บทที่ 68 มีคุณธรรม
"พระแม่มารีย์ องค์เยซูคริสต์ อมิตตาพุทธ พระเ้าเดมาเซีย..."
เย่จื่อเฉินนั่งอยู่ในรถพร้อมกับประสานมือไว้ตรงอก ปากพึมพำเหมือนกำลังสวดภาวนาอยู่
เสียงปืนดังขึ้นไม่หยุด
เมื่อไม่ได้ยินเสียงปืน เสียงอธิษฐานของเย่จื่อเฉินก็ดังขึ้นอีกเท่าตัว
พระเ้า ทำไมถึงได้โชคดีขนาดนี้ จะตามผู้หญิงบ๊องคนนั้นมาที่นี่ทำไม
ถ้ารู้ว่าจะมีการดวลปืนเกิดขึ้น สู้ไม่ให้รถกับเธอก็สิ้นเื่
ที่ทำให้หมดคำจะพูดยิ่งกว่านั้นก็คือ ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะหนีไปเลยก็ยังได้ แต่คุณธรรมในใจเป็ตัวที่ทำให้เขาเลือกที่จะอยู่
"เย่จื่อเฉิน ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่รอดแล้ว รีบขับรถหนีก่อนเถอะ"
หลิวฉิงม้วนตัวเข้ามาทางช่องแคบของหน้าต่างรถ เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วพูด
"เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?"
"รีบขับรถหนีเถอะ"
"ไม่ใช่ ประโยคก่อนหน้านี้"
"ฉันบอกว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่รอดแล้ว" ใบหน้าเล็กของหลิวฉิงเต็มไปด้วยความตึงเครียด แล้วพูดขึ้น "เหมือนเธอกำลังต่อสู้กับองค์กรอะไรสักอย่าง แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนเยอะมาก เธอยิงปืนแม่นก็จริงแต่ก็หัวเดียวกระเทียมลีบ ฉันว่าอีกไม่นานเธอต้องจบเห่แน่!"
หลิวฉิงเพิ่งพูดจบ เย่จื่อเฉินก็ะโลงจากรถทันที หลิวฉิงส่งเสียงะโไล่หลังเขา
"นายจะทำอะไร!"
"พูดมาก ช่วยคนไง"
"นายบ้าไปแล้วเหรอ คนพวกนั้นมันมีปืนนะ"
หลิวฉิงะโ เย่จื่อเฉินสูดลมหายใจเข้าปอดหลายครั้ง แล้วยกสองมือขึ้นมาประสานตรงอกสวดภาวนาอีกครั้ง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ
"ฉันไม่สนหรอกว่าพวกมันจะมีปืนหรือไม่มีปืน ต้องช่วยชีวิตคนก่อน พาฉันไปหน่อย"
มองดูริมฝีปากที่ซีดขาวของเย่จื่อเฉิน ตอนที่เขาพูดเสียงก็สั่นด้วยเล็กน้อย
ดูออกเลยว่าในใจเขาก็กลัวมากเหมือนกัน
แต่เขากลับยังเลือกที่จะไปช่วยชีวิตคนไว้
ถ้าเป็คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ แต่หลิวฉิงนั้นเข้าใจได้ในทันทีเขาก็เป็คนแบบนี้แหละ
เย่จื่อเฉินซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าด้วยอาการสั่นเทา ก่อนจะค่อยๆ หมอบคลานไปข้างหน้าทีละนิด ส่วนหลิวฉิงก็ลอยอยู่กลางอากาศเพื่อนำทางให้เขา
ปัง! ปัง!
ตึกตึกตึก...
เวรเอ๊ย!
พอได้ยินเสียงปืนดังขึ้นใกล้หู เย่จื่อเฉินก็แทบฉี่ราดกางเกง
เพียะ!
ยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองไปหนึ่งที เย่จื่อเฉินให้กำลังใจตัวเอง
เย่จื่อเฉิน นายเป็ผู้ชายนะอย่ากลัวสิ
สวดภาวนาพลางเตือนตัวเองอยู่ในใจ แล้วเย่จื่อเฉินก็แหวกพงหญ้ารกครึ้มไป
แต่เมื่อโผล่หัวออกไปนอกพงหญ้า...
ปัง! ปัง! ปัง!...
