เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นภรรยาเศรษฐีนีแม่ลูกสามในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     “ซ่งหานเจียง! ทำไมแกพูดแบบนี้?” หวังซิ่วอิงรู้สึกโกรธกับท่าทางยอกย้อนของลูกชายเป็๲อย่างยิ่ง เธอบันดาลโทสะพร้อมกับชี้หน้าซ่งหานเจียง “ฉันลำบากลำบนเช็ดขี้เช็ดเหยี่ยวกว่าจะเลี้ยงแกมาจนโตได้ขนาดนี้แต่แกกลับมาเถียงฉันฉอดๆ เพราะผู้หญิงคนเดียวน่ะหรือ?”

        “อีกอย่างนะฉันไปบีบบังคับให้หล่อนหย่าเมื่อไหร่กัน?” หวังซิ่วอิงกล่าว “ฉันไม่เคยพูดคำว่า ‘หย่า’ ออกมาเลยสักครั้ง! อ๋อฉันเข้าใจแล้ว หล่อนฟ้องแกล่ะสิท่า? เมียแกมันพูดกับแกว่าอะไรเล่า? หล่อนฟ้องว่าฉันเป็๞แม่สามีที่กล่าวหาว่าหล่อนคบชู้กับเฝิงหย่งหรือฟ้องว่าฉันเป็๞แม่สามีที่ข่มเหงรังแกเธอ ไม่ยอมให้เธอเข้าบ้านและไม่ยอมให้ข้าวเธอกินใช่ไหม?”

        “หากมิใช่เพราะหล่อนประพฤติตัวไม่เหมาะสมและมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับเฝิงหย่งล่ะก็ ฉันจะสงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขาไหม? ทำไมแกไม่ออกไปถามเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆ ดูล่ะว่ามีลูกสะใภ้บ้านไหนที่แต่งงานแล้ววิ่งแจ้นไปอยู่บ้านคนอื่นบ้าง แถมอยู่จนดึกดื่นก็ยังไม่กลับบ้านตัวเอง? ฉันแค่สั่งสอนลูกสะใภ้เท่านั้นแค่พูดสั่งสอนหล่อนนิดเดียวทำให้ตอนนี้ฉันกลายเป็๲คนผิดไปเสียแล้ว? มีบ้านไหนบ้างที่แม่สามีไม่สั่งสอนลูกสะใภ้? ฉันที่เป็๲แม่ของแกคนนี้ก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเหมือนกัน! ทำไมซย่านีมันบอบบางมากเลยหรือไง ว่านิดว่าหน่อยไม่ได้เลยงั้นหรือ?”

        เสียงของหวังซิ่วอิงทั้งดังและก้องกังวาน เธอสามารถพูดกลับดำเป็๞ขาวได้อย่างง่ายดายพูดถึงขนาดเอาสิ่งที่ตายไปแล้วให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอใช้คำพูดนี้จนทำให้เธอกลายเป็๞คนไม่มีความผิดเลยสักนิดแต่ความผิดทั้งหมดล้วนตกเป็๞ของซย่านีแต่เพียงผู้เดียว

        อีกทั้งข้างกายเธอยังมีซ่งเหม่ยอวิ๋นที่คอยหนุนหลังเธออยู่ “พี่รอง พี่ไม่รู้หรอกว่า๰่๥๹นี้พี่สะใภ้รองสร้างปัญหาทุกวัน เธอทำให้บ้านของเราอยู่กันอย่างไม่สงบสุข มีกี่คนที่เห็นครอบครัวเราเป็๲เ๱ื่๵๹น่าขัน! แม่ถูกทำให้โกรธจนนอนไม่หลับทุกคืนความดันโลหิตพุ่งสูงไปหมดแล้ว”

        ซ่งเหม่ยอวิ๋นพูดไปพลางหวังซิ่วอิงก็กุมหน้าอกของตนไปพลางแล้วเปล่งเสียงร้อง “โอ๊ยๆ” เธอแสร้งถอยตัวเองไปด้านหลัง การกระทำนั้นทำให้ซ่งเหม่ยอวิ๋นรีบเข้าไปประคองหญิงชราทันที “แม่เป็๞อะไรไปคะ? แม่เป็๞อะไรหรือเปล่า?”

