บทที่ 94 หลั่งเืเคล้าน้ำตา
“โฮก!!!”
ในช่องทางแคบๆ ของแม่น้ำ สือเหล่ยคำรามอย่างดุเดือด ดวงตาของเขาที่สว่างราวกับระฆังทองแดงอาบไปด้วยสีแดงก่ำ เขากระแทกกำแพงูเาด้วยร่างกายที่ห่อหุ้มด้วยแสงของเกราะเงินทีละครั้ง ทำให้กรวดหินกลิ้งตกลงมา รอยแตกร้าวบนก้อนหินมากขึ้นเรื่อยๆ
ท้องฟ้าสั่นสะท้าน แผ่นดินสั่นะเื สายฟ้ากึกก้องกัมปนาท ราวกับเป็สถานที่แห่งความตาย
ด้านหน้า เสียงคำรามของสัตว์ปีศาจปกคลุมไปทั่วบริเวณ ดุร้ายและน่ากลัวจนทำให้ผู้คนตัวสั่น
ด้านหลัง เสียงการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดจนแทบกระอักเื แสงอาวุธกระทบกับคลื่นน้ำและอากาศอันเย็นเยียบก็เพียงพอให้ไม่อาจยืนได้มั่น
นี่เป็สถานการณ์ที่สิ้นหวัง นี่คือ่เวลาแห่งความเป็และความตาย
“เ้าก้อนหิน เ้าจะทำอะไร! กลับมานะ!!”
ฉู่อวิ๋นตื่นตระหนกและรีบวิ่งออกไปจับแขนของสือเหล่ยด้วยมือเดียวแล้วพยายามดึงเขากลับมา
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะแคบมาก แต่เหล่าสัตว์ปีศาจก็ผลัดกันวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความเร็วนี้ ในไม่ช้าสือเหล่ยต้องโดนพวกมันบดเป็ชิ้นๆ แน่
“โฮก! พี่ฉู่ รีบกลับไป!!”
สือเหล่ยะโเสียงดัง กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเขาขยายขึ้น ิญญายุทธ์เกราะเงินเปล่งประกายแวววาว ทำให้ฉู่อวิ๋นใจนต้องถอยห่างออกไปหลายก้าว
ทั้งที่ปกติแล้วชายคนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเขาสักเท่าไร แต่ตอนนี้ใน่เวลาวิกฤติ เขากลับใช้พลังของพร์ิญญายุทธ์เผาผลาญพลังปราณสุดท้าย ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นจนกระแทกฉู่อวิ๋นกระเด็น
เ้าหินก้อนนี้กำลังเสี่ยงชีวิตอยู่!
“ไอ้ก้อนหินโง่! เ้าทำอะไรอยู่! หยุดบ้าได้แล้ว จัดการกับสัตว์ปีศาจที่อยู่ข้างหน้ากันเถอะ ไม่นานเฟิงเยี่ยนก็จะฆ่าอสุรกายน้ำตาทองได้แล้ว! กลับมา!”
เมิ่งชานใจนเสียสติและวิ่งไปโอบรอบเอวอันหนาแน่นของสือเหล่ย พยายามดึงเขากลับ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกต้านกลับด้วยแรงที่เท่ากัน
การโจมตีครั้งนี้เผาผลาญพลังชีวิตทำให้ร่างอันใหญ่โตเริ่มเกิดรอยแตกระหว่างกล้ามเนื้อที่ปูดโปนจนหลั่งเืออกมา หยดลงบนเสื้อผ้าและแม่น้ำ ย้อมจนกลายเป็สีแดง
“อ้าก!!!” สือเหล่ยอดทนต่อความเ็ป กัดริมฝีปากเรียกสติ และะโเสียงดัง “โฮก! เ้าดูที่ด้านหน้าสิ สัตว์ปีศาจตั้งมากมายพุ่งเข้ามาขนาดนั้น พวกเราต้านไม่ไหวหรอก!"