แม่เ้า ตื่นตาตื่นใจจริงๆ
ผู้ชายเจ็ดคนที่ในมือถือปืนกลไว้ยืนกวาดตามองบริเวณโดยรอบอยู่ไม่ไกล ข้างกายพวกเขามีคนล้มไปสามคนแล้ว
สายตามองไปทางด้านข้างเล็กน้อย เย่จื่อเฉินเห็นร่างของตำรวจหลินอยู่หลังกำแพงในจุดหนึ่ง
"นายมาได้ยังไง?"
ร่างของตำรวจหลินทรงตัวไม่อยู่แล้ว ตอนที่เย่จื่อเฉินโผล่มาอยู่ข้างกายเธอ ร่างของเธอก็กำลังนอนจมอยู่ในกองเื
"ผมก็มาช่วยคุณไง"
เย่จื่อเฉินถลึงตาใส่เธอ ทันใดนั้นหลิวฉิงก็กรีดร้องขึ้นมาเสียงดัง
"เย่จื่อเฉิน มีมือสไนเปอร์"
"อะไรนะ?"
เย่จื่อเฉินอึ้งไป เขาก็ไม่รู้ว่าลูกะุจะมาจากทางไหน ไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เขากอดตำรวจหลินไว้กับอกโดยอัตโนมัติ
อึก
เสียงร้องดังออกมาจากปากของเย่จื่อเฉิน
"เย่จื่อเฉิน!"
หลิวฉิงกรีดร้องเสียงหลง
รู้สึกถึงความเจ็บที่ไหล่ เย่จื่อเฉินอดที่จะยิ้มอย่างเ็ปไม่ได้
กายล้อมเพชรนี้ไม่สามารถกันอาวุธที่เป็ความร้อนได้จริงๆ ด้วย
ลูกะุเจาะเข้าตรงตำแหน่งสะบักไหล่ของเย่จื่อเฉินพอดี เขาข่มความเ็ปบริเวณไหล่เอาไว้ อุ้มร่างของตำรวจหลินขึ้นมาก่อนจะวิ่งออกไป
"หลิวฉิง"
"ฉันรู้แล้ว"
ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมานาน จึงเกิดเป็ความเข้าใจกันไปโดยปริยาย
เย่จื่อเฉินวิ่งฝ่าไปในพงหญ้านั้น ิญญาผีสาวหลิวฉิงก็ลอยเข้าไปใกล้นักเลงกลุ่มนั้น ก่อนจะเริ่มก่อความวุ่นวาย
ปัง! ปัง! ปัง!...
ปืนกลยิงออกไปอย่างมั่วซั่ว ศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของเย่จื่อเฉินก็ะเิออกมาใน่เวลาวิกฤติเช่นกัน เขาออกวิ่งด้วยความเร็วหนึ่งร้อยเมตรต่อสิบวินาที โดยที่แบกร่างหนึ่งเอาไว้
ปึง!
ปิดประตูรถลง ตำรวจหลินเสียเืมากเกินไปจนทั้งร่างซีดขาวเหมือนคนเป็โรค
มองดูอาการของเธอที่หายใจรวยริน เย่จื่อเฉินมองค้อนพร้อมกับก่นด่า
"นับว่าคุณยังโชคดีนะ"
กดเปิดหีบสมบัติในวีแชท เย่จื่อเฉินโยนยาวิเศษเม็ดสุดท้ายใส่ปากเธอ
และในเวลาเดียวกัน หลิวฉิงก็ลอยเข้ามาจากข้างนอก เพิ่งเข้ามาได้เธอก็ะโลั่น
"รีบหนีเร็ว พวกนั้นมันตามมาแล้ว"
พอหันไปมอง เย่จื่อเฉินก็เห็นว่ามีพวกนักเลงโผล่หัวออกมาจากพงหญ้า พอหันมาเห็นรถของเขาก็สาดะุใส่ทันที
ข้างหน้ารถเขาก็มีนักเลงอีกหลายคนโผล่มาขวางทางเอาไว้
แม่เ้า!
สู้ตาย!
ปัง! ปัง! ปัง!
ลูกะุทะลุกระจกนิรภัยจนเป็รูโหว่ สองมือของเย่จื่อเฉินจับพวงมาลัยแน่น
เย่จื่อเฉินเหยียบคันเร่งมิดไมล์ ก้มหน้าลงแล้วก็ขับฝ่านักเลงกลุ่มนั้นออกไปทันที
โรงพยาบาลประจำเมืองแห่งแรก
เย่จื่อเฉินอุ้มร่างตำรวจหลินที่หายใจรวยรินไว้ในอ้อมกอดของเขา โดยที่ไหล่โชกไปด้วยเื
"หมอ ช่วยด้วย"
ทีมพยาบาลของทางโรงพยาบาลรีบส่งตัวตำรวจหลินเข้าห้องฉุกเฉิน เหลือพยาบาลหนึ่งคนขมวดคิ้วมุ่นเอ่ยถาม
"ทำไมถึงโดนยิงคะ"
"ผู้หญิงคนนั้นเป็หัวหน้าตำรวจทีมอาชญากรรมครับ ชื่อตำรวจหลิน ส่วนผม..."
