“คนจากอีกสองสายหรือ?” ิอวี่เริ่มตื่นเต้น
ตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ิอวี่อยู่แต่ในสายเลี่ยนเหยียนอย่างเดียว ไม่เคยเจอคนที่มาจากสายอื่นเลย
หากเป็ไปตามที่ซ่งหยวนหยวนบอก ผู้กล้าที่มีพร์จากสามสายล่างจะเข้าไปยังสนามรบร้างโบราณแห่งนี้ด้วย นั่นก็หมายความว่าภารกิจในครั้งนี้สำคัญกว่าศึกหอคอยเลี่ยนถ่ามากเลย
เพราะเป็การทำภารกิจของทั้งสามสายล่าง
“ไม่เลวเลย”
ซ่งหยวนหยวนค่อยๆ เอามือออกจากหน้าอกของิอวี่แล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะอธิบายว่า “สนามรบร้างโบราณนี้ เมื่อหนึ่งพันปีก่อนสำนักเทพอัคคีได้ไปค้นพบพื้นที่ประหลาดแห่งหนึ่ง มันเป็ทางเข้าสู่สนามรบร้างโบราณ เป็ดินแดนใต้ดินที่อยู่ไม่ไกลจากสำนักเทพอัคคี ทางสำนักจึงได้ส่งผู้กล้าเฝ้าเอาไว้ตลอดเวลา”
“ตอนที่ผู้าุโรุ่นก่อนๆ ของเราเข้าไปยังสนามรบร้างโบราณ ก็พบว่ามันเป็พื้นที่ว่างเปล่ารกร้างทั้งหมด แต่จากการคาดการณ์ของเรา ภายในสนามรบร้างโบราณน่าจะเคยเกิดศึกาใหญ่ระหว่างเผ่าพันธุ์มาก่อน คนในพื้นที่แห่งนั้นล้วนแต่ดับสลาย ดังนั้น เราเลยเรียกพื้นที่แห่งนั้นว่า สนามรบร้างโบราณ”
ิอวี่ตั้งใจฟังมาก พลางรินน้ำชาที่หอมหวานให้กับซ่งหยวนหยวนและพูดว่า “ท่านพูดต่อเลย”
ซ่งหยวนหยวนพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดต่อว่า “ถึงแม้มนุษย์ในสนามรบร้างโบราณนั้นจะดับสลายไม่เหลือแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็พื้นที่ที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า สมุนไพรหายากมากมาย และยังมีอสูรลึกลับจำนวนมากอาศัยอยู่ ดูผิวเผินมันเหมือนเป็พื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แต่ในความเป็จริงแล้วมันแฝงและซ่อนไปด้วยอันตรายอยู่ในทุกๆ พื้นที่”
“ดังนั้น ทางสำนักเทพอัคคีของเราจึงได้ตัดสินใจใช้สนามรบร้างโบราณนั้นเป็สนามฝึกของเหล่าศิษย์ ขอแค่มีความสามารถมากพอก็จะสามารถได้รับสมบัติล้ำค่าจำนวนมาก”
ิอวี่พูดด้วยความสงสัยว่า “แต่ท่านก็บอกว่ามีภารกิจในสนามรบร้างโบราณ มันเป็ภารกิจอะไรเหรอขอรับ?”
“ภารกิจที่เ้ากับเิหยูเยียนจะต้องเข้าไปทำในสนามรบร้างโบราณ ก็คือค้นหาอสูรตัวหนึ่งในนั้นที่เรียกว่า ัทะเลทราย” ซ่งหยวนหยวนพูด
ิอวี่เดาว่า “แค่ได้ยินชื่อเรียก ก็รู้สึกได้เลยว่าระดับของเ้าัทะเลทรายนี่ ... ไม่ธรรมดาแน่นอน”
“ถูกต้อง เพราะมันเป็อสูราาระดับสี่ขั้นสูงสุด”
“อ่า?!”
