ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้!
หินก้อนั์ที่ทับอยู่บนอกของหวังเจี้ยนหัวถูกยกออกไปในที่สุด ตอนนี้หวังเจี้ยนหัวรู้สึกโล่งขึ้นมากเหลือเกิน!
หร่านซูอวี้ตาโต หวังก่วงผิงเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
“...ลูกเคยคบกับเซี่ยเสี่ยวหลาน?”
หร่านซูอวี้คิดถึงครั้งแรกที่เจอกับเด็กสาวคนนั้น แม้แต่เธอที่เป็ผู้หญิงยังมองตาค้าง ถ้าไม่ใช่เพราะมีคำว่ามหาวิทยาลัยหัวชิงประดับอยู่บนตัวเซี่ยเสี่ยวหลาน เด็กคนนั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับจิ้งจอกสาว แน่นอนว่าหร่านซูอวี้รู้สึกไม่ชอบ แต่พวกผู้ชายชอบแน่นอน โดยเฉพาะเด็กหนุ่มวัยคะนองอย่างหวังเจี้ยนหัว ไม่มีทางที่จะต้านทานเสน่ห์จิ้งจอกสาวแบบนั้นได้!
เคยคบกับเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วถึงได้มาคบกับเซี่ยจื่ออวี้ หร่านซูอวี้ไม่เข้าใจการตัดสินใจของลูกชายตัวเอง แม้เซี่ยจื่ออวี้จะไม่อัปลักษณ์ แต่พอยืนข้างเซี่ยเสี่ยวหลาน ผู้หญิงคิ้วดกหนาตาโตอย่างเซี่ยจื่ออวี้ช่างห่างชั้นกับเซี่ยเสี่ยวหลานเหลือเกิน
คิ้วเข้มตาโตดูมีพลัง แต่เซี่ยจื่ออวี้กลับเป็พวกพูดเสียงเบาหวิวดูไร้เรี่ยวแรง และหากให้หร่านซูอวี้วิจารณ์คงต้องบอกว่า เซี่ยจื่ออวี้นั้นค่อนข้างเสแสร้ง
สายตาของลูกชายเธอเพี้ยนไปแล้วหรือเปล่า!
หร่านซูอวี้ไม่เข้าใจการตัดสินใจของลูกชายแม้แต่น้อย
เขาเลือกผู้หญิงไม่สวยแถมยังไม่มีความสามารถ เจอเพชรกลับไม่เก็บไว้ ดันไปคว้าก้อนกรวดกลับมาบ้านอย่างนั้นหรือ?
“เดี๋ยวนะ ลูกยังอธิบายไม่ชัดเจน ลูกคบกับเซี่ยเสี่ยวหลานก่อนแล้วค่อยคบกับเซี่ยจื่ออวี้ เซี่ยเสี่ยวหลานจะโกรธก็ไม่แปลก... แต่เซี่ยจื่ออวี้น่ะสิที่ทำตัวแปลกประหลาด ทำไมพูดถึงน้องสาวเธอไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
หวังก่วงผิงนึกไม่ถึงว่าจะมีเื่แบบนี้แอบแฝงอยู่
ชีวิตไม่ได้ดั่งใจ มองอะไรก็หงุดหงิด อีกทั้งเขาไม่ถูกชะตาเซี่ยจื่ออวี้เป็ที่สุดอีกด้วย ขณะนี้เขาจึงกำลังนั่งฟังเงียบๆ อยู่บนเก้าอี้
หร่านซูอวี้ไม่ใช่คนที่จะหลอกกันง่ายๆ หวังเจี้ยนหัวจึงมีท่าทางอึกอัก
“ตอนผมกับจื่ออวี้สอบติดมหาวิทยาลัย เซี่ยเสี่ยวหลานจบเพียงมัธยมต้นก็ทำงานกับที่บ้าน ใครจะไปคิดว่าหนึ่งปีต่อมาเธอจะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เป็อันดับหนึ่ง...”
ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด จากสถานการณ์ตอนนั้น เซี่ยจื่ออวี้เหมาะสมกับหวังเจี้ยนหัวกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หวังก่วงผิงคิดในใจ
เจี้ยนหัวไม่ได้ตัดสินใจพลาดแต่เขามองแค่เื่ตรงหน้าเท่านั้น วิสัยทัศน์ยังไม่กว้างไกล มองไม่เห็นความสามารถที่แฝงยู่ของผู้อื่น หวังก่วงผิงผิดหวังมาก ทว่าจะโทษลูกชายก็ไม่ได้ ่เวลาที่มีค่าที่สุดลูกชายเขากลับต้องใช้ชีวิตขลุกอยู่กับชาวไร่ชาวนา ไม่มีคนที่สามารถช่วยทำให้หวังเจี้ยนหัวพัฒนาตัวเองได้เลยสักคน ดังนั้นสายตาในการมองคนของเขาจะแย่ไปบ้างก็ไม่ใช่เื่แปลกอะไร!
หวังเจี้ยนหัวพูดอย่างคลุมเครือ แต่พ่อแม่เขาไม่ใช่คนโง่
หร่านซูอวี้คิดว่าหากไม่คุยกันให้ชัดเจน อนาคตอาจจะมีความเสี่ยงรอตระกูลหวังอยู่ก็เป็ได้
“เซี่ยจื่ออวี้ทำเื่อะไรลับหลัง?”
หากคิดจะแย่งหวังเจี้ยนหัวจากมือเซี่ยเสี่ยวหลาน นั่นก็คงไม่ง่ายอย่างแน่นอน ต่อให้ตอนนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจะดูไม่เหมือนคนมีอนาคตไกล แต่อย่างน้อยเธอก็เป็สาวสวย
หวังเจี้ยนหัวหูแดงก่ำ “จื่ออวี้ไม่ได้ทำอะไรครับ พวกเราแค่เจอกันทีหลัง ทว่ามีปณิธานและหลักการเดียวกันครับ!”
หร่านซูอวี้อยากถ่มน้ำลายจริงๆ ปณิธานอะไรกัน พยายามเข้ากันให้ได้สิไม่ว่า
หร่านซูอวี้ไม่คิดว่าเด็กบ้านนอกคนหนึ่งจะมีความคิดความอ่านเหมือนลูกชาย เดิมทีเธอก็คาดเดาไว้อยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นอาการของหวังเจี้ยนหัวแล้วเธอยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น เซี่ยจื่ออวี้คงหน้าไม่อาย พยายามยั่วยวนเจี้ยนหัว เด็กหนุ่มวัยคึกคะนองอย่างเขาคงทนความเย้ายวนไม่ไหว พอได้ลิ้มรสชาติความสาวย่อมถูกเซี่ยจื่ออวี้มัดตัวไว้สินะ
หร่านซูอวี้คิดว่าตนคาดเดาความจริงได้แล้ว
เซี่ยจื่ออวี้ใช้ความบริสุทธิ์ของตัวเองมาขับไล่เซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างไรก็คงรับไม่ได้ เธอถึงสมัครสอบมหาวิทยาลัยและในที่สุดก็ได้ร่ำเรียนที่ปักกิ่ง ทั้งยังหาคู่ครองที่ดีกว่าหวังเจี้ยนหัว นั่นก็คือลูกชายของตระกูลโจว... หร่านซูอวี้คิดเชื่อมโยงด้วยตัวเองไปไกล เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนฉลาด แต่ก็ร้ายไม่เบา
สองสาวตระกูลเซี่ยร้ายเหมือนกันหมด!
