แสงสีแดงเข้มที่ปล่อยออกมาจากทวนสีแดงเข้มในมือนักยุทธ์อาชาเงา! ดูเหมือนจะทำให้อุณหภูมิทั่วทั้งทางเดินสูงขึ้นหลายองศา!
หลังจากจัดการกับสัตว์อสูรมายาตัวสุดท้ายลงได้ ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นก็เปล่งแสงออกมา นักยุทธ์อาชาเงาคนนี้ได้ฝึกฝนวิชาธาตุไฟที่ทรงพลังที่สุดในบรรดาธาตุทั้งห้า
เมื่อพลังธาตุไฟถูกถ่ายเทลงไปในทวนเสร็จ นักยุทธ์อาชาเงาก็ลงมือทันที!
ทวนสีแดงเข้มกลายเป็ดั่งงูเพลิงสีแดง ส่งเสียงคำรามและฉกกัดเซียวหลิงอวิ๋น!
นี่คือวิชาทวนระดับสูงสุดของวรยุทธ์ทั่วไป... [อสรพิษเพลิงทะลวงฉก]
แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร ก็ยังััได้ถึงไอเพลิงอันแรงกล้าของเ้างูเพลิงตัวนี้!
เนื่องด้วยเป็อาวุธทวนยาว อีกทั้งยังเป็ทางเดินแคบและได้เปรียบเื่พื้นที่สูงต่ำอีก จึงเป็เื่ยากที่จะหลบการโจมตีของนักยุทธ์อาชาเงาโดยอาศัยเพียงวิชาก้าวลวงิญญาฉบับง่ายและอ่อนแอนี้!
หนำซ้ำยังมีตัวปัญหาอีกสองตัวอยู่ข้างหลังอีก เขาจำต้องรีบตัดสินใจเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว และแล้วพลังปราณในกายของเซียวหลิงอวิ๋นก็ไหลเวียนด้วยความเร็วสูง ดาบใหญ่เหล็กดำที่รับพลังเข้าไปอย่างเต็มเปี่ยม กลายเป็คลื่นพลังและถูกซัดออกไป!
บุปผาโรยสามระลอกซึ่งแต่เดิมเป็วิชาฝ่ามืออันงดงาม ในเวลานี้ถูกเซียวหลิงอวิ๋นนำมาหลอมเข้ากับกระบวนดาบของเขา!
“เปรี้ยง!”
หอกสีแดงเข้มที่กลายร่างเป็งูเพลิงปะทะเข้ากับคลื่นดาบ เกิดเสียงะเิดังสนั่นไปทั่วทั้งทางเดิน สองร่างทั้งใหญ่และเล็กต่างก็กระเด็นถอยออกมาทั้งสองฝั่ง ในชั่วขณะต่อมา ทั้งคู่ก็เข้ามาปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง!
ทั้งดาบทั้งทวนต่างส่งเสียงดังกึกก้องไปรอบบริเวณ
ชิ้ง!
หอกสีแดงเข้มนั้นเป็ดั่งอสรพิษร้ายที่ทะลวงผ่านคลื่นดาบ พุ่งตรงไปที่หน้าผากของเซียวหลิงอวิ๋น!
“สวบ!” หน้าผากของเซียวหลิงอวิ๋นถูกแทงแตกเป๊าะราวกับฟองสบู่! ชั่วขณะต่อมาตัวของเซียวหลิงอวิ๋นก็ปรากฏอยู่ที่ทางด้านซ้ายของนักยุทธ์อาชาเงา ดาบใหญ่เหล็กดำในมือของเขากลายเป็ดั่งลำแสงจ้วงแทงเข้าไป!
ก้าวลวงิญญาของเซียวหลิงอวิ๋นสามารถลบเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่ายได้ราวกับปาฏิหาริย์ เนื่องจากความเร็วจัด ทำให้ปลายทวนของอีกฝ่ายที่แทงทะลุเข้าไปนั้นเป็เพียงภาพติดตาที่เหลือทิ้งไว้ที่เดิมเท่านั้น
เสียงดังฉึกสองเสียงติดต่อกัน ขาของม้าทั้งสองข้างขาดกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ!
