ดวงดารารวมตัวกันขณะที่แสงอันเข้มข้นพุ่งทะยาน! ภายใต้ท้องฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด มีร่างหนึ่งยืนอยู่โดยหันหลังให้กับสรรพชีวิต! ไม่มีใครสามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ พวกเขาทำได้เพียงจับภาพเงาที่ดูเหมือนหลินเสวียนทุกประการ!
ในขณะนั้น แม้ว่าสมาชิกของตระกูลหลินและตระกูลซวนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้จะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน แต่พวกเขามั่นใจอย่างแน่นอนว่าร่างนั้นคือลักษณะของหลินเสวียนในอนาคต! ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้น แต่ทุกอย่างช่างคล้ายคลึงกันเหลือเกิน! นี่คือรูปลักษณ์ในอนาคตของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหลิน!
"เขากำลังปกป้องตระกูลหลินของเราหรือ? หรือว่าเขากำลังปกป้องสิ่งอื่น?"
เมื่อมีผู้กล่าวคำนี้ออกมา ทุกคนที่ได้เห็นอนาคตของหลินเสวียนต่างรู้สึกเคารพเขาอย่างสุดหัวใจ! ราวกับว่าเขาได้ต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้งตลอดชีวิต และต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทานที่สุด! เื้ัของเขาคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาปกป้องไว้!
เบื้องหน้าของร่างนั้น เส้นทางที่แตกร้าวชุ่มโชกไปด้วยโลหิต ์ถูกเผาไหม้ด้วยจิตสังหารอันไร้ขอบเขต! แต่เื้ัของเขา สรรพชีวิตสามารถดำรงอยู่อย่างสงบสุขและกลมเกลียว!
ร่างนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวเกินไป! ต่อหน้าเขา ไม่มีความโกลาหล ไม่มีผู้ปกครองที่อยู่เหนือกว่า! ผู้ใดที่กล้าขวางทางเขาจะถูกปราบและสังหารโดยไร้ข้อกังขา!
เบื้องหน้าของเขา ไม่มีสิ่งใดที่ต้องลุ้นอีกต่อไป เพียงแค่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ทำให้์สั่นะเื! ต้นกำเนิดของหายนะและความโกลาหลทั้งมวลต้องก้มต่ำลง! ในยุคสมัยของเขา หายนะครั้งใหญ่ไม่อาจเกิดขึ้นได้! แม้ว่าเขาจะยืนหยัดเพียงลำพัง โดยหันหลังให้กับสรรพชีวิตทั้งมวล!
"บนเส้นทางสู่ะ ไม่มีผู้ใดในอดีตนำหน้าเขา และไม่มีผู้ใดในอนาคตตามรอยเขาได้! ในโลกอันไร้ขอบเขต เขายืนหยัดเดียวดาย ณ จุดสูงสุดเหนือหมู่เมฆ!" ในความว่างเปล่า ผู้าุโเฒ่าของตระกูลหลิน หลินเป่า ปรากฏตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เขาจ้องมองหลินเสวียนด้วยสายตาที่ลุกโชน
"ท่วงท่าอันไร้เทียมทาน ไร้ผู้เทียบเคียงในใต้หล้า…" หญิงสาวคนหนึ่งแหงนหน้าขึ้นมองแผ่นหลังอันยิ่งใหญ่และพึมพำออกมา
ภายในห่อผ้าของเขา หลินเสวียนก็มองเห็นภาพอนาคตของตัวเองเช่นกัน เขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
ร่างนั้นช่างคล้ายกับใครบางคนที่เขาคุ้นเคยเหลือเกิน ทว่ามันก็คือตัวเขาเองจริง ๆ! เพราะรูปลักษณ์ของร่างนั้นยังเยาว์วัย
ไม่เพียงเท่านั้น หลินเสวียนดูเหมือนจะเห็นตนเองในอนาคตนั่งอยู่ในความเวิ้งว้าง ดวงตาคู่นั้นดูเหมือนจะทะลุผ่านห้วงอวกาศและกาลเวลา มองตรงมายังตัวเขาในปัจจุบัน
จากนั้น มุมปากของร่างในอนาคตขยับเล็กน้อย…
ราวกับว่าเขากำลังจะกล่าวอะไรบางอย่างข้ามกาลเวลามาถึงตนเอง
เขา้าจะบอกอะไร?
