เฟิ่งหยางมองเด็กชายด้านข้าง กล่าวเสียงเรียบ "คุณชายเยี่ยงข้าไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์ เมื่อรับเลี้ยง เขาก็ต้องทำอะไรบ้าง"
หลินหลันเซิงได้ยินเฟิ่งหยางกล่าว ก็รวบรวมความกล้าเอ่ยออกไปว่า "คุณชาย หลันเซิงทำความสะอาดเป็ ทำอาหารเป็ ล้างถังส้วมได้ เลี้ยงม้าก็ได้ขอรับ งานในจวนของคุณชายมอบหมายให้หลันเซิงได้เลย หลันเซิงจะทำอย่างดีที่สุด หากมีสิ่งใดทำไม่เป็หลันเซิงพร้อมเรียนรู้ คุณชายได้โปรดอย่าตำหนิพี่สาว และอย่าไล่หลันเซิงไปเลยนะขอรับ"
หลินหลันเซิงเป็คนใจเสาะยิ่ง เขากล้าพูดกับเฟิ่งหยางก็เพราะอยากปกป้องถังชิงหรูมิให้ถูกเฟิ่งหยางดุด่า
ถังชิงหรูฟังถ้อยคำของเด็กน้อย ในความซาบซึ้งก็มีความรู้สึกปวดใจเจืออยู่ นางขึงตาใส่เฟิ่งหยางประหนึ่งกำลังบอกเขาว่า แม้แต่เด็กเล็กขนาดนี้ยังรังแก ท่านมีหัวใจหรือไม่
เฟิ่งหยางไม่รู้สึกผิดอันใด เด็กเล็กเยี่ยงนี้แหละน่ากลัวนัก ลูกน้องคนสนิทของตนก็ตายด้วยน้ำมือของเด็กเล็กแบบนี้ ั้แ่นั้นเป็ต้นมา แม้จะเป็เด็กอายุแค่ขวบสองขวบ เขาก็ไม่ใจอ่อน เด็กจำพวกนี้ยามจะฆ่าคนหัวคิ้วไม่กระดิกด้วยซ้ำ
"ข้าบอกทำตัวให้มีประโยชน์ หาใช่ให้เ้าไปทำงานจิปาถะพรรค์นั้น ในจวนของคุณชายเยี่ยงข้าไม่ขาดบ่าวไพร่ สตรีคนนี้เพียรทุ่มเทแรงใจแรงกายเอาเ้ากลับมาเพื่อให้มาเป็บ่าวรึ" เฟิ่งหยางเยาะหยัน "การทำสิ่งที่มีประโยชน์ในความหมายของข้า คือให้นางสอนเ้าให้เรียนหนังสือรู้จักอักษร ต่อไปภายหน้าหากประสบความสำเร็จในชีวิต แบบนั้นก็นับว่าเป็การตอบแทนนางแล้ว"
ถังชิงหรูไม่นึกว่าเฟิ่งหยางจะอนุญาตให้หลินหลันเซิงเล่าเรียนรู้จักอักษร นี่คือสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในความคาดหมาย นางมองเฟิ่งหยางอย่างตกตะลึง แววตาเปี่ยมไปด้วยความตื้นตันใจ
หากเฟิ่งหยางยอมรับหลินหลันเซิง โดยไม่มีความรังเกียจเดียดฉันท์ ต่อไปเด็กคนนี้ถึงจะมีชีวิตที่ดี แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับ ถังชิงหรูก็ต้องหาหนทางส่งออกไป คนเพิ่งออกมาจากถ้ำเสือ นางคงทนไม่ได้หากเขาจะต้องมาเข้ารังหมาป่า
หลินหลันเซิงดูเหมือนจะไม่เข้าใจคำพูดของเฟิ่งหยาง วาจาของเขาหาได้ล้ำลึกเกินไป ทุกถ้อยคำล้วนกระจ่างเข้าใจง่ายยิ่ง เพียงแต่เมื่อมารวมอยู่ด้วยกัน เด็กน้อยกลับไม่เข้าใจ ที่จริงควรกล่าวว่าไม่กล้าเข้าใจเสียมากกว่า ด้วยเกรงว่าความหวังเล็กๆ ในหัวใจจะกลายเป็เพียงภาพลวงตา
เรียนหนังสือรู้อักษรคืออันใด จะใช่สิ่งเดียวกับที่น้องชายข้างบ้านได้เรียนที่สำนักศึกษาส่วนตัวหรือไม่ เขาเรียนหนังสือได้ด้วยหรือ?
