“ตาบ้า!” หลินซวงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะะโเสียงดังไล่หลังกัวไฮว่“เธอคอยดูเถอะ ครูจะจัดการเธอแน่”
“เฮ้ยเมื่อกี้ใช่เสียงกรรมการประมูลรึเปล่าทำไมฟังเหมือนเสียงครูหลินซวงเลยล่ะ” นักเรียนที่ทำการทดลองอยู่ชั้นสองอึ้งไปแล้วก็พูดออกมาด้วยเสียงเบา
“ไม่หรอกมั้งจะเป็ครูหลินซวงได้ไงได้ยินผิดแล้ว” นักเรียนอีกคนพูดเสียงเบา
“เธอช่วยดูการทดลองให้ฉันที เดี๋ยวฉันจะลงไปดูสักหน่อย”
“รอก่อนฉันไปด้วย”
“พวกเธอไปเถอะ ฉันเห็นมู่หรงเวยเวยแล้วล่ะ ฉันเหมาะจะไปดูมากกว่า” เด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดยิ้มๆ
“มู่หรงเวยเวย? ไหนล่ะ?” เด็กหนุ่มสองคนหยุดฝีเท้าพร้อมกันแล้วมองไปยังนอกหน้าต่าง
“มาดูเร็วกัวไฮว่กัวไฮว่มอสี่ มู่หรงเวยเวยคบกับเขาแล้วจริงเหรอ” ทั้งสามคนเห็นว่าเมื่อกัวไฮว่ออกมาจากตึก มู่หรงเวยเวยก็ยิ้มแป้นแล้วก็เดินออกไปด้วยกันทั้งสามคนถึงกับนิ่งชะงักไป
“เป็ไงได้น้ำเต้ามาแล้วหรือยัง” มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นยิ้มๆ
“ได้มาแล้วเหอะๆ ฉันช่วยครูหลินซวงเก็บของอยู่น่ะไม่งั้นคงออกมานานแล้วจริงสิเธอได้เจออาจารย์หรือเปล่า” กัวไฮว่ถามขึ้น
“เจอน่ะเจอแล้ว แต่ว่าเขายังดื่มเหล้าพูดคุยกันกับพวกผอ.อยู่เลยพรุ่งนี้ฉันค่อยไปหาอาจารย์ที่บ้าน พรุ่งนี้นายมีธุระอะไรหรือเปล่า ไปด้วยกันสิ”มู่หรงเวยเวยกล่าวเสียงเบา
“พรุ่งนี้ไม่มีธุระ ถึงเวลาแล้วเธอโทรมาหาฉันนะฉันจะกลับไปศึกษาน้ำเต้านี่สักหน่อย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ“เวยเวย อย่าขยับ เกิดอะไรขึ้น หน้าผากเธอน่ะ”
“ตรงนี้เหรอ” มู่หรงเวยเวยค่อยๆ เงยหน้าผากขึ้นก็ปรากฏรอยแผลเป็ราวเส้นด้ายเส้นหนึ่ง“เป็รอยจากการแข่งการต่อสู้ครั้งก่อนน่ะใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลที่ดีที่สุดแล้วยังทิ้งรอยแผลเป็ไว้อยู่เลย” มู่หรงเวยเวยกล่าวขึ้นอย่างไม่ได้ปิดบังใดใด
“ไปกัน เราไปนั่งตรงนู้นกันดีกว่า” กัวไฮว่พูดพลางลากมือมู่หรงเวยเวยเดินไปยังกลางศาลาแห่งหนึ่ง“เดี๋ยวไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น มันจะเป็ความลับระหว่างเราสองคนนะ”ในมือกัวไฮว่ปรากฏกล่องหยกทำมือกล่องหนึ่ง วัสดุเหมือนกันกับขวดเหล้าที่ให้พวกถังซีเมื่อสักครู่
“พี่ไฮว่พี่มีวิธีลบรอยแผลเป็บนหน้าผากของฉันด้วยเหรอ จริงๆ ไม่เป็ไรก็ได้นะรอยจางขนาดนั้นถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นชัดหรอก” มู่หรงเวยเวยพูดขึ้นด้วยเสียงเบา