เย่จื่อเฉินยังพูดไม่จบก็รู้สึกมึนหัว ตรงหน้ามืดสนิทก่อนจะล้มลงกับพื้น
วันต่อมา
เย่จื่อเฉินที่มีผ้าพันแผลที่ไหล่ นอนกินผลไม้อยู่บนเตียงด้วยท่าทางสบายใจ
พวกของผู้การหลิวเพิ่งกลับไปได้ไม่นาน เย่หรงก็เดินเข้ามาในห้องคนไข้ พอเห็นท่าทางสบายใจของเย่จื่อเฉินก็อดด่าไม่ได้
"ลูกว่างนักใช่ไหม"
"แหะๆ..."
เย่จื่อเฉินหัวเราะแห้ง อย่าถามเลยว่าเย่หรงเป็ห่วงขนาดไหนตอนที่รู้ว่าเขาาเ็ เขาเองก็รู้ว่าตัวเองคิดอะไรไม่รอบคอบ ก็เลยไม่กล้าพูดมาก
"อาการของตำรวจหลินเป็ยังไงบ้างครับ?"
"น่าจะไม่เป็อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ยังหมดสติอยู่" เย่หรงถอนหายใจเบาๆ แล้วก็อดพูดอีกครั้งไม่ได้ "ต่อไปลูกอย่าไปยุ่งกับเื่แบบนี้อีกนะ มันอันตราย"
"ครับ รู้แล้ว"
เย่จื่อเฉินยิ้มแห้ง เย่หรงที่ไม่รู้จะทำยังไงกับเขาจึงหยิบเอากาน้ำออกไปกดน้ำข้างนอกห้อง
เมื่อกินผลไม้หมดแล้ว เย่จื่อเฉินก็นอนลงบนเตียงอีกครั้ง
ตรู๊ดดด
โทรศัพท์ที่อยู่ข้างหมอนดังขึ้น หลังจากที่เย่จื่อเฉินเห็นเบอร์ที่ไม่มีชื่ออยู่บนหน้าจอก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนกดรับเอาไปแนบหู
"เย่จื่อเฉิน"
สำเนียงและน้ำเสียงอ่อนโยนคุ้นหูนี้ ทำให้เย่จื่อเฉินกระตุกยิ้มมุมปากแล้วพูด
"หัวหน้าซุน"
"อื้อ ฉันเอง" ไม่ว่าเมื่อไรเสียงของซุนอี้เกอก็ยังคงอ่อนโยนเสมอ
"หัวหน้าซุนมีเื่อะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ" เย่จื่อเฉินยิ้มเล็กน้อย
"หลายวันมานี้นายไม่มาเรียนอีกแล้ว ฉันแค่อยากถามนายว่าวันนี้เป็วันฉลองวันครบรอบก่อตั้งมหาลัย งานเลี้ยงจะเริ่มหกโมงเย็น นายจะยังมาไหม?"
พรึบ
เย่จื่อเฉินลุกออกจากเตียงทันที ไม่คิดเลยว่าแป๊บเดียวก็ถึงวันฉลองครบรอบมหาลัยแล้ว
เขาจำเป็ต้องไป
การได้ไปอยู่ต่อหน้าคณะอาจารย์และนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยแบบนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสจากตรงนี้จีบสาวก็ได้ เขาจะทิ้งมันไปไม่ได้
"ไป ฉันไปทันเวลาแน่นอน"
"งั้นฉันจะรอนายนะ"
เพิ่งวางสายไป ประตูห้องคนไข้ก็ถูกผลักเข้ามา หวงเซิงเหม่ยสวมชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาข้างใน
"อาการเป็ยังไงบ้างคะ?"
งานเลี้ยงของมหาวิทยาลัยกวักมือเรียกตัวเองอยู่ตรงหน้า เย่จื่อเฉินคิดแล้วก็ยิ้มตาหยี
"หมอครับ ผมอยากออกจากโรงพยาบาล"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้