ก่อนหน้านี้หลงเหยียนเกือบถูกลั่วซางตัดออกจากการคัดเลือก ฉะนั้นทุกคนจึงมีภาพความทรงจำกับหลงเหยียนไม่ดีเท่าไรนัก ทว่าเมื่อเขาออกมาแล้ว สีหน้าดูกระฉับกระเฉงมากกว่าคนที่ออกมาก่อนหน้านี้เสียอีก ยังสามารถะโม้วนตัวกลางอากาศ อีกทั้งยังใช้พลังปราณขจัดโลหิตออกจากชุดบนตัว
การกระทำทั้งหมดของเขานั้น ดึงดูดสายตาของทุกคนไปทั้งหมด
หลงเหยียนนับถือตัวเองจริงๆ เพราะเขาควบคุมเวลาได้ดีมาก!
ทว่าไม่นานหลงเหยียนก็พบแสงที่ร้อนแรงสองระลอกจากแววตาที่ตกตะลึง
ลั่วเฉิงกำหมัดแน่น ส่วนโอวหยางโพ่จินนั้นเหมือนเขาเห็นเงินสองพันตำลึงอย่างไรอย่างนั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาตกตะลึงมากที่สุดคือการที่หลงเหยียนกลับเดินออกมาด้วยท่าทางราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยผ่านประสบการณ์เสี่ยงชีวิตมาก่อนเลย
ลั่วเฉิงประกายความเืเย็นออกมาทางแววตา “ฮึ พวกบ้านนอกจากป่าจากเขา มาแสร้งทำเหมือนตัวเองเก่ง ต่อให้เ้ารอดออกมาได้ ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเ้าจะได้หัวใจหุ่นเชิดออกมาเท่าใด ต่อให้เ้าหมดสิทธิ์เข้าทดสอบด่านที่สอง ข้าก็จะเล่นงานเ้าอยู่ดี”
เมื่อหลงเหยียนออกมา เห็นแววตาของทุกคน โดยเฉพาะแววตาของลั่วเฉิงและโอวหยางโพ่จิน มีหรือที่หลงเหยียนจะไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่!
‘เชื่อว่าเมื่อพวกเ้าเห็นการปรากฏตัวของข้า คงทำให้พวกเ้าคันไม้คันมือมากแล้วกระมัง ข้าเชื่อว่าจำนวนหัวใจศพที่ข้าได้มา ต้องเปิดหูเปิดตาพวกเ้าแน่! อีกอย่าง หากการกระทำของข้าสามารถดึงดูดความสนใจจากเบื้องบนได้ คงเป็เื่ที่ดีที่สุดแล้ว’
เพราะหลงเหยียนพอเดาได้แล้วว่าด่านต่อไปต้องเป็การต่อสู้แน่ ในเมื่อผู้ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกมีทั้งหมดสิบคน และนั่นก็เป็การเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันรอบที่สอง ภายใต้การจับจ้องของคนมากมาย หากสังหารลั่วเฉิงหรือเ้าโอวหยางโพ่จินที่สมควรตาย คนอื่นก็คงพูดอะไรไม่ได้
โดยเฉพาะลั่วซาง…
สายตาหลงเหยียนหยุดลงบนตัวลั่วเฉิง ความแค้นระหว่างทั้งสองนั้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อเห็นสายตาอยากสังหารของลั่วเฉิง หลงเหยียนก็ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เขาชูนิ้วกลางขึ้น การกระทำนี้ทำให้ลั่วเฉิงแทบควบคุมความโมโหไม่อยู่
“ไอ้หนุ่ม เ้ารนหาที่ตายอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด รอก่อนเถอะ ข้าหวังว่าเ้าจะเข้ารอบหนึ่งในสิบนะ อย่าทำให้ข้าผิดหวังละ! เดี๋ยวถึงเวลาจัดการเ้า เ้าก็จะรู้เองว่ามันน่ากลัวเพียงใด”
หลงเหยียนยืนอยู่กับทุกคน เวลานี้ โอวหยางโพ่จินพุ่งเข้ามาด้านหน้าเขา ดูจากภายนอกแล้ว เขายังดีกับหลงเหยียนมากกว่าลั่วเฉิง มือขนาดใหญ่ที่เปื้อนโลหิตจับไหล่หลงเหยียน
“ไอ้หนุ่ม นึกไม่ถึงเลยว่าเ้าจะออกมาในเวลาสุดท้าย ฮ่าๆๆๆ ตอนแรกข้าคิดว่าเ้าตายข้างในแล้วเสียอีก ข้ายังห่วงสองพันตำลึงนั่นอยู่เลย ตอนนี้ก็ดีแล้ว เ้ารอดมาได้ เ้าได้หัวใจศพมารมาเท่าไร ข้าแบ่งให้เ้าสักหนึ่งหรือสองดวงดีไหม?”
