หานฉงอันเป็นักโทษปะาจึงไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ แต่สถานะของหานอวิ๋นซีนั้นพิเศษ และตอนนี้นางยังเป็ผู้ช่วยชีวิตไท่จื่ออีก แม้ว่าเื่นี้จะยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชน แต่เ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ก็รู้และได้สั่งไว้แล้วว่า หากหานอวิ๋นซีมาต้องปล่อยให้เข้าไป ในส่วนของผู้คุมที่รุมประชาทัณฑ์นางครั้งก่อน ก็ล้วนแต่ซ่อนตัวด้วยความกลัวว่าจะถูกจำได้
ผู้คุมซึ่งเป็ผู้นำทางกระซิบว่า “ฉินหวังเฟย หานฉงอันเอาแต่ะโั้แ่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ว่า้าพบท่าน”
“อืม เ้าไปก่อนเถอะ ถ้ามีอะไรข้าจะเรียกเ้าเอง” หานอวิ๋นซีพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ไม่น่าแปลกใจที่หานฉงอัน้าพบนาง เขาแค่อยากขอให้นางช่วยชีวิตเขาก็เท่านั้น หานอวิ๋นซีไม่เข้าใจคนเช่นนี้จริงๆ รู้อยู่ว่าเป็ศัตรู ทำไมต้องช่วยด้วยล่ะ? ช่วยไปก็ไม่ได้อะไร คงไม่ได้เสียศักดิ์ศรีหรอกใช่หรือไม่?
ทันทีที่หานฉงอันเห็นหานอวิ๋นซีใกล้เข้ามา เขาก็พุ่งไปด้วยความประหลาดใจ โชคดีที่มีรั้วเหล็กกั้นไว้ เพิ่งจะผ่านไปเพียงคืนเดียว ทว่าสภาพของหานฉงอันกลับดูไม่เหมือนคนเลยแม้แต่น้อย ทั้งผมและเสื้อผ้านักโทษที่ยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่าเขาถูกทรมาน
ผู้ที่เข้าไปในคุกจะไม่ถูกลงโทษได้อย่างไรกัน? หานอวิ๋นซีเองก็เคยมีประสบการณ์นี้ด้วยตัวเองมาแล้ว
“บุตรสาว ในที่สุดเ้าก็มา...”
“พ่อรู้ว่าลูกต้องมาแน่ๆ! พ่อรู้ว่าลูกจะไม่มีวันทอดทิ้งพ่อ”
เสียงของหานฉงอันดูเหมือนจะสะอึกสะอื้นอยู่ในลำคอ ดวงตาทั้งสองเป็เบ้าลึกและแดงเหมือนชายชราที่น่าสมเพช คนที่ไม่รู้คงคิดว่าหานอวิ๋นซีเป็บุตรสาวอกตัญญูที่ทอดทิ้งพ่อของตัวเอง
หานอวิ๋นซีมองอย่างเ็า พิงกำแพงและนั่งไขว่ห้าง เมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตาของหานฉงอันก็เปลี่ยนเป็สีแดงอีกครั้ง กอดราวเหล็ก แล้วค่อยๆ เลื่อนตัวลงนั่ง
“บุตรสาว ตอนนี้มีเพียงเ้าท่านั้นที่สามารถช่วยพ่อได้!”
“พ่อหวังพึ่งพาเ้าคนเดียวเลยนะ...เ้าพูดอะไรหน่อยได้หรือไม่?”
…
ดวงตาของหานฉงอันเต็มไปด้วยความหวังลึกๆ น้ำเสียงนั้นดูเศร้าอย่างมาก แต่หานอวิ๋นซีกลับไม่แยแส
นางมองเขาอย่างเ็า หานฉงอันที่เห็นความเฉยเมยของนางก็นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เงียบลงทันที มองนางอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาที่เศร้าสร้อยและเศร้าโศกยิ่งนัก
“หานฉงอัน ในที่สุดท่านก็จำได้แล้วสินะว่าข้าเป็บุตรสาวของท่าน” หานอวิ๋นซีพูดด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
ในความทรงจำของนาง พ่อคนนี้เคยเรียกนางว่า “บุตรสาว” เสียที่ไหนกัน?
