หัตถ์ปีศาจเมิ่งหลิง?
แม้ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ฟังจากชื่อแล้วก็ไม่น่าจะเป็คนดีอันใด
คนผู้นั้นรูปโฉมหล่อเหลา เทียบได้กับน่าหลันหลันและเฉินิ แต่ั์ตาของเขากลับดำมืด ทำให้คนผู้นั้นแลดูมืดมน แม้แต่รอยยิ้มยังััได้ถึงรังสีสังหาร
"ชิ่งอ๋องไม่เคยแล้งน้ำใจกับข้า ข้าย่อมมิอาจเพิกเฉย ต่อให้ทำอะไรไม่ได้ ข้าก็ยังอยากไปดูว่าเขายังดีอยู่หรือไม่" ถังชิงหรูแววตาจมดิ่ง "คุณชายหลี โปรดยื่นมือออกมา ข้าจะดูอาการของท่าน"
หลีซูมองหญิงสาวตรงหน้า สีหน้าของนางจริงจังยิ่ง แต่กลับเ็าห่างเหินกับตนเอง ดูก็รู้ว่าตอนนี้นางอยากไปหาชิ่งอ๋องผู้นั้นใจจะขาด ส่วนเื่อื่นล้วนมิได้อยู่ในหัวใจ ถึงเขาจะรั้งนางไว้ ก็รั้งได้แต่เพียงเปลือกนอก
"ชิ! น่าเบื่อ" หลีซูหมุนตัวเดินไปที่ประตู
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปร้องะโเรียก "คุณชายหลี... ท่านทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ข้าก็ตกลงช่วยตรวจให้ท่านแล้วมิใช่หรือ"
"ข้าเองก็เป็หมอ ต้องให้เ้ามาตรวจด้วยรึ แค่หยอกเ้าเล่นเท่านั้นเอง" หลีซูกล่าวเสียงเรียบ "เ้าอยากไปพบเขาใช่หรือไม่ ข้าจะพาไป"
ั์ตาของถังชิงหรูผุดแววยินดี รีบวิ่งตามไป แต่ก่อนออกจากประตูก็หันมากำชับกับจิ่นเอ๋อร์ "อยู่บ้านให้ดีๆ ่นี้เหตุการณ์ไม่สงบ อย่าออกไปข้างนอกเล่า"
"เ้าค่ะ" จิ่นเอ๋อร์รับคำ
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ถังชิงหรูมองประตูเมืองซึ่งอยู่ไกลออกไป จากนั้นก็มองทิวเขาที่กว้างใหญ่เบื้องหน้าพลางเอ่ยว่า "ที่แท้ป่าบนูเารกร้างแห่งนั้นก็เชื่อมกับทิวเขาด้านนอกโดยตรง บ้านหลังนั้นไม่มีคนอยู่อาศัยมานานแล้ว ที่จริงน่าจะไม่มีใครล่วงรู้ความลับ แล้วท่านทราบได้อย่างไร"
หลีซูหลุบสายตาเอ่ยเสียงเรียบ "มันเคยเป็ที่อยู่เดิมของข้า ข้าย่อมรู้"
ถังชิงหรูมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ "เมื่อเป็บ้านเดิมของท่าน แล้วไฉนถึงไม่กลับไปอยู่เล่า บ้านหลังนี้อยู่สบายดี ด้านในก็ตกแต่งอย่างงามวิจิตร แค่ดูก็รู้ว่าเป็บ้านเศรษฐี ท่านยินดีไปหลบอยู่ในป่า แต่กลับปล่อยบ้านที่ดีเยี่ยงนั้นไว้เฉยๆ เสียของแท้ๆ "
"หากเ้าชอบ ข้าจะซื้อให้" หลีซูปรายตามองนางปราดหนึ่ง "หากเ้าไม่กลัวว่าดึกดื่นจะมีผีมาเคาะประตูน่ะนะ"
ถังชิงหรูขำพรืด ก่อนหยุดเอ่ยถึงเื่นี้
นับั้แ่ออกมาจนกระทั่งถึงเพลานี้ นางพบว่าบุรุษตรงหน้าไม่เพียงแค่หน้าตาหล่อเหลา ยังเป็คนมีภูมิหลังในอดีต หลีซูทั้งมีความพิเศษและลึกลับขนาดนี้ จะเคยผ่านอะไรมาบ้างก็ไม่อาจรู้ได้
ในที่สุดถังชิงหรูก็มาถึงหมู่บ้านสกุลหลี่ภายใต้การนำทางของหลีซู
พอมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน ก็เห็นสถานที่ที่แม้แต่ต้นหญ้าก็ยังอยู่ไม่ได้ พลันรู้สึกะเืใจอย่างบอกไม่ถูก หมู่บ้านที่เสื่อมโทรมไร้พลังชีวิตแบบนี้ตั้งอยู่ในเมืองชิ่งจริงหรือ จากที่นางสำรวจมาระยะหนึ่ง เมืองชิ่งนับได้ว่าเป็เมืองที่มั่งคั่ง ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลี้ภัยเพราะความแร้นแค้น แต่พอได้เห็นภาพตรงหน้า นางก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่
