Chapter 22
"ตัวเล็ก หันมาคุยกับพี่กรีนก่อน"
กรีนสะกิดไหล่คนน้องและเดินตามกันไปกันมา วนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแบบนั้นมาหลายนาทีแล้ว สาเหตุก็คือ วันนี้ทั้งวันเขาผลัดกันงอนกันไปงอนกันมาั้แ่ที่กรีนไปรับป๋ายกลับมาจากบ้านของบลู
"ป๋ายป๋าย"
"ไม่ต้องเลยนะเ้านาย เค้างอนมาก ๆ เลย"
"งอนก็ได้ แต่มาคุยกันก่อน"
"เื่นี้ยังจะต้องคุยอะไรกันอีก เค้าน่ะนะ เสียใจมาก ๆ ที่พี่กรีนทำร้ายหัวใจเค้าแบบนี้" กรีนถึงกับกุมหัวให้กับสิ่งที่เ้าตัวเล็กของเขาพูดออกมา
"โอเค ๆ มาคุยกันดี ๆ นะครับ มันไม่มีอะไรเลย"
"มันมี แล้วพี่กรีนอ่ะ ไม่รู้สึกจะฮัดชิ่วเลยเหรอ? นั่นก็แมวเหมือนเค้าเลยนะ"
เออว่ะ
"พี่ก็ลืมคิดเื่นี้ไปเลย เพิ่งมารู้ตอนเธอบอกพี่ด้วยซ้ำ ว่าคุณมิเกลเองเขาก็เป็ครึ่งทาง"
"เขามีเ้านายแล้วใช่ไหม?" คนตัวเล็กยอมที่จะเลิกเดินไปเดินมา แล้วมานั่งเฉย ๆ อยู่บนโซฟาภายในห้องทำงานของกรีน
"มีแล้วสิครับ"
"แปลว่าพี่กรีนห้ามเลี้ยงนะ"
"พี่จะไปเลี้ยงใคร ก็เลี้ยงเธออยู่คนเดียวเนี่ย" กรีนนั่งลงที่โซฟาตำแหน่งข้างตัวคนน้อง ส่งมือขึ้นไปลูบหัวเบา ๆ พร้อมกับตอบคำถาม
"ไม่รู้แหละ ห้ามเอ็นดูด้วย"
"โอเค ๆ พี่ไม่ได้รู้สึกเอ็นดูเขาเลยครับป๋ายป๋าย ถึงพี่อาจจะรู้ตัวว่าคุณมิเกลอาจจะสนใจพี่ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรทำให้พี่มั่นใจว่าเขาชอบพี่ เพราะฉะนั้นถ้าพี่ไม่มั่นใจ พี่จะไปกล่าวหาเขามั่ว ๆ ได้ยังไงครับ?"
"อันนี้ก็เข้าใจได้ แต่อย่าชอบแมวแบบนั้นนะ พี่กรีนต้องชอบแมวแบบเค้าเท่านั้น ไม่ ๆ ชอบเค้าเท่านั้น"
"แบบคุณมิเกลเป็ยังไงล่ะ?"
"ก็ดูมีเงินเยอะ ๆ โต ๆ ดูเก่ง แล้วก็เหมือนมนุษย์มาก ๆ"
หลังจากที่ฟังจบ กรีนก็ยิ้มออกมา เขาพอจะจับได้แล้วว่าสิ่งที่คนน้องกำลังงอแงอยู่มันเป็เพราะอะไร เขาไม่แน่ใจว่าน้องหวงตัวเองในสถานะไหน แต่แน่ ๆ แล้ว สิ่งที่ป๋ายกำลังกังวล ก็คือบุคลิกที่ดูต่างไปของตัวเองและมิเกล
"เธอกลัวว่าพี่จะมองว่าเธอเด็กเหรอครับ?"
