ภายในระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ ภาพบนแผ่นเหล็กหายไป จากนั้นจึงตามมาด้วยเสียงของชายชราดังมาจากด้านใน
“ข้าท่องยุทธภพมาทั้งชีวิต ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ข้าคือผู้ไร้เทียมทาน ในเมื่อเ้าปลดผนึกนี้ได้ แสดงว่าเรามีวาสนาต่อกัน ไปเถิด ไปตามหาการสืบทอดที่มากกว่านี้ของข้า ครั้งนี้ข้าจะมอบความประหลาดใจเล็กน้อยแก่เ้าก่อน”
เมื่อพูดจบบนแผ่นเหล็กก็มีลำแสงสีขาวที่สว่างระยิบระยับเป็ประกาย ท่ามกลางแสงสีขาวราวกับว่ามีแรงดูดที่มหาศาล ดูดหลงเหยียนให้เข้าไปในแผ่นเหล็ก
หลงเหยียนมองรอบๆ ตัวจมอยู่กับแสงสีขาว ด้านหน้าคือหินขนาดใหญ่ บนก้อนหินมีตัวหนังสือส่องสว่าง
หลงเหยียนเห็นแล้วก็ตกตะลึง…
“นี่ นี่มันคือวิธีการต่อสู้ ทั้งยังเป็วิชาระดับมายา!” หลงเหยียนตื่นเต้นมาก นึกไม่ถึงว่าแผ่นเหล็กจะช่วยในด้านนี้ได้
หลงเหยียนจำตัวหนังสือบนนั้นไว้ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน แล้วพบว่าตัวเองยังยืนอยู่ที่เดิม
“สิงโตน้อย เมื่อกี้เกิดเื่อะไรขึ้น? เหตุใดข้ารู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในนั้น”
“พี่เหยียน คาดว่ายอดฝีมือท่านนั้นนำประสงค์ของท่าน ดูดเข้าไปในประสงค์ของเขา เป็การประสานจิต แม้จะแข็งแกร่ง ถึงอย่างไรในสายตาสัตว์เทพอย่างข้า มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย”
ราชสีห์หิรัณย์มักพูดอะไรเกินจริงเสมอ หลงเหยียนไม่ถือสามันหรอก เดินเข้าไปอุ้มมันขึ้นมาหอมหนึ่งฟอด
“สิงโตน้อย ขอบคุณนะ เ้าช่วยข้าอีกครั้งแล้ว”
ราชสีห์แสดงสีหน้ารังเกียจ “ถุยๆๆๆๆ ข้าไม่ชอบให้ผู้ชายมาหอมสักหน่อย!”
ได้วิชาการต่อสู้ระดับมายาถูกเวลาเหลือเกิน หากครั้งหน้าหลงเหยียนเจอลั่วเฉิงอีกครั้ง เขาต้องประหลาดใจมากแน่
ราชสีห์หิรัณย์มองท่าทางมีความสุขของหลงเหยียน จึงสุขใจไปด้วย
หลงเหยียนเก็บแผ่นเหล็กไว้ในถุงผ้าเฉียนคุนอีกครั้ง
ในความคิดของเขานั้นนึกย้อนถึงวิชาระดับมายา ‘หมัดทะลวง’
หมัดทะลวงเป็กระบวนวิชาที่น่าพิศวงและล้ำลึก พลังจากวิชาหมัดนี้มีพลังการปะทะที่รุนแรง ความหมายของชื่อนี้มาจากความทะลุทะลวง และการทลายสิ้นของพลังหมัด วิชาหมัดนี้แยกออกเป็สิบเอ็ดวิชา และพลังแต่ละระดับก็แตกต่างกันออกไป บางกระบวนท่าเป็การส่งพลังออกไปในแนวรุนแรง ทว่าบางกระบวนท่าก็ออกไปในลักษณะที่อ่อนโยน บ้างเป็ความแข็งแกร่งที่ซ่อนภายใต้ความอ่อนโยน บ้างก็เป็ความอ่อนโยนที่ซ่อนภายในใต้แข็งแกร่ง บ้างก็เป็การโจมตีในแนวตรง แนวเฉียง หรือเป็หมัดเสย
พลังหมัดนี้ การควบคุมพลังปราณเป็สิ่งที่สำคัญมาก ในการต่อสู้กับศัตรูนั้นจำเป็ต้องขับเคลื่อนลมปราณให้รวดเร็วเท่ากับการเปลี่ยนกระบวนท่า หากทำข้อนี้สำเร็จ ต่อให้ศัตรูรับการโจมตีแรกได้ ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางเลยที่เขาจะรับการโจมตีที่สองได้ เพราะมันคือการโจมตีที่ต่อเนื่องและรุนแรง
