ซุนเฟยหันไปมองตามเสียง
ใต้ต้นเคยากิด้านขวามือของซุนเฟย มีร่างผอมๆ ของเด็กผู้หญิงที่มีผมสีแดงเข้มเหมือนเปลวไฟที่ลุกโชน กำลังกอดผู้ชายคนหนึ่งแล้วร้องไห้โฮออกมา
ซุนเฟยมองอย่างละเอียดอีกรอบ คนที่เด็กคนนั้นกอดไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเพียร์ซ ชายผมขาวที่ได้รับาเ็สาหัสนั่นเอง
บรู๊ค ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง กำลังปลอบเด็กสาวคนนั้นไม่หยุดด้วยสีหน้าเป็กังวล
“ฝ่าา!”
เมื่อเห็นซุนเฟยเดินเข้ามา บรู๊คก็ร้องเรียกออกมาอย่างดีใจและรีบลุกขึ้นมา “ฝ่าา ท่านมีวิธีรักษาไหมขอรับ?”
เขามองมาที่ซุนเฟยอย่างกระวนกระวาย เพราะเขากลัวว่าซุนเฟยจะส่ายหน้าแล้วบอกข่าวร้ายให้เขาผิดหวัง อาการาเ็ของเพียร์ซหนักขนาดนี้ แค่พยายามทนมาได้ถึงตอนนี้ก็ถือว่าถึงขีดจำกัดแล้ว เกรงว่าแม้แต่สิบนาทีก็คงทนต่อไปไม่ไหว
ซุนเฟยมองบรู๊ค ชายชราที่แสนซื่อตรงที่กำลังกระวนกระวายจนเป็แบบนี้แล้วจงใจหยอกล้อเขา
ด้วยการไม่ตอบคำถามของบรู๊ค แต่กลับชี้ไปที่เด็กสาวผมแดงตัวน้อยนี้ “นางคือ...”
“หลุยส์ นางเป็ลูกสาวของเพียร์ซ” บรู๊คระงับความความหงุดหงิดในใจแล้วแนะนำให้ซุนเฟยรู้จัก
ซุนเฟยพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ก่อนหน้านี้ตอนที่เพียร์ซาเ็สาหัสในใจยังคงนึกเป็ห่วงหลุยส์ลูกสาววัยสิบสองปีของตัวเอง ซึ่งก็คือเด็กสาวผมแดงตรงหน้าคนนี้นี่เอง
เด็กสาวไม่เหมือนกับเพียร์สชายผมขาวจอมมุทะลุคนนี้เลยเลย รูปร่างหน้าตาของหลุยส์ดูอ่อนหวานน่ารัก ดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาทำให้คนที่ใจแข็งเป็หินต้องอ่อนยวบยาบ นับว่าเป็นางฟ้าตัวน้อยๆ นางหนึ่งเลยทีเดียว ผมสีแดงสดเหมือนเปลวไฟหาได้ยากยิ่ง มันสามารถดึงดูดสายตาผู้คนได้ดี นี่ทำให้ซุนเฟยนึกถึงแม่มดน้อยเฮอร์ไมโอนี่ที่แสนฉลาดคนนั้นในเื่ 'แฮร์รี่ พอตเตอร์' ของนักเขียนชาวอังกฤษ เจ.เค.โรว์ลิง
ซุนเฟยกวาดสายตามองอย่างรวดเร็ว สาวน้อยวัยสิบสองปีนางนี้กลับให้ความรู้สึกเยือกเย็นอย่างมาก...อาจพูดได้ว่ามันเป็ความเยือกเย็นที่มีเสน่ห์และยังมีท่าทางเหมือนผู้ใหญ่เล็กน้อย ซึ่งท่าทางแบบนี้มันไม่เหมาะกับเด็กที่อายุแค่สิบสองปี
“ท่านเป็คนที่ท่านลุงบรู๊คบอกว่าจะช่วยท่านพ่อใช่ไหม?”
