สายตาของถังชิงหรูมองฉินเหยากับจางฮูหยินสลับกันไปมา ฉินเหยาหวาดผวาจนทำอะไรไม่ถูก แลดูชอบกลจริงๆ
ด้วยสมองของฉินเหยา การเล่นลูกไม้ในงานเลี้ยงของหวังอี๋เหนียงไม่น่าใช่วิสัยที่นางจะทำ แม้ว่าจะเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ก็ไม่มีความกล้าที่จะทำเช่นนี้ ตรงข้ามกับจางฮูหยินซึ่งเป็มือฉมังในการแก่งแย่งชิงดีในเรือนหลัง หากคิดจะจัดการอนุภรรยาคนหนึ่งก็เพียงกระดิกปลายนิ้วเท่านั้น หรือว่านางจงใจใช้เืเนื้อในครรภ์ของตนเองมาป้ายความผิดให้ฉินเหยา?
ไม่ๆ ๆ จางฮูหยินเฝ้ารอคอยบุตรคนนี้มาหลายปี ย่อมเป็ดั่งแก้วตาดวงใจ ต่อให้นางมิ้าสามี แต่ไม่มีทางให้บุตรคนนี้ต้องเสี่ยงอันตราย
ถ้าเช่นนั้น จะมีผู้ใดคิดร้ายต่อจางฮูหยินกับบุตรในครรภ์ได้อีกเล่า หรือว่ามีใครคิดจะใส่ร้ายป้ายสีฉินเหยา ในจวนจางฮูหยินยังมีอนุภรรยาคนอื่นๆ อีกหรือไม่
ถังชิงหรูลูบคางทำท่าครุ่นคิด ขณะเห็นหวังอี๋เหนียงมีสีหน้าหวาดวิตก สมองก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา
หรือว่าเป้าหมายของคนผู้นี้หาใช่จางฮูหยินและฉินเหยา แต่เป็หวังอี๋เหนียง? หากจางฮูหยินมีอันเป็ไปที่นี่ หวังอี๋เหนียงจะต้องถูกเมิ่งหลิงลงโทษอย่างแน่นอน
บุรุษผู้นี้เป็คนแปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป หวังอี๋เหนียงกลายมาเป็สตรีของเมิ่งหลิง มีคนมากมายไม่รู้เท่าไรที่หัวเราะเยาะนางลับหลัง
"เคราะห์ดีที่ปลอดภัย" หวังอี๋เหนียงกล่าวกับจางฮูหยิน "รีบไปพักผ่อนที่ห้องพักรับรองแขกสักครู่เถอะ ตอนนี้ท่านกำลังตั้งครรภ์ ไม่อาจไปไหนมาไหนตามอำเภอใจ รอให้ครรภ์สงบก่อนแล้วค่อยกลับก็ยังมิสายเกินไป"
"ขอบคุณฮูหยินมาก" จางฮูหยินกล่าวกับหวังอี๋เหนียง "เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน"
หลังจากจางฮูหยินไปพักผ่อนที่ห้องพักรับรองแขกภายใต้การจัดเตรียมของหวังอี๋เหนียง เสียงพูดคุยกระเซ้าเย้าแหย่เมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็ความกระอักกระอ่วน ระหว่างนั้นไม่มีใครกล้าพูดคุยแม้แต่คนเดียว
ฉินเหยาเป็อนุของสกุลจาง ย่อมต้องตามไปปรนนิบัติจางฮูหยิน พอนางไปแล้ว ถังชิงหรูค่อยรู้สึกผ่อนคลายกลับมาเป็ตัวของตัวเองอีกครั้ง หญิงผู้นั้นชอบจดจ้องจนทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกผีร้ายจับตามองอยู่ แม้ว่าตนเองจะไม่กลัวผี แต่ก็ไม่อยากถูกผีตามรังควาน ความรู้สึกเยี่ยงนั้นช่างน่าอึดอัดเสียจริง
"ฮูหยิน นายท่านมอบเนื้อกวางมาให้เ้าค่ะ" บ่าวรับใช้หิ้วตะกร้ามาใบหนึ่งในนั้นมีเนื้อกวางสดใหม่ซึ่งยังมีเืสดๆ ติดอยู่้า เห็นชัดว่าเพิ่งตายไม่นาน
ทุกคนต่างขนลุกขนพองพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ดวงตาแต่ละคู่ต่างเบือนหลบ สีหน้าเผยความหวาดกลัวเป็อย่างยิ่ง เดิมทีมีคนที่ยังดูิ่เหยียดหยันนาง แต่ตอนนี้กลับไม่กล้าอีกต่อไป มีคุณหนูหนึ่งในนั้นทนกลิ่นคาวเืไม่ไหว ทรุดลงไปอาเจียนโอ้กอ้ากอยู่ด้านข้าง ชั่วขณะนั้นภายในห้องจึงมีแต่กลิ่นเหม็นคละคลุ้ง
"ดอกไม้ในจวนกำลังเบ่งบานงดงามน่าชม หากฮูหยินทุกท่านไม่รังเกียจ ก็ออกไปนั่งในสวนดอกไม้กันได้" หวังอี๋เหนียงมุ่นคิ้วขมวด ก่อนเสนอความคิดอย่างเหมาะสม
คนอื่นๆ ต่างนึกรังเกียจคุณหนูที่อาเจียนออกมาผู้นั้น พอได้ยินคำกล่าวของหวังอี๋เหนียง ก็มีฮูหยินหนึ่งในนั้นเอ่ยว่า "หากคุณหนูเฉินรู้สึกไม่สบาย ก็พักผ่อนที่นี่เถิด"
คุณหนูเฉินผู้นั้นปรกติก็ถูกเลี้ยงอยู่แต่ในบ้าน ปรกติก็คบค้าสมาคมแต่กับลูกผู้ดีมีสกุล พอเห็นเนื้อกวางสดที่ยังมีคาวเืติดอยู่เช่นนั้น ย่อมรู้สึกคลื่นเหียนอย่างเลี่ยงมิได้
ในที่แห่งนั้นไม่มีสตรีคนไหนที่ไม่รู้สึกหวาดกลัว แน่นอนว่าเว้นแต่คุณหนูถังผู้ซึ่งแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป
หัวกวางตัวนั้นยังแขวนอยู่้า ดวงตาของมันเบิกโพลงราวกับตายตาไม่หลับ ยามบ่าวรับใช้เปิดตะกร้าออก ทุกคนต่างใจนขวัญหนีดีฝ่อ เหล่าฮูหยินซึ่งผ่านลมฝนมามากกว่าคุณหนูผู้เปราะบางเ่าั้พอเห็นท่าไม่ดีก็รีบหลับตาไปเสีย พยายามไม่นึกถึง พลางท่องบทสวดมนต์ควบคุมอารมณ์จนสงบลง ต่างจากคุณหนูที่ไร้ประสบการณ์เ่าั้
ในที่สุดทุกคนก็ยกขบวนกันไปสวนดอกไม้ ที่นั่นบุปผากำลังเบ่งบาน พวกนางยืนอยู่ด้านข้างมองผีเสื้อโบยบิน สีหน้าของแต่ละคนเริ่มผ่อนคลาย เมื่อเทียบกับบรรยากาศอันน่าอึดอัดภายในห้อง ความรู้สึกยามนี้สบายกว่ามาก
"แม่นางถัง มีแม่นางคนหนึ่งให้นำของสิ่งนี้มามอบให้ท่านเ้าค่ะ" บ่าวรับใช้คนหนึ่งส่งของให้ถังชิงหรู
นางรับมาอย่างงุนงง พอเปิดผ้าเช็ดหน้าออก ก็เห็นปิ่นหยกชิ้นหนึ่งวางอยู่ในนั้น ปิ่นหยกนี้แลดูคุ้นตา ดูเหมือนว่าจะเป็... ของเฉินิ
"ใครให้เ้ามา" ถังชิงหรูมองบ่าวคนนั้นด้วยแววตาคมกล้าจนอีกฝ่ายขวัญหนีดีฝ่อ ชี้ไปที่สวนด้านหลังพลางเอ่ยว่า
"แม่นางผู้นั้นบอกว่าจะรอท่านอยู่ที่นั่น นางหาใช่คนในจวนเรา ข้าไม่รู้ว่านางเป็ใคร นางให้เงินมาหนึ่งร้อยตำลึง แล้วให้ข้ามาส่งของ ข้าคิดว่าอย่างไรเสียก็ต้องวิ่งมาแถวนี้อยู่แล้วจึงแวะนำของมาให้ท่าน มิทราบว่ามีปัญหาอันใดหรือ"
ถังชิงหรูหยิบปิ่นมาถือเล่นในมือ จนแน่ใจแล้วว่านี่คือของของเฉินิจริงๆ แต่ของของเขาจะมาปรากฏที่นี่ได้อย่างไร จวนแห่งนี้เคยเป็ที่อยู่ของเฉินิมาก่อน แม้ว่าเมิ่งหลิงจะยึดจวนของเขามา แต่เป็ไปไม่ได้ที่จะสังหารคนทั้งหมด เขาจำเป็ต้องมีบ่าวรับใช้ บางทีในจวนนี้อาจยังมีของแทนตัวของเฉินิหลงเหลืออยู่ ปิ่นหยกชิ้นนี้เฉินิเป็คนให้เขาเอามามอบให้นางหรือ เขา้าบอกอะไร หรือว่าจะเป็... ที่อยู่ของเขา?
ถังชิงหรูเก็บปิ่นหยกใส่กระเป๋าเป้ในระบบ แล้วกล่าวกับบ่าวผู้นั้น "อีกเดี๋ยวข้าค่อยไป เ้าไปทำธุระของตนเองเถอะ"
บ่าวผู้นั้นทำความเคารพ ก่อนไปจากที่นั่น
ถังชิงหรูมองทิศทางที่บ่าวผู้นั้นชี้บอก นางยังลังเลว่าจะไปดูดีหรือไม่ หากเป็คนที่เฉินิส่งมาจริง หากนางหลบลี้หนีหน้าก็คงไม่ดี ไม่แน่ว่าเขาอาจตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก กำลัง้าความช่วยเหลือจากนางอยู่ก็เป็ได้
ถังชิงหรูรู้สึกจนใจยิ่ง ตอนนี้นางเองยังเอาตัวไม่รอด ไยต้องทุกข์ร้อนใจเพราะเื่ของเฉินิ แรกเริ่มที่พบบุรุษผู้นั้นเรียกได้ว่าหากไม่ทะเลาะคงไม่รู้จักกัน ถึงบัดนี้ก็เห็นเป็สหายด้วยน้ำใสใจจริง แน่นอนว่าคนที่เห็นเขาเป็สหายคือนาง แต่เขากลับ้านางไว้ ความคิดจึงไม่เคยไปในแนวทางเดียวกัน
ช่างเหอะ! ไปดูสักหน่อยก็แล้วกัน
ถังชิงหรูคิดแล้วก็เดินไปหาหวังอี๋เหนียงซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก "ฮูหยิน ข้าต้องขอตัวก่อนสักครู่"
"มีอะไรรึเปล่า" หวังอี๋เหนียงถามด้วยความห่วงใย
ในสายตาของหวังอี๋เหนียง แขกทุกคนก็ไม่อาจเทียบได้กับผู้ที่อยู่ตรงหน้า นางไม่เพียงแต่เป็ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตตนเองไว้ แต่ยังเป็คนที่ใต้เท้าผู้นั้นฝากฝังให้ช่วยดูแล
หวังอี๋เหนียงรู้สึกงุนงงอยู่บ้าง เหตุใดใต้เท้าเมิ่งที่ภายนอกร่ำลือกันว่าโเี้นักหนาถึงได้เอาใจใส่สาวใช้คนนี้เป็พิเศษ นางยอมรับว่าสตรีผู้นี้แตกต่างจากสาวใช้ทั่วไป ไม่เพียงแต่สามารถช่วยเ้านายดูแลร้านค้า ยังกล้าเข้าหาใต้เท้าผู้เืเย็นไร้หัวใจเพื่อช่วยชีวิตนางโดยไม่นึกหวั่นเกรง นับได้ว่าเป็สตรีขวัญกล้าที่สุดเท่าที่ตนเองเคยพบเจอมา
หวังอี๋เหนียงหาคำตอบไม่ได้ในที่สุดก็เลิกคิด ตอนนี้คิดแค่ดูแลถังชิงหรูอย่างดีก็พอ หากอีกฝ่ายเกิดมีสิ่งใดขุ่นเคืองใจ เกรงว่าตนเองจะถูกใต้เท้าเอาผิดได้
ถังชิงหรูไม่รู้ความวิตกกังวลในใจของหวังอี๋เหนียง ยิ่งไม่ทราบว่าตนเองอยู่ในความสนใจของเมิ่งหลิง คนที่นางไม่อยากข้องเกี่ยวเป็ที่สุด
เมิ่งหลิงเป็คนร้ายกาจ แม้แต่นางก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะรับมือได้ เมื่อมาเปรียบเทียบกันแล้ว เฟิ่งหยางแลดูเป็เทพแห่งสุริยันไปในทันที
"ข้า... อยากจะเข้าสุขาน่ะ" ถังชิงหรูกระซิบข้างหูหวังอี๋เหนียง
หวังอี๋เหนียงได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะยั่วเย้า "เ้านี่... จริงๆ เลย รีบไปเถอะ"
ถังชิงหรูอำลาหวังอี๋เหนียง ก่อนเดินไปตามทางที่บ่าวรับใช้ผู้นั้นบอกไว้ ไม่ช้าก็มาถึงที่หมาย
ก่อนที่จะผ่านประตู จู่ๆ นางก็หยุดเดิน แหงนหน้าขึ้นมองป้าย้า พลางเอ่ยอย่างฉงน "เอ๋? ไม่ใช่ที่นี่หรอกหรือ สงสัยจะเดินมาผิดทาง"
กล่าวจบก็หมุนตัวเดินไปทางอื่น
คนที่แอบซ่อนอยู่ในที่ลับเห็นเงาร่างของนางไกลออกไปเรื่อยๆ ก็กระทืบเท้า ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ชั่วขณะนั้น มีคนผู้หนึ่งโผล่มาจากด้านหลัง
"เกิดอะไรขึ้น สตรีผู้นั้นยังไม่มาอีกหรือ" ชายผู้นั้นเอ่ยอย่างหัวเสีย "ให้เ้าทำเื่เล็กน้อยแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จ ไหนตกลงกันว่าจะล่อนางมาอย่างไรเล่า"
"สถานการณ์เมื่อครู่เ้าก็เห็นแล้ว นางเกือบจะเข้ามาอยู่รอมร่อ แต่สุดท้ายก็ไป เ้าว่านางจะพบอะไรเข้าหรือเปล่า" ผู้ที่สนทนาตอบเป็สตรี ส่วนคนที่เดินออกมาผู้นั้นเป็บุรุษ
"จะเป็ไปได้อย่างไร ปิ่นหยกชิ้นนั้นเป็ของชิ่งอ๋อง พวกเราได้ของที่ชิ่งอ๋องทิ้งไว้โดยบังเอิญ สตรีผู้นั้นก็ไม่รู้ที่อยู่ของชิ่งอ๋อง นางต้องคิดว่าชิ่งอ๋องตกอยู่ในมือเรา พวกเราก็สามารถฉวยโอกาสนี้จัดการกับนางเสีย ทางที่ดีต้องเอาให้อยู่ไม่สู้ตาย ต่อไปจะได้ไม่กล้ามาเป็ศัตรูกับเราอีก" บุรุษผู้นั้นเอ่ยวาจา
"อ้อ... ที่แท้พวกเ้าก็ชอบเล่นอะไรรุนแรงแบบนี้นี่เอง" ถังชิงหรูซึ่งเดินไปเมื่อครู่กลับเข้ามาอีกครั้ง
นางยืนอยู่ที่ประตู มองสองพี่น้องด้วยสายตาเ็า
ส่วนสองพี่น้องที่ว่าก็หาใช่ใครอื่น เป็ฉินเหยากับฉินหวาพี่ชายของนาง
"จะ... เ้ากลับมาได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าไปแล้วรึ" ฉินเหยาทำท่าราวกับเห็นผี
"เมื่อครู่ได้ยินว่าพวกเ้าสองพี่น้องนึกเสียดายที่ข้าไป ข้าก็เลยจำต้องย้อนกลับมา เ้าดูสิว่าข้าดีต่อพวกเ้าขนาดไหน จริงหรือไม่" ถังชิงหรูแสยะยิ้มอย่างเหยียดหยัน "ข้าผู้นี้เป็คนใจอ่อน พวกเ้าอยากจะรำลึกความหลังกับข้า หากข้าแล้งน้ำใจเกินไป พวกเ้าคงจะเสียใจแย่"
"เ้าอย่าเข้ามานะ" ฉินเหยาเห็นถังชิงหรู ก็เดินถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ
ฉินหวาดวงตาเป็ประกาย จับมือฉินเหยาพลางกล่าวว่า "เ้ากลัวนางทำไม ที่นี่เป็จวนของใต้เท้าเมิ่ง นางกล้าทำให้เป็เื่ใหญ่โตรึ"
"ทำไมข้าจะไม่กล้า ในมือของพวกเ้ามีของของชิ่งอ๋อง หากข้าบอกใต้เท้าเมิ่งว่าพวกเ้าเป็พรรคพวกของชิ่งอ๋อง เ้าว่าเขาจะจัดการกับพวกเ้าอย่างไร" ถังชิงหรูหยิบปิ่นหยกออกมา ย่างเท้าเข้าหาฉินเหยาทีละก้าว ทีละก้าว นางกระชากอาภรณ์ของฉินเหยาอย่างแรงเผยให้เห็นเนินเนื้องามสะคราญประหนึ่งหยก
ฉินหวามองจนตาค้าง แม้ว่านั่นคือน้องสาวของตนเอง แต่คนเสเพลที่ไม่มีหญิงใดยินดีแต่งงานด้วยเช่นเขา ปรกติแค่เห็นว่าเป็สตรี จะอายุมากน้อยล้วนไม่สน เป็ต้องมองอย่างอดใจไม่ได้ ฉินเหยาสะสวยกว่าหญิงม่ายเ่าั้มาก ผิวพรรณทั้งขาวทั้งเนียนละเอียด ต่อให้เป็พี่ชายแท้ๆ ก็ยังต้องน้ำลายสอ
ฉินเหยากัดฟันถลึงตาใส่ฉินหวา "เ้ามัวแต่ยืนบื้ออะไรอยู่ ยังไม่รีบจัดการนางอีกรึ"
ฉินหวาตกตะลึง หันไปมองถังชิงหรูด้วยสายตาพรั่นพรึง "จัดการนาง? ข้าไม่ได้เบาปัญญาขนาดนั้น สตรีผู้นี้ใช่คนที่พวกเราจะจัดการได้เสียที่ไหน"
ฉินเหยานึกเสียใจภายหลังเป็ยิ่งนัก ที่ตามพี่ชายไร้ประโยชน์ผู้นี้ออกมาแก้แค้นถังชิงหรู
เดิมทีเื่นี้เขาต่างหากที่เป็ตัวตั้งตัวตี ไม่นึกว่าพอถึงเวลาสำคัญ กลับหักหลังนางเสียอย่างนั้น มีพี่ชายเยี่ยงนี้... ช่างน่าอดสูใจโดยแท้