"ก็แล้วมันจริงไหมล่ะ?" ป๋ายพูดออกมาเบา ๆ และเบะปากคว่ำลง
"งั้นเธอก็ต้องโฟกัสที่พี่สิ ว่าพี่ชอบแบบไหน"
"แล้วพี่กรีนชอบแบบไหน?"
"เธอว่าแบบไหน?" กรีนยิ้มเล็ก ๆ
"พี่กรีนอย่าแกล้ง!"
คนตัวเล็กโวยวายออกมา แล้วฟาดเข้าที่แขนของกรีนเบา ๆ หลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเองตีคนพี่ก็ชะงัก ใช้ฝ่ามือลูบไปที่แขนของกรีนข้างที่โดนตี กรีนที่งงในตอนแรก หลังจากที่เข้าใจสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว ก็รีบคว้าตัวน้องมากอดทันที
"เธอกลัวพี่เจ็บเหรอ? หื้ม?" คำถามถูกส่งออกไปจากปากกรีน
"พี่กรีนเพิ่งสอนเค้าตอนอยู่บนรถเอง ว่าห้ามทำอะไรที่มันเจ็บ ๆ แบบนี้"
"ก็ถูกครับ เธอต้องดูว่าเธอทำกับใคร คนอื่นอาจจะไม่โอเคที่เธอตีแขนเมื่อกี้ แต่สำหรับพี่ แบบเมื่อกี้ไม่เป็ไรนะครับ พี่หยอกเธอก่อน" กรีนอธิบายพร้อมกับลูบหลังน้องเบา ๆ
"สรุปพี่กรีนชอบแบบป๋ายป๋ายหรือเปล่า? หรือว่าชอบแบบคุณมิเกล เพราะเค้าดื้ออีกแล้ว"
"ชอบแบบที่ดูแลอยู่นี่แหละครับ"
"พูดก่อนว่าชอบป๋ายป๋าย"
"ครับ ๆ พี่ชอบป๋ายป๋าย หายงอนยัง?" กรีนผละกอดออกมาและถามคำถามขึ้น
"ไม่ได้งอนสักนิดเดียว" มือหนาถูกส่งไปหยิกแก้มเ้าของคำตอบเบา ๆ และตามมาด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ง้องอนกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว คนพี่ก็ขอตัวกลับไปประชุมงานที่ค้างไว้กับเวย์ ปล่อยให้เ้าแมวตัวน้อยเล่นอยู่ในห้องของเขาไป กรีนไหว้วานให้เกรซช่วยเข้ามาดูป๋ายเป็พัก ๆ เพราะเป็่ที่ลูกค้าในร้านยังไม่เยอะ
เ้าแมวตัวน้อยที่ไม่รู้จะทำอะไรก็เดินสำรวจห้องทำงานของกรีนเงียบ ๆ ในหัวก็เอาแต่คิดว่าสไตล์ของเ้านายของเขาชัดเจนมาก การตกแต่งห้องที่บ้านและห้องทำงานที่ร้านไม่ได้แตกต่างกันเลยสักนิดเดียว ความเรียบง่ายยังคงอธิบายตัวตนของกรีนได้ดีเสมอในสายตาของป๋าย
มือเล็กไล่หยิบขวดน้ำหอมแต่ละขวดในชั้นที่มุมห้องของกรีนมาดม ตัวเขาเองพอจะรู้มาบ้าง ว่ากลิ่นน้ำหอมแต่ละกลิ่นในร้าน ทั้ง 3 คนเป็คนช่วยกันคิด บางกลิ่นป๋ายจะเคยได้กลิ่นแล้วจากที่วางอยู่ที่บ้าน ส่วนบางกลิ่นก็เป็ครั้งแรกที่ได้กลิ่น แล้วก็ประทับใจกับมันเหมือนกับกลิ่นที่ผ่านมา