ิอวี่ถึงกับตาโต อสูราาระดับสี่ขั้นสูงสุด ... มันอะไรกันเนี่ย? นั่นก็น่าจะเทียบเท่าผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ระดับสูงสุดสินะ ถึงแม้ความสามารถของิอวี่จะไม่ด้อย แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรระดับนี้ เขาก็รู้ตัวดีว่าแทบไม่มีโอกาสชนะ
หากบอกว่าภารกิจในครั้งนี้คือการเอาชนะัทะเลทราย ิอวี่รู้สึกว่าให้เขาอยู่รอให้ฟางหลิงจวินมาฆ่าดีกว่า เพราะว่าอย่างไรก็ตายเหมือนกัน
“ข้ายังพูดไม่จบ เ้าจะรีบร้อนไปทำไมกัน”
ซ่งหยวนหยวนเห็นสีหน้าท่าทางใของิอวี่ก็ยิ้ม “ัทะเลทรายมีกำลังมหาศาล ใช้ทรายแทนทะเล มุดลัดเลาะไปทั่ว สามารถดึงเอาทรายมาเป็กำลังโจมตีได้ หากมองจากเื่พร์ของอสูร สำนักเทพอัคคีให้ความสำคัญกับมันมาก”
“ส่วนในเื่ของนิสัย เ้าัทะเลทรายค่อนข้างจะเชื่อใจคนอย่างสนิทมาก หากในใจมีความคิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ก็ยากที่จะไปเปลี่ยนแปลงมันได้ ดังนั้น หากเลี้ยงเ้าัทะเลทรายมาั้แ่เล็กและฝึกให้มันเชื่อง เมื่อมันเติบโตขึ้นก็จะกลายเป็กำลังรบที่หาได้ยากยิ่ง”
“สำนักเทพอัคคีของเรามีอสูรที่ถูกฝึกแบบนี้เยอะมาก พวกมันไม่ถือเป็ของคนใดคนหนึ่งในสำนักเทพอัคคี แต่มันเป็ของทั่วทั้งสำนัก เหมือนกองกำลังทหารกองหนึ่งของเรา เ้าเข้าใจไหม”
“อย่างนี้นี่เอง”
ิอวี่พยักหน้า แต่ก็ยังพูดขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจอยู่ดีว่า “ถึงจะอย่างนั้น แต่ว่า เ้าัทะเลทรายตอนนี้ก็เป็อสูราาระดับสี่สูงสุดแล้วไม่ใช่หรือขอรับ ... แล้วจะเลี้ยงมันั้แ่เล็กได้อย่างไรกัน?”
ซ่งหยวนหยวนยิ้มแล้วพูดว่า “ง่ายมาก เพราะเราได้ข่าวมาว่าเ้าัทะเลทรายมันวางไข่ออกมาหนึ่งใบ แล้วภารกิจของพวกเ้าในคราวนี้ก็คือขโมยไข่ใบนั้นกลับมา”
“เอ่อ ... ”
ิอวี่ตะลึง ที่ผ่านมาเขาต่อสู้เป็อย่างเดียว แต่ครั้งนี้กลับให้เขาไปขโมยไข่หนึ่งใบ ...
หากมองจากในมุมยาก มันก็ง่ายกว่าการให้ไปฆ่าัทะเลทราย แต่คิดอยากจะขโมยไข่ออกมาจากัทะเลทรายมันก็ไม่ใช่เื่ง่าย
“แต่ว่าเื่นี้ ผู้บริหารระดับสูงของสำนักเทพอัคคีลงมือจัดการเองก็ได้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ ทำไมยังต้องให้พวกเราไปทำด้วยล่ะ?” ิอวี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์
“เพราะมันเป็บททดสอบอย่างหนึ่ง เป็บททดสอบสำหรับพวกเ้า”