หานฉงอันเม้มปาก ลูบใบหน้าชรา พลางส่ายหัวซ้ำๆ และพึมพำกับตัวเอง ราวกับรู้สึกเสียใจอย่างมาก เพียงแต่หานอวิ๋นซีไม่ได้ยินว่าเขากำลังพูดอะไร
ในไม่ช้า หานฉงอันก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง กอดรั้วเหล็กอย่างตื่นเต้น “บุตรสาว พ่อผิดไปแล้ว พ่อก็อายุปูนนี้แล้ว เ้ายกโทษให้พ่อได้หรือไม่? พ่อขอร้องล่ะ!”
“ทำไมข้าจะต้องช่วยท่านด้วย?” หานอวิ๋นซีพูดอย่างเ็า ลูกโตขนาดนี้แล้วเพิ่งจะขอโทษน่ะหรือ มันไม่น่าขันเกินไปหน่อยหรือ
“อวิ๋นซี อย่างไรข้าก็เป็พ่อของเ้า หรือเ้าเต็มใจให้พ่อเดินขบวนไปตามถนนงั้นหรือ? พ่อไม่ยอมเสียหน้าหรอกนะ!”
“ตอนนี้มีเ้าเพียงคนเดียวที่จะช่วยพ่อได้ ในฐานะพ่อ ข้าขอร้องเ้าล่ะ ขอร้องเ้า...ขอร้องเ้าให้เห็นแก่แม่ที่ตายไปแล้ว ครั้งนี้ช่วยพ่อด้วยเถอะ!”
หากหานฉงอันไม่พูดประโยคนี้ออกมาก็คงไม่เป็ไร แต่เมื่อเขาพูดแบบนี้ ความโกรธของหานอวิ๋นซีจึงปะทุขึ้นมา และขัดจังหวะอย่างหมดความอดทน “หมอเทวดาหาน ท่านยกยอข้ามากเกินไปแล้ว อีกอย่างท่านเองถูกตัดสินให้ปะาชีวิตแล้วด้วย ข้าไม่ใช่คนที่มีสิทธิ์มากมายอะไรขนาดนั้น”
“ไม่นะ! เ้าช่วยชีวิตไท่จื่อไว้ ฮ่องเต้ต้องฟังเ้าแน่นอน! บุตรสาว เ้าช่วยชีวิตสามตระกูลหานได้ เ้าก็ช่วยชีวิตพ่อด้วยเถอะ ฮ่องเต้ฟังเ้าแน่นอน! ตอนนี้เ้าคือวีรสตรีผู้ยิ่งใหญ่!”
“เช่นนั้น ทำไมท่านไม่ไปขอร้องฉินอ๋องล่ะ ฮ่องเต้ฟังคำพูดของฉินอ๋องมากกว่าอีก!”
หานฉงอันที่ราวกับจะคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ได้ ก็พูดอย่างแข็งขันและอ้อนวอนอย่างจริงจังว่า “อวิ๋นซี ตราบใดที่ลูกช่วยพ่อ ไม่ว่าเื่อะไร พ่อจะทำตามใจเ้าทุกอย่าง”
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเขาทำตัวแบบนี้ หานอวิ๋นซีก็ยิ่งรังเกียจมากขึ้นเท่านั้น
“ไม่ว่าเื่อะไรก็ยอมทำใช่หรือไม่?” นางถามพร้อมกับยิ้มอย่างเ็า
หานฉงอันพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ดูน่าสมเพชอย่างมาก
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นบอกข้ามาสิ ว่าแม่ของข้าตายไปได้อย่างไร” หานอวิ๋นซีถามอย่างเ็า นี่เป็จุดประสงค์เดียวในการมาครั้งนี้ของนาง
ใครจะรู้ว่า ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกไป คำวิงวอนของหานฉงอันก็หยุดลงทันที หานอวิ๋นซีเห็นความซับซ้อนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเขาและถามว่า “แม่ของข้าตายในขณะที่กำลังคลอด มีพยานหรือไม่? แล้วได้มีการช่วยเหลือหรือไม่?”