อาจจะเพราะรสนิยมเหมือนกันหรือเปล่า ตัวป๋ายเองก็ไม่แน่ใจ แต่เขากลับชอบทุกอย่างที่กรีนทำ ทั้งเสื้อผ้าที่กรีนสวมใส่อยู่ทุกวัน สไตล์ของเครื่องประดับที่กรีนเลือกแต่ละชิ้น การตกแต่งบ้านที่เขาทั้งสองคนอยู่ด้วยกันในตอนนี้ มาจนถึงเครื่องหอมต่าง ๆ ที่กรีนคิดมันขึ้นมา เขาชอบมันไปหมดเสียทุกอย่าง
ก๊อก ๆ ๆ
คนที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับกลิ่นเครื่องหอมบนชั้นวางของในห้องของกรีนหันกลับไปประตูอัตโนมัติหลังจากได้ยินเสียงเคาะ
"ป๋าย พี่กรีนให้มาถามว่าหิวหรือเปล่า? เกรซกำลังจะสั่งเค้กพอดี มีสำหรับแมวด้วยนะ อยากได้อะไรไหม?" เกรซที่เปิดประตูเข้ามาถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
"เค้าเอา ๆ ๆ"
พอได้ยินดังนั้น เกรซก็เดินเข้ามาในห้องอย่างเต็มตัว เดินมาที่ตำแหน่งข้าง ๆ ป๋าย เอียงโทรศัพท์ให้ดูเมนูของร้านเค้กที่จะสั่ง และเลื่อนลงไปที่ด้านล่างสุด เพื่อดูเมนูสำหรับเ้าเหมียว ป๋ายยืนเลือกอยู่สักพักด้วยความตื่นเต้นก่อนจะกดเค้ก 2 ชิ้นลงตะกร้าไป
"แล้วนี่ป๋ายทำอะไรอยู่?" หลังจากกดสั่งเค้กไปเรียบร้อยแล้ว เกรซก็หันมาสนใจกับกิจกรรมที่ป๋ายกำลังทำอยู่ก่อนที่เขาจะเข้ามา
"เค้าดม ๆ กลิ่นน้ำหอมอยู่นะ"
"จริงเหรอ? ป๋ายชอบกลิ่นไหน ๆ" พอได้ยินคำถาม ป๋ายก็หันกลับไปมองที่ตู้สะสมผลงานของร้าน ก่อนจะชี้ขวดที่อยู่้าสุดขวดแรก
"อันนี้ ๆ โอ๊ะ เค้าเพิ่งเห็นว่ามันมีชื่อเขียนอยู่ข้างล่าง มันคือชื่ออะไรนะเกรซ?" คนตัวเล็กที่เกิดความสงสัยว่าชื่อที่อยู่ด้านล่างน้ำหอมแต่ละขวดคืออะไรก็ถามขึ้นมา
"อันนั้นคือชื่อของคนที่คิดกลิ่นนี้ ส่วนขวดที่ป๋ายบอกว่าชอบมากที่สุด คนที่คิดก็คือพี่กรีนกับพี่เวย์ค่ะ ขวดนี้เป็ขวดที่ทำให้ร้านถึงจุดเปลี่ยนเลยนะ"
"จุดเปลี่ยนคืออะไร?" เ้าแมวน้อยขมวดคิ้วและเอียงคอด้วยความสงสัย
"หมายถึงว่าเมื่อก่อนร้านยังไม่โด่งดังขนาดที่มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาบ่อยขนาดนี้ แต่พอน้ำหอมขวดนี้เป็ที่รู้จักเยอะ ๆ ก็เลยทำให้ร้านขายดีขึ้นมาเลย แบบนี้พอเข้าใจไหมคะเหมียว?" เกรซยิ้มบาง ๆ
"เหมียวเข้าใจแล้ว"
"พี่กรีนกับพี่เวย์เก่งกันมาก ๆ เลยแหละ เกรซนับถือพวกพี่เขาที่สุดเลย"