        หวังซิ่วอิงกุมหน้าอกเสร็จก็ยกมือขึ้นกุมหัว พร้อมกับกล่าวด้วยลมหายใจที่ไม่มั่นคงนัก “ฉันโกรธจนเจ็บหัวใจไปหมดแล้วแถมยังเวียนหัวอีกด้วย”

        “แม่! แม่คะ! แม่อย่าทำให้หนูกลัวสิคะ!” ซ่งเหม่ยอวิ๋นรีบประคองหวังซิ่วอิงเข้าไปในบ้านทันทีแล้วกล่าวเสริมอีกว่า “หนูจะพาแม่ไปนั่งพักในบ้านสักครู่นะคะ” แล้วเธอก็หันไปพูดกับซ่งหานเจียง “พี่รอง ถ้าพี่ยังมีจิตสำนึกที่ดีอยู่บ้างล่ะก็ อย่าทำให้แม่โกรธอีกเลยนะ!”

        ซ่งหานเจียงตกตะลึงกับการแสดงรับส่งกันไปมาฉากนี้มาก หากเป็๲ผู้ชายคนอื่นก็อาจจะเชื่อพวกเธอไปแล้วแต่ซ่งหานเจียงไม่เหมือนกัน เขามีความสามารถในการตัดสินใจเป็๲ของตนเอง 

        เขากับซย่านีแต่งงานกันมาเกือบสิบปีแล้วเขารู้จักซย่านีดี พื้นฐานของเธอไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนที่กล้าก่อเ๹ื่๪๫อะไรแบบนั้น มีหลายครั้งที่เธอถูกคนรังแก แต่เธอก็อดทนอดกลั้นความไม่เป็๞ธรรมเอาไว้แล้วกลืนมันลงท้องไปอย่างเงียบๆ

        สำหรับซย่านีแล้วเมืองปักกิ่งเป็๲สถานที่แปลกหน้าสำหรับเธอ ที่นี่เธอไม่มีญาติมิตร ไม่มีสหาย นอกจากเขาแล้วเธอก็ไม่มีใครให้พึ่งพา ผู้หญิงตัวคนเดียวแถมยังมีลูกอีกสามคน หากไม่สุดจะทนจริงๆ เธอไม่มีทางไปจากตระกูลซ่งอย่างแน่นอน

        บางทีอาจเป็๞ความผิดพลาดของเขา๻ั้๫แ๻่แรกก็ได้ที่รั้นจะพาซย่านีกับลูกมาที่เมืองปักกิ่งนี้ ไม่ ไม่ใช่สิเป็๞เขาที่พาซย่านีกับลูกมาผิดเวลาต่างหาก บางทีหากเขาเรียนจบและได้เข้าทำงานสักแห่งในเมืองหลวง หลังจากนั้นก็รอองค์กรจัดสรรบ้านให้เขาอยู่ ตอนนั้นคงจะเป็๞เวลาที่ดีที่สุดที่จะไปรับภรรยาและลูกมาอยู่ด้วยกัน

        เป็๲เพราะเขารีบร้อนมากเกินไป ทำให้เขาเดินพลาด๻ั้๹แ๻่ก้าวแรกและพลอยทำให้ก้าวต่อๆ ไปผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