ซ่งหยวนหยวนพูด “อีกอย่าง เมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่น่ากลัวของเ้าอสูรัทะเลทรายแล้ว ชีวิตของพวกเ้านั้นน่ากังวลมาก ดังนั้น ก่อนที่พวกเ้าจะเข้าไปยังสนามรบร้างโบราณ จะมีการแจกหยกให้คนละชิ้น หากเจออันตรายและภัยมาถึงตัวก็ให้บีบหยกให้แตก ก็จะสามารถกลับออกมาจากสนามรบร้างโบราณได้ภายในสิบวินาที”
ิอวี่รู้สึกโล่งใจ หากเป็อย่างนี้เขารู้สึกว่ายังพอรับได้
ถึงแม้ภายในสิบวินาทีนั้นยังคงมีอันตรายอยู่ แต่ขอแค่ควบคุมระยะให้ดี หากเจออันตรายใดๆ ไม่บุ่มบ่าม ปัญหาก็ไม่ใหญ่
เห็นิอวี่เริ่มผ่อนคลาย ซ่งหยวนหยวนก็พูดต่อว่า “แน่นอนว่า เ้าเองก็อย่าประมาทไป ครั้งนี้ ศิษย์ผู้าุโใหญ่คนไหนขโมยไข่ใบนั้นได้ ผู้าุโใหญ่คนนั้นและศิษย์ของพวกเขาก็จะได้รับรางวัลอย่างมหาศาลเลย”
“ที่ข้าพูด ไม่ได้หมายความว่าจะให้เ้าไปชิงไข่ใบนั้นมา แต่กำลังจะบอกพวกเ้าว่า การแย่งชิงมันดุเดือดมาก ที่ผ่านมา คนของอีกสองสายล้วนมีแต่คนมีความสามารถสูง พวกเ้าห้ามใช้อารมณ์ทำอะไรเด็ดขาด ฝืนไม่ไหวก็ต้องรู้จักหลบเลี่ยง ครั้งนี้ที่ให้พวกเ้าเข้าไป หลักๆ คือ้าให้พวกเ้านั้นมีประสบการณ์ในการทำศึกที่แท้จริง”
ในสายตาของซ่งหยวนหยวน การให้ิอวี่กับเิหยูเยียนเข้าไปในสนามรบร้างโบราณเป็เื่ที่มีแต่ได้ไม่มีเสีย ขอแค่ทำทุกอย่างให้เรียบง่าย อาจจะเก็บสมบัติได้จากข้างทาง หรือต่อให้เจออันตราย ก็ยังมีหยกรักษาชีวิตได้
“เข้าใจขอรับ”
ิอวี่พยักหน้า แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าในใจเขาคิดอะไรอยู่
“ระยะเวลาในการเข้าไปในสนามรบร้างโบราณนั้นไม่สั้นนัก ่เวลาที่พวกเ้าเข้าไปในนั้น ไม่ว่าจะเป็ผู้าุโหรือผู้อาวุใหญ่คนไหนก็ห้ามเข้าไปเด็ดขาด ฟางหลิงจวินก็จะทำอะไรเ้าไม่ได้ หลังจากที่เ้าออกมาเื่นี้ก็น่าจะซาลงไปแล้ว เขาจะหาข้ออ้างเล่นงานเ้ามันก็ไม่ง่ายเหมือนก่อน หากเขาหาหลักฐานไม่ได้ก็ต้องยอมเลิกราไป”
ซ่งหยวนหยวนยกชาขึ้นจิบแล้วลุกขึ้นกำชับรอบสุดท้ายว่า “สนามรบร้างโบราณจะเปิดในอีกห้าวันหลังจากนี้ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเ้า และเพื่อไม่ให้ดูตั้งใจเกินไปจนสะดุดตา เ้ากับเิหยูเยียนไปอยู่ที่ตำหนักเมฆาเพลิงห้าวันก็แล้วกัน บังเอิญ ข้าเองก็มีทักษะการต่อสู้อย่างหนึ่งจะถ่ายทอดให้พวกเ้าสองคนด้วย”
พูดจบนางก็สะบัดมือเบาๆ เกราะแสงที่ไม่มีรูปลักษณ์ด้านนอกหอจิ้งโม่ก็หายไป
ซ่งหยวนหยวนดีดปลายเท้าและพุ่งออกไปยืนอยู่บนวิหคเพลิงที่บินรออยู่ด้านนอก ส่วนิอวี่ก็ขึ้นขี่วิหคัปีกมืดแล้วรีบตามไป
ในเวลานี้เองก็มีเงาที่สวยงามกำลังขี่กระเรียนขาวบินมาจากูเาอีกฝั่ง
นางคือเิหยูเยียน!