เมื่อสังเกตเห็นคนเดินเข้ามา หลุยส์ก็เงยหน้าขึ้นมาจากการร้องไห้ ยังคงมีหยาดน้ำตาเกาะอยู่ตรงหางตา เห็นได้ชัดว่าเธอเศร้ามากแค่ไหน แต่กลับใช้น้ำเสียงและท่าทางที่ไม่สมกับอายุ เธอพูดด้วยน้ำเสียงเ็า “หากท่านสามารถช่วยท่านพ่อข้าได้ หลุยส์ยินดีที่จะเป็คนรักของท่าน”
ซุนเฟยมึน
มึนงง
ยิ่งกว่ามึน
ฮะ เด็กผู้หญิงอายุสิบสองปีในโลกแปลกๆ ใบนี้แก่แดดขนาดนี้เลยเหรอ? ...คนรักเหรอ? เด็กน้อยที่ไม่รู้ตาสีตาสา รู้หรือว่าคนรักคืออะไร? ความรักคืออะไร? เ้าเพิ่งอายุเท่าไรเอง? รอเ้าโตถึงตอนนั้นข้าคง...
หน้าผากซุนเฟยปรากฏรอยย่นสีดำพาดผ่านจากการขมวดคิ้ว
เขารู้สึกว่าเด็กน้อยคนนี้ช่างกลัวเสียจริง น่ากลัวกว่าการที่ต้องเผชิญหน้ากับบอสในโลก Diablo
ซุนเฟยคุกเข่าลง หยิบขวดนั้น 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' ออกมา แล้วค่อยๆ หยดน้ำยาหนึ่งหยดออกมาอย่างระมัดระวัง ให้หล่นเข้าไปในปากของเพียร์ซที่กำลังหอบหายใจและไม่มีสติจากอาการาเ็
สำเร็จหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้กัน!
ซุนเฟยพลันสีหน้าพลันเครียด
สาวน้อยผมแดงและบรู๊คที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับเครียดยิ่งกว่า
ทั้งสามคนจ้องมองปฏิกิริยาตอบสนองของเพียร์ซ หัวใจของทั้งสามคนเต้นตึกๆ จนแทบกระเด็นขึ้นมาที่คอ กลัวสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
เวลาผ่านไปอย่างเงียบๆ ความเชื่องช้าราวกับพิษร้ายที่ไร้เสียง กัดกร่อนหัวใจคน
ลมหายใจของเพียร์ซที่เบาบางก็พลันเริ่มเร็วขึ้นจนสังเกตเห็นได้ชัดเจน ใบหน้าที่ซีดขาวไร้เืก็เริ่มแดงฝาด าแบนร่างก็ค่อยๆ สมานกันอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความรวดเร็ว
บรู๊คและหลุยส์ ทั้งสองคนเห็นดังนั้นก็พากันตะลึงจนอ้าปากค้าง ดวงตาพลันสั่นระริก
แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าของเหลวสีแดงๆ ที่องค์าาอเล็กซานเดอร์หยดเข้าไปในปากเพียร์ซมันคืออะไร แต่มันก็เห็นได้ชัดเจนว่าผลของการรักษาด้วยของเหลวนั้นเหนือกว่าที่พวกเขาคาดคิด
พระเ้า ไม่น่าเชื่อ นี่เป็เื่เขย่าขวัญผู้คนเกินไป มันน่าทึ่งมาก! เหนือกว่าการรักษาของนักบวชระดับสูงของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เสียอีก
ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วกันไปมองซุนเฟยอีกรอบ ในดวงตานั้นราวกับมองเห็นพระเ้าลงมาจุติบนโลกมนุษย์ก็ไม่ปาน และซุนเฟยเองก็ถูกพลังการรักษาของ 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' ทำให้ตกตะลึงเช่นกัน
เขาคาดไม่ถึงว่าน้ำยารักษาเพียงหยดเดียว ผลของมันจะน่าตื่นตะลึงแบบนี้ แทบจะเหมือนฉากสยองขวัญแบบชุบชีวิตคนตายในนวนิยายเื่จอมยุทธ์ปีศาจ เห็นได้ชัดว่า แค่เท 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' ขวดเล็กๆ ขวดนี้ เพียร์ซที่อาการาเ็สาหัสก็แทบจะลุกขึ้นมาได้ทันที
ผลของมันช่างน่ากลัวยิ่ง ซุนเฟยตั้งใจจะทำตามที่ตนเคยวางแผนไว้
ซุนเฟยพิจารณาอาการของเพียร์ซอย่างละเอียดก็พบว่าหลังจากที่หยดน้ำยารักษาเข้าไปในปาก หลังจากที่าแบนร่างของเพียร์ซสมานตัวกันแล้ว ลมหายใจจะค่อยๆ กลับมาหายใจอย่างราบรื่น ใบหน้าจะเริ่มแดงขึ้นมาแต่ยังคงไม่ได้สติ
“นี่คงจะเป็ขีดจำกัดการรักษาของน้ำยาเพียงหยดเดียว”
ในใจของซุนเฟยเริ่มจับจุดภาพรวมได้คร่าวๆ เขาจึงหยดน้ำยาอีกหยดเข้าไปในปากเพียร์ซ
ทันทีที่น้ำยาเข้าสู่ร่างกาย ชายผมขาวที่สลบมาตลอดก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา
เขาครวญครางออกมา หลังจากนั้นสติของเขาก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมาอย่างช้าๆ เพียร์ซลืมตาขึ้นมองคนทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในดวงตาก็ปรากฏความสงสัย เขาส่ายหน้า พยายามนึกถึงเื่ราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตนเอง เพียร์ซยังคงงงงวยจับต้นชนปลายไม่ถูก เขาจำได้เพียงว่า เดิมทีตัวเองใกล้จะตายแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมความทรมานตรงไขกระดูกหายไป แม้แต่จังหวะการหายใจก็ไม่ลำบากหรือติดขัดอะไร...