คำถามที่ตรงไปตรงมาและทิ่มแทงอย่างหาที่เปรียบมิได้ของหานอวิ๋นซี ทำให้ดวงตาที่ขุ่นมัวและเศร้าหมองของหานฉงอันกระจ่างขึ้นในทันที
เดิมทีเขาคิดว่าหานอวิ๋นซีและแม่ของนางเป็คนใจอ่อนและคุยง่าย แค่เพียงเขาขอร้องดีๆ สักครั้ง สตรีผู้นี้คงใจอ่อนและช่วยเขา แต่ไม่คาดคิดว่านางจะมาที่นี่เพราะเื่นี้
เมื่อสีหน้าของหานฉงอันเปลี่ยนไป ริมฝีปากของหานอวิ๋นซีก็ยกขึ้นมาด้วยความเยาะเย้ย นางจึงรู้ทันทีว่าความสงสัยของนางนั้นถูกต้อง
“ทำไมล่ะ แปลกมากเลยหรือที่ข้าถามแบบนี้?”
ในน้ำเสียงของหานอวิ๋นซีระงับความโกรธเอาไว้ นางคิดว่า หากความจริงเป็ไปตามที่นางคาดเดา คือหานฉงอันอิจฉาพร์ทางการแพทย์ของแม่นาง จึงไม่ช่วยชีวิตไว้และฆ่าแม่ของนาง ก่อนที่ชายคนนี้จะตาย นางต้องทำให้เขาอยู่อย่างทุกข์ทรมานจนร้องขอความตาย!
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นั้นเกินความคาดหมายของหานอวิ๋นซีอย่างสิ้นเชิง
หานฉงอันมองไปที่หานอวิ๋นซีและจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา “คิดไม่ถึงเลย คิดไม่ถึงเลยว่าหานฉงอันจะมีวันนี้ ฮ่าๆๆ!”
หานอวิ๋นซีขมวดคิ้วและมองเขา ไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่ขอร้องอ้อนวอนนางอย่างหนักก่อนหน้านั้น ตอนนี้ถึงได้ยิ้มอย่างว่างเปล่าเช่นนั้น?
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของนาง เขาควรจะรู้สึกผิดและกลัวไม่ใช่หรือ?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าความจริงไม่ใช่อย่างที่นางคิด?
“จะพูดหรือไม่พูด?” หานอวิ๋นซีไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น
“หานอวิ๋นซี เ้าแน่ใจหรือว่าไม่้าช่วยพ่อ?” หานฉงอันที่จู่ๆ ก็จริงจังขึ้นมา ในน้ำเสียงบ่งบอกถึงการข่มขู่
ตอนนี้ หานอวิ๋นซีจึงจะพบว่า เมื่อครู่ตาเฒ่าคนนี้แสดงละครมาตลอด ทำเป็ขมขื่นโศกเศร้าทำตัวน่าเห็นอกเห็นใจ
หานอวิ๋นซียืนขึ้นทันทีและเตือนด้วยน้ำเสียงเ็า “ท่านฝันไปเถอะ! ท่านไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แต่ข้าจะบอกท่านไว้เลยนะ ว่าข้ามีวิธีมากมายที่จะทำให้ท่านเปิดปากพูด”
“ถ้าข้าบอกเ้า เ้าต้องช่วยชีวิตข้า แล้วข้าจะบอกความจริงกับเ้า ตกลงหรือไม่?” หานฉงอันเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน เปลี่ยนท่าทางที่ดูหงุดหงิด กลายเป็สงบและเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะมาต่อรองกับข้า!” หานอวิ๋นซีะโด้วยความโกรธ
“มีสิ ข้ารู้ความจริงทั้งหมด แล้วเ้าก็ต้องสนใจมันมากแน่ๆ เพราะนั่นคือข้อตกลงของข้ากับฮูหยินเทียนซิน” หานฉงอันจงใจลดเสียงลง ซึ่งให้ความรู้สึกเต็มไปด้วยความลึกลับ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หานอวิ๋นซีก็ใ คิดไม่ถึงว่าหานฉงอันจะเรียกแม่ของนางว่า “ฮูหยินเทียนซิน” และไม่ว่าจะฟังอย่างไร ก็เหมือนกับว่าเขาไม่ได้กำลังพูดถึงภรรยาของตนเอง!
เมื่อมองไปที่สีหน้าของหานอวิ๋นซี ดวงตาของหานฉงอันก็เป็ประกายด้วยความอิจฉา ทำไมหานอวิ๋นซีถึงฉลาดขนาดนี้ แล้วทำไมพวกคนเศษสวะตระกูลหานพวกนั้นถึงได้โง่ขนาดนี้? ทำไมเขาไม่มีบุตรสาวแบบนี้บ้างนะ?