ทว่าหากศัตรูรับการโจมตีที่สองได้ เช่นนั้น หมัดที่สามคงต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงให้รวดเร็ว หากฝึกข้อนี้สำเร็จแล้ว มีหรือที่ศัตรูจะรับกระบวนท่าที่รวดเร็วนี้ได้
จากนั้นหลงเหยียนก็นั่งขัดสมาธิลง ราชสีห์เฝ้าอยู่ด้านข้าง ในหุบเขาผีเสื้อไม่มีคนนอก เหมาะแก่การฝึกวิชาที่สุด
กระบวนท่าในการฝึกหมัดทะลวงต้องใช้ทักษะที่ว่องไว จำเป็ต้องมีพลังปราณที่แข็งแกร่งหนุนถึงจะฝึกสำเร็จ
ไม่เช่นนั้น พลังจากหมัดทะลวงอาจกลืนผู้ใช้ ทำลายภายในร่างกาย ทำให้อวัยวะภายในปั่นป่วน
ปรับพลังหยินและหยางกับธาตุทั้งห้าในร่างกาย หัวใจคือตัวแทนของธาตุไฟ ปอดคือธาตุทอง ไตคือธาตุน้ำ ม้ามคือธาตุดิน และตับคือธาตุไม้ เมื่อขับเคลื่อนธาตุทั้งห้าแล้ว ค่อยปรับการไหลเวียนของพลังปราณ
ไม่นานหลงเหยียนก็จมอยู่กับการทำความเข้าใจวิชาหมัดทะลวง
เวลาผ่านไปเร็วนัก เขาฝึกวิชาการต่อสู้หนึ่งคืนโดยที่ไม่รู้ตัว หลงเหยียนลืมตาขึ้น ััการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในร่างกาย ออกแรงที่ฝ่ามือ เขาััได้ถึงพละกำลังที่หนาแน่นขึ้นแล้ว คล้ายสามารถหลอมละลายทุกสรรพสิ่งในใต้หล้า
“หมัดทะลวง! แหวกฟ้าถล่มธรณี ขับเคลื่อนสายธารดารา”
หลงหยียนชกออกไปยังต้นไม้ขนาดใหญ่เท่าลำตัวที่ไกลออกไป
เมื่อหมัดส่งออกไป หลงเหยียนถอยหลังออกไปไกลนับสิบเมตร
ราชสีห์หิรัณย์หัวเราะหยอกพร้อมเอ่ยว่า “ดูสิ หมัดทะลวงของท่านไม่มีผลต่อต้นไม้ คาดว่าท่านคงฝึกไม่สำเร็จกระมัง ทุกหมัดแข็งแกร่งและทรงพลัง ทว่าเมื่อชกลงบนต้นไม้ ต้นไม้กลับไม่สั่นะเื?”
เมื่อราชสีห์หิรัณย์พูดจบ โครม… ต้นไม้ะเิทั้งต้น เศษและชิ้นส่วนของต้นไม้ลอยกระจุยกระจาย ครั้งนี้ราชสีห์หิรัณย์อ้าปากค้าง ไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
หลงเหยียนหัวเราะเย้ย “เป็อย่างไร ใแล้วกระมัง เพียงไม่กี่หมัดของข้าคงทำลายเส้นแขนงในตัวต้นไม้หมดแล้วละ หากเป็คนคงพิกลพิการไปแล้ว…”
หลงเหยียนฝึกวิชาหมัดทะลวงขั้นแรกสำเร็จ ทั้งคู่กลับกระท่อมในป่า
“สิงโตน้อย หมัดทะลวงนี้แบ่งออกเป็วิชาสิบเอ็ดหมัด ระหว่างนั้นยังแบ่งออกเป็สอง่ หมัดที่หนึ่งถึงห้าอยู่ใน่แรก ส่วนหมัดที่หกถึงสิบเอ็ดอยู่ใน่สอง ข้าแค่ใช้ห้าหมัดแรกก็คงทำให้คนพิกลพิการได้แล้วกระมัง กระบวนท่าซับซ้อนและประหลาด ถือเป็วิชาการทำลายอวัยวะภายในของคน”
หลงเหยียนอารมณ์ดียิ่ง กลับถึงกระท่อม เขาก็พบนักหลอมยาและเซียวอวี่เอ๋อ ก่อนกล่าวคำอำลา สามวันที่ผ่านมา พวกเขาทั้งสองต้องลำบากให้ความช่วยเหลือ
ก่อนจากไป เสี่ยวอวี่กอดหลงเหยียนแน่น พูดข้างหูหลงเหยียนอย่างสนิทสนม “พี่เหยียน ท่านยังจะกลับมาหาข้าและท่านปู่จริงหรือ?”
