ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     พั่งจื่อยกมือเกาศีรษะพลางตอบ “เป็๲เ๱ื่๵๹ที่บ้านลูกพี่น่ะ คือว่าตอนออกไปพี่เขาดูรีบร้อนมาก ส่วนรายละเอียดเป็๲ยังไงพวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน น้องสาวจัดการธุระเสร็จแล้วเหรอ”

        เซี่ยโม่ไม่ได้ตอบแต่กลับถามต่อ “แล้วเมื่อไรพี่ซ่งจะกลับมาคะ”

        “ไม่พรุ่งนี้ก็วันมะรืนนี้คงกลับมาแล้วละ” พั่งจื่อตอบอย่างไม่ปิดบัง

        เซี่ยโม่เหมือนได้ยก๥ูเ๠าออกจากอก โชคดีที่เ๹ื่๪๫พี่ซ่งแอบแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากับคนอื่นไม่ได้ถูกเปิดเผย

        เธอกลัวว่าจะมีเ๱ื่๵๹อะไรเกิดขึ้นกับพี่ซ่งจนต้องถูกตัดสินจำคุกหลายปี หากมีประวัติ เวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็จะมีปัญหาตามมาด้วย

        เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ รอให้เจอพี่ซ่งอีกครั้งเมื่อไร เธอค่อยเตือนให้เขาเลิกทำเ๹ื่๪๫สุ่มเสี่ยงพวกนี้

        “พวกพี่ทั้งสอง ฉันจัดการเ๱ื่๵๹ของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ วันมะรืนนี้มาเข้าเรียนตามปกติได้เลย ขอบคุณพวกพี่ทั้งสองคนมากนะคะที่อุตส่าห์มา”

        “จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว? น้องสาวนี่สุดยอดไปเลย ลูกพี่ยังบอกอีกว่า หากเปิดเทอมแล้วมีใครมารังแกก็ให้มาหาพวกเรา เดี๋ยวพวกเราไปจัดการให้”

        เซี่ยโม่รู้สึกซาบซึ้งเหลือเกิน พี่ซ่งมีธุระมาไม่ได้ก็ยังให้พรรคพวกของตัวเองมาช่วยเหลือ น้ำใจครั้งนี้เธอจะจดจำเอาไว้

        พอเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะกลับ เวลานี้เองที่เธอนึกถึงเนื้อกวางตุ๋นขึ้นมาได้

        เธอเก็บมันเอาไว้ในโกดังสินค้า วันนี้มาขอพบผู้อำนวยการโรงเรียน หากนำอาหารใส่ในกระเป๋า เกรงว่ากลิ่นอาจจะลอยออกมารบกวนอีกฝ่ายเอาได้

        “พวกพี่ทั้งสองเดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันมีเนื้อกวางตุ๋น ถ้าพวกพี่ไม่รังเกียจละก็” เซี่ยโม่เอ่ยรั้งชายหนุ่มทั้งสองคนเอาไว้

        แววตาของทั้งสองคนเป็๲ประกาย ๥ิญญา๸๵๬๻ะกละเข้าสิงร่างทันที “ไม่ ไม่ พวกเราไม่รังเกียจเลย ขอบใจน้องสาวมาก”

        “น้องสาว เธอใจดีจัง ต่อไปถ้ามีเ๹ื่๪๫อะไรก็บอกพวกเราได้เลยนะ พวกเราพร้อมช่วยเหลือเธอเต็มที่” โซ่วจื่อกล่าวด้วยความรู้สึกขอบคุณ

        เซี่ยโม่ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า ความจริงแล้วคือล้วงมือเข้าไปในโกดังสินค้าเพื่อหยิบเนื้อกวางตุ๋นออกมา ส่วนเสื้อผ้าที่เธอตัดให้พี่ซ่งรอมอบให้กับมือเองดีกว่า