เซียวหลิงอวิ๋นยังคงใช้แผนล้มม้าก่อนค่อยฆ่าคน จัดการฆ่าพาหนะของอีกฝ่ายเสียก่อน เพื่อเปลี่ยนนักยุทธ์อาชาเงาให้กลายเป็พลเดินเท้าที่เคลื่อนไหวอืดอาดเนื่องจากสวมเกราะหนัก!
หากไร้ซึ่งม้าเกล็ดดำแล้ว นักยุทธ์อาชาเงาก็เป็เหมือนดั่งหงส์เพลิงที่ร่วงโรย มีค่าด้อยกว่าไก่เสียอีก เกราะหนักก็ทำให้จำกัดฝีเท้าและการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างมาก!
และเมื่อเผชิญหน้ากับเซียวหลิงอวิ๋นที่มีก้าวลวงิญญาด้วยแล้ว! การสู้อย่างต่อเนื่องนี้ สมดุลของชัยชนะเริ่มเอนเอียงมาทางเซียวหลิงอวิ๋นด้วยความเร็วที่น่าใ!
สิ้นเสียง ”กระซวก!” ก็มีเืไหลพุ่งออกมาจากเอวของนักยุทธ์อาชาเงา
เซียวหลิงอวิ๋นผู้เอาแน่เอานอนไม่ได้ราวกับสายลม เป็เหมือนดั่งชะมดที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ปล่อยการโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนรัวใส่รอบตัวนักยุทธ์อาชาเงา!
“แกร๊ง! ฉึก!”
“แกร๊ง! ฉึก!”
แม้แต่ชุดเกราะหนักก็ไม่สามารถต้านทานการแทงของดาบใหญ่เหล็กดำนี้ได้ เืไหลทะลักออกมาตามาแที่ปรากฏบนร่างของนักยุทธ์อาชาเงาอย่างต่อเนื่อง!
นักยุทธ์อาชาเงาอยู่ในสภาพย่ำแย่อย่างยิ่ง คู่ต่อสู้ของเขาราวกับปลาดุกตัวไหลลื่น ทำให้การโจมตีของเขาไม่สามารถโจมตีโดนอีกฝ่ายได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเขาสวมชุดเกราะหนักอยู่ด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถหลบการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้อย่างถนัดถนี่! กลายเป็เพียงเป้าที่ขยับไม่ได้ไปเสียอย่างนั้น!
เนื่องจากมีเืไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง จากาแเล็กน้อยนานเข้าก็อาจกลายเป็อาการาเ็สาหัสได้ ในขณะที่เขาพยายามหลบหลีกอย่างรุนแรง จู่ ๆ ก็รู้สึกเวียนศีรษะขึ้นมา!
แย่แล้ว!
จู่ๆ ความคิดนี้ก็แวบขึ้นมาในใจเขา ชั่วขณะต่อมาก็รู้สึกเจ็บที่คอ ตามด้วยหัวที่ขาดกระเด็นลอยขึ้นไป!
“ฉัวะๆ!” เสียงดังเบาๆ สองเสียงดังตามมา ศีรษะกับลำตัวของนักยุทธ์อาชาเงาซึ่งถูกตัดขาดด้วยดาบใหญ่ พลันกลายเป็ประกายแสงและหายวับไป
เซียวหลิงอวิ๋นทรุดตัวลง ใบหน้าของเขาซับสีแดงระเรื่อเล็กน้อย!
พลังการต่อสู้ของนักยุทธ์อาชาเงาตัวนี้สูงกว่าตัวก่อนเสียอีก!
แต่ภายใต้คมดาบของเราแล้ว เ้าย่อมหลีกไม่พ้นชะตากรรมการถูกสังหารเท่านั้น!
ความทนงตนในใจเขาเพิ่มสูงขึ้นไปอีก!
“กุบกับๆ!” เสียงกีบม้าดังขึ้นอย่างชัดเจน!
เมื่อหันไปมอง ใบหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นก็มืดดำลงทันที แททบจะลมจับรอบสอง! รู้อยู่หรอกว่าการจะผ่านด่านไปได้ไม่ใช่เื่ง่ายๆ! ทว่ายังไม่ทันหายใจคล่องคอ เ้าตัวปัญหาสองตัวสุดท้ายก็เดินหน้าเข้ามาหาพร้อมกันแล้ว!