“เกิดอะไรขึ้น? ข้า...”
ในที่สุด ดูเหมือนว่าเพียร์ซจะเริ่มเปิดปากพูดออกมา บรู๊คเห็นเช่นนั้นก็พลันโล่งใจ
หลุยส์กระโจนเข้าไปสู่อ้อมกอดของบิดาด้วยความดีใจ ในที่สุดเด็กสาวอายุสิบสองปีก็ได้ความรู้สึกปลอดภัยและความสุขกลับคืนมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผมสีแดงของนางเหมือนเปลวไฟ พัดปลิวตามสายลม “ท่านพ่อ ท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว...ดีจริงๆ...ขอบคุณพระเ้า...องค์าาช่วยท่านไว้...”
หลังจากที่พูดจบ เด็กสาวก็ร้องไห้ออกมาอย่างดีใจ แม้แต่พูดยังไม่เป็พูดประโยคเลย
ความรู้สึกหวาดกลัวที่จะสูญเสียครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตัวเองไป ได้ทิ้งรอยร่องรอยความหวาดกลัวอย่างลึกซึ้งในิญญาของสาวน้อยคนนี้ นางไม่อยากรู้สึกแบบนี้อีกครั้งแล้ว
แต่เพียร์ซดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ลูกสาวพูด
ยามที่ต้องเผชิญหน้ากับคมดาบของศัตรู ชายผู้กล้าหาญคนนี้ไม่เคยเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย เพียร์ซไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ทำได้เพียงโอบกอดลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองแน่นขึ้น เมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกความกลัวและความดีใจของลูกสาว วีรบุรุษผู้กล้าหาญค่อยๆ หลั่งน้ำตาออกมาอย่างช้าๆ...
หลังซุนเฟยเห็นสองพ่อลูกโผเข้ากอดกันหลังพ้นจากความตาย เขาก็หัวเราะอย่างยินดี
เขาเดินออกไปเงียบๆ ไม่รบกวนความบรรยากาศความรักพ่อลูกของหลุยส์กับเพียร์ซ
'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' เพียงสองหยด ก็สามารถช่วยเพียร์ซที่ได้รับาเ็ปางตายมาจากมือของยมทูตได้ ทำให้ซุนเฟยเข้าใจว่าน้ำยาชีวิตในโลกแห่งความเป็จริงกับในโลกของโลก Diablo ก็มีผลลัพธ์ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก
นี่ทำให้ซุนเฟยมั่นใจมากขึ้นกับแผนการที่จะดำเนินต่อจากนี้
“อเล็กซานเดอร์ หม้อและน้ำสะอาดเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
เจ็มม่า สาวน้อยผมทองะโบอกซุนเฟยมาจากไกลๆ ในมือของแองเจล่าและเจ็มม่าต่างถือหม้อที่ใส่น้ำสะอาดเดินออกมาจากด้านหลังของพระราชวังอย่างรีบร้อน
ซุนเฟยเดินไปรับหม้อแล้วหันไปสั่งให้บรู๊คหาโต๊ะมาให้ตัวหนึ่งแล้วก็วางหม้อนั้นไว้บนโต๊ะ...
แองเจล่า เจ็มม่าและคนอื่นๆ ต่างไม่รู้ว่าอเล็กซานเดอร์้าจะทำอะไรจึงพากันมองเขาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“การแสดงเริ่มขึ้นแล้ว!”