แม้ว่าภายนอกของเมืองชิ่งจะดูเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน แต่ในพื้นที่ลับก็ซ่อนเร้นความอันโหดร้ายไร้มนุษยธรรมเอาไว้
"ไฉนคนในหมู่บ้านถึงได้ยากจนข้นแค้นเช่นนี้เล่า"ถังชิงหรูหันไปถามหลีซู
ความจริงแล้วนางแค่ถามไปอย่างนั้นเอง ไม่คิดว่าเขาจะให้คำตอบแก่ตนเองได้
"โรคร้าย ภัยธรรมชาติ ภูมิประเทศไม่ดี ย่อมแร้นแค้นขัดสนเป็ธรรมดา" หลีซูกล่าวเสียงเรียบ "เพราะมีโรคติดต่อ พวกเขาจึงมิอาจไปจากที่นี่ ด้วยเหตุนี้จึงต้องอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ไปตามมีตามเกิด แต่ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด พื้นดินทำการเกษตรไม่ค่อยได้ผล หากไม่เพราะยังพอปลูกพวกมันเทศได้อยู่บ้าง ป่านนี้พวกเขาคงอดตายไปนานแล้ว คนที่เ้ากำลังตามหาถูกส่งมาขังไว้ที่นี่ อีกไม่กี่วันเขาก็จะหลอมรวมเข้ากับที่นี่อย่างสมบูรณ์ ต้องทุกข์ทรมานเผชิญกับโรคภัยและความหิวโหย รับรองได้ว่าต้องขวัญหนีดีฝ่อทีเดียว"
ถังชิงหรูมองบุรุษที่อยู่ด้านข้าง ยามที่เขาเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ท่าทางดูกระตือรือร้นเป็พิเศษ ไม่อาจรู้ได้ว่าเคยมีความเคียดแค้นชิงชังอันใดกับราชวงศ์มาก่อน
"เขาถูกขังอยู่ที่นี่ คงมีคนคอยจับตามองอยู่ทุกฝีก้าวกระมัง" ถังชิงหรูมองสำรวจไปรอบด้าน แต่กลับไม่พบอะไรสักอย่าง
"ตราบใดที่ฮ่องเต้ไม่มีราชโองการลงมา เขาก็ต้องรั้งอยู่ที่นี่" หลีซูกล่าวจบก็เดินไปข้างหน้า
ถังชิงหรูเดินตามเขาไปตลอดทาง เห็นเขาเข้าไปในหมู่บ้าน ย่อมจะตามไปติดๆ
ไม่เสียทีที่หมู่บ้านสกุลหลี่ได้ชื่อว่าเป็หมู่บ้านแห่งโรคภัย ทุกครัวเรือนล้วนมีแต่เสียงไอไม่หยุด บ้านเรือนเ่าั้ทรุดโทรม ควรเรียกว่าเป็กระท่อมเสียมากกว่า แต่ก็ยังเห็นเรือนไม้หลังเล็กอยู่บ้าง ทว่าก็ผุพังจนคล้ายรังผึ้ง
มีหญิงชราคนหนึ่งเดินออกมาจากบ้าน ใบหน้านางขาวซีด ขอบตาดำคล้ำ ยามเห็นถังชิงหรูกับหลีซูซึ่งเป็คนนอกเดินเข้ามา นางก็เบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว
จนกระทั่งพวกเขาเดินไปไกลแล้ว หญิงชราผู้นั้นถึงร้องบอกคนในบ้าน "นี่ตาแก่ หมู่บ้านเรามีคนมาอีกแล้ว"
"ผีโชคร้ายจากที่ไหนถูกคุมตัวมาอีกล่ะ" เสียงชายชราดังมาจากด้านใน
"ไม่ได้ถูกคุมตัวมา แต่เดินมาเอง" หญิงชราตอบ "่นี้พิกลนัก ไม่รู้ทำไมถึงมีผู้คนมากมายมาเยี่ยมเยือนหมู่บ้านของเรา"
"ช่างเถอะ อย่างไรเสียพวกเราก็ต้องรอความตายอยู่ที่นี่ ถ้าอยากมีชีวิตยืนยาวไปอีกหลายวันหน่อย ก็อย่าไปยุ่งเื่ของชาวบ้าน" ชายชราเอ่ยด้วยความรำคาญ
ด้านหน้าเป็ลำธารเล็กๆ มีกระท่อมทรุดโทรมหลังเล็กตั้งอยู่ด้านข้าง ในพื้นที่แห้งแล้งกันดาร กระท่อมหลังนั้นจึงดูโดดเดี่ยวอ้างว้าง