"ขอบพระคุณคุณชายมากขอรับ" หลินหลันเซิงถูกกดขี่ข่มเหงมาเป็เวลานาน แม้อายุยังน้อย แต่รู้ความทุกอย่าง เขาลุกขึ้นก่อนโค้งคำนับอย่างเป็ทางการ
ความพึงพอใจวาบผ่านดวงเนตรของเฟิ่งหยาง เด็กคนนี้แม้ว่ายังเล็ก แต่เฉลียวฉลาด ขอแค่ได้รับการบ่มเพาะอย่างใส่ใจ หนทางในวันข้างหน้าต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน
มีเสียงพ่อบ้านดังมาจากด้านนอก "นายท่าน หญิงปักผ้าที่แม่นางเลือกจากตลาดค้าทาสมาถึงแล้วขอรับ ข้าน้อยดูแล้วรอบหนึ่ง และตรวจสอบสถานะของพวกนาง ไม่มีผู้ใดน่าสงสัย ยามนี้จะให้เตรียมจัดการกับพวกนางอย่างไร ให้ส่งไปที่เรือนตัดเย็บโดยตรงเลยหรือไม่"
"ให้พวกนางรอที่ลานบ้านก่อน ข้าจะไปดูอีกรอบ" เฟิ่งหยางกล่าวเรียบๆ "เ้าตามข้าไปด้วย"
ถังชิงหรูไม่มีข้อแม้ แค่เฟิ่งหยางรับหลินหลันเซิงไว้ ให้นางทำสิ่งใดก็ได้ทั้งสิ้น แต่ต้องไม่ขัดกับหลักการของนางด้วย
หญิงปักผ้าหน้าตางดงามเยาว์วัยสามสิบกว่าคนยืนอย่างเป็ระเบียบเรียบร้อยในลานสวน หาก้าให้สินค้ามีราคา รูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องดูดีสักหน่อย ยิ่งขายให้กับคนสกุลใหญ่เหล่านี้ หีบห่อบรรจุต้องยิ่งงดงาม
"ไหนเงยหน้าซิ" เฟิ่งหยางยืนอยู่ตรงหน้าพวกนาง พอเห็นสตรีแต่ละคนงดงามเสมือนหยกเสมือนบุปผา ก็เอี้ยวศีรษะไปมองถังชิงหรู
"คุณชาย ท่านยังหนุ่มแน่นสง่างาม เป็่วัยที่้าโฉมสะคราญมารดน้ำให้แช่มชื่น หรูเอ๋อร์ใคร่ครวญเพื่อท่าน มิรู้สึกซาบซึ้งเลยหรือเ้าคะ"
หญิงสาวเหล่านี้ถังชิงหรูตั้งใจคัดสรรมาเป็พิเศษ กล่าวได้ว่าแต่ละนางล้วนมีพร้อมทั้งรูปโฉมและสติปัญญา นางจงใจพาพวกนางมาปรากฏตัวต่อหน้าเฟิ่งหยาง เพื่อให้เขาไม่ต้องมาเสียเวลากับนางอีก หน้าตานางก็ธรรมดาสามัญ แต่หญิงสาวเหล่านี้งดงามล้ำเลิศ แค่เป็บุรุษที่มีวิสัยทัศน์หน่อยย่อมรู้ว่าควรเลือกอย่างไร
แววเยียบเย็นแกมเยาะหยันวาบผ่านดวงเนตรของเฟิ่งหยาง เขาพิจารณาสตรีเ่าั้ พลางเหยียดยิ้มเอ่ยว่า "ในสายตาเ้าอาจเป็โฉมสะคราญ แต่สำหรับคุณชายเยี่ยงข้าก็เป็แค่แป้งชาดราคาถูกเท่านั้นเอง"
