชำเลืองมองฉือิที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างใจเย็นว่า "พี่สะใภ้ใหญ่ เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ"
น้ำเสียงของหลินกู๋หยู่นั้นราบเรียบ ซ่งซื่อคาดเดาความคิดของนางไม่ได้อยู่หลายส่วน
ที่นี่หนาวมากจริงๆ โชคดีที่หลินกู๋หยู่ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ให้โต้ซาล่วงหน้า
เมื่อเห็นว่าโต้ซาใส่เสื้อกันหนาวหนามาก ผิวหน้าเล็กๆ ของเขาที่เดิมเป็สีขาวอมชมพู เวลานี้กลายเป็สีแดงดวงตาก็เต็มไปด้วยหยาดน้ำ
แม้ว่าขนาดห้องจะไม่ใหญ่มาก แต่หลินกู๋หยู่ก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเล็กๆ ด้านข้าง
เมื่อตอนเช้าของวันนี้ ซ่งซื่อมาที่บ้าน เห็นเนื้อและไข่วางอยู่บนตู้ นางคงจะกลับมาบอกโจวซื่อ โจวซื่อจึงไปที่บ้านของพวกเขาเพื่อไปเอาเนื้อและไข่
สำหรับสิ่งเหล่านี้ หลินกู๋หยู่ไม่คิดว่ามันสำคัญเท่าใดนัก เพราะอย่างไรเสียสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็ของนอกกาย พวกเขาจะเอาไปก็เอาไปเถอะ
เด็กหนาว แต่บ้านของพวกนางอบอุ่น เด็กสองคนไปเล่นที่บ้านของพวกนางก็เล่นไป ไม่ได้ว่าอะไร เพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็ญาติกัน
เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหลินกู๋หยู่ ซ่งซื่อก็ไม่มั่นใจเล็กน้อยว่าหลินกู๋หยู่หมายความถึงอะไร
“พี่สะใภ้ใหญ่ เป็เื่ปกติที่เด็กๆ จะตบตีทะเลาะกัน การกระทบกระทั่งย่อมเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใช่หรือไม่!” หลินกู๋หยู่มองที่ซ่งซื่อด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของนางเรียบเฉยราวกับว่านางกำลังพูดเื่อื่นที่ไม่เกี่ยวกับนางอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อได้ยินสิ่งที่หลินกู๋หยู่พูด ซ่งซื่อก็ยิ้มและพยักหน้า "ถูกต้องจริงๆ"
เมื่อซ่งซื่อพูดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่ก็ชัดเจนมากขึ้น และเอ่ยพูดต่อว่า "แต่เด็กคนนี้ก็ไม่ควรทุบศีรษะของโต้ซาอย่างแรงเพื่อเอาของเล่นของโต้ซาใช่หรือไม่"
ในขณะที่พูด หลินกู๋หยู่ถอดหมวกออกจากศีรษะของโต้ซาอย่างระมัดระวัง
ในตอนแรก โต้ซาสวมหมวกบนศีรษะเพื่อปกปิดาแบนหน้าผากของเขาทั้งหมด
เมื่อหลินกู๋หยู่ถอดหมวกออก รอยแผลบนหน้าผากของเขาก็ไม่อาจชัดเจนไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
เป็รอยแผลสีแดงสดที่มีเืแข็งตัวอยู่บนพื้นผิวด้านนอก
รอยยิ้มบนใบหน้าของซ่งซื่อแข็งทื่อ ฝืนยิ้มต่อไม่ไหวอีก นางยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความลำบากใจ
โต้ซานั่งในอ้อมแขนของหลินกู๋หยู่อย่างเชื่อฟัง
“เราเป็ครอบครัวเดียวกัน ถ้าเป็ลูกของคนอื่น พวกเขาจะต้องไม่ปล่อยให้เลยตามเลยอย่างแน่นอน” หลินกู๋หยู่พูดเบาๆ และยกมือขึ้นสวมหมวกให้โต้ซา “เด็กยังเล็กมากและไม่รู้เื่รู้ราว ดังนั้นพี่ควรให้ความสนใจมากขึ้น"
ซ่งซื่อยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและรับคำ
“ถ้าเป็คนอื่น ข้าก็จะไม่ยกโทษให้ง่ายๆ แน่นอน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็ใครก็ตาม” หลินกู๋หยู่ยิ้มและยืนขึ้น จากนั้นเดินไปข้างหน้าซ่งซื่อ “ของเล่นก็เก็บเอาไว้ให้เด็กเล่นเถอะ”
“พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าขอตัวก่อน”
พูดจบ หลินกู๋หยู่ก็เดินออกจากบ้านพร้อมกับโต้ซาในอ้อมแขน
ซ่งซื่อรู้สึกเพียงสายลมหนาวพัดรอบตัวนาง หวนจำสิ่งที่หลินกู๋หยู่ทำกับจ้าวหยางเมื่อวาน
คนเช่นจ้าวหยางยังถูกหลินกู๋หยู่คนเดียวปราบถึงสองครั้ง
หากครั้งแรกเป็เื่บังเอิญ เช่นนั้นครั้งที่สองที่นางเฝ้าดูจ้าวหยางถูกหลินกู๋หยู่ทุบตีถึงขั้นไม่มีแรงจะตอบโต้ล่ะ คงไม่ใช่เื่บังเอิญอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทุกครั้งที่ซ่งซื่อเจอกับหลินกู๋หยู่ นางรู้สึกแปลกๆ นางมักจะรู้สึกว่าหลินกู๋หยู่และพวกนางไม่ใช่คนโลกเดียวกัน
เมื่อเดินออกไปข้างนอก หลินกู๋หยู่เห็นฉือิยืนกระสับกระส่ายอยู่ในลานบ้าน พอเห็นนางออกมา เด็กชายก็เดินเข้ามาหานาง
"อาสะใภ้สาม" ดวงตาของฉือิมองไปที่โต้ซาในอ้อมแขนของหลินกู๋หยู่และเอ่ยถามเสียงเบา "น้องชายไม่เป็ไรใช่หรือไม่?"
“ไม่เป็ไร” หลินกู๋หยู่มองไปที่สีหน้าขมวดคิ้วของฉือิ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ไม่ต้องกังวล”
ฉือิก้มศีรษะลงและกระซิบว่า "มันเป็ความผิดของข้าทั้งหมด ถ้าในเวลานั้นข้าคอยดูน้องชาย ก็คงจะไม่..."
"ไม่เป็ไรจริงๆ ไม่ต้องกังวล าแบนศีรษะของโต้ซาจะหายดีภายในสองสามวัน" หลินกู๋หยู่มองที่ฉือิด้วยรอยยิ้มละไม ก่อนจะหันไปพูดกับโต้ซาในอ้อมแขนว่า "ทำไมเ้าไม่เรียกพี่ชายล่ะ?”
โต้ซามองไปที่ใบหน้าของฉือิด้วยดวงตากลมโต จากนั้นก็ร้องออกมาว่า "พี่ชายใหญ่"
เมื่อหลินกู๋หยู่ออกไปพร้อมลูก ทันทีที่กลับถึงบ้านก็พลันได้ยินเสียงซ่งซื่อก่นด่า
ฉือหางเดินเข้ามาหาหลินกู๋หยู่อย่างพะวงใจ "พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ทำให้เ้าลำบากใจใช่หรือไม่"
“ไม่มี” หลินกู๋หยู่ส่ายศีรษะ เอื้อมมือไปวางโต้ซาบนม้านั่งเล็ก จากนั้นถอดหมวก ผ้าพันคอและถุงมือของเด็กน้อยออก
"อ้อ ไปต้มน้ำร้อนเถอะ" หลินกู๋หยู่ชำเลืองมองไปที่ผ้านวมบนเตียงเล็กของโต้ซา มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย "สกปรกมาก ข้าจะไปซักให้"
ฉือหางยืนอยู่ตรงที่เดิม และตอนนั้นเองที่เขาเข้าใจว่าสาเหตุใดหลินกู๋หยู่ถึงได้บอกให้ตากผ้านวมอย่างกะทันหัน เพราะกลัวว่าหลานชายของเขาจะทำให้ผ้าปูเตียงและผ้านวมสกปรก
หลินกู๋หยู่มองแผลเป็บนศีรษะของโต้ซาอย่างเป็กังวล หากกลายเป็แผลเป็จะทำอย่างไร?
ว่านหางจระเข้ ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีหรือไม่?
“ยังเจ็บอยู่ไหม?” หลินกู๋หยู่มองโต้ซาอย่างเป็กังวล พลางเอ่ยถามด้วยเสียงเบา
"ไม่เจ็บแล้ว" โต้ซานั่งเงียบๆ ขณะที่เล่นของเล่นในมือของตนเอง
เด็กคนนี้ทำให้คนอดเป็ห่วงไม่ได้จริงๆ
ฉือหางเดินออกไปข้างนอก เมื่อคิดถึงสีหน้าของหลินกู๋หยู่ เขาก็คาดเดาอะไรไม่ได้เลย เมื่อได้ยินฉือซงร้องไห้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปที่เรือนใหญ่ของสกุลฉือ
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้เสียดแทงหัวใจของฉือซง โจวซื่อไม่อาจนั่งนิ่งๆ ในห้องได้อีกต่อไป นางลุกขึ้นจากเตียงไปกอดฉือซง ะโใส่ซ่งซื่อ "ใครบอกให้เ้าทุบตีหลานชายที่ดีของข้า ถ้าเปลี่ยนเป็ทุบตีเ้า เ้าจะเจ็บหรือไม่?”
ดวงตาทั้งสองข้างของซ่งซื่อน้ำตาคลอเบ้า ริมฝีปากเม้มแน่น ในขณะยืนอยู่ข้างๆ อย่างดื้อรั้น
“ทำไมหรือ ข้าพูดผิดหรืออย่างไร เ้าไม่สบายใจ เ้าทุบตีทำไม?” โจวซื่อะโใส่ซ่งซื่อพลางกอดฉือซงอย่างเศร้าใจ “เด็กดี ยังเจ็บอยู่ไหม?”
"ท่านแม่" ซ่งซื่อมองโจวซื่อและพูดอย่างโกรธเคือง "ลูกทำผิด เดิมทีก็สมควรถูกตี ท่านไม่เห็นหน้าผากของโต้ซาว่าถูกเขาตบเป็อย่างไรแล้ว"
“เด็กจะมีพละกำลังได้แค่ไหนกัน?” โจวซื่อกอดเด็กน้อยอย่างเศร้าใจ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของฉือซงอย่างเฉยเมยว่า “โต้ซาก็ถูกตีไปแล้ว เ้ายังจะทุบตีหลานชายของข้าทำไมกัน?"
“ศีรษะของโต้ซาถูกตีแตกแล้ว!” ซ่งซื่อขมวดคิ้วแน่น “เด็กคนนี้ปกติก็สร้างแต่ปัญหา เขาทุบตีโต้ซาหนักมากขนาดนั้น!”
“เช่นนั้นแล้วจะทำอย่างไรได้หรือ?” โจวซื่อคำรามทีละคำ ใบหน้าของนางน่าเกลียดยิ่งกว่าเดิม “ต่อให้ถูกซ้อมจนตาย เช่นนั้นแล้วจะอย่างไรหรือ?!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้