ท้องนาที่อยู่ใกล้เคียงล้วนเป็หญ้ารก พืชผลแห้งตายไปนานแล้ว ในสถานที่เสื่อมโทรมแบบนี้มีเสียงไอของบุรุษคนหนึ่งมาจากในบ้าน
ถังชิงหรูคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยินเป็อย่างดี ั้แ่ปากทางหมู่บ้านจนมาถึงที่นี่ เสียงที่นางได้ยินมากที่สุดก็คือเสียงไอแบบนี้ ชะรอยคนในหมู่บ้านอาจเป็โรคติดต่อ มิเช่นนั้นแต่ละบ้านไม่น่าจะมีอาการแบบเดียวกันหมด นอกจากนี้เฉินิเพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานก็มีอาการแบบนี้แล้ว
ถังชิงหรูเดินตรงไปที่เรือนหลังนั้น นางหยุดอยู่หน้าประตูด้วยท่าทางลังเล ยังไม่เข้าไป
เฉินิเป็คนทะนงในศักดิ์ศรี ตอนนี้คงจะเป็่เวลาที่รันทดที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว ปรกติเขาชอบหาเื่โต้เถียงกับนางมากที่สุด ยามนี้หากเห็นตนเองแล้วก็คงไม่เบิกบานใจเท่าไร
ถังชิงหรูยืนหันรีหันขวางหน้าประตูอยู่นาน ใจหนึ่งก็เป็ห่วงสุขภาพของเฉินิ อีกใจก็เป็ห่วงเื่หน้าตาและศักดิ์ศรีของเขา ความลำบากใจทั้งซ้ายและขวาทำให้นางไม่กล้าเข้าไป
หลีซูมองความเคลื่อนไหวของนางจากตำแหน่งที่ไม่ไกลนัก เขาเลือกที่จะสงวนวาจา ก่อนหาที่นั่งแถวนั้น
ที่จริงก่อนหน้านี้เขาเคยมาหมู่บ้านแห่งนี้ โรคที่ชาวบ้านเป็กันน่าสนใจยิ่งสำหรับเขา จึงมาตรวจสอบดูสองสามครั้งแล้ว แต่ก็ยังหาสาเหตุของโรคไม่ได้ จึงไม่พบหนทางรักษา
พอเห็นนางลังเลไม่ตัดสินใจเสียทีก็นึกรำคาญ ขณะลุกขึ้นคิดจะเดินเข้าไป ก็เห็นถังชิงหรูผลักประตูผุพังเข้าไปแล้ว
ปัง! มีเสียงของหล่นดังมาจากด้านใน "ไสหัวไป"
ถังชิงหรูมองชามไม้ที่ตกลงมาบนพื้น หัวคิ้วย่นเข้าหากัน
ในห้องมีเฉินิอยู่แค่คนเดียว ยามนี้เขานอนอยู่บนเตียง ป่วยจนลุกไม่ขึ้น
นางย่อตัวลงเก็บชามไม้บนพื้น ก่อนเดินตรงไปหาชายหนุ่มที่ไม่เก็บอารมณ์สักนิด แล้วพูดกับเขาว่า "นิสัยเ้าอารมณ์ของท่านเมื่อไรจะแก้หายเสียที แต่เห็นท่านฟาดงวงฟาดงาได้แบบนี้ ข้าก็วางใจ"
เฉินิได้ยินเสียงของถังชิงหรู ร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ลั่นวาจาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง "เ้าอย่าเข้ามา"
"ข้ามาถึงแล้ว ไยจะไม่เข้าไป ข้ายังจะตรวจอาการให้ท่านด้วย" ถังชิงหรูนั่งลงข้างเตียง คว้าข้อมือเขาไว้
"เสี่ยวอี เริ่มสแกนร่างกาย" ถังชิงหรูเรียกในใจ
"ระบบกำลังทำการสแกน..." เสียงของเสี่ยวอีลอยเข้ามาในสมองของถังชิงหรูประหนึ่งหุ่นยนต์ ระหว่างที่เสี่ยวอีกำลังสแกนร่างกาย ถังชิงหรูก็สังเกตสีหน้าของชายหนุ่ม ภายใต้ความขาวซีดยังมีรอยคล้ำแฝงอยู่เจือจาง ดูไม่ดีเลย ใบหน้าที่เคยหล่อเหล่าขนาดนั้น ถูกทรมานจนดูไม่เป็ผู้เป็คนภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
เฉินิไม่อยากเผชิญหน้ากับถังชิงหรู ตอนนี้เขารู้สึกอับอายยิ่งนัก ไม่รู้จะมองหน้านางอย่างไร เขาเคยบอกว่าจะมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่นาง ยังนึกว่าจะคุ้มครองนางได้ เคราะห์ดีที่นางยังไม่ตอบตกลง มิเช่นนั้นตอนนี้คงต้องเดือดร้อนไปด้วยแล้ว