“เหล่าเมิ่ง เก็บพลังไร้สาระที่เ้าว่านั่นไปให้พ้นหน้าข้า! เกรงว่าตอนนี้แม้จะยกธนูเ้ายังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”
“พี่ฉู่ แม้ว่าเ้าจะแข็งแกร่งจนไม่อาจจินตนาการได้ แต่แม่นางอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังยังรอให้ท่านไปปกป้อง ถ้าตอนนั้นเกิดเื่วุ่นขึ้นมา ท่านปกป้องพวกนางไว้ไม่ได้แน่!”
“และเฟิงเยี่ยน เขาในตอนนี้ไม่อาจฆ่าอสุรกายน้ำตาทองได้แน่! แม้ว่าข้าจะโง่แต่ข้าก็รู้ดี!”
“คืนนี้ พี่น้องหลายคนเสียชีวิต พี่ซ่งเสียสละ ส่วนข้า... ถ้ายังรั้งอยู่ก็รังแต่จะเป็ภาระ ตอนนี้ ให้ข้าทำสิ่งสุดท้ายเพื่อพวกเ้าเถอะ!”
“อย่าห้ามข้าเลย! โฮก——!!!”
หลังจากพูดจบ สือเหล่ยก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและคำรามเสียงแหบแห้งราวกับกำลังจะทะลวงผ่านูเาและแม่น้ำด้วยความโกรธ กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างขยายเป็รูปร่างที่น่ากลัว กระแสเืพุ่งออกจากร่างกาย ทั้งตัวคล้ายถูกอาบไปด้วยเื
เขาเปล่งรัศมีที่น่าเกรงขาม ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็สีขาว เส้นเืตามหน้าผากปูดโปน เหมือนัที่กลายร่างเป็มนุษย์ พุ่งชนกำแพงูเาอย่างต่อเนื่องด้วยพลังอันน่าพรั่นพรึง
“ตูม--!”
ทุกครั้งที่เกิดการปะทะกันจะมีเสียงเนื้อและกระดูกแตกหักให้ใจสั่น
แต่สือเหล่ยไม่กลัว ซ้ำพลังปราณของเขากลับเพิ่มสูงขึ้น ิญญายุทธ์เกราะคู่วัวเงินส่องแสงเจิดจ้าราวกับว่ามันเป็ดาวที่สุกใสที่สุดในแม่น้ำสายนี้
“ตูม ตูม ตูม!”
กำแพงูเาพังทลาย ก้อนหินกลิ้งลงมา เสียงดังสนั่นผสานกับเสียงคำรามของสัตว์ปีศาจ หยาดเืสาดกระเซ็น น่าเศร้าอย่างยิ่ง
กำแพงูเาทั้งสองด้านแตกเป็เสี่ยงๆ ภายใต้การโจมตีและแรงผลักดันของฝูงสัตว์ปีศาจอย่างต่อเนื่อง รอยแตกก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น
สือเหล่ยใช้ร่างกายชนกำแพง กำแพงูเาทั้งสองด้านจึงพังถล่มลงมาขวางทางเข้าออกทันที ทำให้ทุกคนรอดชีวิต
แต่เพราะเขาชนูเาในที่ที่แคบที่สุด แม้ว่าจะสำเร็จ แต่สุดท้ายก็จะถูกฝังอยู่ในหิน ร่างกายจะถูกบดขยี้จนแหลกลาญ
เมื่อมองดูกำแพงูเาที่พังทลายทั้งซ้ายขวา เศษหินปลิวว่อนส่งเสียงกึกก้อง ทุกคนก็รู้ถึงความตั้งใจของสือเหล่ยทันที ความรู้สึกโศกเศร้าตีตื้นขึ้นมาในใจ
ชายร่างใหญ่คนนี้้าเสียสละตัวเองเหมือนกับซ่งอี้! ช่วยเหลือผู้อื่น!
