ปพนต์ขยับร่างพร้อมส่งเสียงครางต่ำๆ และกระซิบที่ข้างหู ดึงเธอกลับสู่ปัจจุบัน “รตี… ที่รัก… เธอทำให้พี่คลั่งได้เสมอ…”
เธอกระชับร่างของเขาแน่นขึ้น แต่ในใจกลับมีคำถามล่องลอยอยู่ตลอดเวลา “ฉัน้าอะไรกันแน่…?”
ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง อย่างที่เธอกำลังมีตอนนี้...หญิงสองกับเธอหนึ่ง อย่างที่เคยพุ่งพล่านในรีสอร์ต หรือจะเป็แบบ...ห้าชายหนึ่งหญิง? ที่ครั้งหนึ่งทำให้เธอะเิอารมณ์จนแทบลืมหายใจ
เธอรักปพนต์ แต่เธอก็ไม่อาจลืมััจากจารวีที่ลูบไล้แผ่นหลังเธออย่างอ่อนโยน หรือเสียงหอบเบาๆ ของกชพรขณะพรมจูบบนหน้าขาเธอ...เธอรักการถูก...แต่เธอก็รักการเป็ผู้ควบคุม...เธอรักพลังของเพศชาย...แต่เธอก็รักความอ่อนหวานของเพศหญิง
ร่างกายของเธอเป็สนามของความรู้สึกที่หลากหลายเกินกว่าจะจินตนาการได้จริงๆ
ปพนต์เปลี่ยนท่าทางเล็กน้อย พลิกตัวขึ้นไปอยู่บนร่างของมารตี ส่งจังหวะที่ลึกกว่า หนักแน่นกว่าเข้าสู่ร่างกายเธอ อย่างต่อเนื่อง มารตีร้องครางอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่แอ่นกายขึ้นสูง ขณะมือเธอกำผ้าปูเตียงแน่น แต่น้ำเสียงในใจเธอก็ยังไม่เงียบไป
“หรือว่า ฉัน...อาจไม่ได้้าแค่เพียงอย่างเดียวเลยก็ได้?”
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังหนักๆ คลอไปกับเสียงหอบหายใจถี่ๆ มารตีแอ่นกายรับแรงกระแทกนั้น ใบหน้าของเธอชื้นเหงื่อ ผมยาวสลวยปรกหน้าผากที่ย่นเล็กน้อยด้วยความเข้มข้นของอารมณ์ร้อน
“รตี… เธอนี่มัน…” ปพนต์พูดไม่จบ มือเขาเลื่อนขึ้นมากอบกุมสะโพกเธอแน่น
“อย่าเพิ่งพูด...” เธอกระซิบเสียงสั่น ริมฝีปากบิดเบี้ยว “แค่เข้ามาในตัวรตีให้มากที่สุด…ตอนนี้...ใช่...แบบนั้น...”
จังหวะการเคลื่อนไหวของปพนต์หนักแน่น สลับกับช้าวนไป มารตีใช้ร่างของตัวเองรองรับและควบคุมทุกอย่างด้วยความมั่นใจ ทว่าในดวงตา…กลับเต็มไปด้วยคลื่นสับสนที่ค่อยๆ ก่อตัวอย่างเงียบเชียบ
กลางสระน้ำแร่ที่เรืองแสงจากเทียนรอบขอบหิน มารตียืนพิงขอบสระในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ขณะที่ ชายหนุ่มร่างใหญ่สองคน หนึ่งคือพยนต์ อีกหนึ่งคือภาวิช กำลังกอดรัดเธอจากสองข้าง ริมฝีปากของภาวิชจูบไล่ตามซอกคอเธอ ขณะที่พยนต์ไล้ลิ้นที่ไหล่ของเธออย่างช้าๆ
แต่เหนือกว่านั้น…คือ นิชา หญิงสาวแววตาคลั่งไคล้ผู้กำลังคลอเคลียเนินเนื้อนูนใต้หว่างขาของเธอราวกับบูชามนตรา
“คุณเป็เทพีในสายตาพวกเรา…” เสียงของพยนต์ดังแ่เบาข้างหู
มารตีหลับตาลง ยอมปล่อยร่างอวบให้ถูกโอบล้อมในอ้อมแขนมากมาย ทุกมือล้วนร้อนแรง ทุกััล้วนดึงเธอลงสู่ห้วงแห่งแรงปรารถนาอันร้อนเร่า
ในค่ำคืนนั้น เธอเป็ศูนย์กลางของความปรารถนา ไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็ดวงดาวที่ทุกดวงโคจรรอบ
ปัจจุบัน...
เสียงครางต่ำของปพนต์ลอยเข้าหูอีกครั้ง เขาก้มหน้าลงมา มือเขาเลื่อนจากสะโพกมาจับมือเธอแล้วแนบเข้าที่หน้าอกของเขา “รตีรู้ไหม…พี่ไม่มีวันเบื่อรตีเลย”
มารตีหยุดขยับร่าง แต่แวบหนึ่ง หัวใจเธอกลับเต้นแรงขึ้น
“พี่ปพนต์…”
เขามองตาเธอ ซื่อสัตย์ จริงจัง และเปี่ยมด้วยความรัก หญิงสาวดึงตัวสามีลงมากอดแแ่ แต่ในหัว...ยังไม่อาจลืมภาพมือหลายคู่ที่ประคองเธอบนเก้าอี้ไม้ไผ่ริมลำธาร ริมฝีปากที่อ่อนโยนของกชพร รอยขีดข่วนของภาวิชบนแผ่นหลังเธอ และเสียงกระซิบว่า “อย่าเพิ่งหยุดนะ...คุณร้อนเหลือเกิน…”
มารตีหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะพลิกร่างกลับขึ้นไปเป็ฝ่ายควบคุม หญิงสาวขยับร่างกายให้เขาเข้ามาลึกขึ้น และเคลื่อนไหวให้รุนแรงกว่าเดิม “คืนนี้…รตียังไม่อยากหยุด...” เธอก้มลงกระซิบเสียงกระเส่าข้างหูสามี
ปพนต์จับเอวเธอแน่น “งั้นพี่ก็จะไม่ให้หยุด…จนกว่ารตีจะหมดแรงจริงๆ”
ร่างของพวกเขาหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวในค่ำคืนที่ทั้งร้อนแรง และปั่นป่วนทางอารมณ์ แต่ภายในใจของมารตี คำถามนั้นยังไม่จางหาย...“ฉัน้าใคร…และฉัน้าแบบไหนกันแน่?”
เสียงเตียงไม้สลักครางเอี๊ยดๆ อ้าดๆ ตามแรงโยกของสองร่างใต้แสงโคมไฟข้างหัวเตียง มารตีกลับมาอยู่ใต้ร่างปพนต์ในขณะนี้...แต่ยังคงเป็ฝ่ายควบคุมสถานการณ์ เธอประคองต้นคอเขาไว้ ดึงเข้ามารับจูบของเธออย่างแแ่ ลมหายใจของพวกเขาร้อนจัด เนื้อตัวแนบชิดจนแยกไม่ออกว่าอะไรเป็ของใคร
แต่ในขณะที่ร่างกายของเธอส่งเสียงตอบรับชัดเจน...ในใจของเธอกลับเหมือนมีบางอย่างสะดุด ‘ทำไมถึงยังไม่เต็ม… ทำไมถึงยังเหมือนขาดอะไรไป’
ภายในห้องพักที่ปูพื้นด้วยเสื่อญี่ปุ่น กลิ่นไม้ซีดาร์หอมกรุ่น มารตีนอนอยู่บนฟูกนุ่มท่ามกลางผู้ชายสามคน ปพนต์ พยนต์และ สมาท แต่เธอกลับแนบชิดที่สุดกับผู้หญิงเพียงหนึ่ง...
“นุชจรา”
มือของนุชจราไล้จากต้นคอของเธอ จนถึงเนินอก และลมหายใจร้อนผ่าวของหญิงสาวรินรดข้างแก้มเธอ “มารตี… เธอคือสิ่งที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็น…” นุชจราพูดเบาๆ และจูบที่เปลือกตาเธอ
เสียงหอบจากผู้ชายรอบข้างคือฉากประกอบ แต่นุชจรา...คือผู้ควบคุมจังหวะของเธอ
กลับมาปัจจุบัน...