นักยุทธ์อาชาเงาที่นั่งอยู่บนหลังม้าเกล็ดดำ ถือทวนเหล็กยาวแปดจั้ง มากับจอมยุทธ์มายาที่สวมชุดสีเงิน ถือดาบที่ร้อยห่วงห้าวงตรงสันดาบ นักยุทธ์มายาทั้งสอง หนึ่งคนสูงหนึ่งคนเตี้ยเดินอยู่ห่างกันราวสองเมตร
กุบกับๆ เสียงกีบม้าดังขึ้นเป็จังหวะ!
แรงกดดันของนักยุทธ์อาชาเงาที่นั่งสูงตระหง่านอยู่บนหลังม้าเกล็ดดำ และจอมยุทธ์ชุดเงินที่เดินอยู่ใกล้ๆ กันเพิ่มระดับขึ้นด้วยเช่นกัน!
หึ!
ไม่เลวๆ!
อีกฝ่ายใช้เสียงกีบม้าเพื่อเพิ่มแรงกดดัน!
เมื่อััถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของศัตรูทรงพลังทั้งสองคนตรงหน้าแล้ว ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น ไฟแห่งการต่อสู้ของเขาลุกโชนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทรงพลังทั้งสอง ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้าไปครึ่งหนึ่งเช่นนี้แล้ว ยังจะมีอะไรน่าตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีก?
ชาติก่อนของเขา ตัวเขาเป็ถึงราชันเทพผู้ยิ่งใหญ่ในแดนเทพ หากเขาไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งสองตัวที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว ตัวเขาจะสามารถยึดครองอาณาจักรซินโยวในชาตินี้ และทะยานขึ้นสู่ดินแดนเบื้องบน สังหารศัตรูตัวฉกาจของเขาได้อย่างไร?!
ข้าจะใช้พวกแกเป็บันไดขั้นแรกของเส้นทางเดิน นำไปสู่จุดสูงสุดในชาตินี้ของข้า!
ในขณะที่คิดถึงเื่เหล่านี้ ทั้งสภาวะจิตใจและไฟต่อสู้ของเซียวหลิงอวิ๋นก็เกิดการเปลี่ยนแปลง!
สูงส่ง ยิ่งใหญ่ ทระนง สมเป็าาผู้น่าเกรงขาม!
เวลานี้แรงกดดันของนักยุทธ์มายาที่แข็งแกร่งทั้งสองซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบห้าเมตรตรงหน้า ไต่ระดับขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดแล้ว ทั้งคู่กำลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตี ทว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของเซียวหลิงอวิ๋นก็ทำให้ทั้งคู่ต้องใ!
คู่ต่อสู้ที่ควรจะเหนื่อยล้าสิ้นเรี่ยวแรงตรงหน้า เปลี่ยนไปอยู่ในสถานะลึกลับแบบทันทีทันใด เป็สภาวะราวกับกำลังเดินอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งๆ แต่ให้ความรู้สึกถึงพลังอันทรงพลังและล้ำลึกสุดหยั่ง ห่างชั้นกับตนเองอย่างลิบลับ
นอกเหนือจากสถานะของพลังและิญญาที่เหนือความคาดหมายนี้แล้ว การเคลื่อนไหวของเซียวหลิงอวิ๋นก็ยังทำให้ศัตรูมายาทั้งสองรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา! แขนซ้ายของศัตรูห้อยตกลง ดาบใหญ่เหล็กดำในมือขวาเองก็ห้อยลงเรี่ยพื้นในแบบเดียวกัน โดยหันปลายดาบชี้ไปที่พื้น!
ทว่าสภาวะผ่อนคลายที่ดูเหมือนไม่ได้เตรียมตัวต่อสู้นี้ กลับดูพิศวงอย่างมากในสายตาของนักยุทธ์มายาทั้งสองที่มากด้วยประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน พวกเขาต่างก็ประหลาดใจเมื่อพบว่าการเตรียมการก่อนหน้านี้ของพวกเขาดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์สำหรับอีกฝ่าย การตั้งท่าที่เหมือนจะเต็มไปด้วยจุดบอดของคู่ต่อสู้ทำให้พวกเขาตระหนักดีว่า ไม่ว่าพวกเขาจะบุกเข้าโจมตีจากทางไหน อีกฝ่ายก็สามารถรับการโจมตีของพวกเขาได้อย่างแน่นอน ทำให้ท่าทางที่ดูเหมืออนจะเต็มไปด้วยจุดบอดนี้ กลายเป็ท่าแข็งแกร่งที่สุด เป็การตั้งรับที่ไร้ซึ่งจุดบอด
สิ่งนี้ทำให้พวกเขาที่พร้อมจะบุกในตอนแรก รู้สึกเหมือนหน้าอกถูกก้อนหินก้อนใหญ่กดทับเอาไว้ ทำให้ลมหายใจเข้าออกถี่กระชั้นขึ้น เริ่มรู้สึกหายใจติดขัดด้วยความอึดอัดอย่างมาก!