หลงเหยียนลูบผมสีดำเงาของนางพร้อมพยักหน้าแรงๆ
แล้วพวกเขาก็กล่าวคำอำอา
อาการาเ็ของฉินเซียนดีขึ้นสามในสิบส่วน ตอนนี้ไม่มีทางเลือกอื่น คงต้องให้ฉินเซียนอยู่ในหุบเขาผีเสื้อไปก่อน
“พี่เหยียน รออาการาเ็ข้าหายเมื่อไร ข้าจะพาเสี่ยวอวี่ไปหาท่านที่ตระกูลอู่ตี้ในเมืองหยุนจง”
หลงเหยียนโบกมือลาให้คนด้านหลัง…
ในความคิดของเขายังคงทำความรู้จักกับวิชาหมัดทะลวงไม่หยุด แน่นอนว่าวิชาระดับมายานี้แข็งแกร่งมากกว่าหมัดสายฟ้าแปดทิศและหมัดสะท้านปฐีที่เป็วิชาต่อสู้ระดับสีทองคำมาก อย่างน้อยก็ทำให้หลงเหยียนััได้ว่าหมัดทะลวง แหวกฟ้าถล่มธรณี ขับเคลื่อนสายธารดารา สองความสามารถนี้แกร่งมากกว่าวิชาเก้าิญญาของลั่วเฉิงเสียอีก
คาดว่าวิชาเก้าิญญาคงเป็วิชาการต่อสู้ระดับมายาเริ่มแรกเท่านั้น ส่วนวิชาหมัดทะลวงเป็วิชาระดับมายาขั้นกลาง ทว่าเมื่ออยู่ในมือหลงเหยียน อิทธิฤทธิ์ของมันสามารถเทียบเท่าระดับมายาขั้นสูงเลยทีเดียว
“สิงโตน้อย เ้าว่าผู้าุโที่ทิ้งการสืบทอดนี้ไว้มีพลังระดับใดกันหรือ เหตุใดถึงรู้สึกเหมือนวิชาหมัดทะลวงและแผ่นเหล็กนั้นไม่มีค่าในสายตาเขาเลย เหมือนเป็ของที่ถูกทิ้งไม่มีผิด”
“พี่ใหญ่ ในตอนที่ยังอยู่ เขาต้องเป็ยอดฝีมือระดับสูงสุดของเผ่ามนุษย์อย่างพวกท่านแน่ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวตนของเขาสูงส่งจนยอดฝีมือในเมืองหยุนจงยังต้องแหงนมอง ข้าเดาว่าการสืบทอดของเขาต้องถูกเก็บไว้ที่อื่นแน่ เช่นนั้น อีกไม่นานคำตอบก็จะปรากฏ”
“จริงหรือ?”
หลงเหยียนนึกถึงตระกูลอู่ตี้ ร่างกายเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น ตอนนี้ ความ้าเดียวของเขาคือความแข็งแกร่งที่เพิ่มมากขึ้น
ร่องรอยของผู้าุโท่านนั้นก็กลายเป็เป้าหมายหลักของหลงเหยียนเช่นกัน มันเกี่ยวข้องไปถึงความลับของกระบี่สังหารั ทว่านึกอย่างไรหลงเหยียนก็ไม่เข้าใจ โดยเฉพาะิญญาัที่ซ่อนอยู่ในตัวกระบี่ ใครคือผู้ผนึกิญญาัไว้ในนั้น
ถึงกระนั้น ตอนนี้หลงเหยียนได้วิชาทะลวงมาแล้ว จึงทำให้เขาอดประกายรอยยิ้มที่มุมปากไม่ได้
“รอข้าฝึกวิชาหมัดทะลวงสำเร็จจริงๆ เมื่อไร ลั่วเฉิงต้องใมากแน่ ข้าต้องสร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างต่อเนื่อง จนถึงสุดท้ายที่เ้ารู้สึกได้ว่าการที่มีเื่กับข้านั้นน่ากลัวเพียงใด ให้เ้าได้รู้ว่าข้านี่ละคือมารร้ายตัวจริง”
หยกัที่อยู่ในร่างกายหลงเหยียนสั่นหลายครั้ง เป็การแสดงถึงการรับรู้ของมัน หลงเหยียนรู้ว่าเมื่อไปถึงเมืองหยุนจง เขาต้องพบิญญาัที่มากกว่าเดิม ทำให้ระยะเวลาการเติบโตทางด้านความแข็งแกร่งของเขารวดเร็วไม่น้อยไปกว่าตอนอยู่เมืองัแน่นอน
กายธาตุพลังรวมกับพลังโลหิต ตอนนี้ยังได้วิชาหมัดทะลวง ทั้งหมดนี้เป็ดั่งท่าไม้ตายของหลงเหยียน อีกทั้งตอนนี้เขายังสามารถปล่อยพลังจิตออกไปในรัศมียี่สิบลี้ ทำให้ตรวจเช็กทุกการเคลื่อนไหวได้อย่างดี
พลังจิตที่แกร่งกล้ามากกว่าคน และความสามารถในการดูดพลังิญญาของหลงเหยียน ล้วนมาจากิญญาัที่แข็งแกร่งทั้งนั้น
สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้หลงเหยียนเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่หลงเหยียนนึกถึงสำนักมาร ความรู้สึกคล้ายตนเองเป็ผู้ไร้กำลังก็ยังเต็มเปี่ยมในใจ!
--------------------