“ให้ตายเถอะ กลับมานะ! กลับมา-”
ดวงตาของเมิ่งซานเปลี่ยนเป็สีแดง เขารีบวิ่งไปหาสือเหล่ย กอดขาของอีกคนไว้แน่นด้วยแรงทั้งหมดที่มี และะโซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อพยายามหยุดเขา
แต่สือเหล่ยได้เปลี่ยนพลังชีวิตของตนเป็ความแข็งแกร่งอันบ้าคลั่งไปแล้ว เขาไม่อาจหยุดมือได้ง่ายๆ แม้ว่าเงาของิญญายุทธ์เกราะคู่วัวเงินยังคงส่องแสงเจิดจ้า แต่หากมองใกล้ๆ จะเห็นว่ามีรอยแตกปรากฏอยู่
เงาิญญายุทธ์เป็ศูนย์รวมพลังชีวิตของนักรบิญญา หากแตกสลาย ก็รับรู้ได้ว่าชีวิตของนักรบนั้นอยู่ได้อีกไม่นาน
หากเป็เช่นนี้ต่อไป ไม่ว่าอย่างไรสือเหล่ยก็ต้องตายอยู่ดี
“เ้า... เ้าก้อนหิน! เ้ายังจำครั้งแรกที่ข้าสู้กับเ้าได้หรือไม่? ตอนที่ข้าต่อยเ้าสลบได้ด้วยหมัดเดียว?” ดวงตาของฉู่อวิ๋นเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ปากของเขากลับสั่นระริก เขาห่อตัวโอบรอบแขนของสือเหล่ยไว้แน่น เสียงแหบแห้ง “คราวนี้... ข้าก็ยัง... พาเ้ากลับไปได้!”
คำพูดของฉู่อวิ๋นอ่อนโยนมากเมื่อเทียบกับเสียงคำรามของสัตว์ปีศาจทั้งหลายแหล่ เขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อดึงสือเหล่ยกลับมา
เขาไม่อาจมองเห็นชายคนนี้ตายต่อหน้าต่อตาเขาได้อีก!
“ผู้เฒ่าเหยาและคนอื่นๆ ก็เป็เช่นนี้...”
“หัวหน้าซ่งก็เช่นนี้...”
“เ้าหินโง่... เ้าก็เป็เช่นนี้!”
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเบิกกว้าง หลั่งเืเคล้าน้ำตา สีหน้าโศกเศร้าอย่างยิ่ง เส้นเืบริเวณแขนแตกออก กล้ามเนื้อโป่งพอง
“เ้าจะไม่ตาย... เ้า...จะไม่!” เขากัดฟัน พ่นลมออกจากปาก เส้นเืบนหน้าผากปูดออกมา ดวงตาจ้องเขม็งไปข้างหน้า
แต่สือเหล่ยเดิมก็มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ทั้งในเวลานี้เขาได้เปิดใช้พร์ิญญายุทธ์เกราะคู่วัวเงินเพื่อแลกกับพละกำลังอันน่าพรั่นพรึงแล้ว เขาไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
“พวกเ้ารีบไป! ไป!!"
สือเหล่ยะโอีกหลายครั้ง เมื่อถูกฉู่อวิ๋นดึงกลับไปได้ครึ่งก้าว ดวงตาของเขาก็เบิกโพลงทันที เงาิญญายุทธ์ที่ฉายแสงอยู่ด้านหลังก็แตกร้าวพร้อมกับพลังของเขาที่เพิ่มมากขึ้น
ยามนี้ แม้ว่าจะมีอีกสองคนยื้อยุดร่างเขาไว้ แต่เขาก็ยังคงโจมตีต่อไปอย่างสิ้นหวัง ความแข็งแกร่งนั้นช่างน่าใ
นี่คือการเอาชีวิตไปเสี่ยง ทุกครั้งที่กระแทก ร่างกายของสือเหล่ยก็จะบอบช้ำลงเรื่อยๆ
“ไม่ว่าเื่อะไร...เราจะเผชิญมันด้วยกัน! พวกเราสู้ได้... พวกเราอดทนผ่านมันไปได้แน่!”