จิตใจของเฉินิยามนี้อ่อนแอนัก เขารู้ว่าพระเชษฐาของตนเองยังเอาตัวไม่รอด แม้จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บางครั้งก็ไม่อาจจัดการอะไรได้ บัดนี้ตนเองซึ่งเป็อ๋องผู้สูงศักดิ์ต้องถูกคนถ่อยให้ร้ายจนกลายเป็เช่นนี้ เขารู้ดีว่าพระเชษฐาซึ่งถูกควบคุมอยู่คงจะทั้งจนใจและเ็ปรวดร้าวอย่างล้ำลึก
เขากำมือทั้งสองข้างไว้แน่น เอ่ยด้วยความคับแค้น "เ้ารู้หรือไม่ พระเชษฐาของข้าก็ถูกพวกเขากักบริเวณ คนเ่าั้คิดจะบีบโอรส์บัญชาการใต้หล้า"
ถังชิงหรูมองเฉินิอย่างตกตะลึง
ในที่สุดทางก็เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเฉินิถึงต้องพบกับอุปสรรคหนักหนาสาหัสเช่นนี้ ที่แท้เพราะว่าเฉินรุ่ยพ่ายแพ้ให้กับจิ้งจอกเฒ่าเ้าเล่ห์เ่าั้ที่เมืองหลวง ดังนั้นจึงเดือดร้อนมาถึงน้องชายที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเขาที่สุด แต่อย่างน้อยก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็กษัตริย์ยอดนักสู้ ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นกดขี่ข่มเหงเอาฝ่ายเดียว
"พี่สะใภ้ตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้ว ได้ยินว่าถูกพวกเขาบีบบังคับให้แขวนคอปลงพระชนม์ ข้าเป็ห่วงพระเชษฐายิ่งนัก ไม่รู้ว่าพระองค์เป็อย่างไรบ้าง" เฉินิเอ่ยด้วยความรู้สึกฝาดเฝื่อน "ข้ามันไร้ประโยชน์ ช่วยพระเชษฐาไม่ได้ ช่วยแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้ข้ามันก็แค่หนอนสวะที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง"
ถังชิงหรูเห็นเฉินิเอาแต่โทษตัวเอง ก็สะบัดฝ่ามือออกไปเต็มแรง ตบหน้าเขาดังเพียะ ทันใดนั้นรอยนิ้วมือทั้งห้าก็ไปปรากฏอยู่บนใบหน้าของเฉินิ
ชายหนุ่มถลึงตาใส่ถังชิงหรูด้วยแววตาคมกล้า "ใครให้ความกล้าแก่เ้ากันฮึ ถึงขนาดทำตัวไร้มารยาทกับเปิ่นหวาง เ้าเห็นเปิ่นหวางตกต่ำแล้วใช่หรือไม่ ถึงสบประมาทเปิ่นหวางเช่นนี้"
ถังชิงหรูยังคงตบหน้าเฉินิ เพียะๆ ๆ สามครั้งต่อเนื่อง ไฟโทสะของเขายิ่งลุกโชนขึ้นสามจั้ง
"ข้าแค่อยากให้ท่านได้สติเสียที" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบพลางจ้องมองเขา "มิเช่นนั้นแม้แต่ชีวิตน้อยๆ ของตนเองคงรักษาไม่ได้แล้ว"
เฉินิแค่นเสียงหึ ใบหน้าของเขาปวดแสบปวดร้อนจนต้องลุกขึ้นมานั่ง แน่นอนว่าเพียงแค่ลุกขึ้น ความเ็ปรวดร้าวทั่วร่างพลันสำแดงออกมา
"แค่กๆ" เฉินิไออย่างรุนแรง จนแทบสำลักเอาปอดหลุดออกมาด้วย
"เหตุใดถึงไอขนาดนี้" ถังชิงหรูสังเกตสีหน้าของเฉินิ ทุกครั้งที่ไอ พวงแก้มของเขาจะกลายเป็ขาวซีด
ปรกติแล้วคนที่ไออย่างรุนแรงหน้าจะเปลี่ยนเป็สีแดง แต่อาการที่เขาเป็กลับไม่เป็อย่างนั้น ทุกครั้งที่ไอสีหน้าจะซีดเซียว
เฉินิไม่มีแรงจะตอบคำถามถังชิงหรู เขากลับลงไปนอน หลับตาลงอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้น ก็เรียกชื่อเขาเบาๆ แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร เขาก็ไม่ฟื้น