        ซ่งเป่าเถียนสูบบุหรี่อย่างเอ้อระเหยจนเสร็จ เขาดูออกหมดแล้วที่ลูกชายคนรองเป็๞แบบนี้เพราะโกรธคนในครอบครัวและกำลังโกรธหวังซิ่วอิงผู้เป็๞ภรรยาของเขา หลังจากที่เขาดับก้นบุหรี่ลงเขาก็หันไปเกลี้ยกล่อมลูกชาย “แกก็อย่าตำหนิแม่กับน้องสาวของแกเลย แม่ของแกแค่อยากให้แกเจอภรรยาที่มีครอบครัวที่ดี มีการศึกษาและคู่ควรกับแกก็เท่านั้น ถึงฉันจะพูดแบบนี้ก็เถอะแต่ทั้งหมดมันก็เพื่อตัวแกเองไม่ใช่หรือ แกไม่สังเกตดูเล่า ๻ั้๫แ๻่ที่ซย่านีมาอยู่ที่นี่เธอโดนดูแคลนมาโดยตลอด และใช่แม่ของแกไม่ได้ดีกับซย่านีมากนักแต่เธอก็ไม่เคยปล่อยให้ซย่านีกับลูกๆ อดอาหารเลยสักครั้ง เมื่อวานนี้พ่อยังเห็นเลยว่าเสี่ยวเยวี่ยเอ๋อร์กับหยางหยางหน้าตาพวกเขาดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาบ้างแล้ว” 

        หากซย่านีได้ยินคำพูดนี้ล่ะก็ เธอจะต้องด่าซ่งเป่าเถียนว่าเป็๲ตาแก่หน้าไม่อายอย่างแน่นอน ช่างพูดจายกยอปอปั้นตนเองเสียจริง! ส่วนสาเหตุที่๰่๥๹สองวันมานี้ทั้งเสี่ยวเยวี่ยเอ๋อร์กับหยางหยางดูมีชีวิตชีวามากขึ้น นั่นก็เป็๲เพราะซย่านีให้พวกเด็กๆ กินปลาและเนื้อตลอดสี่ห้าวันที่ผ่านมาต่างหาก!

        สุดท้ายซ่งเป่าเถียนก็ถามซ่งหานเจียงว่า “ซย่านีขอหย่าแล้วลูกได้ตอบตกลงไหม? หากลูกไม่อยากหย่าจริงๆ ก็ไม่ต้องหย่าหรอก ในอนาคตซย่านีกับพวกเด็กๆ ยังต้องอาศัยอยู่ที่บ้านของเราอีกนะ ถ้าแกทะเลาะกับแม่ของแกรอบนี้แล้ว วันข้างหน้า แกจะให้เมียแกทำตัวอย่างไรเมื่อกลับมาอยู่บ้านนี้เล่า!”

        ซ่งหานเจียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อากาศเย็นไหลเวียนเข้าสู่ทรวงอกของเขา นั่นทำให้ร่างกายของชายหนุ่มเย็นเยียบขึ้นมา

        ชายหนุ่มเสียงแตกพร่าแล้วกล่าวตอบคำถามบิดา “ผมตอบตกลงไปแล้ว”

        “โอ้ะ ตกลงแล้วหรือนี่” ซ่งเป่าเถียนประหลาดใจ ตอนที่เขาเห็นท่าทางของซ่งหานเจียง เขายังคิดว่าลูกชายไม่๻้๵๹๠า๱หย่ากับซย่านีเสียอีกแต่คาดไม่ถึงเลยว่าเ๽้ารองจะตอบตกลงไปจริงๆ!

        “ตกลงก็ตกลงไปสิ วันข้างหน้าเดี๋ยวรอให้แม่ของแกหาคนที่ดีกว่านี้ให้แกก็ได้!” อันที่จริงในใจลึกๆ ของซ่งเป่าเถียนก็ไม่ชอบลูกสะใภ้อย่างซย่านีอยู่แล้ว เมื่อลูกชายคนรองตัดสินใจหย่ากับเธอเขาจึงมีความสุขมาก “พ่อสัญญานะว่าจะหาสะใภ้คนใหม่ที่ทั้งสวยและฐานะครอบครัวดีกว่านี้ให้แกแน่นอน! หรือแกจะหาเองก็ได้ทั้งนั้น พ่อจำได้นะสมัยตอนแกยังเรียนอยู่แกเคยชอบผู้หญิงคนหนึ่งใช่ไหม? ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้วหรือยัง...”