"เกรซเข้ามาทำงานที่ร้านได้ยังไง?" พอเริ่มคุยกันสนุกปาก ป๋ายก็เริ่มยิงคำถามเข้ามาเรื่อย ๆ สำหรับเกรซเอง เขาก็ยินดีเป็อย่างมากที่จะตอบมัน
"ตอนนั้นเกรซยังเรียนไม่จบเลยนะ จริง ๆ ตอนนี้ก็ยัง แต่ว่าเจอทางที่ชอบแล้ว ก็เลยไม่คิดจะเรียนแล้วล่ะ พี่กรีนเปิดรับสมัครพนักงานใหม่ เราก็เลยมาสมัคร ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แค่ไม่ค่อยโอเคกับสิ่งที่กำลังเรียนอยู่ ก็เลยหางานทำซะเลย"
"เกรซเลือกไม่ได้เหรอว่าจะเรียนอะไร? ทำไมถึงได้เรียนอันที่ไม่ชอบล่ะ?" ป๋ายถามพร้อมกับทำหน้าเศร้า
"ตอนนั้นเกรซเลือกได้ แล้วตอนที่เข้าไปเรียนตอนแรกเกรซก็ชอบด้วย แต่พอเวลาผ่านไปมันก็กลายเป็สิ่งที่เราไม่โอเคกับมัน"
"น่าเศร้าจัง ทำไมเป็แบบนั้นล่ะ?" เกรซยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับไป
"มันเป็เื่ปกตินะป๋าย พอเวลาผ่านไป สิ่งที่เราเคยชอบมาก ๆ มันก็อาจจะกลายเป็สิ่งที่เรารู้สึกไม่ชอบแล้วก็ได้ เหตุผลของมันก็เพราะตัวเรานี่แหละ เราโตขึ้น ได้เดินทางไปที่ต่าง ๆ มากขึ้น ได้เจอคนเยอะขึ้น อะไร ๆ ที่เราเคยคิดไว้มันอาจจะเปลี่ยนแปลงไป"
"แบบนี้ถ้าเกิดว่าเราเคยไม่ชอบอะไร เราก็อาจจะเปลี่ยนเป็ชอบได้ใช่ไหม?"
"ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องรู้สึกเสียใจนะ ว่าเคยชอบสิ่งนั้นแล้วตอนนี้ไม่ได้ชอบมันแล้ว เพราะมันเป็เื่ปกติของคนเราเลยค่ะ"
"เค้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเกรซมากน้า แล้วก็ ๆ เล่าให้เค้าฟังต่อสิ เื่ที่เกรซมาทำงานที่นี่"
"ก็นั่นแหละพอมาสมัครพี่กรีนกับพี่เวย์ก็เรียกมาสัมภาษณ์ แบบว่าเรียกมาพูดคุย ถามคำถาม อะไรประมาณนี้ ส่วนวิธีที่พี่กรีนกับพี่เวย์ใช้คุยกับเกรซก็แทบจะไม่มีอะไรเลย พวกพี่เขาแค่ถามเกรซว่าชอบน้ำหอมกลิ่นไหนมากที่สุดจาก 5 กลิ่นที่เขาวางไว้ให้ดม พี่กรีนกับพี่เวย์ไม่ได้วางข้อมูลของน้ำหอมขวดไหนไว้ให้เลย แค่ให้ดมมัน พอเกรซเลือกพวกพี่เขาก็รับเข้ามาทำงานเลย"
"ทำไมง่ายจัง" และเป็อีกครั้งที่เ้าแมวตัวน้อยเอียงคอสงสัยทำท่าออกมา