“ไม่สิ ลูกยังมีเื่ปิดบังอยู่ เจี้ยนหัว ลูกต้องบอกกับแม่และพ่อให้หมดเปลือก ถ้าคนอื่นมาเอาเื่เราถึงบ้าน อย่างน้อยๆ พ่อกับแม่จะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน”
เด็กบ้านนอกคนหนึ่งมาหาถึงบ้านพวกเขาย่อมไม่กลัว
สถานภาพการเป็นักศึกษาของหัวชิงฟังแล้วอาจจะดูน่าภูมิใจ แต่หวังก่วงผิงทำงานที่ฝ่ายอุดมศึกษา จะจัดการนักศึกษาสักคนคงไม่ใช่เื่ยาก ดังนั้นเื่นี้จึงไม่น่ากังวล
แต่ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลโจวเล่า หร่านซูอวี้ไม่กล้าดูถูกอีกฝ่าย
หวังเจี้ยนหัวอ้ำอึ้งอยู่นาน ก่อนจะยอมเล่าเื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานถูกพวกอันธพาลคุกคาม และนั่นทำให้เขาตัดสินใจขีดเส้นแบ่งกับเธออย่างชัดเจน จากนั้นเขาก็เดินทางมายังปักกิ่งกับเซี่ยจื่ออวี้ให้ฟัง
“ผมเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก ตอนหลังคนในหมู่บ้านพากันลือไปทั่ว แต่ละอย่างช่างไม่น่าฟังเอาเสียเลย เซี่ยเสี่ยวหลานจึงตัดสินใจเอาหัวชนเสาเพื่อฆ่าตัวตายครับ”
นี่คือจุดที่ทำให้หวังเจี้ยนหัวรู้สึกผิดที่สุด เขาคิดว่าที่ตน ‘ยอมอ่อนข้อ’ ให้เซี่ยเสี่ยวหลานเป็เพราะการฆ่าตัวตายของเธอในคราวนั้น
หลังจากนั้นนิสัยของเซี่ยเสี่ยวหลานก็เปลี่ยนไป ไม่แม้แต่จะไว้หน้าเขาเวลาอยู่กับคนอื่น หวังเจี้ยนหัวจึงทำได้เพียงอดทน
ตอนนั้นเขาสามารถก้าวออกไปพูดแทนเซี่ยเสี่ยวหลานได้ จางเสเพลเคยแตะต้องเซี่ยเสี่ยวหลานหรือเปล่า หวังเจี้ยนหัวย่อมรู้ดี จางเสเพลแค่กระชากแขนเสื้อเซี่ยเสี่ยวหลานจนขาดเท่านั้น แต่ภายหลังข่าวลือกลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เกินกว่าที่หวังเจี้ยนหัวจินตนาการไว้
ที่จริงมันมีจุดที่สามารถจับผิดได้ ทว่าหวังเจี้ยนหัวกลับร้อนตัวไม่กล้าเผชิญหน้ากับเซี่ยเสี่ยวหลาน และรีบร้อนอยากออกจากสถานที่เลวร้ายอย่างหมู่บ้านต้าเหอเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปักกิ่งกับเซี่ยจื่ออวี้ เขาจึงตัดสินใจทิ้งเซี่ยเสี่ยวหลานให้ตกอยู่ในมรสุมน้ำลายของผู้อื่นตามลำพัง
แววตาของหวังก่วงผิงเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ฟัง
“เจี้ยนหัว ลูกทำให้พ่อผิดหวัง”
ทั้งที่มีวิธีการแก้ไขที่ดีกว่านี้ แต่ลูกชายเขากลับเลือกวิธีที่โง่ที่สุด
ทั้งหมดเป็เพราะคนโง่เง่าอย่างเซี่ยจื่ออวี้ หลังแย่งผู้ชายมาได้ด้วยวิธีการอันน่าอับอาย พอตอนนี้ถูกคนอื่นไล่ตามมาถึงที่เลยรู้สึกหวั่นใจสินะ
“ลูกกับเซี่ยเสี่ยวหลานเคย...”
“ไม่เคยครับ!”