“ให้ฉันลองก่อนเถอะ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าทำแล้วจะได้ผลหรือเปล่าเธอกล้าให้ฉันทำการทดลองบนหน้าผากของเธอหรือเปล่าล่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“ไม่มีอะไรที่ไม่กล้าหลายเื่์เป็คนกำหนดให้เกิดขึ้นอย่างเช่นที่ฉันได้บังเอิญเจอข่งเสวียนอย่างเช่นที่ฉันได้รู้จักพี่” มู่หรงเวยเวยลูบหน้าผากเบาๆ ตอนนั้นรอยแผลเป็นี่ทำให้ข่งเสวียนรู้สึกผิดอยู่นานหรือว่ากัวไฮว่จะเป็คนที่ข่งเสวียนเลือกให้เธอ
“ยัยโง่ อย่าคิดเลอะเทอะสิ ให้ฉันลบรอยแผลเป็บนหน้าผากเธอก่อน” กัวไฮว่พูดพลางเปิดกล่องหยก ในกล่องหยกมีเม็ดยาสีดำเม็ดหนึ่งอยู่ในนั้นกัวไฮว่ใช้เล็บมือขูดเม็ดยาออกมาเป็ผงใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ปั้นอยู่สักพักจากนั้นก็ค่อยๆ แตะนิ้วชี้ที่มีผงยาไปที่รอยแผลเป็บนหน้าผากของมู่หรงเวยเวย
“พี่ไฮว่แบบนี้ก็ได้แล้วเหรอ” มู่หรงเวยเวยรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบบนหน้าผากของตนจากนั้นก็ถามขึ้นเบาๆ
“ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก ฉันกลับแล้วนะ จะไปศึกษาน้ำเต้าสุดที่รักนั่นสักหน่อยพรุ่งนี้เธอโทรมาหาฉันนะ เราไปหาท่านปรมาจารย์ด้วยกันกลางคืนตอนนอนไม่ต้องล้างหน้านะแล้วมาคอยดูว่าจะเป็ยังไง” พูดจบกัวไฮว่ก็หมุนตัวเดินกลับไปทางหอพักของตนเอง
“ข่งเสวียนนายจากไปได้แค่ครึ่งปีเอง ถ้าฉันตกหลุมรักกัวไฮว่ขึ้นมาจริงๆ นายจะโทษฉันไหม”มู่หรงเวยเวยมองกัวไฮว่ที่เดินออกไปไกลแล้วก็แอบคิดเงียบๆ ในใจ
“พี่ไฮว่กลับมาแล้วเหรอ” ในขณะที่กัวไฮว่เข้าไปในหอพักนั้นหลี่หรงก็พูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“นี่ไอ้น้องเสียงดังทำไมกัน ทำฉันใหมดเลย” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“พี่ไฮว่ตอนนี้มีคนรอพี่อยู่ที่ห้องน่ะ พี่ต้องระวังตัวนะคนตัวใหญ่สองคนดูท่าจะสูงประมาณสองเมตรแล้วก็มีคนอ้วนคนหนึ่งกับชายหนุ่มหน้าไม่เลวอีกคนหนึ่งดูท่าทางจะไม่ใช่คนดีอะไร”หลี่หลงกระซิบเข้าที่ข้างหูกัวไฮว่
“ได้ขอบคุณมากไว้วันไหนเรียกพี่เวยไปกินข้าวด้วยกันฉันจะขึ้นไปดูหน่อยว่าใครมา”กัวไฮว่พูดยิ้มๆ คนที่มาน่าจะเป็พวกพี่ๆ ของเขาแต่ว่าคนตัวใหญ่สองคนนั้นเป็ใครกันนะ
“พี่ไฮว่ให้โทรหาพี่เวยไหม” หลี่หลงถามไล่หลังกัวไฮว่แต่กัวไฮว่ชูมือซ้ายขึ้นมาโบกเบาๆจากนั้นก็เดินเข้าลิฟต์ไป
“น้องเฉียนเด็กนั่นสอยดาวโรงเรียนพวกแกจริงๆ เหรอเขาเพิ่งมาโรงเรียนได้ไม่กี่วันเองนะ” เจี่ยหยวนหรี่ดวงตาแล้วถามขึ้น
