มู่อวิ๋นจิ่นเดินไปตามทางที่เสี่ยวเอ้อร์แนะนำไป แต่ยังไม่ลืมชำเลืองไปที่หอบุหลัน
ระหว่างที่นางกำลังจะผ่านหน้าร้าน ได้คว้าฝ้าเช็ดหน้าขึ้นมาอำพรางใบหน้า สาวเท้าให้ผ่านไปโดยเร็ว โดยที่นางเห็นลี่เหนียงยืนคุยกับแขกคนหนึ่งหน้าร้าน
มู่อวิ๋นจิ่นเม้มริมฝีปาก ครุ่นคิดหาทางเข้าไปสืบเื่ราวภายในหอบุหลัน
เมื่อมู่อวิ๋นจิ่นเดินมาถึงเรือนชิงที่เสี่ยวเอ้อร์บอกทาง นางสอดสายตามองไปรอบๆ เห็นเรือนติดป้ายว่าจวนชิง
ประตูเรือนถูกปิดสนิท แต่ว่ามองจากภายนอกสามารถเห็นจวนถูกสร้างเป็สองชั้น โดยรอบมีพืชเลื้อยปลูกจนมองไม่เห็นด้านใน เห็นเพียงสีเขียวขจีรอบตัวจวนที่อยู่
มู่อวิ๋นจิ่นหยุดยืนด้านหน้าประตู ไม่ทันไรมีเสียงเอี๊ยดเปิดประตูออก มีหญิงชราหลังค่อมเดินออกมา
เมื่อหญิงชราหลังค่อมผู้นั้นเห็นมู่อวิ๋นจิ่น ได้ส่งยิ้มและเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “แม่นางเป็เ้าของจวนชิงคนใหม่เหรอ?”
“อืม” มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้าหยิบโฉลดที่ดินยื่นให้หญิงชราหลังค่อมดู
หญิงชราหลังค่อมรับโฉลดที่ดินไปแล้ว คลี่กางออกดู จากนั้นย่อตัวทำความเคารพ “ในเมื่อมีคนมารับ่ต่อ ข้าน้อยก็จะได้ออกไปเสียที”
“ตอนนี้ ข้าน้อยขอพาแม่นางเข้าไปชมด้านในก่อน”
หญิงชราหลังค่อมหลังกลับไปเปิดประตู พามู่อวิ๋นจิ่นเข้าไปด้านใน
พอเข้าไปแล้วสิ่งแรกที่มู่อวิ๋นจิ่นเห็นคือหินกรวดโรยเป็ทางเดินที่สามารถเดินไปถึงห้องโถง ส่วนอีกสองทางเดินกลับปลูกดอกไม้เป็ทาง
ตลอดทางเดิน มู่อวิ๋นจิ่นสังเกตเห็นห้องโดยรอบอีกสามสี่ห้องมีไม้เลื้อยคลุมเต็มหลังคา
“คุณป้า เมื่อก่อนเ้าของจวนทำอะไรเหรอ?” มู่อวิ๋นจิ่นถามพลางยื่นมือไปเด็ดดอกไม้มาดอมดม
หญิงชราหลังค่อมหยุดก้าว หันมามองมู่อวิ๋นจิ่น “เ้าของจวนชิงนั้นเป็แม่นางคนหนึ่งที่ชอบปลูกดอกไม้พืชพันธุ์นานาชนิด ดังนั้นจึงเขียวจขีไปด้วยดอกไม้ต้นหญ้า”
มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย จากนั้นเดินไปจนถึงเรือนด้านหลัง เห็นบ่อน้ำที่ไหลไปตามทางทำให้ดอกไม้ผลิบานส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
พูดก็พูดเถอะ มู่อวิ๋นจิ่นตกหลุมรักจวนนี้ั้แ่แรกเห็น
“นี่เป็สถานที่ทั้งหมดของจวนชิงแล้ว ส่วนเื่จะย้ายเข้ามาอาศัยเมื่อไหร่นั้น แม่นางสามารถย้ายมาได้ทุกเมื่อ” หญิงชราหลังค่อมแนะนำเสร็จแล้วก็ยืนมองมู่อวิ๋นจิ่นอยู่เงียบๆ
มู่อวิ๋นจิ่นก้มหน้าฉีกยิ้มให้หญิงชราหลังค่อม “คุณป้าชื่อเสียงเรียงนามอะไรเอ่ย?”
“ข้าน้อยแซ่เย่” หญิงชราหลังค่อมตอบกลับ
“ป้าเย่ อยู่ที่จวนชิงมานานเท่าไหร่แล้วเอ่ย?” มู่อวิ๋นจิ่นถามด้วยความสงสัย
ป้าเย่ยิ้มแห้งๆ “ได้สามปีกว่าแล้ว ั้แ่แม่นางชิงย้ายออกไป ได้ให้เงินป้าไว้ไม่น้อย ทั้งยังกำชับให้ป้าช่วยเฝ้าจวนให้ดี เพื่อรอเ้าของคนใหม่มา ในที่สุดก็มาแล้ว”
มู่อวิ๋นจิ่นเข้าใจในทันที
“เอาล่ะ ในเมื่อจวนชิงมีเ้านายคนใหม่มาแล้ว ป้าก็ขออยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นขอตัวลาเลยแล้วกัน” ป้าเย่หันหลังเดินกลับไปตามทาง
มู่อวิ๋นจิ่นมิได้รั้งเอาไว้ ปล่อยให้ป้าเย่เดินกลับไป
มู่อวิ๋นจิ่นเดินชมจนกลับมาที่เรือนสองชั้นในตอนแรก มู่อวิ๋นจิ่นพยายามปีนขึ้นไป้า “นี่มันอะไรกันเนี่ย ดูแล้วรกหูรกตาไปหมด” มู่อวิ๋นจิ่นเบือนปาก
……
หลังจากที่มู่อวิ๋นจิ่นเดินสำรวจรอบจวนแล้ว รู้สึกพอใจเป็อย่างมาก ถ้าวันหนึ่งออกจากจวนองค์ชายหกแล้ว นางจะได้มีที่ซุกหัวนอน
หลังจากมู่อวิ๋นจิ่นเดินออกก็ปิดประตูสนิท แล้วกลับไปโรงเตี๊ยมลวี่อิน
ระหว่างที่ผ่านหน้าหอบุหลัน มู่อวิ๋นจิ่น เห็นคนที่คุ้นเคยอยู่ด้านหน้า……
ทำไมฉู่ชิงเฉียงมาอยู่นี่!!!
คิดได้ดังนี้ มู่อวิ๋นจิ่นรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง กำลังคิดหาวิธีจะเข้าหอบุหลันยังไง สุดท้ายฉู่ชิงเฉียงก็มาหาถึงที่
เมื่อคนที่คุ้นเคยนั้นเดินหายวับไป จู่ๆ มีมือเข้ามาจับไหล่ของมู่อวิ๋นจิ่น
มู่อวิ๋นจิ่นหันขวับไปมอง ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหู “มู่อวิ๋นจิ่น……”
พอรู้ว่าเป็เสียงฉู่ลี่ มู่อวิ๋นจิ่นค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก “เ้ามาได้ยังไง?”
ฉู่ลี่ถามย้อนกลับด้วยรอยยิ้ม “เ้าจะไปไหน?”
“ข้า……” มู่อวิ๋นจิ่นกระอักกระอ่วน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้ฉู่ลี่ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล บอกเขาไปก็ไม่น่ามีปัญหา
คิดได้ดังนั้น มู่อวิ๋นจิ่นดึงฉู่ลี่เข้ามากระซิบข้างหู “ฉู่ชิงเฉียงกับหอบุหลันแอบสมคบคิดกัน โดยมีลี่เหนียงเป็คนบังหน้า ครั้งก่อนข้าเกือบโดนฉู่ชิงเฉียงขายให้กับลี่เหนียง……”
ฉู่ลี่ตั้งใจฟังสิ่งที่มู่อวิ๋นจิ่นเล่าให้ฟัง สีหน้าของเขาที่มีรอยยิ้ม กลับเ็าลงในทันใด
สายตาที่แข็งทื่อของเขาจ้องเขม็งจนกระทั่งมู่อวิ๋นจิ่นหดหัว “จ้องข้าแบบนั้นทำไม?”
“เ้าบอกว่าฉู่ชิงเฉียงจะเอาเ้าไปขาย?” ฉู่ลี่กัดฟันพูดทีละคำอย่างชัดเจน
“ใช่นะสิ ฉู่ชิงเฉียงเรียกองครักษ์ลับของออกมาแล้ว แต่โชคดีที่เ้าให้นกหวีดเรียกองครักษ์ลับชุดม่วงให้ข้า ถึงให้นางยอมถอย” เล่ามาถึงตรงนี้มู่อวิ๋นจิ่นยังคงยิ้มออกมา
จู่ๆ มู่อวิ๋นจิ่นใร้องขึ้นมา จนต้องดึกแขนเสื้อฉู่ลี่ “เกือบลืมไปเลย เมื่อครู่ข้าเห็นฉู่ชิงเฉียงมาที่นี่……”
……
หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที
“ฉู่ลี่ เ้ามั่นใจว่าจะทำแบบนี้ใช่ไหม?”
มู่อวิ๋นจิ่นและฉู่ลี่ยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ด้านหลังหอบุหลัน มือของมู่อวิ๋นจิ่นจับกิ่งไม้ไว้แน่นมือ
ฉู่ลี่หันมามองมู่อวิ๋นจิ่นด้วยท่าทางจริงจัง “หากอยากสืบรู้สิ่งที่้าในหอบุหลัน นี่เป็วิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
จากนั้นฉู่ลี่สะบัดพัดในมือ ออกบังหน้าของเขา เหลือเพียงแววตาที่จ้องมา
“ถ้าเ้าไม่ทำแบบนี้ จะสืบรู้เื่ที่้าได้อย่างไร” ฉู่ลี่มองนางแน่นิ่ง
“ก็ได้ ก็ได้” มู่อวิ๋นจิ่นเบะปาก ะโลงมาจากกิ่งไม้ด้วยความไม่เต็มใจ
ในเวลานี้นางสวมชุดกระโปรงแดงผ้าพริ้วไหว สองมือและสองขามีผ้าโปร่งสีแดงพลางเอาไว้ ส่วนใบหน้าได้ผลัดแป้งจนแก้มอมชมพู ริมฝีปากแดงสด
มู่อวิ๋นจิ่นจับกระโปรงให้เรีบบร้อย กัดฟันบ่นฉู่ลี่ที่คิดหาวิธีการเช่นนี้ขึ้นมาได้ โดยใช้นางปลอมตัวเข้ามาในหอนางโลม……
เชอะ ่นี้นางมีแต่เสียกับเสียมามาก หากกลับไปต้องจัดการสั่งสอนฉู่ลี่เสียหน่อย
“ไปกันเถอะ เข้าไปได้แล้ว” ฉู่ลี่เห็นนางยึกยัก จึงเดินเข้าประตูหลังนำหน้าไป
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นฉู่ลี่เดินเข้าไปโดยไม่รีรอ จึงรีบเข้าไปคว้าแขนของฉู่ลี่เอาไว้ กัดฟันต่อว่าขึ้นมา “จะปลอมตัวทั้งทีก็ปลอมให้แเีกว่านี้หน่อยสิ”
ฉู่ลี่ชะงักกับมือมู่อวิ๋นจิ่นที่คว้าเเขนไว้ ไม่นานเขาอาศัยจังหวะนั้นยกแขนขึ้นโอบไหล่ดึงนางเข้ามาในอ้อมอก
มู่อวิ๋นจิ่นรีบคว้าผ้าเช็ดหน้าผืนแดงขึ้นมาบังหน้า ทำท่าทำทางขวยเขิน แต่สีหน้าที่แดงระเรื่อมิได้แสร้งทำออกมา
เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาจากประตูหลังร้าน ชายกำยำที่เฝ้าหอบุหลันไม่ได้เกิดความสงสัยแต่อย่างใด
พอเข้าไปแล้ว สายตาของมู่อวิ๋นจิ่นสอดส่ายไปรอบตัว เห็นภายในไม่มีสิ่งผิดปกติ ก็พาฉู่ลี่เดินขึ้นไปชั้นสอง
ชั้นสองเป็ถูกแบ่งซอยเป็ห้องเล็กๆ หลายห้อง
มู่อวิ๋นจิ่นร้อนใจเหลือเกิน หอบุหลันกว้างใหญ่มีหลายห้อง การตามหาฉู่ชิงเฉียงเหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร
“ขึ้นไปชั้นสาม” ฉู่ลี่กระซิบกระซาบ
มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้ารับ ทั้งสองจึงเดินบันไดขึ้นไปชั้นสาม กลับพบชายหนุ่มกำยำถือดาบในมือ ขวางทางขึ้นเอาไว้
ชายหนุ่มกำยำพวกนี้ มู่อวิ๋นจิ่นเคยเจอในครั้งก่อนที่เมืองเตี๋ยฮวา พวกเขาเป็คนของลี่เหนียง
ที่แท้ ฉู่ชิงเฉียงมาหลบอยู่ชั้นสามนี่เอง
ทั้งสองคนทำเป็เดินไปอีกทางหลบเข้ามุม ทำเหมือนไม่ได้อยากขึ้นชั้นสาม ด้านมู่อวิ๋นจิ่นกดเสียงต่ำ “ตรงนั้นมีคนเฝ้าสี่คน จะจัดการเลยไหม?”
ในตอนนี้ฉู่ชิงเฉียงคงไม่ได้ระมัดระวังถึงขีดสุด จึงส่งชายหนุ่มกำยำเพียงสี่คนมารักษาทางขึ้นเอาไว้เท่านั้น
“เอาเข็มมาด้วยหรือเปล่า?” ฉู่ลี่ก้มลงมองนาง จู่ๆ ใบหน้าของเขากลับแดงระเรื่อขึ้น
“เอามา” มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้า ปลดผ้าคาดเอวออก ในนั้นเต็มไปด้วยเข็มเรียงรายเต็มไปหมด
ฉู่ลี่หยิบเข็มขึ้นมาสี่เล่มแล้วสัพยอกขึ้น “เอาเข็มติดตัวมามากขนาดนี้ ไม่กลัวแทงเข้าตัวเหรอ?”
“ยังไงแทงโดนก็ไม่ตาย” มู่อวิ๋นจิ่นหยิบผ้าคาดเอวพันกลับที่เดิม
“เ้าเอาเข็มไปทำอะไร?” มู่อวิ๋นจิ่นถามขึ้นต่อ
ฉู่ลี่ไม่ได้ตอบสิ่งที่นางถาม แต่พามู่อวิ๋นจิ่นเดินกลับไปที่บันไดทางขึ้นชั้นสามใหม่อีกครั้ง ยังไม่ทันจะเข้าไปใกล้บันไดมากนัก เข็มสี่เล่มก็พุ่งจากมือฉู่ลี่ไปทุกเล่ม
“ไปกันเถอะ” ฉู่ลี่ยิ้มออกมา พานางเดินขึ้นไป้า
มู่อวิ๋นจิ่นเกิดใไม่น้อย ด้วยชายหนุ่มกำยำทั้งสี่ยังคงยืน ลืมตาโตดังเดิม
“นี่มัน……” มู่อวิ๋นจิ่นผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
“พวกเขาถูกเข็มปักเข้าไปที่จุดกล่องเสียงและเส้นประสาท เวลานี้จึงขยับเขยื้อนไม่ได้แม้แต่น้อย”