"ตอนแรกเกรซก็คิดแบบนั้น แต่พออยู่มาเรื่อย ๆ เกรซก็เลยถามย้อนไปถึงวันนั้นว่าทำไมถึงรับเกรซเข้ามาทำงาน เพราะน้ำหอมที่เกรซเลือกหรือเปล่า พี่กรีนก็บอกกับเกรซว่า ใช่ เพราะน้ำหอมทั้ง 5 กลิ่นนั้น มีอยู่กลิ่นเดียวที่พวกพี่เขาคิดขึ้นมา ส่วนที่เหลือเป็น้ำหอมจากแบรนด์อื่น พวกพี่เขาแค่้าคนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กันเข้ามาทำงานด้วยกัน แล้วมันก็ดีตรงที่ว่าพอเกรซเข้ามา เราก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันเป็ส่วนใหญ่ มันก็เลยทำให้สินค้าแต่ละตัวที่วางขาย เราทั้ง 3 คนภูมิใจกับมันมากที่สุด เพราะมันคือสิ่งที่เราชอบกันมาก ๆ" เกรซพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"จากที่เค้าฟังนะ มันเหมือนกับว่าที่ร้านจะได้แต่น้ำหอมกลิ่นเดิม ๆ แต่ก็ไม่เห็นเป็อย่างนั้นเลย เพราะแต่ละกลิ่นที่เค้าดมในตู้ มันต่างกันมาก ๆ"
"ใช่เลย ตอนแรกเกรซก็คิดแบบนั้น แต่มันกลายเป็ว่า เรามีกลิ่นที่ชอบเหมือนกันก็จริง แต่แต่ละฤดูกาลมันต่างกัน ความรู้สึกเรา 3 คนมันก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาลนั่นแหละ พอถึงฤดูกาลใหม่ความรู้สึกเราก็เป็แบบใหม่ ก็เลยได้น้ำหอมกลิ่นใหม่มาเรื่อย ๆ"
"โห เก่งกันมาก ๆ เลย เกรซก็เก่งมาก ๆ"
"ต้องขอบคุณพี่กรีนกับพี่เวย์มาก ๆ เลยแหละ ตอนแรกเกรซเป็แค่พนักงานขายหน้าร้านธรรมดาเลยนะ แต่เกรซแค่ชอบวาดรูป แล้วพวกพี่เขาก็ชอบดีไซน์ที่เกรซวาด ก็เลยชวนมาออกแบบแพ็คเก็จจิ้ง พอนาน ๆ ไป พี่กรีนใช้เงินตัวส่งเกรซไปเรียนพวกโปรแกรมที่ใช้ออกแบบเองเลยนะ เกรซสนุกกับมันมาก ๆ ทุกวันนี้ก็ยังเป็แบบนั้นอยู่ เกรซเลยรู้สึกขอบคุณพี่กรีนกับพี่เวย์อยู่ตลอดเลย"
หลังจากที่ได้ฟังเื่ราวที่เกรซเล่าออกมา มันก็ทำให้ป๋ายประทับใจในตัวเ้านายของเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก แน่นอนว่าเขารับรู้มันได้ว่ากรีนเป็คนที่ใจดี แต่ยิ่งได้ฟังคำยืนยันจากคนรอบข้าง มันก็ยิ่งทำให้ป๋ายอุ่นใจที่ได้อยู่ด้วยกับคน ๆ นี้
"เกรซ ป๋าย เค้กมาส่งแล้วนะ" เกรซและปลายที่กำลังนั่งเม้ามอยกันอย่างสนุกสนานหันไปตามเสียงเรียกของเวย์ จากนั้นทั้งคู่ก็ตามออกไปที่ส่วนครัวของร้านเพื่อกินเค้กที่ได้สั่งมา
"ป๋ายป๋าย เธออย่ากินเยอะนะ วันนี้พี่จะพาออกไปกินข้าวข้างนอก" คนฟังตาประกายเมื่อได้ยิน
"ออกไปกินข้าวข้างนอกเหรอพี่กรีน?"
"ใช่ครับ จะพาไปลองอะไรใหม่ ๆ เธออยากไปหรือเปล่า หรือว่าอยากกินข้าวที่บ้านเหมือนเดิม"
"เค้าไป ๆ" หลังจากที่ได้รับคำตอบจากคนน้อง กรีนก็ยกยิ้มให้และกลับไปทำงาน ปล่อยให้เกรซและป๋ายนั่งกินเค้กกันต่อในครัว
เวลาล่วงเลยมาจนถึงตอนร้านปิด เวย์แยกไปส่งเกรซเหมือนปกติทุกวัน ส่วนกรีนก็ขับรถพาป๋ายไปที่ร้านอาหารที่เขาได้จองไว้ทันที ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเดินทางมาถึงร้านอาหาร เพราะ่นี้เป็่ที่บางบริษัทเลิกงาน รถที่สัญจรบนถนนจะเยอะเป็พิเศษ
"สวัสดีค่ะลูกค้า จองไว้ไหมคะ?"
"ครับ จองไว้"
"รบกวนขอชื่อที่จองหน่อยนะคะ"
"กรีน โนเอลครับ"
"คุณกรีน โนเอล จองไว้ 2 ที่นะคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ"
พนักงานกล่าวต้อนรับทันทีเมื่อกรีนและป๋ายเดินมาถึงที่หน้าเคาน์เตอร์ของร้าน หลังจากที่แจ้งชื่อกับพนักงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินนำทั้งสองคนไปที่โต๊ะที่จองไว้
"เชิญดูเมนูก่อนนะคะ อีกสักพักพนักงานจะมารับออเดอร์ค่ะ" พนักงานผายมือเชิญให้ทั้งกรีนและป๋ายนั่งลงที่โต๊ะ หลังจากนั้นก็ส่งสมุดเมนูอาหารไปให้ทั้งคู่
จากประสบการณ์ที่ได้เข้าร้านอาหารกับกรีน จึงทำให้ป๋ายรู้ว่าเมนูสำหรับเ้าเหมียวน้อยในเมือง No Land จะอยู่ในส่วนท้ายของสมุดเมนูอาหารแทบจะทุกร้าน ป๋ายจึงรีบเปิดไปที่ด้านหลังเพื่อดูเมนูอาหารสำหรับเขาทันที แต่เ้าตัวก็กลับพบว่าด้านหลังของสมุดเมนูอาหารในร้านนี้มีเพียงแค่เครื่องดื่มเท่านั้น
"พี่กรีน เค้าไม่เห็นข้าวเค้าเลยนะ" ป๋ายเรียกกรีนและถามออกมา ในขณะที่มือก็ยังพลิกสมุดเมนูอาหารแต่ละหน้าไปมาไม่หยุด
"อ่า พี่กรีนลืมบอกเลยครับ ร้านนี้เป็ร้านอาหารของคนนะ ไม่มีเมนูสำหรับเ้าเหมียวเลย"
"อ้าว" คนตัวเล็กเบะปากออกมาและค่อย ๆ ปิดสมุดเมนูอาหารช้า ๆ
"คือพี่ได้ยินมาจากคุณมิเกลว่า เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งหงุดหงิด" พอได้ยินชื่อของมิเกล เ้าแมวตัวน้อยก็ทำท่าจะเริ่มงอแงทันที กรีนจึงพูดดักไว้ก่อน
"เค้ายังไม่แสดงสีหน้าอะไรเลยนะ"
"โอเค ๆ งั้นฟังพี่กรีนนะ"
"เค้าฟัง"
"คือก่อนที่เธอจะบอกพี่ไม่รู้ว่าคุณมิเกลเขาก็เป็ครึ่งทาง วันที่เลี้ยงอาหารขอบคุณเขาวันนั้นก็เลยซื้อมาแต่อาหารของคน แล้วพี่ก็เห็นว่าคุณเขากินได้ ไม่ได้พูดอะไร"
'เหอะ! กินอาหารคนด้วยเหรอเนี่ย!'