“พี่อ้วนทำไมพี่ไม่เชื่อกันล่ะนี่เป็คลิปเสียงพี่ลองฟังดูแต่เสียงนี่ไม่สมประกอบเท่าไหร่นะ ผมเสี่ยงอันตรายแอบอัดมาเอง” เฉียนตัวตัวเอาคลิปเสียงในโรงอาหารครั้งก่อนออกมา “แต่พี่ไฮว่นี่ก็ไม่ไหวจริงๆไม่นานก็สร้างเื่แล้วแต่จะว่าไปก็เข้าใจได้นะในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าคือดาวโรงเรียนนี่”
“เหอะๆ พี่สองพี่ว่าน้องสี่โหดขนาดนี้จริงๆ เหรอเด็ดดาวโรงเรียนสี่คนมาได้ในสามวัน มันไร้สาระไปหน่อยหรือเปล่าเขาเป็คนยังไงทำไมพวกเราจะไม่รู้ว่าแต่ว่าพวกเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาวันนี้สวยกันจริงๆ เลย” หวังเซิงพูดยิ้มๆ
“เ้าสามไม่ว่าเ้าสี่กับเด็กผู้หญิงพวกนั้นจะมีความสัมพันธ์กันยังไงแกก็ต้องระวังตัวหน่อย” หลี่เย่าที่ไม่พูดมาโดยตลอดก็พูดขึ้นว่า“เสี่ยวฮวาไม่เลวเลยนะถ้าแกรังแกเธอถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่นายท่านจะสั่งเก็บแกเลยพี่อย่างฉันก็จะไม่ปล่อยแกไว้แน่อีกอย่างเด็กผู้หญิงพวกนั้นมีคนหนึ่งเป็ลูกรักของตระกูลเยี่ยเด็กที่ชื่อถังซีนั่นก็เป็ลูกสาวของถังิหย่วนโหยวโยวโยวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยเด็กพวกนี้มีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น”
“พี่ใหญ่สุดยอดไปเลยแค่ลงแรงในการประมูลหน่อยนึงพี่ก็หาข้อมูลคนที่อยู่รอบตัวพี่ไฮว่ได้แล้วผมล่ะนับถือพี่จริงๆ “เฉียนตัวตัวพูดยิ้มๆ “แต่พวกพี่ขาดไปคนหนึ่งนะมู่หรงเวยเวยใครใช้ให้เธอไม่ใช่คนเมืองอู่เฉิงกันล่ะแต่ถ้าเธอเกิดเื่ขึ้นที่เมืองอู่เฉิง งั้นเมืองอู่เฉิงก็เป็เื่แล้วล่ะ”
“มู่หรงเวยเวยใช่สาวหวานเมืองอู่เฉิงที่พูดกันวันก่อนหรือเปล่าเธอไม่ใช่คนเมืองอู่เฉิงเหรอ” เจี่ยหยวนชะงักไปแล้วถามขึ้นยิ้มๆ
“พี่อ้วนตระกูลมู่หรงทั้งประเทศนี้จะมีใครแซ่มู่หรงสองพยางค์กันบ้าง”เฉียนตัวตัวลูบศีรษะแล้วพูดขึ้น “แต่พี่ไฮว่นี่ก็สุดยอดจริงๆเลยสอยมู่หรงเวยเวยมาได้เนี่ย”
“หรือว่ามู่หรงเวยเวยจะเป็ลูกนอกสมรสคนที่ทำเอาคนจีนทั้งประเทศตื่นใกันในตอนนั้น”หวังเซิงชะงักไปจากนั้นก็พูดเสียงเบา
“พี่ๆ ครับเบาเสียงกันหน่อย ถ้าหากเื่นี้จะแพร่งพรายออกไปชีวิตน้อยๆ ของพวกเราจะจบเห่เอาได้นะ”เฉียนตัวตัวรีบวิ่งมาข้างหวังเซิงแล้วยื่นมือขึ้นมาปิดปากหวังเซิงเอาไว้
“พวกพี่พูดอะไรกันน่ะ ลูกนอกสมรสอะไรกัน” กัวไฮว่มองประตูใหญ่ห้องที่เปิดออกแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปจากนั้นก็พบว่าชายทั้งห้ากำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องรับแขกดูทรงเหมือนจะจัดการเบียร์หมดไปแล้วกล่องหนึ่งพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน