เฉินจิ้งเจียกวาดตามองถ้วยชา ก่อนยกมือเติมชาอีกครึ่งถ้วย “เื่นี้ท่านพี่จำต้องลอบสืบต่างหากเล่า อย่าได้แหวกหญ้าให้งูตื่น”
ครั้นได้ยินคำพูดของนาง เฉินอี้เหอมองเฉินจิ้งเจียด้วยความแปลกใจ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็ความทุกข์ใจ
ตนอยู่ชายแดนมาสามปี น้องสาวกับมารดาต้องทนใช้ชีวิตอย่างระแวดระวังในจวนใหญ่แห่งนี้ ทั้งที่อายุแค่นี้ ก็รู้จักคำว่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียแล้ว
“เจียเอ๋อร์...” เฉินอี้เหออดเรียกขึ้นเสียมิได้
เฉินจิ้งเจียเงยหน้ามองพี่ชายของตนด้วยท่าทีปกติ “เป็อันใดไปเ้าคะ ท่านพี่?”
ยิ่งท่าทีนางสงบนิ่งเพียงใด เฉินอี้เหอก็ยิ่งปวดใจเพียงนั้น
เฉินอี้เหอหลุบตาลง ดื่มชาหนึ่งอึก “ไม่มีอะไร เจียเอ๋อร์เ้าพักผ่อนเถิด พี่จะไปก่อนละ”
พูดจบ จึงหยัดกายยืนมุ่งตรงสู่ข้างนอกทันที กลัวว่าหากอยู่นานอีกเพียงวินาทีเดียวคงกล่าวโทษตัวเองไม่หยุดแน่
เมื่อเห็นแผ่นหลังผ่าเผยจากไปไกลลิบ เฉินจิ้งเจียจึงถอนหายใจ วางถ้วยชาที่เริ่มเย็นแล้วลง
“หนานจือ หยิบชุดคลุมมาให้ข้า”
นางสั่งเสียงอ่อนโยน
ครู่หนึ่ง หนานจือถือชุดคลุมขอบขนกระต่ายสีขาวสะอาดเดินเข้ามา “คุณหนูจะออกไปไหนหรือเ้าคะ?”
“ไปหาท่านพ่อน่ะ”
ได้ยินนางบอกเช่นนี้ หนานจือจึงช่วยนางผูกชุดคลุม “คุณหนูจะไปหานายท่านโหวหรือเ้าคะ?”
สีหน้าเฉินจิ้งเจียราบเรียบ ส่งเสียงอืมในลำคอตอบกลับเบาๆ
แม้นหนานจือจะสงสัยเต็มประดา แต่ก็รู้ว่าเื่ของเ้านายตนเองไม่ควรถามหาเหตุผลมากเกินไป
หลังจากช่วยเฉินจิ้งเจียผูกชุดคลุมเรียบร้อยก็ถอยออกไปด้านข้าง ก้มหน้าเล็กน้อย มองเห็นเพียงชายกระโปรงกระเพื่อมใต้ชุดคลุมเท่านั้น
เพิ่งสาวเท้าก้าวเข้าเรือนป๋อชางโหว เฉินจิ้งเจียก็ได้ยินเสียงของจ้าวอี๋เหนียง
“ข้าไปไหว้ท่านเ้าอาวาสมาแล้ว พิธีกรรมทุกอย่างล้วนจัดแจงไว้หมดแล้วเ้าค่ะ นอกจากนี้ข้ายังขอร้องให้ท่านเ้าอาวาสสนใจคุณหนูใหญ่เป็พิเศษอีกด้วย หากเกิดเื่อันใดขึ้น ก็เตรียมทำพิธีสวดแก่คุณหนูใหญ่ได้เ้าค่ะ”
เฉินจิ้งเจียตวัดหางตามองอย่างเยือกเย็น พิธีสวดให้นางอันใดกัน นี่มันไล่ผีชัดๆ เลยมิใช่หรือไร
หากแต่คนที่้าไล่ผีออกคือตัวเฉินจิ้งเจียหรือจ้าวอี๋เหนียงกันแน่?
ผู้ที่มีผีมารในใจเป็ใครกันแน่?
“ท่านพ่อ” เฉินจิ้งเจียยิ้มบางให้ดูเหมาะสม เงยหน้ามองบุรุษวัยกลางคนที่นั่งบนเก้าอี้
“เจียเอ๋อร์มีเื่อยากพูดกับท่านพ่อ”
นางเดินเข้ามาสองก้าว ก่อนมองไปยังจ้าวอี๋เหนียงที่ดูไม่กล้ามีปากมีเสียงอยู่ข้างกายป๋อชางโหวเป็การส่งสัญญาณ
ครั้นนางมองเช่นนี้ ป๋อชางโหวจึงมองจ้าวอี๋เหนียงตาม เขายังมิได้ปริปากอันใด จ้าวอี๋เหนียงก็ชิงเอ่ยปากก่อน “คุณหนูใหญ่มีเื่อยากคุยกับนายท่านโหว เช่นนั้นข้าขอตัวไปดูพิธีกรรมของพี่หญิงก่อนว่าเตรียมการถึงไหนแล้ว”
สิ้นเสียงจึงก้มหน้าถอยจากไปด้วยท่าทางอ่อนโยนนอบน้อม
ป๋อชางโหวมองเฉินจิ้งเจีย “เจียเอ๋อร์มีเื่อันใดอยากคุยกับพ่ออย่างนั้นหรือ”
เป็ดั่งที่จ้าวอี๋เหนียงคิด เหล่าคุณหนูทั้งหลายในจวนป๋อชางโหวไม่มีใครเทียบเทียมคุณหนูใหญ่เฉินจิ้งเจียได้ แม้แต่ป๋อชางโหวที่เข้มงวดเสมอมานั้น ยามอยู่ต่อหน้าบุตรสาวก็ยากที่จะเก็บสีหน้าท่าทางอ่อนโยนไว้ได้
“ท่านพ่อ พี่ใหญ่กลับมาแล้วเ้าค่ะ” เฉินจิ้งเจียเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ป๋อชางโหวชะงักงันทันใด ฮูหยินของเขาประสบอุบัติเหตุจนล่วงลับ บุตรชายย่อมกลับมา แล้วมีปัญหาอันใดกัน
เขามองเฉินจิ้งเจียอย่างประหลาดใจ ไม่คอยให้เขาทันอ้าปาก เฉินจิ้งเจียก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ท่านพ่อ เจียเอ๋อร์อายุสิบห้าแล้วเ้าค่ะ”
“พ่อย่อมรู้อายุของเ้า วันเกิดลูกเพิ่งผ่านไปไม่นาน เพียงแต่ที่ลูกพูดเช่นนี้...” เขาเอ่ยถึงตรงนี้พลันหยุดไป
ใช่แล้ว วันนี้แม่ทัพใหญ่จากชายแดนกลับเมืองหลวง น้องสาวคนเดียวของเขาก็อายุย่างสิบห้าปี คงถึงเวลาปักปิ่นแล้ว แล้วคนที่จับตามองมาจากเบื้องบนนั้น แย่แล้ว...
เขานึกอยู่เนิ่นนานกว่าจะเข้าใจเื่ราว ที่แท้บุตรสาวกำลังเตือนตนอยู่นั่นเอง!
ครั้นหันมองเฉินจิ้งเจียอีกที แววตาป๋อชางโหวเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึง “เจียเอ๋อร์ ลูก...”
ช่างเถิด ในเมื่อนางคิดถึงเื่พวกนี้ได้ เช่นนั้นย่อมมีความคิดเกี่ยวกับการแต่งงานของตนอยู่เป็แน่
ป๋อชางโหวหลับตา ก่อนลืมตาแจ่มใสอีกครั้ง “ลูกคิดอย่างไรกับการแต่งงานของลูกหรือ?”
“ลูกอยากแต่งงานกับใครคนหนึ่ง เผยฉางชิง”
ท่าทางของนางแน่วแน่ยิ่ง ทำเอาป๋อชางโหวอดที่จะสนใจเ้าของนามเผยฉางชิงมิได้
“เผยฉางชิงผู้นี้คือใครกัน?” เขานึกถึงบรรดาบุรุษหนุ่มรูปงามทั้งหลายในเมืองหลวงไปรอบหนึ่งแล้ว แต่กลับนึกไม่ออกเสียทีว่าเผยฉางชิงคือใคร
เมื่อนึกถึงแววตาสุขุมไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดคู่นั้นแล้ว เฉินจิ้งเจียจึงค่อยๆ หยักยิ้มมุมปาก “บัณฑิตที่เข้ามาสอบในเมืองหลวงเ้าค่ะ”
“อะไรนะ?”
เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินจิ้งเจีย ป๋อชางโหวลุกพรวดขึ้นทันใดอย่างมิอาจอดทนได้ มือใหญ่ฟาดลงโต๊ะ สั่นะเืจนถ้วยชาบนโต๊ะกระฉอกไปไม่น้อย
“เ้าเป็ถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนป๋อชางโหวของข้า บุรุษรูปงามในเมืองหลวงตั้งมากมายล้วนยอมให้เ้าเลือก แต่ไฉนเ้า ไฉนเ้าถึงไปมองเ้าบัณฑิตนี้แทนเล่า? อ้อ เ้าคนบ้านนอกที่เข้าเมืองมาสอบนั่นหรือ”
ต่อให้ในยามปกติจะรักบุตรสาวอย่างเฉินเจียเอ๋อร์คนนี้เพียงใด แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนางแล้ว ป๋อชางโหวก็มิอาจรั้งโทสะเดือดดาลของตนได้
เฉินจิ้งเจียเองหาได้เกรงกลัว นางเงยหน้ามองป๋อชางโหว “ท่านพ่อ พี่ใหญ่กลับเมืองหลวงแล้ว ยามนี้กองกำลังรอบด้านต้องคิดหาทางล้มพี่ใหญ่แน่ วิธีที่เร็วที่สุดคือไปเป็น้องเขยของเขา”
ประโยคนี้ ถึงนางไม่เอ่ยป๋อชางโหวก็เข้าใจ
เหมือนที่เฉินจิ้งเจียพูด ฝูงชนล้วนมุ่งหมายเอาชนะ ทว่าเบื้องบนผู้นั้นย่อมรู้เื่พวกนี้เป็อย่างดี
การที่เฉินอี้เหอแม่ทัพใหญ่มาจากจวนป๋อชางโหว ก็มีทั้งเื่ดีและไม่ดี
เหมือนที่เฉินจิ้งเจียกล่าวมา ฝูงชนทั้งหลายล้วนมุ่งหมายเอาชนะ หากแต่เบื้องบนผู้นั้นก็รู้เื่พวกนี้อยู่แก่ใจ การแต่งงานของเฉินจิ้งเจียในอนาคตนั้น ไม่แน่ว่าอาจเป็การแต่งเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
“แต่...”
ทว่าเฉินจิ้งเจียเป็ถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนป๋อชางโหว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรแต่งงานกับบัณฑิตต่ำต้อยนั่นอยู่ดี!
เฉินจิ้งเจียผุดยิ้ม “ท่านพ่อ เผยฉางชิงนั้นไม่เลวเลยทีเดียว ท่านพี่เองก็เคยเจอแล้ว แม้สถานะวันนี้ยังต่ำต้อย แต่หากเขาโบยบินขึ้นได้ละก็ ไม่แน่จวนป๋อชางโหวของเราอาจได้เปรียบมากขึ้น”
นางพูดถูก คนรุ่นก่อนและรุ่นหลังของฮองเฮา อันกั๋วโหวในอนาคต รวมถึงพวกที่แก่งแย่งยศถาบรรดาศักดิ์ของไท่จื่อ ย่อมเป็จวนโหวของพวกเขาเองที่ได้เปรียบ
หากแต่ป๋อชางโหวกลับไม่รู้เื่พวกนั้น เขาหน้าดำคร่ำเคร่งถลึงตามองเฉินจิ้งเจีย “เช่นนั้นหากเขาโบยบินได้จริง เขามีอะไรดีถึงโบยบินเหนือคนอื่นท่ามกลางบัณฑิตนับหมื่นพันได้?”
“เจียเอ๋อร์เห็นคุณชายเผยแข็งแกร่งไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด ทั้งยังไม่ชอบประจบประแจง ต้องเป็ผู้หยิ่งทระนงแสนเข้มแข็งแน่นอน ครั้นถามถึงความมั่นใจในการสอบของเขา เขาก็ถ่อมตัวยิ่ง ไม่กล่าวชมตนเอง ไม่น้อยเนื้อต่ำใจในตนเอง จิตใจมุ่งมั่นหนักแน่นเต็มเปี่ยม คนแบบนี้ ต่อให้ครั้งนี้จะสอบไม่ได้ แต่เมื่อถึงเวลาต้องก้าวสู่จุดสูงสุดได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อเห็นเฉินจิ้งเจียเอ่ยถึงเผยฉางชิงเช่นนี้ หัวคิ้วป๋อชางโหวก็ยิ่งขมวดแน่นยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่รู้ว่าบุตรสาวของตนเคยเจอคุณชายผู้นี้ั้แ่เมื่อไร ถึงได้เห็นดีเห็นงามขนาดนี้
“ในเมื่อเ้าชื่นชมเผยฉางชิงเสียขนาดนี้ เช่นนั้นวันหลังให้พี่ใหญ่เ้าพามาเจอสักครา หากไม่เป็ดังที่เ้าว่า เช่นนั้นพ่อจะเป็คนจัดการเื่การแต่งงานของเ้าเอง หากเ้าไม่ชอบก็ช่วยไม่ได้แล้ว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้