ฉู่อวิ๋นยังคงมีสีหน้าเศร้าโศก แม้ว่าเขาจะรู้จักสือเหล่ยได้เพียงไม่กี่วัน แต่เขาได้รับการดูแลอย่างดีมาตลอดทาง ทั้งสองรักใคร่กลมเกลียว มิตรภาพแน่นแฟ้น
ดังนั้นเมื่อเห็นชายร่างใหญ่ที่ซื่อสัตย์คนนี้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องทุกคนจนหลั่งเืออกมาทั่วร่างกาย พาลให้คิดถึงซ่งอี้ที่เสียชีวิตอย่างกล้าหาญเมื่อครู่นี้ น้ำตาลูกผู้ชายของฉู่อวิ๋นก็หลั่งริน ทิ้งร่องรอยคราบน้ำตาไว้บนแก้มที่เปื้อนเื
“โฮก! ไปเถอะ... รีบหนีไปเถอะ!"
“พวกเ้ารีบหนีไปเร็ว!”
“ตึง!”
ยามที่เขาพูด พลังปราณของเขาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น และเงาิญญายุทธ์ที่อยู่ข้างหลังเขาก็แตกร้าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลักเมิ่งซานและฉู่อวิ๋นกระเด็นออกไปพร้อมๆ กัน
“โฮก!!!”
ในเวลาเดียวกัน หมาป่าปีศาจเพลิงทมิฬที่รวดเร็วหลายสิบตัวในกระแสสัตว์ปีศาจได้เป็ผู้นำพุ่งเข้าโจมตีด้วยพลังอันดุร้าย พวกมันเจ็ดแปดตัวกระโจนเข้าใส่ร่างของสือเหล่ยโดยตรงและอ้าปากจะกัดเขา
ทันใดนั้น ร่างของสือเหล่ยก็เต็มไปด้วยหมาป่าปีศาจ น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก แต่เขาไม่กลัว ทั้งยังะโเสียงดังและรีบวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างกำแพงูเาทั้งสองข้าง ทำให้เกิดเสียงดังกระแทกบดขยี้ จนจ่าฝูงของหมาป่าปีศาจและสมุนต่างก็ปกคลุมไปด้วยเศษเืเศษเนื้อ
“อ๊าก——! รีบไป... ที่นี่... ยกให้ข้า!”
พละกำลังของสือเหล่ยไม่ลดลงเลย แม้ว่าแขนของเขาจะถูกหมาป่าปีศาจกัด แต่เขาก็ยังโจมตีต่อไป ต่อมาก้อนหินจำนวนมากตกลงไปในแม่น้ำ ทำให้เกิดเสียงตกกระทบจนน้ำกระฉอกขึ้นสะท้อนแสงจันทร์
กำแพงูเาสั่นะเือย่างรุนแรง ก้อนหินกลิ้งตกลงมาทำให้เกิดเสียงสั่นะเืพื้นพสุธา ในไม่ช้า สถานที่แห่งนี้ก็จะพังทลายลง แม้แต่แม่น้ำก็จะแหลกสลายไป
“โฮก--!"
ในขณะที่หมาป่าปีศาจหลายตัวพุ่งเข้ามาหาพวกเขา สัตว์ปีศาจที่ขับเคลื่อนด้วยัอีกหลายตัวก็โฉบเข้ามา พวกนี้คือกองหน้าของสัตว์ปีศาจ พวกมันบินผ่านสือเหล่ยที่น่าพรั่นพรึงมาโจมตีฉู่อวิ๋นและเมิ่งซาน
“ชิ้ง!”