“สรุปแล้วเื่มันเป็อย่างไรกันแน่?” หานอวิ๋นซีไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ
หานฉงอันสงบลง “แค่เพียงเ้าตอบตกลงว่าจะช่วยชีวิตข้า ข้าก็จะบอกเ้า”
“ถ้าเ้าไม่บอกข้า ข้าจะทำให้เ้าอยู่ราวกับตายทั้งเป็” หานอวิ๋นซีหรี่ตาเป็เส้นตรง บนร่างกายก็เต็มไปด้วยรังสีที่อันตราย
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของสิ่งที่อยู่ในมือหานฉงอันนั้นมากเกินไป เขาก็ไม่ได้กลัวอะไรเลย นอกจากนี้ เขาก็เป็หัวหน้าตระกูล เห็นอะไรต่างๆ มามากมาย และมีประสบการณ์มาแล้วหลายครั้ง คงจะยอมประนีประนอมกันง่ายๆ เสียที่ไหนกัน?
“เอาเถอะ อย่างไรข้าก็กำลังจะตายอยู่แล้ว อยู่เหมือนตายก็คงไม่เกินสามวันหรอก” หานฉงอันพูดอย่างเ็า
“ท่าน!” หานอวิ๋นซีก้าวไปข้างหน้าและเข้าไปใกล้
หานฉงอันไม่ถอยและพูดอย่างใจเย็นว่า “ถ้าไม่เชื่อละก็ เ้าลองดูก็ได้”
ตาเฒ่าบ้านี่!
หานอวิ๋นซีถอยหลังออกไป กำมือแน่นในแขนเสื้อ “ได้ ข้าตกลง!”
หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังและจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหานฉงอัน
เพื่อที่จะรู้ความจริงในตอนนั้น นางทำได้เพียงตอบตกลงหานฉงอัน นางไม่กล้าที่จะเสี่ยง หากหานฉงอันไม่บอก นางก็ไม่มีวันรู้ความจริง
อย่างไรก็ตาม นางสัญญาว่าจะช่วยชีวิตเขา แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะให้เขาออกจากห้องขัง
ทันทีที่ออกจากคุก หานอวิ๋นซีก็เข้าไปในวังทันที และคนที่นางไปพบไม่ใช่ฮ่องเต้ แต่เป็ไท่จื่อ
ครั้งก่อนที่ฮ่องเต้เทียนฮุยยอมอ่อนข้อให้ก็ยังลังเลมาก ถ้าขออีกครั้ง เกรงว่าอาจจะไม่ได้อะไรเลย กลับกันจะทำให้ฮ่องเต้เทียนฮุยรู้สึกรังเกียจ ส่วนหลงเฟยเยี่ยนั้น หานอวิ๋นซีไม่เคยกล้าคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากเขาเลย
นางจึงทำได้แค่ไปหาไท่จื่อเท่านั้น
นางมาพบไท่จื่อเพื่อที่จะตรวจดูาแ ขันทีเองก็พานางไปที่วังตะวันออกด้วยความเคารพโดยไม่จำเป็ต้องรายงาน
กู้เป่ยเยวี่ยเพิ่งจะออกไป ทั้งสองจึงไม่ได้เจอกัน
ทันทีที่เห็นหานอวิ๋นซีมาหา หลงเทียนโม่ก็รู้สึกประหลาดใจมาก วันนั้นหานอวิ๋นซีได้มอบหมายงานให้กู้เป่เยวี่ยและอธิบายรายละเอียดหลายอย่าง หลงเทียนโม่เลยคิดว่านางคงไม่มาแล้ว
ก่อนหน้านี้หลงเทียนโม่เคยดูถูกหานอวิ๋นซี สตรีผู้น่าเกลียดผู้นี้อย่างมาก แม้ว่าเสด็จย่าจะเป็คนหมั้นหมาย แต่เขาก็รู้สึกว่ามันมากเกินไปสำหรับเสด็จอาที่จะแต่งงานกับหานอวิ๋นซี ทว่าในเวลานี้เขากลับรู้สึกขอบคุณและชื่นชมนางอย่างสุดซึ้ง
เขาไม่เหมือนกับไท่เฮาและฮองเฮาที่มีความคับข้องใจกับอี้ไท่เฟยและหานอวิ๋นซี แม้จะรู้ว่าเสด็จพ่อของเขาระัิอ๋อง แต่เขาก็รู้ว่าเสด็จพ่อหวังให้เขาได้รับการสนับสนุนจากฉินอ๋อง ดังนั้นสำหรับฉินหวังเฟย เขายินดีที่ได้เป็มิตร