"เขาบอกว่าบางอย่างครึ่งทางกินแล้วก็อาจจะชอบ พี่ก็เลยพาเธอมาลอง เผื่อเธอจะได้ลองอะไรใหม่ ๆ แล้วมีสิ่งที่ชอบเพิ่มขึ้นมาบ้าง" กรีนพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
"พี่กรีนคิดมากเื่ที่เค้าไปฉีดวัคซีนแล้วกินข้าวไม่อร่อยอีกเหรอ?" คนตัวเล็กถามกลับไปพร้อมส่งสายตาหงอย ๆ
"ถ้าพูดตรง ๆ พี่ยังคิดเื่นี้อยู่ตลอดเลยครับ ทุกครั้งเวลาที่เห็นเธอกินอะไรแล้วเธอแสดงออกมาว่ามันอร่อย พี่ก็อดคิดไม่ได้เลย ว่าตอนนี้เธอยังกินแล้วอร่อยขนาดนี้ ถ้าเธอไม่ได้ฉีดวัคซีนเธอจะอร่อยกับมันขนาดไหน"
"เค้าก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่ามันคุ้มกับเค้ามาก ๆ ที่ทุกวันนี้ได้นอนกอดพี่กรีนได้เยอะ ๆ ไปเที่ยวกับพี่กรีนได้ ก่อนจะฉีดเค้า้าแค่นี้ แล้วตอนนี้เค้าก็ได้รับมันอย่างเต็มที่ ไม่มีอะไรที่เค้าเสียใจเลยสักกะติ๊ดนึง" คำพูดที่ปลอบโยนหัวใจของกรีนมาพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะไร้เดียงสาของเ้าแมวตัวน้อยตรงหน้า
"คนเก่ง ขอบคุณนะครับ"
"ถ้างั้น พี่กรีนอยากให้เขาลองอะไรพี่กรีนสั่งเลยนะ เค้าไม่รู้จักอะไรเลย"
"ได้ครับ"
เป็หน้าที่ของกรีนที่เปิดเมนูดูอาหารที่อยากจะสั่งในวันนี้ ส่วนคนตัวเล็กตรงหน้าก็มองไปรอบ ๆ ร้านเพื่อสำรวจของตกแต่งต่าง ๆ อาหารที่กรีนเลือกสั่งมาให้ป๋ายได้ลองกิน ก็คือเมนูปลาทั้งหมด เลือกเป็อาหารที่ไม่ได้มีรสจัด ในรอบแรกกรีนสั่งไปแค่ 2 อย่าง เพื่อดูปฏิกิริยาของคนตัวเล็ก ว่าจะโอเคกับอาหารของคนหรือเปล่า
"ตัวเล็ก"
"เหมียว~"
กรีนหลุดยิ้มออกมาหลังจากที่ได้ยินคนตัวเล็กขานตอบออกมาเป็เสียงร้องของแมว เป็สิ่งที่กรีนไม่ได้เห็นมันบ่อยนัก มันจะเป็เฉพาะเวลาที่คนตัวเล็กตรงหน้าเขากำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ก็ยังส่งปฏิกิริยาตอบรับเวลาที่เขาเรียกกลับมาเสมอ
"พี่ให้ของขวัญ" คำพูดของกรีนเรียกความสนใจจากป๋ายได้เป็อย่างดี คนตัวเล็กหันกลับมาที่โต๊ะและพบกับกล่องขนาดเล็กที่กรีนยื่นมาให้ตรงหน้า
"เอาอีกแล้ว ทำไมพี่กรีนชอบให้ของขวัญเค้าที่ร้านอาหาร" ป๋ายบ่นออกมา ก่อนจะส่งมือไปรับของขวัญที่กรีนเตรียมมาให้
ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตามแต่ ป๋ายก็ดีใจทุกครั้งเวลาที่กรีนมีของขวัญมาให้เขา คนตัวเล็กยิ้มออกมาพร้อมกับค่อย ๆ เปิดกล่องใบเล็กออก สร้อยสีเงินเส้นสวยปรากฏอยู่ตรงหน้าของป๋าย มือเรียวหยิบมันขึ้นมาสำรวจให้ทั่ว และพบกับจีตัวอักษรสองตัวคือตัว G และ B
"พี่กลัวเธอใส่ปลอกคอที่ข้อมือตลอดแล้วจะรำคาญ ก็เลยคิดว่าใส่เป็สร้อยจะดีกว่า พี่สั่งทำเส้นเล็กมาให้ เธอใส่ไว้ตลอดเวลาได้เลยนะ"
"เค้าจะใส่ไว้ตลอดเลย" ป๋ายตอบกลับมายิ้ม ๆ
"ชอบหรือเปล่า?"