ฉู่อวิ๋นโกรธแค้นจนดวงตาแดงก่ำ เขาโบกแสงกระบี่ออกไปสิบกว่าครั้ง สังหารสัตว์ปีศาจที่เข้ามาโจมตีทั้งหมดทันที
แต่ชั่วครู่ต่อมา สัตว์ปีศาจระดับเก้าอย่างหมีศิลาก็พุ่งเข้ามาอีกยี่สิบตัว กรงเล็บของพวกมันเล่นแสงและโจมตีฉู่อวิ๋นทันที ทางเดินแคบๆ นี้ทั้งหนาแน่นและน่ากลัว
“อ๊าก! ข้าไม่ไป… ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น!” ฉู่อวิ๋นหลั่งน้ำตาและะโร้องอย่างสลดใจ เขาโบกกระบี่ชื่อยวนในมือต่อไปเรื่อยๆ สัตว์ปีศาจก็ล้มลงด้วยตัวที่เปื้อนเืไม่ขาดสาย
แต่หลังจากจัดการได้ฝูงหนึ่ง อีกฝูงหนึ่งก็จะพุ่งเข้ามาเพิ่ม ฝูงสัตว์ปีศาจมหึมาที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาเหมือนหอสูง ที่อัดกันแน่นเหมือนภูตผีจากนรก เสียงคำรามของพวกมันน่ากลัวมาก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากพวกเขารอจนกระทั่งฝูงสัตว์ปีศาจที่อยู่ด้านหลังมาถึง ทุกคนจะต้องตายทันทีอย่างแน่นอน
“ตายซะ...ตายกันให้หมด!”
ในเวลานี้ เมิ่งซานแลดูเคร่งขรึม ราวกับว่าเขาตัดสินใจแน่แล้ว ดวงตาของเขาเป็สีแดงเื ลูกธนูพุ่งออกมาจากมือไม่หยุด เขารีบวิ่งเข้าไปในฝูงสัตว์ปีศาจที่แห่กันมาราวพายุและหายตัวไปในนั้น
“พี่เมิ่ง!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น ฉู่อวิ๋นก็ตกตะลึง เมิ่งซานรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ทำให้เกิดอาการาเ็ทั่วร่างกาย เห็นได้ชัดว่าเขา้าสู้ไปกับสือเหล่ย ้าช่วยเขาชนกำแพงูเาหนาทึบนี่!
“น่าตายนัก!” ฉู่อวิ๋นแค่นเสียงจนแหบแห้ง เมื่อใดก็ตามที่กระบี่ชื่อยวนพัดผ่านไป ก็จะมีลมและเืพัดกระโชก
เขาไม่ได้ใช้ทักษะกระบี่ เขาแค่ฆ่าอย่างบ้าคลั่ง
เพราะมีสัตว์ปีศาจรุมล้อม สะบัดกระบี่ไปมั่วๆ ก็ฆ่าตายไปได้หลายตัว
“ตายซะ! ย๊า---!”
ฉู่อวิ๋นคร่ำครวญในใจและะโอย่างดุเดือด เขาสังหารพวกมันไม่หยุด พยายามช่วยเมิ่งซานและสือเหล่ย
แต่สัตว์ปีศาจนั้นมีมากเกินไป ซ้ำยังมากขึ้นเรื่อยๆ... มากขึ้นเรื่อยๆ! ช่องทางแม่น้ำอัดแน่นไปด้วยสัตว์ปีศาจ!
“ย๊า--!”
