บทที่ 127 มีแค่ฉันที่ช่วยเธอได้
เปิดดูวีแชท เย่จื่อเฉินอ่านข้อความที่ยี่หนึงจินกุนส่งมา
ยี่หนึงจินกุน : ศิษย์น้อง เป็อย่างที่เ้าบอกเอาไว้เลย พญายมราชโดนไท่ไป๋จินซิงพาไปหาองค์เง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว
ถึงกับพาไปพบกับผู้นำโดยตรง ดูท่าว่าสถานการณ์จะแย่มาก
เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อย แล้วส่งข้อความตอบกลับไป
เย่จื่อเฉิน : ตอนนี้สถานการณ์เป็ยังไงบ้าง
วิหารหยกหลิงเซียว[1]
พญายมราชสวมกวาน[2] ยืนตระหง่านเหนือห้องโถงในพระราชวังบนยอดเขาสูง ทั้งสองฝั่งของห้องโถงคือเหล่าเง็กเซียนนำโดยยี่หนึงจินกุน และแม่ทัพ์หลี่จิ้งที่ต่างพากันก้มหน้าไม่พูดอะไร
“องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ พญายมราชแห่งนรกขัดกฎ์ในการจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับตัวเอง”
“หือ?”
เง็กเซียนฮ่องเต้ที่นั่งอยู่สูงตระหง่านถลึงตาโต สีหน้าของเ้าแม่หวังหมู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
“พญายมราช ที่ไท่ไป๋จินซินพูดมาเป็ความจริงหรือไม่”
“ไม่”
พญายมราชเงยหน้าขึ้นตอบด้วยแววตาแน่วแน่
“ไท่ไป๋…”
เง็กเซียนฮ่องเต้เลื่อนสายตาไปยังไท่ไป๋จินซิงอีกครั้ง
“พญายมราช ตอนที่ข้าไปถึง ท่านก็รีบจบงานเลี้ยงของท่าน แล้วให้ข้าจับมา ท่านยังจะมาเล่นลิ้นอีกเหรอ”
“ใส่ความ!”
“พญายมราช บอกความจริงมาเถอะ ข้าจะไม่ตำหนิท่าน แล้ว่นี้ข้าก็ตั้งใจว่าจะร่างกฎใหม่อยู่แล้ว ท่านพูดความจริงได้เลย”
เง็กเซียนฮ่องเต้ยิ้มอย่างมีนัย พญายมราชเงยหน้าขึ้น แล้วประสานมือพูด
“องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ข้าไม่ได้จัดงานเลี้ยงฉลอง”
“พญายมราช ข้าเข้าใจว่าอยู่ในนรก พวกท่านลำบากมาก ก็เป็เื่ปกติที่อยากจะจัดงานเลี้ยงเพื่อผ่อนคลาย”
“องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ข้าไม่ได้จัดงานเลี้ยง!”
“ได้!” เง็กเซียนฮ่องเต้พยักหน้า ดวงตาสองข้างจ้องมองพญายมราชอย่างดุดัน แล้วพูดเสียงห้วน “จับเข้าคุก์!”
“องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ ข้าไม่ผิด”
ทหาร์ที่อยู่รอบๆ เข้าไปคุมตัวทันที พญายมราชเงยหน้าจ้องมองเง็กเซียนฮ่องเต้ แล้วะโ
ในตอนนั้น เง็กเซียนฮ่องเต้ที่ยืนอยู่ก็ได้นั่งลงอีกครั้ง แล้วยิ้มตอบ
“พญายมราช ท่านโกหกข้า แล้วยังบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิดอีก จัดงานเลี้ยงก็บอกว่าจัด ข้าก็บอกไปแล้วว่าจะไม่ตำหนิท่าน ท่านไม่เชื่อข้าเลยเหรอ!”
“ข้าไม่ได้จัดงานเลี้ยง!”
“ยี่หนึงจินกุน!”
เง็กเซียนฮ่องเต้ยกมือร้องเรียก ยี่หนึงจินกุนที่กำลังยืนครุ่นคิดอยู่ทางด้านข้างว่าจะตอบกลับเย่จื่อเฉินยังไงรีบเดินออกไปทันที
“ขอรับ”
“พาตัวพญายมราชลงไป”
“น้อมรับคำสั่ง”
ยี่หนึงจินกุนคุมตัวพญายมราชเดินลงจากวิหารหยกหลิงเซียวไป จากนั้นเ้าแม่หวังหมู่จึงได้เอ่ยขึ้นเสียงแ่
“ท่านคิดจะจัดการพญายมราชยังไง”
“จะจัดการยังไงได้อีก” เง็กเซียนฮ่องเต้ถอนหายใจยาว แล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าข้าจะทดสอบยังไง เขาก็ไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับก็คือไร้ซึ่งความผิด แล้วจะให้ข้าเพิ่มโทษให้เขาหรือไง?”
เง็กเซียนฮ่องเต้ส่ายหน้า ลุกออกจากเก้าอี้ั มองไท่ไป๋จินซิงที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดขึ้น
“ไท้ไป๋ ต่อไปจะต้องมีหลักฐาน จะพลาดแบบนี้ไม่ได้!”
เมื่อออกมาจากวิหารหยกหลิงเซียวแล้ว ยี่หนึงจินกุนก็ได้คลายมือจากพญายมราช
“ท่านรอข้าตรงนี้สักครู่ อย่าหนีเข้าใจไหม ถึงท่านหนีก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือข้า”
ยี่หนึงจินกุนหันไปพูดเสียงห้วนกับพญายมราช แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความกลับไปหาเย่จื่อเฉิน
ยี่หนึงจินกุน : พญายมราชอยู่กับข้าแล้ว เง็กเซียนฮ่องเต้เอาผิดกับเขาไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่ต้องจับไว้แล้ว
ติ๊ง!
เย่จื่อเฉินนั่งจับโทรศัพท์ พร้อมดูคอนเสิร์ตด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เสียงแชทแจ้งเตือนขึ้นมา เขากดเปิดโทรศัพท์ หลังจากที่ได้เห็นข้อความก็ตอบกลับทันที
เย่จื่อเฉิน : ถ้าอย่างนั้นท่านปล่อยเขาไปเลยได้หรือเปล่า
ยี่หนึงจินกุน : ปล่อยไปเลยเหรอ?
ยี่หนิงจินกุนชะงักนิ่งไปนิด ถึงเขาจะรู้ดีว่าพญายมราชจะไม่มีอันตรายอะไรแล้ว แต่จะให้ปล่อยไปเลยแบบนี้…
ยี่หนึงจินกุน : ได้ ข้าจะปล่อยเขา
จะคิดมากไปทำไม พยายมราชท่านนี้มีบุญคุณกับศิษย์น้องของเขา เขาต้องปล่อยไป
เย่จื่อเฉิน : ขอบคุณท่านมาก แต่อย่าเปิดเผยตัวตนข้าให้เขารู้นะ
ทางนรกไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีกับทาง์สักเท่าไร ถ้าเกิดให้พญายมราชรู้ว่าตนคือเง็กเซียนนิรนาม อาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากที่ไม่จำเป็ขึ้นมาก็ได้
ส่งข้อความไปแล้ว ยี่หนึงจินกุนพยักหน้า เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าพญายมราช แล้วชี้ไปยังเส้นทางฝั่งประตูทิศใต้ ก่อนจะพูดขึ้น
“ท่านกลับนรกไปซะ”
“เอ๊ะ?” พญายมราชงุนงง จะปล่อยก็ปล่อยเลยเหรอ
“อย่าคิดมาก มีผู้ใหญ่ช่วยท่านไว้”
ยี่หนิงจินกุนพูดจบ ก็เดินไปทางประตูทิศใต้อีกครั้ง พญายมราชพยักหน้ารับซ้ำๆ หลังจากที่หันไปประสานมือขอบคุณยี่หนึงจินกุนแล้ว ก็ลอยลงไปทันที
ยี่หนึงจินกุน : ปล่อยไปแล้ว
เมื่อเห็นข้อความในโทรศัพท์ เย่จื่อเฉินจึงได้เผยรอยยิ้มพอใจออกมา
เย่จื่อเฉิน : ขอบศิษย์พี่มาก
ยี่หนึงจินกุน : ไม่ต้องเกรงใจหรอก กลับมา์เมื่อไรไว้ไปดื่มสุรากัน
ยี่หนึงจินกุน : เยี่ยม!
กดออกจากวีแชท พญายมราชเพิ่งตจะลงจาก์ไป ดูท่าว่าจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะถึงนรก
ในตอนนั้น หยางอี่ฉือก็ได้ยืนอยู่ข้างพิธีกรบนเวที
“โซน c แถวที่ 4 เลขที่นั่งเบอร์ 16”
“ทำไมไปโซน c ล่ะ!”
“ทำไมไม่เลือกแถวที่หนึ่ง!”
เมื่อพิธีกรพูดจบ เซี่ยเขอเข่อกับอีกหลายคนที่อยู่ข้างเย่จื่อเฉินก็เบะปากโอดครวญด้วยความเสียใจ
เย่จื่อเฉินจึงเลิกคิ้วถาม
“เมื่อกี้ประกาศเลขที่นั่งทำไมเหรอ?”
“ก็จะได้ขึ้นเวทีกับหยางอี่ฉือไง นายได้ตั้งใจดูคอนเสิร์ตหรือเปล่าเนี่ย”
“...”
เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของคนรอบข้าง เย่จื่อเฉินจึงหุบปากฉับไม่พูดอะไร ถ้าขืนยังพูดต่อไป อาจจะโดนคนพวกนี้ตอกกลับมาก็ได้ แบบนั้นมันไม่คุ้มกัน
ไม่นาน ตรงกลางเวทีก็ได้มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็โอตาคุ ผมหน้าม้ายาวเลยคิ้ว ใส่แว่นตาปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ด
ตอนที่เด็กหนุ่มอยู่บนเวที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียดและตื่นเต้น แต่ในทันใดนั้น เย่จื่อเฉินที่นั่งอยู่ด้านล่างก็ได้ลุกพรวดขึ้นะโทันที
“หยางอี่ฉือ วิ่ง!”
การที่เย่จื่อเฉินลุกพรวดขึ้นมา ทำเอาเพื่อนรอบตัวและแฟนคลับที่อยู่โดยรอบใกันหมด หยางอี่ฉือที่อยู่บนเวทีก็กะพริบตาปริบๆ ทำอะไรไม่ถูก
“บัดซบ!”
เย่จื่อเฉินะโขึ้นไปบนเวทีอย่างรวดเร็วท่ามกลางทุกคนที่นั่งอยู่ ทันใดนั้น เด็กหนุ่มที่เอาแต่ยืนทำหน้าตึงเครียดและตื่นเต้นอยู่ข้างหยางอี่ฉือมาตลอด สีหน้าก็ได้เปลี่ยนเป็ดุดันขึ้นมาทันที
“ไปตายซะ!”
มีดพกเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาบริเวณแขนเสื้อของเขาในทันที
ฉึก!
“หยางอี่ฉือ!”
เย่จื่อเฉินแววตาสั่นระริก เขาเบิกตาโพลงมองเด็กหนุ่มคนนั้นแทงมีดพกเข้าที่ตำแหน่งของหัวใจ
เมื่อปลายมีดสีเงินปักเข้าไป เืสีแดงก็ไหลออกมา
ตุบ
จูซือเหลียงที่ยืนอยู่ด้านล่างเวทีตลอดดวงตาเบิกโพลง ก่อนจะหันไปตวาดใส่คนที่อยู่ด้านข้าง
“รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว!”
“ไอ้สารเลว!”
ดวงตาของเย่จื่อเฉินแดงก่ำทันที เขาะโถีบเด็กหนุ่มคนนั้น ทันทีที่เด็กหนุ่มล้มลง บอดี้การ์ดที่อยู่รอบๆ เจ็ดแปดคนก็เข้ามาคุมตัวไว้
“หยางอี่ฉือ!”
หยางอี่ฉือที่นอนอยู่บนพื้นยังมีเืไหลออกมาจากตำแหน่งหัวใจ เย่จื่อเฉินทรุดลงกับพื้น มองแก้มที่ซีดขาวของเธอ แล้วล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“คุณจะทำอะไร วางคนเจ็บลง”
ตอนนี้จูซือเหลียงได้โผล่มาอยู่ข้างเย่จื่อเฉิน และข้างกายเขาก็มีแพทย์ฉุกเฉินในงานคอนเสิร์ตยืนอยู่ด้วย
“วางลง?” เย่จื่อเฉินเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเส้นเืแดงก่ำ เขากวาดตามองทุกคนด้วยความเ็า “แล้วส่งให้พวกคุณเหรอ พวกคุณคิดว่าเธอจะรอดไปจนถึงโรงพยาบาลหรือไง?”
เมื่อพูดจบ ตลับเข็มสีเงินก็ได้ปรากฏขึ้นมาในมือของเขาทันที
“คนที่จะช่วยเธอได้มีแค่ผมเท่านั้น!”
___________________________________________________
[1] วิหารหยกหลิงเซียว หมายถึง ชื่อวิหารขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้บน์
[2] กวาน หมายถึง เครื่องประดับศีรษะครอบมวยผมของจีนโบราณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้