ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เช้าวันต่อมา หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เซี่ยโม่ขี่จักรยานพาเซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยที่สวมเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่เอี่ยม ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มกว้างไปยังโรงเรียนประถม

        เซี่ยโม่วางแผนเอาไว้ว่าจะไปจัดการเ๹ื่๪๫เรียนของน้องชายที่โรงเรียนประถมก่อน แล้วถึงค่อยไปทำเ๹ื่๪๫ย้ายที่โรงเรียนมัธยมของเธอ

        ถ้าวันนี้ที่โรงเรียนมัธยมยังไม่มีคนมาทำงานอีกเธอก็ค่อยไปพรุ่งนี้เช้า

        ทันทีที่ขี่จักรยานไปถึงหน้าโรงเรียนประถม เธอบังเอิญได้เจอภรรยาของผู้ใหญ่บ้านที่พาบุตรชายมาสมัครเรียนเช่นกัน

        เธอรีบลงจากจักรยาน เอ่ยทักทายอีกฝ่ายอย่างเป็๲มิตร “คุณอาเหมยฮวา พาสือโถวน้อยมาสมัครเรียนเหรอคะ”

        “เซี่ยโม่เองเหรอ เฉินเฟิงเข้าเรียนได้ไหม”

        “เมื่อวานหนูมาแล้วรอบหนึ่ง คุณครูที่นี่บอกว่าวันนี้ให้ลองพามาแล้วค่อยว่ากันอีกทีค่ะ”

        “ก็จริง เฉินเฟิงอายุยังน้อย ยังไม่ถึงวัยเข้าโรงเรียน แต่หมู่นี้ดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ ทำให้ดูโตกว่าอายุเล็กน้อย”

        “ใช่ค่ะ ความจริงหนูกับคุณยายยังไม่อยากให้เฉินเฟิงเข้าเรียน แต่เ๽้าตัวอยากไปโรงเรียนมาก หนูก็เลยตามใจแล้วลองพามาดูค่ะ”

        ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านกับเซี่ยโม่มอบรอยยิ้มให้แก่กัน ส่วนสือโถวตัวน้อยกับเฉินเฟิงก็จูงมือและแย้มยิ้มให้กันอย่างร่าเริง

        ปีนี้สือโถวน้อยอายุเจ็ดขวบ อายุมากกว่าเซี่ยเฉินเฟิงสองปี

        อาจเป็๞เพราะฐานะทางบ้านค่อนข้างดี ตัวสือโถวจึงสูงและดูแข็งแรง ยามจูงมือเซี่ยเฉินเฟิง ทำให้ดูเหมือนพี่ชายจูงมือน้องชายไม่มีผิด

        เซี่ยเฉินเฟิงล้วงลูกอมนมจากในกระเป๋ายื่นส่งให้สือโถวน้อย

        “พี่สือโถว ผมให้ลูกอมครับ” ก่อนจะออกจากบ้าน พี่สาวเอาลูกอมนมใส่ในกระเป๋าของเขา บอกไว้ว่าถ้าเจอเพื่อนก็แบ่งลูกอมให้เพื่อนด้วยหนึ่งเม็ด

        เขารู้จักและค่อนข้างสนิทสนมกับพี่สือโถว ทั้งได้ยินว่าอีกฝ่ายก็จะเข้าเรียนปีนี้ด้วยเช่นกัน เขานึกถึงคำพี่สาวขึ้นมาจึงแบ่งลูกอมนมให้อย่างไม่ลังเล

        สือโถวน้อยรับลูกอมไป “รอให้ฉันมีลูกอม ฉันค่อยแบ่งให้นะ”

        “ครับ” เซี่ยเฉินเฟิงพยักหน้า

        เซี่ยโม่มองเด็กทั้งสองคนที่ดูสนิทสนมกลมเกลียวกันดีก็ลอบยิ้มในใจ

        พอสือโถวน้อยรับลูกอมไปก็ไม่ได้คิดเป็๲แค่ผู้รับ แต่กลับมีความคิดอยากตอบแทน แม้จะเป็๲แค่เ๱ื่๵๹เล็กน้อย แต่ก็ทำให้เห็นถึงนิสัยใจคอของเด็กคนนี้ได้เป็๲อย่างดี

        ทั้งสี่คนเดินไปยังที่สมัครเรียน พอไปถึงเซี่ยโม่ก็ได้เจอกับชายชราผมสีดอกเลาคนเดียวกับเมื่อวาน

        เธอจูงมือน้องชายพาเดินเข้าไปหา ก่อนจะส่งยิ้มทักทาย ”คุณครูคะ ฉันพาน้องชายมาแล้วค่ะ คุณครูลองดูนะคะว่าน้องฉันสามารถเข้าโรงเรียนได้ไหม”

        ขณะเซี่ยโม่แนะนำน้องชายให้ชายชรารู้จัก เซี่ยเฉินเฟิงพยายามยืดอกให้ตัวดูสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

        ชายชราแย้มยิ้มมองเด็กชายด้วยความเอ็นดู “เราชื่อเซี่ยเฉินเฟิงสินะ ปีนี้อายุเท่าไรแล้ว”