“ฆ่า!” เสียงะโดังมาจากปากของนักยุทธ์อาชาเงา! จากนั้นด้วยการะโเสียงดังนี้ ก็ทำให้เขาได้ระบายลมหายใจที่ติดขัดออกมา สั่งกาม้าเกล็ดดำที่อยู่ใต้หว่างขาให้ขยับ!
“ฆ่า!” จอมยุทธ์ชุดเงินถูกปลุกให้ได้สติด้วยเสียงะโอันดังกึกก้องของนักยุทธ์อาชาเงา เขาเองก็คำรามออกมาเช่นกัน แล้วพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกธนูที่ดีดผึงออกจากสาย และในขณะที่วิ่งเข้าไปหา ดาบห้าห่วงในมือของเขาก็ถูกชักออกมา เผยให้เห็นความคมกริบของมัน เป็คนแรกที่บุกเข้ามาถึงตัวเซียวหลิงอวิ๋นก่อนอย่างรวดเร็ว
พร้อมด้วยเสียงกีบม้าที่ดัง “กุบกับ!” ถี่รัว ร่างกายขนาดมหึมาของม้าเกล็ดดำก็พุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ! นักยุทธ์อาชาเงาสั่งให้ม้าเกล็ดดำเข้าบุกประสานไปกับการรุกของจอมยุทธ์ชุดเงิน ทวนเหล็กยาวแปดจั้งในมือก็กลายเป็แสงสีดำ เข้าปกคลุมตลอดทั้งเส้นทางข้างหน้าของเซียวหลิงอวิ๋นด้วยปลายทวนอันแหลมคม
ดวงตาของเซียวหลิงอวิ๋นหรี่ลงเล็กน้อย ยอดไปเลย หนึ่งนักยุทธ์อาชา หนึ่งจอมยุทธ์ คนหนึ่งขี่ม้าอีกคนเดินเท้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะสามารถร่วมมือกันได้อย่างราบรื่นเท่านั้น ยังสามารถร่วมมือกันได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองคำกล่าวอีกด้วย!
ไม่ธรรมดาจริงๆ!
ทั้งดาบทั้งทวนบุกเข้าโจมตีกันคนละที ก่อให้เกิดการบุกอย่างต่อเนื่อง โดยให้ดาบเป็การโจมตีหลัก และมีทวนเป็การโจมตีเสริม นอกจากนี้ยังให้ดาบยาวบุกเข้าโจมตีแบบตรงๆ ในขณะที่ทวนจะคอยกระหนาบโจมตีอยู่รอบๆ เป็การโจมตีแบบเป็วงกลมด้วยดาบและทวนในรัศมีห้าเมตร
ทำให้เวลานี้ตัวของเซียวหลิงอวิ๋นตกอยู่กลางวงล้อมของการโจมตี!
พลังกายเขาเหลืออยู่เพียงสามส่วนแล้ว การประสานงานกันของดาบและทวนของอีกฝ่ายก็ยอดเยี่ยมมาก ในสถานการณ์เช่นนี้ คงมีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะเลือกบุกฝ่าเข้าไป และเลือกหลีกเลี่ยงคมอาวุธของอีกฝ่าย เฝ้ารอโอกาสที่จะสวนกลับ!
เซียวหลิงอวิ๋นใช้สมองทำงานอย่างเต็มที่ ทันใดนั้นก็ตัดสินใจได้ทันที!
วิชาก้าวลวงิญญาอย่างง่ายถูกเรียกใช้จนถึงขีดสุด ร่างกายเขาลอยละลิ่วราวกับปุยต้นหลิว!