เฟิ่งหยางหาได้กล่าวเกินจริงสักนิด หญิงสาวเหล่านี้อาจเป็โฉมงามในสายตาของบุรุษทั่วไป สามารถเลือกสักคนกลับทำเมีย อาจพาให้ไม่อยากลงจากเตียงสักสามวันสามคืน แต่สำหรับเฟิ่งหยางหาได้เป็เช่นนั้น หากเขาอยากได้โฉมงามสักคน ไหนเลยจะต้องไปหาจากสถานที่พรรค์นั้น แค่ออกคำสั่งประโยคเดียว โฉมสะคราญนับไม่ถ้วนก็ถูกส่งเข้ามาแล้ว
ถังชิงหรูไม่รู้สถานะแท้จริงของเฟิ่งหยาง แต่มองออกว่าเขาหาใช่คนธรรมดาสามัญ นางได้ยินคำกล่าวของเขาจึงไม่โต้เถียง กลับยังคงแย้มยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ
"คุณชาย แค่หญิงปักผ้าเท่านั้นเอง คุณสมบัติย่อมไม่สูงถึงเพียงนั้น ท่านว่าพวกนางเป็อย่างไรบ้าง หากรู้สึกว่าไม่เลว ข้าจะพาไปเริ่มงานเลยเ้าค่ะ" ถังชิงหรูกล่าว
เฟิ่งหยางมองทุกคนด้วยแววตาเคร่งขรึมทรงอำนาจ
สตรีเ่าั้เห็นคุณชายรูปโฉมหล่อเหลา ประกอบกับได้ยินคำกล่าวของถังชิงหรูต่างก็คาดว่าว่าตนเองอาจจะดวงดี ไม่นึกว่าคุณชายรูปงามผู้นั้นจะเป็คนช่างเลือกถึงเพียงนี้ ความหวังเล็กๆ ที่เพิ่งบังเกิดขึ้นในหัวใจของพวกนางไม่ทันไรก็มอดดับไปเสียแล้ว
"เป็หญิงปักผ้ามิใช่หรือ จะไม่ดูทักษะการเย็บปักของพวกนางได้อย่างไร" เฟิ่งหยางหันไปพูดกับพ่อบ้าน "ไปหาเข็มด้ายมาให้พวกนาง ทดสอบฝีมือกันสักหน่อย"
"ขอรับ" พ่อรีบตอบ
โดยปรกติแล้วถังชิงหรูบอกว่า้าหาหญิงปักผ้า คนค้าทาสย่อมเลือกสรรคนที่มีประสบการณ์ด้านการตัดเย็บมาให้ หากเลือกคนไม่ตรงกับความ้า ผู้ซื้อไม่พึงพอใจ อาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของผู้ค้า ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วผู้ซื้อจะไม่ทดสอบความสามารถของพวกเขา เพราะอย่างไรเสียนี่ก็เป็หลักการขั้นพื้นฐานของคนทั่วไปอยู่แล้ว
พ่อบ้านให้บ่าวส่งอุปกรณ์ตัดเย็บและแพรพรรณเข้ามา หลินหลันเซิงเห็นเช่นนั้นก็ไปยกเก้าอี้มาวางไว้ด้านหลังของเฟิ่งหยาง แล้วกล่าวว่า "นายท่านเชิญนั่ง"
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้นก็ลูบศีรษะของเขาด้วยความเอ็นดู นี่คือสัญชาตญาณประเภทหนึ่ง เกรงว่าเมื่อก่อนคงถูกตี ถูกใช้งานจนเคยชิน ยามเห็นสถานการณ์ย่อมรู้ทันทีว่าควรทำอย่างไร ไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กที่เล็กขนาดนี้
เฟิ่งหยางมองหลินหลันเซิงปราดหนึ่ง พลางผงกศีรษะอย่างพึงพอใจ
ถังชิงหรูเดินผ่านหญิงปักผ้าเ่าั้ คอยสังเกตการทำงานของพวกนางอยู่ด้านข้าง ยามเห็นหญิงปักผ้าหนึ่งในนั้นมือไม้คล่องแคล่ว ทั้งชิ้นงานของนางยังเป็งานปักลายแบบสองด้านอันวิจิตรประณีต ก็อดยืนมองอย่างรู้สึกทึ่งมิได้
เฟิ่งหยางสังเกตความเคลื่อนไหวของถังชิงหรูอยู่ ก็มองไปที่หญิงปักผ้าอยู่สองสามหน แต่ครานี้กลับพบความแตกต่าง เขารู้สาเหตุที่ถังชิงหรูสนใจสตรีคนนั้นเป็พิเศษ จึงหันกระดิกนิ้วชี้เรียกพ่อบ้านเข้ามากระซิบถาม "นางเป็ใคร"
"เรียนนายท่าน นางชื่อโม่เสี่ยวเม่ย อายุสิบหก อาศัยอยู่ในหมู่บ้านสกุลโม่นอกเมืองชิ่ง บ้านของนางมีน้องชายและน้องสาวอีกห้าคน ฐานะยากจนไม่มีจะกิน จึงขายนางออกมา เนื่องจากหน้าตาดี ทั้งมีไหวพริบทำงานคล่องแคล่ว พ่อค้าทาสผู้นั้นจึงเก็บไว้ข้างกายฝึกฝนอยู่สามปี พอได้ยินว่าพวกเรารับหญิงปักผ้า ถึงขายนางมาให้ในราคาสูงขอรับ"
"คนของหมู่บ้านสกุลโม่" เฟิ่งหยางผงกศีรษะ
ชาติกำเนิดไม่ใช่ปัญหา ทุกอย่างดูเหมือนปรกติ แต่ฝีมือการตัดเย็บน่าทึ่งสำหรับพวกเขา เช่นนั้นก็เก็บไว้ตรวจสอบสักหน่อยดีกว่า
พ่อบ้านรู้ว่าเฟิ่งหยางระแวงสิ่งใด ่นี้รอบตัวเกิดเื่มากมาย มิเพียงแต่เื่สินค้าถูกวางยา นักฆ่าในองค์กรยังถูกสังหารเสียชีวิตเป็จำนวนมาก เฟิ่งหยางคิดว่าในองค์กรมีหนอนบ่อนไส้ ยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของพวกเขาก็ถูกเปิดโปงแล้ว ดังนั้นถึงได้กลายเป็เช่นนี้
การจะรับคนเข้ามาใน่ที่เกิดเื่มากมาย ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะปล่อยให้สายลับเข้ามาอีกมิได้เป็อันขาด มิเช่นนั้นผลลัพธ์ภายหน้าคงยากจะคาดคะเน
"ท่านพ่อบ้าน" ถังชิงหรูหันมาพูดกับพ่อบ้าน "จัดห้องเดี่ยวให้แม่นางโม่ผู้นี้ ต่อไปนางจะเป็ลีดเดอร์ของหญิงปักเย็บเ่าั้" พ่อบ้านไม่เข้าใจว่าอะไรคือ 'ลีดเดอร์' แต่ดูจากที่นางให้ความสำคัญต่อโม่เสี่ยวเม่ยผู้นั้นก็รับปาก "ขอรับ"
โม่เสี่ยวเม่ยหยุดมือ หันมายิ้มกล่าวกับถังชิงหรู "ขอบคุณพี่สาวเ้าค่ะ"