ปพนต์หอบหายใจแรงขึ้น เขาเริ่มเร่งจังหวะ บดเบียดลึกกว่าเดิม เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังหนักหน่วงขึ้น พร้อมเสียงร้องดัง จากมารตี แต่เธอกลับหลับตาแน่น ใจไม่ได้อยู่ที่นี่เต็มร้อย
‘มันต่าง…’ เธอรู้สึก ‘ตอนนุชจราััฉัน…มันเหมือนฉันละลายทั้งร่าง มันไม่ใช่แค่กายภาพ แต่มันเหมือนโดนกลืนกินจากข้างใน…’
ปพนต์เงยหน้ามองภรรยาคนสวย พลันหยุดขยับ เขาเอื้อมมือปัดผมเธอออกจากหน้า แล้วจ้องมองตาสวยด้วยความจริงจัง “รตี…เธอไม่ได้อยู่ตรงนี้จริงๆ ใช่ไหม”
หญิงสาวสะดุ้งเบาๆ แต่ฝืนยิ้ม “อยู่สิ อยู่กับพี่ตรงนี้แหละ…”
“แต่ใจรตี...มันไปที่อื่นใช่ไหม”
มารตีนิ่งไป ใจเต้นแรง ไม่ใช่เพราะกิจกรรมเร่าร้อนขึ้น แต่เพราะเริ่มกลัวว่าเขาจะรู้ เธอกำลังแตกออกเป็หลายชิ้น หลายเวอร์ชัน หลายอารมณ์
“บางที...รตีอาจจะยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ว่ารตี้าอะไรแบบไหน…”
ปพนต์ไม่พูด เขาเพียงมองหน้าเธอนิ่ง ก่อนจะเคลื่อนตัวลงต่ำ จูบไล่ั้แ่หน้าท้องลงไปเรื่อยๆ ก่อนหยุดนิ่งในจุดที่ต่ำสุด มารตีหลับตาแน่น กลั้นเสียงตัวเองไม่ให้ดังเกินไป
กชพรและจารวีต่างแนบตัวเข้าหาเธอ ร่างกายเปลือยเปล่านอนบนเบาะนอนนุ่มนิ่ม เสียงหอบของผู้หญิงสองคนที่เธอไม่เคยรู้ว่า “ผู้หญิง” ด้วยกันจะสามารถพาเธอไปไกลได้ถึงขนาดนั้น ปลายนิ้วของกชพร…ริมฝีปากของจารวี…ทั้งสองต่างพาเธอล่องลอยไปไกลจนเกินกว่าจะหวนกลับ มารตีรู้สึกได้ถึงการสลายเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย และ…เธอยิ้มออกมาในตอนนั้น แบบที่ไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อน
เสียงครางต่ำของปพนต์ดึงมารตีกลับมาอีกครั้ง มือของเขาเคลื่อนไหวไม่หยุด ปากของเขาละเลียดชิมภรรยาสาวราวกับอยากจดจำทุกอณูบนร่างกายเธอ หญิงสาวเผลอจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ก่อนจะครางออกมาโดยอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ร่างของเธอยังคงตอบสนอง แต่ิญญาของเธอ…เหมือนกำลังเดินอยู่ในเขาวงกต
เสียงหอบของมารตีกระทบกับโหนกแก้มของปพนต์อย่างชิดใกล้ ร่างเปลือยของทั้งสองพัวพันกันในท่าทางที่สลับทิศทางกลับไปกลับมา
มารตีขยับขึ้นคร่อมอีกครั้ง คราวนี้เธอบดเบียดสะโพกอย่างจงใจ แววตาจ้องลงไปในตาปพนต์ แรง เร้าใจ แต่ลึก ในแววตานั้น กลับเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่ปพนต์จับได้
“รตีไม่เหมือนเดิมเลย…” เขาพูดเบาๆ ขณะกระชับมือบนสะโพกเธอแน่น
มารตีไม่ได้ตอบ เธอเพียงโน้มตัวลง ไล้ปลายลิ้นจากลำคอเขาลงไปถึงหน้าอก เสียงหอบของปพนต์แ่สะท้อนอยู่ในห้องที่เริ่มอวลด้วยกลิ่นเหงื่อและความร้อนแรง แต่ในขณะที่สาวสวยใช้ปากและลิ้นไล้ชิมอย่างช่ำชอง ภาพในหัวของเธอกลับไม่ใช่ปพนต์...
เธอกำลังอยู่ระหว่างชายสามคน พยนต์ ภาวิช และพิริยะ ทุกคนต่างจับจ้องเธอด้วยแววตาที่ไม่มีความหึงหวง มีแต่ความตื่นเต้น และความร่วมมือ “ลองแบบนี้ไหมครับรตี” พิริยะถาม ขณะที่พยนต์ไล้ปลายนิ้วจากข้อเท้าเธอขึ้นไปเรื่อยๆ
ภาวิชแค่หัวเราะเบาๆ แล้วก้มลงจูบเธอที่ท้องน้อยก่อนเลื่อนหน้าต่ำลงไป