        “คุณครู ปีนี้ผมอายุห้าขวบย่างหกขวบครับ ผมอยากเข้าโรงเรียนจริงๆ ผมสามารถเข้าโรงเรียนได้ไหมครับ” เด็กชายพูดตอบเสียงดังฟังชัด

        ชายชรายิ้มพร้อมกับถามต่อ “งั้นฉันขอถามหน่อย ถ้าเธอ๻้๵๹๠า๱ไปชิ้งฉ่องจะต้องทำยังไง”

        เด็กชายจำที่พี่สาวเคยบอกได้ จึงตอบออกไปโดยไม่ต้องคิด “ก็ต้องไปเข้าห้องน้ำครับ”

        “แล้วถ้าเป็๲ตอนกำลังเรียนอยู่ล่ะ”

        เด็กชายหันไปมองพี่สาว ทว่าพี่สาวเอาแต่ทำหน้านิ่ง เฉินเฟิงตัวน้อยทำท่าขบคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ก็ต้องขออนุญาตคุณครูก่อน บอกว่าอยากจะไปเข้าห้องน้ำครับ”

        “ดีมาก แล้วเราเขียนชื่อตัวเองได้ไหม” ชายชราพยักหน้าแล้วถามต่อ

        เด็กชายพูดตอบอย่างภาคภูมิใจ “เขียนได้ครับ แล้วผมก็บวกลบเลขไม่เกินยี่สิบเป็๞ด้วยครับ”

        ชายชราทำหน้าสนอกสนใจ “งั้นฉันขอทดสอบดูหน่อยก็แล้วกัน ฉันมีไข่ไก่สิบสามฟอง ต้มไปหกฟอง ไม่ระวังทำแตกสามฟอง ฉันจะเหลือไข่ไก่กี่ฟอง”

        เซี่ยเฉินเฟิงทำหน้าราวกับว่า ทำไมคำถามมันง่ายแบบนี้ “คุณครูครับ คำถามนี้ง่ายเกินไปแล้ว ก็ต้องเหลือสี่ฟองสิครับ”

        “ไม่เลว งั้นเขียนชื่อให้ฉันดูหน่อย” ชายชราส่งกระดาษกับปากกาให้

        เซี่ยเฉินเฟิงใช้ปากกาเขียนชื่อตัวเองลงบนมุมด้านซ้าย ไม่เสียแรงที่ฝึกเขียนอยู่หลายวัน แม้จะดูออกว่าเป็๞ตัวหนังสือที่เด็กเขียนแต่ลายเส้นก็ชัดเจน เส้นไหนควรตรงก็ตรง เส้นไหนควรนอนก็นอน

        เด็กชายตั้งอกตั้งใจเขียนอย่างหาเจอได้ยากในเด็กวัยเดียวกัน

        ใบหน้าเรียบเฉยของชายชราฉายแววพึงพอใจ เขาคลี่ยิ้มพร้อมกับกล่าวชม “ไม่เลว เธอเข้าเรียนได้”

        ไม่ไกลจากที่ทุกคนยืน หญิงวัยกลางคนแต่งตัวสกปรกมอมแมม ด้านข้างของเธอคือเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเนื้อตัวมอมแมมไม่ต่างกัน ทั้งคู่ได้ยินที่ชายชราพูดคุยกับสองพี่น้องหมดแล้ว

        สองแม่ลูกเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าไม่พอใจ หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามเสียงแหลมอย่างไม่ยอมความ “คุณครู ลูกชายฉันก็อายุห้าขวบเหมือนกัน ทำไมคุณถึงไม่รับลูกชายฉัน”

        ชายชราหันไปมองหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายที่เพิ่งเดินเข้ามาก่อนจะตอบ “ลูกของคุณไม่เพียงดูแลตัวเองไม่ได้ ความรู้พื้นฐานอะไรก็ไม่มี ผมย่อมไม่รับอยู่แล้ว”

        “ใครบอกว่าลูกชายฉันดูแลตัวเองไม่ได้ ความรงความรู้พื้นฐานอะไร ถ้าลูกฉันรู้เ๹ื่๪๫หมดทุกอย่างจะต้องส่งมาเรียนทำไม” หญิงวัยกลางคนเถียงกลับข้างๆ คูๆ

        “คุณลองดูลูกของคุณสิ แม้แต่หน้าตาเนื้อตัวของตัวเองก็ไม่รู้จักทำความสะอาด เ๱ื่๵๹นี้คุณก็จะส่งเขามาให้คุณครูในโรงเรียนช่วยดูแลด้วยหรือ” ชายชราตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

        ทั้งหมดมองไปที่เด็กชาย หน้าตาเนื้อตัวมอมแมมยังพอว่า นี่ที่ตายังเกรอะกรังด้วยขี้ตา อีกทั้งเด็กชายยังกำลังพยายามสูดน้ำมูกที่ไหลออกมากลับเข้าไป เห็นแล้วน่าพะอืดพะอมเหลือเกิน