ฉู่อวิ๋นฟาดฟันออกไปอีกครั้ง ทำให้แผ่นดินแตกกระจาย เสียงของเขาแหบแห้ง เขาเป็เหมือนัที่พุ่งเข้าไปในฝูงสัตว์ร้าย เข่นฆ่าทุกสิ่งทุกอย่าง บรรยากาศอันหนักอึ้งเคลื่อนตามไปทุกที่ ศพกองพะเนิน กลิ่นคาวสนิมคละคลุ้งเหมือนทะเลเื
แต่ด้วยความเร็วในการฆ่าของฉู่อวิ๋นในตอนนี้ เขาทำได้เพียงอยู่ในเส้นทางแคบๆ นี้เท่านั้น การรีบไปข้างหน้าเพื่อช่วยเมิ่งซานและสือเหล่ยนั้นไม่ต้องพูดถึง
แค่คิดก็รู้ได้ว่าจำนวนสัตว์ปีศาจที่มีในตอนนี้นั้นน่ากลัวเพียงใด
“คุณหนูเช่นข้าจะฆ่าพวกสัตว์หน้าเหม็นพวกนี้ให้หมด!” มู่หรงซินเองก็น้ำตาไหลเช่นกัน นางยืนอยู่ตรงหน้าพ่านพ่าน ยกคันธนูตามจันทร์ขึ้นสูง พลังปราณส่องแสงราวกับฟ้าร้อง ก่อนที่ลูกธนูจะพุ่งไปในกระแสสัตว์ปีศาจ
แต่สัตว์ปีศาจเองก็โจมตีเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อปกป้องผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหลัง ฉู่อวิ๋นทำได้เพียงกัดฟันและถอยหนีอย่างต่อเนื่อง
ในไม่ช้า เขาก็คอยปกป้องอยู่ด้านหน้าผู้หญิงสองคน โดยมีฝูงสัตว์ร้ายอยู่ข้างหน้าเขาอีกที
หากเป็เช่นนี้ต่อไป ยังไม่ต้องพูดถึงมู่หรงซินและพ่านพ่าน แม้แต่ฉู่อวิ๋นเองก็จะต้องตายด้วยความเหนื่อยล้า
“เวรเอ้ย...เวรเอ้ย! อ๊าก——!!!”
ความโกรธ ความเศร้า และความเ็ปยังคงอยู่ในใจของเขา ทำให้ฉู่อวิ๋นเงยหน้าร้องะโใส่ท้องฟ้าด้วยน้ำตาที่ยังคงไหลออกมา
“ตึง!”
ทันใดนั้น กำแพงูเาทั้งสองก็เริ่มพังทลายลง ก้อนหินเล็กใหญ่ตกลงมาทีละก้อน ราวกับดาวตกที่ร่วงหล่น ส่งเสียงดังลั่นไปทั่วสายน้ำ
น้ำในแม่น้ำกระฉอกกระเซ็นจนพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สัตว์ปีศาจจำนวนมากถูกหินตกใส่ ส่งเสียงร้องกันไม่หยุดหย่อน
“พี่สือ! พี่เมิ่ง!”
หัวใจของฉู่อวิ๋นคล้ายถูกควัก เขาะโเสียงดัง ้าใช้โอกาสนี้รีบไปด้านหน้าเพื่อช่วยสองคนนั้นออกมา
แต่ในตอนนี้ สถานที่แคบๆ แห่งนี้กลับวุ่นวายยิ่งนัก หินหนักจำนวนมากพังทลายและร่วงลงแม่น้ำ พวกมันกองรวมกันอย่างรวดเร็วและค่อยๆ บดบังทัศนียภาพเบื้องหน้า บังคับให้ฉู่อวิ๋นต้องล่าถอยในขณะที่สังหารสัตว์ปีศาจอยู่
“ชิ้ง!”
หลังจากฆ่าสัตว์ปีศาจตัวสุดท้ายที่อยู่รอบตัวเขาแล้ว ฉู่อวิ๋นก็เงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่ากำแพงูเาทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าเขาพังทลายลงมาจนหมด แม่น้ำทั้งสายถูกปิดกั้น
แม้ว่ายังคงมีเสียงคำรามอันทรงพลังมาจากด้านหน้า แต่พื้นที่เล็กๆ นี้ถูกตัดขาดและไม่สามารถทะลุผ่านมาได้อย่างง่ายดาย
“ย๊า! อ๊าก——!! อ๊าก——!!!”
เืเคล้าน้ำตาไหลรินอย่างต่อเนื่อง ฉู่อวิ๋นปักกระบี่ลงบนพื้น กำหมัดแน่นจนเล็บจิกเืไหล เขามองขึ้นไปบนฟ้าแล้วะโเสียงดัง รู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ากำลังพังทลายลงมา เ็ปหัวใจยิ่งนัก