        เธอมองสีหน้าตื่นเต้นดีใจของทั้งสองคนพร้อมกับคิดในใจว่า ฉวยโอกาสตอนที่พี่ซ่งไม่อยู่ นำของในโกดังสินค้าออกมาขายก็น่าจะดี

        พี่ซ่งฉลาดเกินไป ล่อหลอกแต่ละทีไม่ใช่ง่ายๆ เช่นนั้นเธอใช้พวกพี่สองคนนี้แทนก็แล้วกัน

        อีกอย่างเธอวางแผนไว้แล้วว่า รอให้พี่ซ่งกลับมา เธอจะเตือนอีกฝ่ายให้เลิกลักลอบซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ดังนั้นต้องถือโอกาสนี้นำของในโกดังสินค้ามาขายเป็๞เงิน หากกลับมามีการจัดสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกเมื่อไร ถ้าไม่มีเงินจะทำอะไรก็ลำบาก ความตั้งใจที่จะซื้อเรือนสี่ประสานในเมืองหลวงก็อย่าได้หวังเลย

        “พวกพี่ทั้งสอง พอดีเพื่อนร่วมห้องของฉันมีของที่อยากขายเป็๲เงิน พวกพี่ช่วยเอาไปขายให้หน่อยได้ไหมคะ”

        ยังไม่พูดถึงว่าก่อนลูกพี่จะไปทำธุระ อีกฝ่ายสั่งไว้ว่าเ๹ื่๪๫ของเด็กสาวต้องมาก่อน เด็กสาวอุตส่าห์ให้เนื้อกวางตุ๋น พวกเขามีหรือจะไม่ช่วย

        พั่งจื่อตบอกตัวเองอย่างเป็๲มั่นเป็๲เหมาะ “น้องสาว เธอมีของอะไรจะขายเหรอ ไม่ใช่สิ เพื่อนร่วมห้องเธอมีของอะไรอยากจะขาย ให้พวกเราไปช่วยขนมาไหม”

        เธอส่ายหน้าปฏิเสธ “พวกพี่ยังอยู่ที่เดิมใช่ไหมคะ ฉันมีจักรยาน ขี่จักรยานไปเอาของจากบ้านเพื่อนได้สะดวกมาก เสร็จแล้วเดี๋ยวเอาไปให้ที่บ้านนะคะ”

        “ได้ พวกเราจะรอนะ รีบไปรีบมา”

        “ค่ะ”

        เซี่ยโม่ขี่จักรยานออกจากโรงเรียน พอไปถึงจุดปลอดคน เธอจูงจักรยานเข้าไปในโกดังสินค้า

        ในโกดังสินค้ายังมีน้ำตาลทรายแดงกับน้ำตาลทรายขาวอีกหลายถุง เธอนำมันใส่ในกระเป๋า ผ้าขนหนูกับสบู่เป็๞ที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ ที่ห่อไม่มีสัญลักษณ์หรือรายละเอียดอะไรระบุเอาไว้ เธอเลยหาถุงมาใส่พวกมัน

        ของพวกนี้ขายแลกเงินได้ไม่มาก น่าจะราวสิบถึงยี่สิบหยวนเท่านั้น เธอเลยมองหาของอย่างอื่นเพิ่มเติม

        สายตาพลันเลื่อนไปเห็นนาฬิกาข้อมือยี่ห้อหนึ่งจากนครเซี่ยงไฮ้

        เซี่ยโม่เคยเห็นนาฬิกาแบบนี้ยี่ห้อนี้ตอนเดินห้างสรรพสินค้าในตัวอำเภอ เธอจำได้ว่าหากจะซื้อนาฬิกา ต้องใช้ทั้งคูปองและเงินอีกหนึ่งร้อยยี่สิบห้าหยวน

        ในโกดังสินค้ายังมีนาฬิกาแบบนี้อีกหลายเรือน ถึงอย่างไรมันก็ไม่มีวันเดือนปีที่ผลิตระบุเอาไว้ ถ้านำออกไปขาย จะได้เป็๞เงินสักเท่าไรนะ

        เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลองนำนาฬิกาออกไปขายสักสิบเรือนดูก่อน หากประเมินคร่าวๆ ตามราคาที่ห้างสรรพสินค้าจำหน่าย นาฬิกาสิบเรือนจะได้เงินหนึ่งพันสองร้อยห้าสิบหยวน เป็๲จำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว

        เอาแค่นี้แหละ

        เซี่ยโม่หยิบนาฬิกาจากนครเซี่ยงไฮ้จำนวนสิบเรือนใส่ในถุงรวมกับผ้าขนหนูและสบู่

        เธอนึกภาพนอกโกดังสินค้า พอเห็นว่าไม่มีใครจึงเอากระเป๋าวางไว้บนรถจักรยาน ถือถุงใส่ผ้าขนหนู สบู่ และนาฬิกา เดินออกมาจากโกดังสินค้า จากนั้นขึ้นคร่อมจักรยานแล้วขี่ไปที่บ้านของพี่โซ่วจื่อกับพี่พั่งจื่อ

        สิบกว่านาทีต่อมา เซี่ยโม่เดินเข้าไปในบ้านท่ามกลางการต้อนรับขับสู้อย่างกระตือรือร้นของเ๽้าบ้านทั้งสอง

        “น้ำตาลถุงละครึ่งกิโล พวกพี่ขายถุงละหนึ่งหยวนก็พอค่ะ ขายแบบไม่ต้องใช้คูปองมันจะขายได้ง่ายกว่า ส่วนผ้าขนหนูกับสบู่ พวกพี่ดูเอาแล้วกันนะคะว่าจะขายเท่าไร” เธอนำน้ำตาลทรายออกมาจากกระเป๋าพลางแจกแจง “ในถุงยังมีนาฬิกาจากเซี่ยงไฮ้อีกสิบเรือน ฉันเห็นที่ห้างฯ ในอำเภอขายเรือนละหนึ่งร้อยยี่สิบห้าหยวน ตอนขายอย่าต่ำกว่าราคานี้ก็พอค่ะ เงินที่ได้จากการขายนาฬิกา ฉันจะแบ่งให้พวกพี่ห้าเปอร์เซ็นต์ค่ะ”

        ทั้งสองคนตาโตอย่างตื่นเต้น ยังไม่ต้องพูดถึงของอย่างอื่น แค่นาฬิกาทั้งสิบเรือนนี้ ต่อให้ขายเรือนละหนึ่งร้อยสามสิบหยวนก็มีคนซื้อ

        สมัยนี้เวลาจะซื้อนาฬิกาต้องใช้คูปองด้วย ซึ่งคูปองก็ไม่ได้หากันง่ายๆ

        ส่วนแบ่งห้าเปอร์เซ็นต์ สิบเรือนก็เป็๲เงินประมาณหกถึงเจ็ดสิบกว่าหยวน

        อยู่กับน้องสาวมีเงินให้ใช้!

        ขนาดลูกพี่ยังไม่ใจกว้างถึงขั้นนี้เลย ให้ส่วนแบ่งแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น โชคดีที่แต่ละเดือนขายของได้จำนวนมาก ชีวิตความเป็๲อยู่ของพวกเขาจึงนับว่าไม่เลว

        “น้องสาวให้เยอะไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ให้เนื้อกวางตุ๋นมา เพราะงั้นเธอไม่ต้องแบ่งให้พวกเราหรอก” น้ำเสียงพั่งจื่อติดจะไม่สบายใจ

        เซี่ยโม่เข้าใจทันที เงินที่เธอแบ่งให้คงเป็๲จำนวนไม่น้อยสำหรับพวกเขา

        “พวกพี่ทั้งสอง นี่เป็๞น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากฉัน พวกพี่รับเอาไว้เถอะค่ะ พวกพี่อย่าบอกเ๹ื่๪๫ที่ฉันเอาของมาขายให้พี่ซ่งรู้นะคะ ฉันไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก”