        ทุกคนต่างขมวดคิ้วโดยพร้อมเพรียง

        เห็นได้ชัดว่าหญิงวัยกลางคนผู้นี้เจตนาเอาลูกมาทิ้งไว้ที่โรงเรียนให้คุณครูคอยดูแล ไม่ได้คิดพาเข้าเรียนเพราะ๻้๪๫๷า๹ให้ลูกเล่าเรียนศึกษา

        ชายชราชี้ไปที่เซี่ยเฉินเฟิงซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง “ทุกคนดูสิ อายุห้าขวบเหมือนกันแต่เด็กคนนี้แต่งเนื้อแต่งตัวสะอาดสะอ้าน ทั้งยังมีความรู้พื้นฐาน เด็กที่รู้ความและใครเห็นก็ชื่นชอบแบบนี้ ต่อให้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ผมก็รับ”

        เซี่ยเฉินเฟิงที่ได้รับคำชมยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

        เด็กชายมีฟันขาวเรียงเป็๲ระเบียบ ริมฝีปากปากแดงเรื่อ ใบหน้าเล็กกลมป้อม น่ารักน่าเอ็นดูเป็๲ที่สุด

        พอเด็กทั้งสองมายืนอยู่ด้วยกันเช่นนี้ ใครเห็นก็ต้องเอ็นดูเซี่ยเฉินเฟิงกันทั้งนั้น

        หญิงวัยกลางคนลากลูกชายจากไปด้วยความเสียหน้า ระหว่างทางไม่วายด่าทอลูกชายไม่หยุด

        เวลานี้เองสือโถวน้อยที่สมัครเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามาถามด้วยความอยากรู้ “เฉินเฟิง ตกลงนายเข้าโรงเรียนได้ไหม”

        เซี่ยเฉินเฟิงยืดอกยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับเอ่ยอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “ผมเข้าโรงเรียนได้แล้ว!”

        “งั้นก็ไปสมัครแล้วรับหนังสือ แม่พี่ช่วยพี่ทำเสร็จหมดแล้ว”

        เ๱ื่๵๹ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยิ่งทำให้เซี่ยโม่มั่นใจว่า ชายชราตรงหน้าคือผู้อำนวยการของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้

        “เฉินเฟิง เราไม่ต้องใจร้อน เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้”

        ชายชราเขียนตัวหนังสือหนึ่งตัวบนกระดานก่อนจะยื่นส่งให้เธอ “เอากระดาษแผ่นนี้ไปตรงจุดสมัครเรียนนะ”

        “ค่ะ” เซี่ยโม่รับกระดาษมา บนนั้นมีตัวหนังสือหนึ่งตัวซึ่งเขียนอย่างสละสลวยเอาไว้ว่า ผ่าน

        เธอเดินไปตรงจุดรับสมัครนักเรียน ยื่นกระดาษที่ชายชราให้มาไปตรงหน้าคุณครูที่ประจำการอยู่ “คุณครูคะ คุณปู่ผมสีดอกเลาตรงนั้นคือใครเหรอคะ”

        คุณครูหันไปมองก่อนจะเบิกตาโต “แม้แต่เขาเป็๞ใครเธอก็ไม่รู้จักเหรอ คนนั้นคือครูใหญ่ของโรงเรียนเรา”

        เธอทำหน้าคล้ายเข้าใจเ๱ื่๵๹ราว จากนั้นขั้นตอนที่เหลือก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น

        หลังจัดการเ๹ื่๪๫สมัครเรียนเสร็จแล้ว เธอพบว่าคุณอาเหมยฮวากับสือโถวน้อยยังคงรอพวกเธออยู่ เซี่ยโม่ถามสือโถวน้อยว่าเรียนอยู่ห้องไหน ปรากฏว่าเรียนอยู่ห้องเดียวกับเซี่ยเฉินเฟิงพอดี

        เด็กชายทั้งสองต่างยิ้มร่าอย่างดีอกดีใจ

        “คุณอาเหมยฮวาคะ คุณยายหนูทำเสื่อที่ด้านหน้าและด้านหลังของรถจักรยานเอาไว้ให้แล้ว ต่อไปหนูจะเป็๞คนพาสือโถวกับเฉินเฟิงมาส่งที่โรงเรียนเองค่ะ” เธอเอ่ยกับคุณอาเหมยฮวา

        คุณอาเหมยฮวานิ่งไปชั่วครู่ ตอนแรกคิดว่าเซี่ยโม่มีจักรยานย่อมต้องขี่จักรยานพาน้องชายมาส่งโรงเรียน ส่วนบุตรชายของเธอถ้าให้ไปเรียนคนเดียวคงยากจะวางใจ เลยตัดสินใจว่าจะเป็๲คนไปรับไปส่งบุตรชายเอง

        นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเ๹ื่๪๫ดีแบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ

        “แบบนี้เราจะไม่เหนื่อยเกินไปเหรอ” ภรรยาผู้ใหญ่บ้านถามด้วยสีหน้าเกรงอกเกรงใจ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้