"ชอบมาก ๆ เค้าขอบคุณพี่กรีนน้า"
"ไม่ดื้อไม่ซน ไม่หนีออกจากบ้านนะแมวป๋ายป๋าย"
"เค้าไม่ดื้อไม่ซน ไม่หนีออกจากบ้าน"
"ให้มันจริง เดี๋ยวก็งอนพี่แล้วหาเื่สะพายกระเป๋าจิ๋วหนีพี่อีก"
"ใครทำ เค้าไม่เห็นรู้เื่" คนตัวเล็กตอบออกมาและทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กรีนเห็นก็ส่ายหัวเอ็นดูทันที
"พี่กรีน"
"ครับ?"
"แต่เื่คุณมิเกลเค้าหวงจริง ๆ นะ ไม่เข้าใกล้ได้ไหม?"
"หื้ม? ทำไมเธอถึงยังเก็บมาคิดมากอยู่ พี่ไม่ได้คิดอะไรกับคุณเขาเลยจริง ๆ นะ ไม่ต้องหวงเ้านายเธอขนาดนั้น พี่ไม่ได้จะมีแมวตัวใหม่ครับ"
"ไม่ใช่แค่แมวซี่ พี่กรีนจะหาเ้านายอีกคนให้เค้าหรือเปล่า?"
"ครับ? หมายถึงอะไร"
"ก็แบบว่า เหมือนที่พี่บลูกับพี่ดีน่าเป็กันไง" กรีนยิ้มออกมาเมื่อรู้ความหมายที่คนตัวเล็กจะสื่อ
"หมายถึงแฟนหรอครับ?"
"ใช่ ๆ เค้าไม่ได้อยากมีเ้านายเยอะ ๆ นะ"
"พี่ก็ไม่ได้จะไปหามาให้เธอสักหน่อย"
"เค้าห้าม ๆ ๆ ห้ามพี่กรีนแฟน"
"หวงพี่เหรอครับ?"
"เค้าก็หวงพี่อยู่ตลอดนะ"
"โอเค ๆ เอาเป็ว่าพี่ไม่ได้คิดจะมีใคร มีแค่เธอคนเดียวนี่แหละ โอเคไหมครับ?"
"แบบนี้เหมียวโอเค ถูกใจมาก"
กรีนโอเคที่จะปล่อยให้คนน้องเรียนรู้โลกไปก่อน เขาจะไม่พยายามบีบบังคับให้ป๋ายรู้จักกับความรักในรูปแบบนี้ ถ้าน้องรู้สึกเขาจะก็บอกว่ามันคืออะไร แต่ถ้าน้องไม่ได้รู้สึก ก็จะปล่อยให้มันเป็ไป กรีนพร้อมที่จะเป็เพื่อน เป็พี่ชายของป๋ายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ อยู่แล้ว
"ป๋ายป๋าย"
"ว่าไงพี่กรีน?"
"เธออยากมีบ้างหรือเปล่า?"
"พี่กรีนหมายถึงอะไรนะ?"
"แฟนครับ"
"อืม ไม่รู้สิ คือเค้าไม่รู้ว่ามันต้องเป็แบบไหน ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้รู้สึกว่าอยากมี เพราะพี่กรีนให้เค้าหมดทุกอย่างแล้ว เค้าก็เลยไม่ได้อยากมีใครมาทำอะไรให้เค้าอีกนะ"
"แบบนั้นก็ได้ครับ เอาไว้ถึงเวลาที่เธออยากจะเรียนรู้มัน เธอค่อยบอกพี่นะ"
"ได้เลย!"