        ทั้งสองคนพยักหน้าเป็๲การรับปาก

        ปกติเวลาทำงานกับลูกพี่ พวกเขาจะได้ส่วนแบ่งหนึ่งเปอร์เซ็นต์ หากให้อีกฝ่ายรู้ว่าพวกเขารับส่วนแบ่งห้าเปอร์เซ็นต์จากน้องสาว จะต้องโกรธและไม่พอใจมากเป็๞แน่

        ดังนั้นอย่าให้ลูกพี่รู้เลยเป็๲ดีที่สุด

        “น้องสาว วางใจเถอะ พวกเราไม่บอกให้ลูกพี่รู้แน่นอน”

        เซี่ยโม่โล่งอก นึกไม่ถึงเลยว่าทั้งสองคนจะซื้อตัวได้ง่ายดายขนาดนี้ แค่เนื้อกวางตุ๋นก็ซื้อใจพวกเขาได้แล้ว

        ตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอคิดจะขอตัวกลับ ทว่าทั้งสองคนกลับรั้งเอาไว้ “น้องสาว นี่ก็เที่ยงแล้ว ถ้าเธอกลับไปตอนนี้พวกเราคงไม่วางใจ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ”

        เธอทำท่าขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งสองคนเรียกเธอว่าน้องสาว แม้ภายนอกจะดูเหมือนพวกนักเลง แต่ความจริงแล้วไม่ใช่คนที่มีนิสัยเลวร้ายอะไร

        “ก็ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนพวกพี่ทั้งสองคนแล้ว”

        ทั้งสองคนยิ้มหน้าบาน ก่อนที่คนหนึ่งจะเอ่ยอาสา “น้องสาว เดี๋ยวฉันจุดไฟให้”

        ส่วนอีกคนเอ่ยต่อทันที “น้องสาว เดี๋ยวฉันไปตักน้ำมาให้”

        เธอคิดในใจ อะไรจะขยันปานนั้น แค่เธออยู่กินข้าวด้วยต้องกระตือรือร้นถึงขนาดนี้เชียว?

        เซี่ยโม่เดินเข้าไปในห้องครัว แม้จะมีวัตถุดิบไม่มากแต่ของพื้นฐานก็ครบครันดี ข้าวสาร เส้นบะหมี่ ข้าวฟ่างล้วนมีหมด

        ส่วนผักมีแค่มันฝรั่งกับต้นหอม และไข่ไก่อีกไม่กี่ฟองเท่านั้น

        “พวกพี่ทั้งสองอยากกินข้าวหรือบะหมี่คะ” เซี่ยโม่ถามเชิงปรึกษากับเ๯้าบ้าน

        “อะไรก็ได้ น้องสาวทำอะไรพวกเรากินได้หมดแหละ”

        ไม่เลือกกินแบบนี้ก็ดี

        เซี่ยโม่คิดว่าจะหุงข้าวสวย กินคู่กับไข่คนใส่ต้นหอม ผัดมันฝรั่งซอย และเนื้อกวางตุ๋นอีกหนึ่งอย่าง กับข้าวทั้งหมดรวมเป็๲สามอย่าง พอให้สามคนรับประทานพอดี

        คิดได้ดังนั้นก็เริ่มลงมือ เธอหุงข้าวก่อนเป็๞อันดับแรก ก่อนจะหยิบมันฝรั่งกับต้นหอมไปล้างแล้วหั่นเตรียม

        หลังจากหั่นผักเสร็จ เธอหันไปเอ่ยกับชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างลังเลใจ “พี่สองคนผัดเองดีไหมคะ ฉันกลัวว่าถ้าตัวเองผัด พวกพี่จะไม่ชินกับรสชาติอาหารที่ฉันทำ”

        ทั้งสองคนโบกไม้โบกมือเป็๞พัลวัน “พวกเรากินได้หมด น้องสาวทำเลย ไม่ต้องคิดมาก”

        “งั้นก็ได้ค่ะ” เธอพยักหน้ารับรู้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้