หวังเจี้ยนหัวเคยจูงมือเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานขี้อายมาก และแทบไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว
ความงดงามของเธอทำให้เขารู้สึกลุ่มหลง หวังเจี้ยนหัวเองจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
หวังเจี้ยนหัวรับรู้ได้ว่าแม่ของเขาเหมือนจะรู้สึกผิดหวัง หวังก่วงผิงกระแอมเล็กน้อย “เจี้ยนหัว เื่นี้เป็ภัยแฝงของตระกูลหวัง นักศึกษาหญิงคนหนึ่งอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้ แต่อย่าดูถูกว่าที่บ้านสามีของเธอ เื่นี้ลูกเดือดร้อนเพราะเซี่ยจื่ออวี้ ลองคิดดูให้ดีว่าลูกควรทำอย่างไร และตระกูลของเราควรทำอย่างไร”
หวังเจี้ยนหัวครุ่นคิดเกี่ยวกับเื่นี้อย่างละเอียด
หร่านซูอวี้อดโพล่งออกมาไม่ได้
“ทำให้เธอไม่ได้แต่งงานเข้าตระกูลโจวก็พอแล้วนี่!”
สองพ่อลูกหันมามองเธอ ใบหน้าของหร่านซูอวี้แดงก่ำ “คนอื่นทำไม่ได้ แล้วลูกทำไม่ได้หรือ ที่ตระกูลโจวถูกใจเธอ คงไม่ใช่เพราะประวัติครอบครัวอย่างแน่นอน แต่เพราะเธอมีการศึกษาที่สามารถโอ้อวดได้ ถ้าไม่มีสถานะนักศึกษาหัวชิง... ถ้าตระกูลโจวรู้เื่ข่าวลือในอดีตของเธอ คงต้องกังวลเื่ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลบ้างจริงหรือไม่เล่า ก่วงผิง พอคิดว่าเด็กคนนี้มาปักกิ่งเพื่อรังควานเจี้ยนหัว ฉันก็รู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน”
หากรองหัวหน้าฝ่ายอุดมศึกษาสั่งสอนนักศึกษาคนหนึ่งไม่ได้ จะเป็เื่ตลกแค่ไหนกันนะ
ทว่าจะให้เขารังแกนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง หวังก่วงผิงไม่รับปากในทันที
ไร้สาระจริงๆ!
เขาไม่ต้องรักษาเกียรติหรืออย่างไรกัน?
—-------------------------------------------------
“คุณน้ากวน ฉันเล่าจบแล้วค่ะ”
อย่างไรเสียเธอคงเลี่ยงปัญหานี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว
ต่อให้เื่เหล่านี้จะเป็อดีตของ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะปิดบัง หนึ่งคำโกหกก็ต้องใช้คำโกหกอีกมหาศาลมาปิดช่องโหว่ เป็คนไร้เกียรติที่ยอมสารภาพ ดีกว่าเป็คนดีที่เสแสร้ง หลังเล่าเื่นี้ออกไปแล้ว กวนฮุ่ยเอ๋ออาจจะยิ่งรู้สึกรังเกียจเธอ ที่เมื่อก่อนไม่เคยพูดอาจอ้างได้ว่าเป็เพราะกวนฮุ่ยเอ๋อไม่เคยถาม ทว่าตอนนี้ในเมื่อกวนฮุ่ยเอ๋อเอ่ยถามถึงเซี่ยต้าจวิน เซี่ยเสี่ยวหลานจึงต้องเล่าให้ชัดเจน และแน่นอนว่าต้องเริ่มเล่าั้แ่ต้นเหตุ
ทำไมถึงเกลียดชังตระกูลเซี่ย แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้าก็ไม่อยากยอมรับ สิ่งเหล่านี้จำเป็ต้องมีสาเหตุที่ชัดเจน
กวนฮุ่ยเอ๋อสีหน้าไร้อารมณ์ เซี่ยเสี่ยวหลานไม่สามารถอ่านความคิดของเธอได้ อาจเพราะ่นี้พวกเธอนั้นเข้ากันได้ไม่เลว ทำให้คนที่เป็ตัวเองเสมออย่างเซี่ยเสี่ยวหลาน เวลานี้กลับทำท่าทางเหมือนกำลังรอ ‘คำตัดสิน’ จากกวนฮุ่ยเอ๋อ