ซุนเฟยคิดในใจอย่างมีความสุข
ทุกคนเห็นเขาเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านหน้าของโต๊ะ สองมือพนมตรงอกก่อนจะหลับตาลงแล้วปากก็ท่องพึมพำอะไรบางอย่าง ทุกคนต่างไม่เคยได้ยินภาษาที่ดูศักดิ์สิทธิ์อะไรแบบนี้มาก่อน ท่าทางของเขาดูจริงจังและเคร่งขรึมมาก ราวกับว่าเขากำลังสวดอธิษฐานกับพระเ้า...
แม้จะไม่รู้ว่าองค์าาพูดอะไร แต่ท่าทางที่ดูน่าเคารพศรัทธานั่นกลับทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกเชื่ออย่างสุดหัวใจ แองเจล่าดึงสาวน้อยผมทองเจ็มม่าให้คุกเข่าลง ตามด้วยเหล่าทหารที่ได้รับาเ็และบรู๊ค จากนั้นเหล่าหญิงสาวที่ดูแลทหารก็พากันคุกเข่าลงตาม
ซุนเฟยได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นด้านหลังทั้งหมด
เขาแอบปรายตามองเล็กน้อย พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองและทำการแสดงของเขาต่อไป
ดังนั้นเขาเลยเริ่มพูดภาษาโลกก่อนแบบมั่วๆ ออกมา “ข้าเป็ต้นหอมสีเขียว ยืนโด่เด่อยู่ท่ามกลางสายฝน ใครก็ไม่รู้ดึงข้ามาจิ้มกับซอส ขอให้ติดคอซะ ไอ้พวกโง่...ฮึๆๆ พวกเขาไม่มีทางรู้หรอกว่าข้าพูดอะไร ฟังไม่ออกซักคน...ไม่ได้การล่ะ ข้าต้องแสดงจริงจังกว่านี้หน่อย!”
เขากล่าวซ้ำหลายครั้ง จนชักจะรู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาบ้างแล้วซุนเฟยจึงลุกขึ้นยืน
ผู้คนด้านที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังก็พากันลุกขึ้นยืนตาม พวกเขาต่างพากันมองซุนเฟยอย่างงงๆ
ชิ้ง!
ทันใดนั้น ซุนเฟยก็ดึงดาบข้างเอวของบรู๊คออกมาแล้วมากรีดที่มือของตัวเอง
เืก็พลันไหลออกมา
ซุนเฟยยื่นมือออกมาให้เืหยดลงไปในน้ำสะอาดในหม้อบนโต๊ะทั้งสองอัน
“อเล็กซานเดอร์ ท่าน...”
แองเจล่าเห็นฉากนั้นก็ทนไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างใ
ซุนเฟยหันไปมองสาวงามที่กำลังไม่สบายใจจึงยิ้มกว้าง ให้เธอวางไว้
เขาใช้ประโยชน์จากหมุนตัวเอาร่างกายบังสายตาทุกคนจึงไม่มีใครเห็นว่า ตัวเขาเปิดฝาขวด 'น้ำยารักษาชีวิตขวดเล็ก' อย่างเงียบๆ แล้วผสมน้ำยารักษาชีวิตเข้ากับเืบนมือ เทลงไปมากกว่าครึ่งขวด
“พระเ้าผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าทหารผู้กล้าหาญของข้า พวกเขา้าความช่วยเหลือ ด้วยคำอธิษฐานภาวนาของข้า ในที่สุดพระเ้าก็ยินดีที่จะช่วยพวกเรา พระองค์ได้มอบพลังเข้าสู่ร่างของข้า เพียงดื่มเืที่มีพลังพระเ้าไหลเวียนอยู่ในนั้น ไม่ว่าอาการาเ็มากเพียงใดก็สามารถรักษาหายได้ทันที...”
ซุนเฟยพูดมั่วๆ ดวงตาฉายแววจริงจัง ขณะที่ปากพล่ามเื่ไร้สาระอย่างไม่มีความละอายเลยสักนิด
เพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา เขาจึงหันหลังจุ่มมือที่มีแผลของตัวเองลงในน้ำทิ้งค้างไว้เพียง 1-2 วินาทีแล้วค่อยดึงออกมา ด้วยพลังของน้ำยารักษาชีวิตที่เจือจางในน้ำสะอาด ทำให้แผลบนมือของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้แค่รอยขีดแดงๆ เท่านั้น
ว้าว!
ได้เห็นฉากที่ไม่น่าเชื่อแบบนี้ ผู้คนก็เริ่มไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้