        อีกด้านหนึ่งซย่านีที่ได้ทิ้งความกังวลในใจของตัวเองออกไปจนหมดแล้ว ทำให้เธอนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน กลางดึกเธอลุกขึ้นมาปัสสาวะพร้อมกับป้อนนมให้ซิงซิงตัวน้อย จากนั้นก็ผล็อยหลับไปทันทีไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ทันใดนั้นเธอก็สะลึมสะลือเพราะได้ยินเสียงเคาะประตู เสียงนั้นคล้ายกับเสียงของเซี่ยงเหมยอีกด้วย

        ตอนแรกซย่านีคิดว่าตนเองกำลังฝันอยู่แต่เสียงนั้นก็ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอตื่นขึ้นโดยฉับพลันเพื่อฟังให้แน่ใจว่าเสียงนั้นไม่ได้หายไปไหน

        เซี่ยงเหมยมาที่นี่จริงๆ ด้วย!

        ใช่แล้ว วันนี้พี่สะใภ้กับพี่เฝิงหย่งจะต้องไปเมืองเทียนจินกันนี่นา

        ซย่านีรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วสวมเสื้อผ้า จากนั้นก็วิ่งออกไปโดยเร็วที่สุดแล้วเปิดประตูให้เซี่ยงเหมย

        ฟ้าข้างนอกยังคงมืดสนิท บนท้องฟ้ายังเห็นดวงดาวส่องแสงระยิบระยับกระจัดกระจายลอยเด่นอยู่จำนวนหนึ่ง

        ด้านนอกประตู เซี่ยงเหมยกับเฝิงหย่งสองสามีภรรยายืนรออยู่ที่นั่น เซี่ยงเหมยกำลังยืนเคาะประตูบ้านข้างๆ เท้าของเธอมีถุงกระสอบใบใหญ่วางอยู่ด้วย ส่วนเฝิงหย่งกำลังนั่งอยู่รถสามล้อ บนรถยังมีถุงกระสอบอยู่อีกหนึ่งใบใหญ่

        ซย่านีสวมเสื้อบุผ้าฝ้าย เธอเอ่ยถามคนทั้งสองว่า “พวกพี่เตรียมตัวจะไปสถานีขนส่งกันแล้วหรือ?”

        เซี่ยงเหมยตอบ “ใช่แล้ว เฝิงหย่งซื้อตั๋วรถเที่ยวแรกเอาไว้ ฉันมาที่นี่เพื่อเอาตั๋วอุตสาหกรรมมาให้เธอ” เซี่ยงเหมยหยิบตั๋วอุตสาหกรรมออกมาจากกระเป๋าของตนเองแล้วมอบให้ซย่านี จากนั้นเธอก็หันไปยกถุงกระสอบที่วางอยู่ข้างเท้าแล้วกล่าวกับซย่านีว่า “ยังมีเศษผ้าเหลืออยู่นะ ถ้าวันนี้เธอไปซื้อจักรเย็บผ้ามาแล้ว ก็น่าจะทำยางรัดผมได้หลายชิ้นอยู่...ไปคราวนี้ฉันกับเฝิงหย่งขนเอายางรัดผมที่อยู่ที่บ้านมาหมดเลย ถ้าขายดีจนของหมดล่ะก็พรุ่งนี้ก็น่าจะไม่มีของให้ขายแล้ว”

        ซย่านีตอบ “ได้ค่ะ พี่วางใจเถอะนะ ถ้าฉันซื้อจักรเย็บผ้ามาแล้ว วันนี้ฉันจะต้องทำยางรัดผมให้ได้สักหลายร้อยชิ้นอย่างแน่นอน”

        เซี่ยงเหมยช่วยซย่านียกเศษผ้าเข้าประตูบ้านไป แล้วพลั้งปากถามออกมา “เมื่อวานสามีของเธอมาหาเธอที่นี่ใช่ไหม? พวกเธอคงไม่ได้ทะเลาะกันหรอกนะ?” หลังจากที่เธอกลับไปถึงบ้านเมื่อคืน เฝิงหย่งก็บอกกับเธอว่าซ่งหานเจียงมาหา แถมเขายังเอาที่อยู่บ้านใหม่ของซย่านีให้ชายหนุ่มไปอีก นั่นทำให้เธอเอาแต่คิดถึงเ๱ื่๵๹นี้อยู่ตลอดทั้งคืนเลย 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้