ที่แท้ ก่อนที่ซ่งหยวนหยวนจะมาหาิอวี่ นางก็ไปพูดคุยกับเิหยูเยียนมาก่อนแล้ว และให้เิหยูเยียนรอ แน่นอนว่า ความลับเื่ิอวี่ฆ่าคนมันเกี่ยวพันกับชีวิตของเขา ถึงแม้ซ่งหยวนหยวนจะเดาได้ก่อนแล้ว แต่ก็ไม่มีทางพูดให้เิหยูเยียนได้รับรู้แม้แต่คำเดียว
เิหยูเยียนนั่งอยู่บนกระเรียนขาว สีหน้าท่าทางเ็าสุดๆ นางเหลือบมองมาที่ิอวี่ และขมวดคิ้วแน่นมาก
ถึงแม้นางจะเตรียมใจมาล่วงหน้าแล้ว แต่วินาทีที่เห็นหน้าิอวี่ ความรู้สึกรังเกียจก็พุ่งเข้าหัว นางควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยพูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ ข้าคิดว่าไม่เห็นจำเป็ต้องให้เขาไปด้วยเลย สนามรบร้างโบราณอันตรายเยอะมาก ข้ากลัวว่าเขาจะเป็ตัวถ่วง”
ซ่งหยวนหยวนขมวดคิ้วอย่างหนัก นางคิดไม่ถึงเลยว่าเิหยูเยียนจะอคติขนาดนี้ “วางใจเถอะ ิอวี่ทำได้ พวกเ้าสองคนจะต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พัฒนาและเติบโตไปด้วยกัน”
“ข้าเข้ากับเขาไม่ได้เ้าค่ะ”
เิหยูเยียนพูดปฏิเสธทันควันแบบไม่คิดเลย
เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งหยวนหยวนก็มองไปที่ิอวี่ด้วยความสงสัย แล้วก็มองกลับมาที่เิหยูเยียน เท่าที่นางจำได้ ปกติเิหยูเยียนนั้นมีมารยาทและนิสัยก็ดูนิ่งๆ
แต่ทำไมวันนี้หลังจากที่นางบอกไปว่าจะให้ิอวี่เข้าไปในสนามรบร้างโบราณด้วย เิหยูเยียนก็หน้าบึ้งทันที
และตอนนี้ก็ยังหักหน้าิอวี่ไปเลย ท่าทางของนางดูไม่พอใจอย่างมากด้วย
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
ิอวี่เองก็รู้สึกจนใจ เขาพูดว่า “ศิษย์น้อง ทำไมวันนี้เ้าพูดเยอะจัง หรือว่าเ้ากำลังเป็ห่วงข้า”
“เ้านี่มัน ... ”
เิหยูเยียนโกรธมาก หน้าอกของนางกระเพื่อมไม่หยุด “ทำไมเ้าหน้าไม่อายขนาดนี้น่ะ?”
ที่ผ่านมาไม่ว่ากับใคร เิหยูเยียนก็จะสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้เป็อย่างดี แต่หลังจากที่เกิดเื่เมื่อวานขึ้น นางพบว่าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้เลย
ถึงแม้ซ่งหยวนหยวนจะอยู่ด้วย เิหยูเยียนก็ยังไม่สามารถปกปิดความไม่พอใจของนางเอาไว้ได้
ิอวี่ยักไหล่แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
เพราะเิหยูเยียนเข้าใจไปแล้วจริงๆ ว่าตัวเองไม่บริสุทธิ์ ตอนนี้จะมีปฏิกิริยาแบบนี้มันก็ไม่แปลก ตอนนั้นิอวี่ก็แค่อารมณ์เสียจนเืขึ้นหน้าเลยพูดไปแบบนั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสาวสวยคนนี้กลับโกรธได้ขนาดนี้เลย
เิหยูเยียนไร้เดียงสามาก และก็อยู่ในราชวงศ์หย่งเิที่มีผู้หญิงเป็ส่วนใหญ่ นางก้มหน้าก้มตาฝึกฝนอย่างเดียวมาั้แ่เล็ก ไม่สนใจเื่อื่นเลย ดังนั้น ความรู้เื่ระหว่างเพศเท่ากับศูนย์ แม้แต่ความรู้สึกอย่างว่าครั้งแรกเป็อย่างไรนางก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นนางจะเชื่อคำพูดของิอวี่ได้อย่างไรกัน?
แต่ว่านางดันเชื่อสนิทใจ แล้วยังคิดว่าตัวเองนั้นไม่บริสุทธิ์แล้วด้วย ...
เรียกได้ว่า เิหยูเยียนนั้นก็ถือว่าเป็ดอกไม้ประหลาดที่หาได้ยาก พูดให้ตรงเลยก็คือ นางเป็ดอกไม้สวยสง่างามที่แปลกประหลาดหาได้ยาก
“พวกเ้าสองคนเป็อะไรไป?” ซ่งหยวนหยวนกวาดสายตามองมาที่ิอวี่กับเิหยูเยียน นางรู้สึกว่าศิษย์ของนางทั้งสองคนวันนี้ไม่ค่อยปกติ
“ไม่มีอะไร”
สิ่งที่ได้กลับมาคือคำตอบที่ออกมาจากปากทั้งสองคนพร้อมกัน
ิอวี่กับเิหยูเยี่ยมองหน้ากัน แล้วก็พูดกับอีกฝ่ายในทันทีว่า “เ้าอย่ามาพูดตามข้านะ!”
แล้ว ... ก็พูดขึ้นมาพร้อมกันอีก
“เหอะๆ ก็เข้ากันได้ดีเลยนี่”
ซ่งหยวนหยวนพูดประชดนิดๆ และก็พูดตำหนิเบาๆ ไปว่า “ห้ามทะเลาะกันอีก ตามข้ามา”
พูดจบก็ขี่เ้าวิหคเพลิงบินตรงไปยังตำหนักเมฆาเพลิงต่อไป