จิตใจของหลินเสวียนสั่นะเือย่างรุนแรง แต่สุดท้ายแล้ว เสียงนั้นก็ไม่สามารถส่งมาถึงเขาได้
ท้ายที่สุด ร่างเงาในท้องนภาที่เต็มไปด้วยดวงดาราก็ยื่นมือออกมา มือขนาดมหึมานั้นปกคลุมทั่วทั้ง์และโลก ทำลายท้องฟ้าและบดขยี้ทุกภาพเหตุการณ์ให้สลายหายไป สติของทุกคนกลับคืนสู่ร่างของตนเอง
ปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่เลือนหายไปแล้ว ลวดลายแห่งมหาเต๋าที่เคยส่องสว่างอยู่กลางอากาศก็ค่อย ๆ จางหายตามไปด้วย
แม้ว่าภาพอนาคตจะจางหายไปแล้ว แต่ทุกคนยังคงตกตะลึงอยู่ พวกเขานั่งบ่มเพาะอย่างเคร่งขรึมเพื่อขบคิดและทำความเข้าใจฉากที่ได้เห็นก่อนหน้านี้
นั่นคือตัวหลินเสวียนในอนาคต บุคคลที่ไร้เทียมทาน ทุกการกระทำของเขาล้วนแฝงไปด้วยหลักธรรมอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็แรงบันดาลใจมหาศาลแก่เหล่าผู้ฝึกตนแห่งตระกูลหลิน
ซวนถงเองก็ไม่ต่างกัน ในดวงตาของเขาเหมือนมีสายน้ำแห่งกฎเกณฑ์ไหลเวียนอยู่ เขาไม่ได้จากไป แต่กลับนั่งลงเพื่อทำความเข้าใจเ่าั้
ในขณะเดียวกัน เสวียนอวี่ค่อย ๆ ลอยกลับลงมาบนเตียงและเข้าสู่นิทรา
สนิมสัมฤทธิ์ที่เคยเกาะอยู่บนร่างของนางได้สลายหายไปจนหมดสิ้น ต่อให้มันทรงพลังเพียงใด ก็ไม่อาจต้านทานพลังของ ร่างเซียนมหาเต๋า ได้
เมื่อเห็นว่าสนิมสัมฤทธิ์บนร่างของเสวียนอวี่หายไป หลินเสวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาค่อย ๆ ใช้พลังิญญาบีบอัดหมอกควันสีเขียวจาง ๆ ให้รวมตัวเป็ก้อนพลังสีม่วง ก่อนจะทำลายมันอย่างสิ้นซาก
เพื่อความมั่นใจหลินเสวียนยังคงจับตามองร่างกายของเสวียนอวี่ต่อไปทันใดนั้นเขาก็พบว่าร่างของนางแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม!
ราวกับว่าการชำระล้างแห่งมหาเต๋าได้ทำให้นางกลายเป็ ร่างกำเนิดมหาเต๋า
ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หลินเสวียนตกตะลึงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกยินดี นี่นับว่าเป็โชคดีในคราวเคราะห์สินะ?
การทำความเข้าใจนี้ดำเนินไปเป็เวลานาน
ตลอดสองวันสองคืนเต็ม แม้ว่าหลินเสวียนจะหยุดดูดซับกฎแห่งเต๋าไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนมากที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงบนพื้น หลับตาเพื่อทำความเข้าใจและย่อยสลายผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดเผยครั้งก่อน
นั่นเพราะผลกระทบของ "หมื่นเต๋ามารวมกัน" ในครั้งนี้ช่างยิ่งใหญ่เกินไป! ไม่ใช่แค่เหล่าผู้ฝึกตนของตระกูลหลินที่ตกอยู่ในสภาวะตรัสรู้ แม้แต่ผู้คนบางส่วนในเมืองต้าเหยียนก็ได้รับอิทธิพลจากมันด้วย
หลายคนบ่มเพาะพลังอย่างเงียบงันตลอดสองวันสองคืน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอิ่มเอมใจ พวกเขาก็ยิ่งตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลหลิน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองวันสองคืนเต็ม ตระกูลหลินทั้งตระกูลก็ยังคงอยู่ในสภาวะการบ่มเพาะพลัง
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะการตรัสรู้แล้ว
ซวนถงเองก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพร์ของหลินเสวียน
เมื่อรับรู้ถึงความสามารถที่น่าตื่นตะลึงนี้ เขาก็เริ่มใช้ทั้งสมองและปากหว่านล้อมทุกวิถีทาง น้ำลายกระเซ็นไปทั่ว หวังจะพาหลานชายของตนกลับไปเลี้ยงดูที่ตระกูลซวน
แต่เขาจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
เพราะมี หลินเป่า ผู้าุโเก่าแก่ของตระกูลหลินซึ่งเป็ผู้พิทักษ์ตระกูล คอยขวางทางไว้อยู่!
ซวนถงอาจคิดจะพาหลินเสวียนไป แต่หลินเป่าจะยอมให้เกิดขึ้นได้อย่างนั้นหรือ?