ในความคิดของเขา ไม่มีทางที่หลงเหยียนจะได้หัวใจศพมารมากขนาดนั้น ใบหน้าที่แสนทุเรศของเขาทำให้หลงเหยียนเห็นแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน
มองหน้าเขา จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอีก กลับหัวเราะในใจดังๆ …
ลั่วซางเห็นหลงเหยียนและโอวหยางโพ่จินพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม ความเกลียดในใจก็ทวีคูณ ตอนแรกอยากประกาศว่าหลงเหยียนมาสาย เมื่อนึกดูใหม่ เขาก็เปลี่ยนความคิด
“ไอ้หนุ่ม รอไปก่อนเถอะ มีเื่กับตระกูลลั่วของเรา ข้าจะทำให้เ้าตายทั้งเป็”
จากนั้นลั่วซางก็โดนซือถูหม่าชี้แนะเสียงดัง “คนที่ควรออกมาตอนนี้ก็ออกมาครบแล้ว คนที่ตายไปก็คงต้องโทษที่ตนโชคร้าย ตอนนี้พวกเ้ามอบถุงผ้าเฉียนคุนมาเถิด บนถุงผ้าเฉียนคุนมีชื่อของพวกเ้า ไม่ต้องกลัวจะสลับกันหรอก”
เมื่อพูดจบ ลั่วซางก็เริ่มอ่านรายชื่อและประวัติที่ลงบันทึกตอนเข้ารายงานตัว
เขาเริ่มตรวจสอบรายชื่อ ในบรรดาห้าสิบคน มีสามสิบเจ็ดคนเท่านั้นที่ขานรับ ดูเหมือนครั้งนี้พวกเขาจะเสียคนไปสิบสามคน ชีวิตจบลงในถ้ำ ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกเสียดายแทนคนที่จากไป
สามสิบเจ็ดคนที่เหลือ ตัดแปดคนที่ยอมแพ้ออก จำนวนคนที่เหลือก็คือยี่สิบเก้าคน ลั่วซางเริ่มประกาศจำนวนหัวใจศพมารที่ทุกคนได้มา
“อวีเหวินเถา จากหมู่บ้านอู่ปู้ อายุยี่สิบสี่ปี ได้หัวใจสามสิบดวง”
“เจิ้งหลง จากหมู่บ้านหลางจื่อ อายุยี่สิบเก้าปี ได้หัวใจเจ็ดดวง”
...
รายชื่อผู้รอดชีวิตถูกประกาศไปครึ่งหนึ่งแล้ว ลั่วซางขมวดคิ้วมุ่น ความสามารถของคนในปีนี้ ไม่อาจเทียบกับปีที่แล้วเลยด้วยซ้ำ จำนวนหัวใจที่พวกเขาได้มาน้อยมากเกินไปแล้ว
แต่ไม่นานลั่วซางก็หยิบถุงผ้าเฉียนคุนใบหนึ่งขึ้นมา ล้วงครู่หนึ่ง ก่อนจะบันทึกและประกาศ “โอวหยางโพ่จิน อายุยี่สิบเก้าปี ไม่มีที่อยู่ ได้หัวใจศพมารทั้งหมดห้าสิบดวง”
ลั่วซางพยักหน้า “แบบนี้ค่อยยังชั่ว อย่างไรก็ตาม ด้วยจำนวนหัวใจห้าสิบดวง คะแนนนี้คงไม่เป็ปัญหาในการเข้ารอบด่านต่อไป”
คนที่อยู่ด้านล่างต่างก็ตกตะลึงและชื่นชมโอวหยางโพ่จินมาก คะแนนที่เขาทำได้นั้นสูงจนทุกคนไม่อยากเชื่อ
“นั่น นั่นเป็ถึงหัวใจศพมารห้าสิบดวงเชียวนะ เขาต้องพยายามมากเท่าใดถึงได้หัวใจมาห้าสิบดวง ดูท่าพละกำลัง ปฏิกิริยา และความสามารถของโอวหยางโพ่จินต้องแกร่งมากแน่”
“ยินดีด้วย สหายโอวหยางโพ่จิน นึกไม่ถึงว่าเ้าจะได้มามากเพียงนี้”
คนรอบๆ ต่างกล่าวคำยินดีกับเขาไม่น้อย ส่วนโอวหยางโพ่จินจอมอวดดียิ่งรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม คนที่ยังไม่ได้ประกาศรายชื่อเหลือเพียงสี่คนเท่านั้น เขาลองคำนวณดูแล้ว ตอนนี้ตนอยู่ในอันดับที่เจ็ด ปีนี้เขามีความหวังติดหนึ่งในสิบคนแน่ ต้องไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายอย่างแน่นอน
จากนั้นเขาก็มองหลงเหยียนด้วยความจองหอง สีหน้าดูตื่นเต้นนัก “เสี่ยวหลงเหยียน หากข้าติดหนึ่งในสิบ เช่นนั้นข้าจะไม่เอาเื่เ้าเื่สองพันตำลึงนั่น ฮ่าๆ แม้ข้าได้หัวใจห้าสิบดวง ก็แค่เข้ารอบด่านที่สองเท่านั้น เ้าไม่ต้องเสียใจไปหรอก ฮ่าๆๆๆ”
เขาเก็บความปลาบปลื้มของตนไว้ไม่อยู่ ขณะที่มองหลงเหยียนก็หัวเราะเสียงดัง
“ฮึ! นี่เ้าดูถูกข้าขนาดนี้เชียวหรือ?” หลงเหยียนไม่อยากสนใจเขา
ไม่นานก็เหลือถุงผ้าเฉียนคุนเพียงสองใบเท่านั้น ที่เหลือลั่วซางประกาศผลไปแล้ว คนหนึ่งมีหัวใจศพมารทั้งหมดห้าสิบสองดวง ส่วนอีกคนได้ทั้งหมดห้าสิบสามดวง ครั้งนี้ สีหน้าของโอวหยางโพ่จินเริ่มถอดสี เพราะตอนนี้รายชื่อของเขาอยู่ในอันดับที่เก้าแล้ว ยังเหลือถุงผ้าเฉียนคุนอีกสองใบ
ทว่าเมื่อเห็นหลงเหยียน ความตื่นเต้นในใจเขาก็ลดลงมาก เพราะเขาไม่เชื่อว่าหลงเหยียนที่มีพลังระดับชีพัขั้นที่แปดจะสามารถได้หัวใจหุ่นเชิดมากกว่าตน
ขณะนี้เอง สายตาที่ท้าทายของลั่วเฉิงก็มองมาทางหลงเหยียน ประกายรอยยิ้มที่มุมปาก ท่าทางดูเย่อหยิ่งจนเหมือนจะลอยขึ้นฟ้าแล้ว
ซือถูหม่าเดินมาตรงหน้าลั่วเฉิง มือใหญ่ๆ คู่หนึ่งจับไหล่ลั่วเฉิงแน่น
“อืม ไม่เลวเลย เ้าหนุ่ม เ้าคือน้องชายของลั่วซางหรือ? เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ”
ลั่วเฉิงตอบกลับอย่างสุภาพ “ใต้เท้าซือถู พี่ชายเคยเล่าถึงท่านให้ข้าฟัง”
“อ้อ อย่างนั้นหรือ? เหมือนพี่เ้าจริงดังคาด ตอนนั้นข้าเข้าตระกูลอู่ตี้ ได้หัวใจหุ่นเชิดทั้งหมดแปดสิบดวง ส่วนพี่เ้าก็ไม่เลวเหมือนกัน เขาได้หัวใจหกสิบเก้าดวง เป็อันดับหนึ่งในรุ่นนั้น ไม่รู้ว่าเ้าจะได้เท่าใด?”
ลั่วเฉิงมองซือถูหม่า ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แลดูลึกลับนัก
ลั่วซางยืนอยู่บนเวที ในมือถือถุงผ้าเฉียนคุนของลั่วเฉิง
ก่อนประกาศอย่างมั่นใจ “ลั่วเฉิง จากเนินดารา อายุยี่สิบปี ได้หัวใจเจ็ดสิบดวง!”
เมื่อกล่าวจบ เสียงนี้ก้องไปในหูของทุกคน เสียงปรบมือก็ดังขึ้นพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง ยิ่งไปกว่านั้น ซือถูหม่ายังมองลั่วเฉิงด้วยสายตาชื่นชม
“ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ คนตระกูลลั่วล้วนมีพร์กันทุกคน นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเ้ายังได้หัวใจมามากกว่าพี่เ้าเสียอีก ตอนนี้ คิดว่าคนที่ได้มากที่สุดก็คงเป็เจ็ดสิบดวงสินะ ในบรรดาห้าคนนี้ ถือว่าเ้าเป็ที่หนึ่งแล้ว ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ยืนอยู่บนเวที มองหัวใจที่แข็งกระด้างดั่งหินเ่าั้ ลั่วซางเทออกมาจากถุงผ้าเฉียนคุน เวลานี้เขารู้สึกภาคภูมิใจมาก ไม่เสียแรงเลยที่เป็น้องชายตน ได้รับคำเชยชมจากทุกคน เวลานี้ ลั่วเฉิงหันไปมองหลงเหยียนด้วยสายตาเยือกเย็น
“นี่สิ เครื่องยืนยันของพละกำลัง มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะได้เข้ารอบด่านที่สอง มีสิทธิ์เข้าเมืองอู่ตี้ กลายเป็หนึ่งในสมาชิกของตระกูลอู่ตี้”
--------------------