“เสด็จอาหญิง เป็เกียรติอย่างมากที่ท่านมาด้วยตัวเอง ลำบากท่านแล้ว” หลงเทียนโม่สุภาพอย่างมากมาก แม้ว่าเขาจะอายุไล่เลี่ยกัน แต่ก็ยังมีความเคารพอยู่
หานอวิ๋นซีไม่ได้ตรวจาแแต่อย่างใด นางเพียงแค่ตรวจดูชีพจรเท่านั้น “อาการดีขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าพักอีกสองสามวันคงลงจากเตียงได้แล้ว”
“ทุกอย่างเป็เพราะความเก่งกาจของเสด็จอาหญิง” หลงเทียนโม่สุภาพอย่างมาก
แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะไม่รู้ว่าหัวใจของหลงเทียนโม่นั้นมีความชั่วร้ายหรือเป็คนดีกันแน่ แต่มารยาทบนใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นว่าเขาดีกว่าองค์หญิงฉางผิงไม่น้อย ด้วยการปฏิบัติตัวเช่นนี้ สมควรแล้วที่จะเป็ว่าที่กษัตริย์
หลังจากพูดอย่างสุภาพแล้ว หานอวิ๋นซีก็ถามอย่างไม่แน่ใจ “ไท่จื่อ ท่านหายจากอาการป่วยหนักแล้ว ฮ่องเต้จะมีการอภัยโทษบ้างหรือไม่?”
หลงเทียนโม่เองก็เป็คนฉลาดเช่นกัน เมื่อได้ยินคำพูดของหานอวิ๋นซี แววตาก็เต็มไปด้วยความสับสนทันที หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงตอบว่า “ข้าไม่เคยได้ยินเสด็จพ่อพูดถึงเื่นี้เลย”
“เช่นนั้นไท่จื่อได้คิดเกี่ยวกับเื่นี้บ้างหรือไม่?” หานอวิ๋นซีพยายามอีกครั้ง
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว หลงเทียนโม่มั่นใจว่าหานอวิ๋นซีมีเื่จะขอร้องอย่างแน่นอน เขายิ้มและพูดง่ายๆ ว่า “ก็มีบ้าง เสด็จอาหญิงมีคนที่้าให้อภัยโทษหรือ?”
หานอวิ๋นซีไม่คาดคิดว่าหลงเทียนโม่จะตรงไปตรงมาขนาดนี้ มันเลยทำให้นางรู้สึกเขินอายและยิ้มออกมา “ไท่จื่อช่างเป็คนที่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ”
“เสด็จอาหญิงก็ชมกันเกินไป หากมีอะไร เสด็จอาก็หญิงพูดออกมาตรงๆ เถิด” หลงเทียนโม่พูดอย่างจริงจัง
“หานฉงอัน พ่อของข้าถูกตัดสินปะาชีวิตวันนี้ หลังจากถูกแห่ไปตามถนนสามวันแล้ว จะถูกตัดศีรษะที่ประตูอู่” หานอวิ๋นซีพูดพลางถอนหายใจเบาๆ “แม้ว่าเขาจะสมควรตาย แต่อย่างไรแล้ว เขาก็คือพ่อของข้า ในฐานะที่ข้าเป็บุตรสาวก็ไม่สามารถเห็นเขาตายต่อหน้าต่อตาได้หรอก ให้เขาจำคุกตลอดชีวิตเสียยังดีกว่า”
หานอวิ๋นซีเน้นย้ำประโยคหลังเป็พิเศษ หลงเทียนโม่ที่ได้ยินคำพูดนี้ก็เข้าใจทันทีว่ามันหมายถึงอะไร
ความจริงแล้ว แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะไม่พูด แต่เขาก็เดาได้ว่าหานอวิ๋นซี้าการอภัยโทษเพื่อช่วยพ่อของนาง
เพียงแต่เื่นี้ต้องให้นางกับเสด็จอาเป็คนพูด แล้วให้เสด็จอาเสนอกับเสด็จพ่อ เช่นนั้นเสด็จพ่อต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่านางจะไม่ไปหาเสด็จอา แต่กลับมาหาเขาแทน เื่นี้ช่างน่าสนใจจริงๆ