ถังชิงหรูหันไปพยักหน้าให้ ก่อนเดินกลับมาข้างกายเฟิ่งหยาง พลางกระซิบถาม "มองอะไรออกบ้างหรือไม่"
"คนทั้งหมดสามสิบห้าคน เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนสิบคน ครานี้หากเกิดเื่แบบนั้นซ้ำอีก ระวังข้าจะขายเ้าออกไป" เฟิ่งหยางเอ่ยวาจาข่มขู่อย่างเืเย็น
ถังชิงหรูบ่นพึมพำ "เป็ศัตรูของตนเองบุกมาหาเื่ถึงในบ้านแท้ๆ จะมาโทษข้าได้อย่างไร ไม่มีมนุษยธรรมเอาเสียเลย"
เฟิ่งหยางปรายตามองอย่างวางอำนาจ
ถังชิงหรูเป็คนฉลาดรู้จักกาลเทศะ อย่างไรเสียตอนนี้ตนเองก็เป็เพียงเชลยไร้อำนาจ ย่อมไม่งัดข้อกับบุรุษน่ารังเกียจผู้นี้
คิดถึงคุณชายคนก่อนเสียจริง น่าหลันหลินปฏิบัติต่อสาวใช้เช่นนางดียิ่งกว่าคุณหนูเสียอีก เขาให้ความเคารพ ไม่เคยตะคอกใส่หรือใช้น้ำเสียงค่อนแคะมาก่อนเลย
ทั้งที่มีชาติกำเนิดสูงส่งเหมือนกัน ไฉนถึงมีพฤติกรรมต่างกันมากขนาดนี้
"พอแล้วล่ะ" ถังชิงหรูหันไปพูดกับหญิงสาวทุกคน "เก็บงานของพวกเ้าก่อน แล้วตามข้าไปทำงาน ต่อไปพวกเ้าล้วนอยู่ในความดูแลของข้า ข้าชื่อถังชิงหรู พวกเ้าเรียกแม่นางถังก็แล้วกัน"
"เ้าค่ะ แม่นางถัง" หญิงสาวเ่าั้ตอบพร้อมกันเป็เสียงเดียว
ถังชิงหรูได้ยินน้ำเสียงอ่อนหวานเ่าั้แล้ว พลันรู้สึกสดชื่นเป็พิเศษ
ไฉนนางถึงไม่เป็บุรุษนะ ในสมัยโบราณวังหลังมีสาวงามได้สามพันนางใช่หรือไม่ น่าเสียดาย ที่นี่ไม่ใช่แคว้นที่สตรีเป็ใหญ่ มิเช่นนั้นวังหลังก็... เฮ่อ ช่างเหอะ บุรุษคนเดียวก็ปรนนิบัติยากแล้ว นางอย่าฝันกลางวันดีกว่า หากต้องเจอแบบเฟิ่งหยางทุกวัน นางยอมไม่แต่งงานไปชั่วชีวิต
ถังชิงหรูจูงมือหลินหลันเซิงส่งให้พ่อบ้านที่อยู่ด้านข้าง "เ้าตามพ่อบ้านไปอาบน้ำอาบท่าก่อน หลังจากนั้นพ่อบ้านค่อยพาเ้ามาหาข้าตกลงไหม"
หลินหลันเซิงได้ยินว่าถังชิงหรูจะปลีกตัวไป ก็รู้สึกไม่ยินยอมอย่างยิ่ง ทว่าเขาเป็เด็กรู้ความ ประกอบกับได้ยินว่าจะได้กลับไปหาถังชิงหรูทีหลังถึงยอมผงกศีรษะ
ถังชิงหรูเห็นหลินหลันเซิงเดินไปก้าวหนึ่ง หยุดหันกลับมามองสามหน ก็ถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า "ช่างเป็เด็กที่ชวนให้คนนึกเวทนาเสียจริงๆ "