เด็กคนนี้ดวงแข็งยิ่งนัก แม้จะใช้ชีวิตตัวคนเดียวที่หลังเขาก็ยังรอดมาได้อย่างทรหด
แน่นอนว่านอกจากจะดวงแข็ง ชะตาก็ยังอาภัพนัก
มู่เซียงแอบนำอาหารจากที่บ้านไปให้เขาอยู่บ่อยๆ ซีต้าเฉียงหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งทำเป็ไม่เห็นไปเสีย
สือโถวมองเขาอย่างหวาดระแวง ไม่ยอมพูด
แต่เพราะซีมู่เซียงขยิบตาให้ตลอดเวลา สือโถวถึงตอบอย่างไม่เต็มใจนัก "่ยามอู่ [1] ก่อนเห็นควันไฟทำอาหาร "
"คนเ่าั้ เ้ารู้จักทั้งหมดหรือไม่" ซีต้าเฉียงสีหน้าคร่ำเครียดซักไซ้ต่อ
ั้แ่วันที่พวกมู่เซียงเจอหัวขโมยที่ตลาดนัด ซีต้าเฉียงก็ตระหนักได้แล้วว่าอันธพาลจากเต้าจื่อหลิ่งเ่าั้ไม่ช้าก็เร็วต้องสร้างปัญหา เพียงแต่ไม่นึกว่าพวกเขาจะแล่นมาก่อเื่ถึงขู่หลิ่งถุน
สือโถวมองเขาปราดหนึ่ง "รู้จักสองคน"
เขาร่อนเร่พเนจรแถวนี้มาหลายปี มักถูกอันธพาลเ่าั้กดขี่ข่มเหงเป็ประจำ
"มีใครบ้าง เล่ามาให้ข้าฟังอย่างละเอียด" ซีต้าเฉียงสีหน้าเคร่งขรึม
สือโถวบอกชื่อคนที่ตนเองรู้จักให้เขารู้
ที่แท้ก็เป็พวกตัวหายนะแห่งเต้าจื่อหลิ่งกลุ่มนั้นจริงๆ
"ท่านพ่อ สองคนที่ว่านี้ก็คือหัวขโมยที่พวกเราเจอที่ตลาดนัดวันนั้น" ซีมู่เซียงค่อนข้างมั่นใจ
"ใช่ เป็พวกเขานี่แหละที่ขโมยของต้าเหนียงจื่อครั้งก่อน แต่ถูกข้าจับได้" อูหลันฮวาก็คิดว่าใช่ "แต่สุดท้ายก็หลุดรอดไปได้ น่าเสียดายนัก"
"ท่านพ่อ พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ไปหาผู้นำเผ่าเต้าจื่อหลิ่งดีหรือไม่" ซีมู่คุนก้าวออกมา
"ผู้นำเผ่าเต้าจื่อหลิ่งเป็พวกปากหวานก้นเปรี้ยว อาศัยแค่วาจาปากเปล่า แตะต้องเ้าพวกบัดซบเ่าั้ไม่ได้อยู่แล้ว มิเช่นนั้นพวกมันจะกล้าเหิมเกริมเช่นนี้หรือ" ซีมู่เซิงขุ่นเคืองใจในความไม่เป็ธรรม
สองหมู่บ้านอยู่ใกล้กัน ปรกติเวลาเจอกับพวกอันธพาลไม่รู้จักเหตุผลเ่าั้ก็มักมีเื่กระทบกระทั่งกันเสมอ
หากมิใช่เพราะในหมู่บ้านมีคนมากกว่าทั้งสมัครสมานสามัคคี อันธพาลจากเต้าจื่อหลิ่งเ่าั้ก็คงแล่นมาก่อเื่ในหมู่บ้านของพวกเขานานแล้ว
"ก็นั่นน่ะสิ เ้าพวกนั้นชอบขโมยไก่คลำสุนัข [2] ผู้าุโของพวกเขาก็จัดการไม่ได้ เกียรติยศของเต้าจื่อหลิ่งล้วนถูกทำลายจนหมดสิ้น" ซีหย่วนพูดเสริมอีกประโยค
ซีต้าเฉียงรู้สึกลำบากใจ ถึงไปหาผู้นำาุโของเต้าจื่อหลิ่ง ตัวหายนะเ่าั้ไหนเลยจะโง่ยอมรับ
ต่อให้มีสือโถวเป็พยาน คำพูดของเด็กขอทานเร่ร่อนอย่างเขาจะมีน้ำหนักสักแค่ไหนเชียว
แต่ถ้าไม่ไปเต้าจื่อหลิ่ง หากคืนนี้เ้าพวกบัดซบเ่าั้ก็จะมาอาละวาดจะทำอย่างไร
"ผู้าุโซี" ในที่สุดเหลียนเซวียนซึ่งยืนนิ่งไม่เปล่งเสียงอยู่หน้าระเบียงก็เอ่ยปาก
ซีต้าเฉียงรีบเดินเข้าไป
"ผู้าุโซี เื่นี้เมื่อหัวหน้าเผ่าของฝ่ายตรงข้ามจัดการไม่ได้ เช่นนั้นให้ข้ากำจัดเ้าพวกตัวหายนะเหล่านี้แทนเขาเถอะ ต่อไปจะได้ไม่มาสร้างความวิบัติให้กับเผ่าข้างเคียงอีกต่อไป" เหลียนเซวียนกล่าวเสียงเรียบ
ซีต้าเฉียงหนาวสะท้านไปถึงสันหลัง
ทุกคนต่างขนลุกซู่
เซวียเสี่ยวหรั่นอ้าปากค้าง มองใบหน้าเ็าของเหลียนเซวียนอย่างตกตะลึง คำพูดของเขาหมายความว่า...
"เอ้อ... เหลียนหลางจวิน หากถึงกับเอาชีวิตเกรงว่าจะยิ่งวุ่นวาย" ซีต้าเฉียงถึงกับปาดเหงื่อ
"เหตุใดต้องเอาชีวิตพวกเขา การปล้นชิงวิ่งราวไม่ถึงกับเอาชีวิตคน แค่มือข้างหนึ่งกับขาข้างหนึ่งของพวกเขาก็เพียงพอ"
พวกบัดซบชั้นต่ำพรรค์นี้ไม่คู่ควรให้เขาต้องมาเปื้อนโลหิต ยิ้มมุมเหยียดหยัน
"เฮ่อ..." ทุกคนต่างรู้สึกโล่งใจ
หัวใจที่เต้นโครมครามของเซวียเสี่ยวหรั่น ก็ค่อยๆ ผ่อนเบาลง
ใบหน้าของซีต้าเฉียงเผยรอยยิ้มผ่อนคลาย แค่ไม่เอาชีวิตคนล้วนดีทั้งนั้น
แท้จริงแล้วต่อให้เล่นกันถึงชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่
คนกลุ่มนั้นบุกรุกหมู่บ้านของพวกเขายามวิกาล วางแผนปล้นทรัพย์ของผู้อื่น ต่อให้ถูกสังหาร หมู่บ้านของพวกเขาก็มีเหตุผล
ถ้าเอาเื่นี้ไปฟ้องร้อง เ้าหน้าที่บ้านเมืองก็คร้านจะใส่ใจ
"ขอแค่ไม่ถึงกับเอาชีวิตคน หลางจวินจะจัดการพวกเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่ใจเถิด"
หักแขนหาพวกเขาอย่างละข้าง เ้าพวกบัดซบเ่าั้ก็กลายเป็คนพิการแล้ว ซีต้าเฉียงพึงพอใจกับวิธีการจัดการเช่นนี้
"ถึงเวลานั้นต้องขอให้ผู้าุโซีให้ความร่วมมือ"
พวกเขามีคนมากกว่า ด้วยสถานการณ์ของเหลียนเซวียนยามนี้ไม่อาจรวบแหจัดการพวกเขาได้หมดในคราเดียว
หากมีคนหนีไปได้ ก็จะยิ่งเป็ภัยในภายหน้า
"ย่อมเป็เช่นนั้นอยู่แล้ว หลางจวินบัญชามาได้เลย" ซีต้าเฉียงตระหนักได้นานแล้ว สถานะของบุรุษผู้นี้ไม่น่าจะใช่สามัญชนทั่วไป
หลังจากปรึกษาหารือกันแล้ว พวกซีต้าเฉียงก็กลับไปเตรียมตัว
ก่อนที่จะไป ซีต้าเฉียงก็กำชับซีมู่เซียงให้กลับบ้านเร็วหน่อย
"เหลียนเซวียน พวกมันมากันหลายคน ท่านคนเดียวจะรับมือไหวหรือ" เซวียเสี่ยวหรั่นเข้ามาขวางด้านหน้าเหลียนเซวียน
"เื่จัดการพวกเขาไม่ต้องถึงมือข้าหรอก" เหลียนเซวียนคร้านจะอธิบาย เขาก็แค่คุมสถานการณ์อยู่เื้ัเท่านั้น
"หา? เช่นนั้นควรทำอย่างไร" เซวียเสี่ยวหรั่นสีหน้างุนงง เมื่อครู่ฟังพวกเขาปรึกษาหารือกัน เขารับหน้าที่จับกุมคนทั้งหมดมิใช่หรือ
เขาไม่ลงมือ หรือว่าจะให้อูหลันฮวาลงมือ?
"หนามยอกเอาหนามบ่ง" เหลียนเซวียนทิ้งคำพูดไว้ประโยคเดียว แล้วลากไม้เท้ากลับเข้าห้อง
"หือ?" เซวียเสี่ยวหรั่นจ้องตามเงาร่างที่หายเข้าไปหลังประตู จะบอกตรงๆ ก็ไม่ได้ จำเป็ต้องทำให้ลึกลับซับซ้อนจนคาดเดาไม่ถูกด้วยหรือ ฮึ! เซวียเสี่ยวหรั่นแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา
ไม่ช้าเหลียนเซวียนก็เดินออกมาจากห้อง
"อูหลันฮวา เ้าไปหมู่บ้านลิ่วไผ เอาเทียบให้คนที่ร้านขายยา ซื้อของกลับมาตามนี้"
อูหลันฮวาเข้าไปรับกระดาษจากมือเขาอย่างกระตือรือร้น
"เสี่ยวหรั่น เอาเงินให้นางด้วย" เหลียนเซวียนกำชับกับเซวียเสี่ยวหรั่น
"ต้องใช้เท่าไร" รู้ว่าเขากำลังจริงจัง เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่เล่นแง่ ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำไปทางตะวันตก วิกฤติยามม่านราตรีปกคลุมใกล้จะมาถึง พวกเขาต้องรีบเตรียมพร้อม
"ห้าตำลึงน่าจะพอ" เหลียนเซวียนเองก็ไม่แน่ใจนัก ราคาของแต่ละที่แตกต่างกัน เขาประเมินตามราคาที่ค่อนข้างสูง
ห้าตำลึง? อูหลันฮวากับซีมู่เซียงแทบหงายหลัง
ยาอะไรจะแพงถึงเพียงนั้น
เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบเงินให้อูหลันฮวา "ไปเถอะ ควรจ่ายเท่าไรก็เท่านั้น เวลาไม่มากแล้ว รีบกลับมาล่ะ"
"ทราบแล้วเ้าค่ะ ต้าเหนียงจื่อ" อูหลันฮวาสะพายกระบุงขึ้นหลังออกจากประตูไป
อูหลันฮวาไปแล้ว สือโถวซึ่งนั่งเล่นกับอาเหลยที่ระเบียงก็ลุกขึ้นตั้งท่าจะไป
"สือโถว กินข้าวก่อนแล้วค่อยไปสิ ข้าจะไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้" เซวียเสี่ยวหรั่นมองดวงตะวัน ตัดสินใจจะไปทำอาหารมื้อเย็นก่อน
สือโถวมองเธอ แล้วแหงนหน้ามองฟ้า จากนั้นก็นั่งลงเงียบๆ
"น้องมู่เซียง ข้าจะไปทำอาหาร เ้าก็อยู่กินข้าวด้วยกันเลยสิ"
"ไม่ดีกว่า ต้าเหนียงจื่อ บิดาข้าบอกให้ข้ากลับเร็วหน่อย" นางเองก็อยากอยู่ต่อ แต่เมื่อครู่บิดากำชับให้กลับเร็ว
"งั้นก็ได้ ข้าอยู่ห้องครัว หากเ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจก็มาถามข้า" เซวียเสี่ยวหรั่นไม่ฝืนใจ
ในครัวมีเนื้อหมูกับกระดูก ผักเหลือไม่มากแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นประเมินดู ยังมีถั่วฝักยาว ผักจิ่วไช่ และไข่ไก่ ผักจิ่วไช่กับไข่ไก่ซีมู่เซียงเป็คนเอามา
ครั้นแล้วจึงตัดสินใจทำหมูผัดถั่วฝักยาว หมูผัดเปรี้ยวหวาน จิ่วไช่ผัดไข่ และน้ำแกงหมูจิ่วไช่
ยามทำอาหารเสร็จ อูหลันฮวาก็กลับมาพอดี
"ต้าเหนียงจื่อ สมุนไพรเหล่านี้ จ่ายเงินไปสามตำลึงห้าเฉียนเ้าค่ะ" อูหลันฮวาส่งเงินที่เหลือคืนให้ หลังจากนั้นก็วางกระบุงลงอย่างระมัดระวัง
ในกระบุงใบใหญ่มีห่อยาเพียงสามห่อ
ชั่วขณะที่ลุงเผยร้านขายยารับเทียบยาที่นางส่งให้ก็ทำสีหน้าชอบกล
...
[1] ยามอู่ หมายถึง่เวลาั้แ่ 11.00-12.59 น.
[2] ขโมยไก่คลำสุนัข หมายถึง พฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย
