“นาย? นาย?! ทำไม...นาย...ยังไม่ตาย?!”เท้าทั้งสองข้างของเฉินเฉียงลอยขึ้นจากพื้นเขารู้สึกได้ว่าแขนคู่นั้นทรงพลังพอๆ กับเครนยกของ เล็บแทบจะจมลงไปในเนื้อหนังของเขาทั้งที่ชายคนนี้ยังไม่ได้ใช้แรงสุดกำลัง ขอเพียงแค่เขา้าก็ย่อมสามารถเด็ดศีรษะของเขาออกได้ในทันที
“ตั้งสติหน่อย ฉันถามคำถามนายก่อน สามคนนั้นเป็ใคร? ชื่อจริงบุคลิก ลักษณะ ทุกอย่างที่นายรู้ อย่าบอกนะว่านายลืม เชื่อฉันฉันมีหลายร้อยวิธีที่จะทำให้นายเ็ปจนระลึกถึงมันได้!”รังสีอำมหิตของเสิ่นิแรงกล้าดุจพยัคฆ์
“เสิ่นิ! ปล่อยเขาลง!” สิ่งที่ผู้กองจ้าวหวั่นใจที่สุดก็เกิดขึ้นผู้กองะโมาจากทางด้านหลัง เ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษ 4 นายล้อมพวกเขาไว้ด้วยปืน
“นายฆ่าฉัน...นายก็ตายเหมือนกัน…” เฉินเฉียงรวบรวมความกล้าเฮือกสุดท้ายในขณะที่กล่าวข่มขวัญ
“น่าสนใจ ปาเหลี่ยงจินก็เคยพูดแบบเดียวกันกับนายทายสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา?” เสิ่นิยิ้มกว้างโชว์ฟันเขี้ยวอันแหลมคมเขาเตรียมพร้อมที่จะงับคอของเฉินเฉียงราวกับอสุรกาย
“ช่วยด้วย...ยิงเขาเลย!” เฉินเฉียงใจนปัสสาวะราดกลางอากาศ
เมื่อตำรวจพิเศษกลั้นหายใจและเตรียมยิงทันใดนั้น เซี่ยวอี๋ก็รีบพุ่งตัวไป เธอไม่ได้เกลี้ยกล่อมเสิ่นิแต่กลับหันมาขวางทางปืนของตำรวจพิเศษไว้
“เซี่ยวอี๋ คุณกำลังทำอะไรน่ะ?” ผู้กองจ้าวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดเสิ่นิไม่รู้เื่รู้ราวก็ช่างเขาแต่ตำรวจหญิงซึ่งผู้กองอย่างเขาชื่มชมในความกล้าหาญกลับเป็ไปกับเขาด้วยถึงขนาดทำให้เขาน้ำท่วมปาก
“ผู้กอง! ฉันขอร้องคุณล่ะ ให้เขาถามให้เสร็จก่อนเสิ่นิรับปากฉันแล้วว่าเขาจะไม่ฆ่าคน! ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด เขาก็จะทำเช่นนั้นได้โปรดเชื่อใจเขา!” เซี่ยวอี๋ล้ำเส้นจนดูล่อแหลมต่อการถูกปลดจากอาชีพตำรวจตลอดชีวิต
“ใช่ ฉันจะฆ่านายได้อย่างไร ก่อนที่จะเค้นข้อมูลชุดสุดท้ายออกมาจากนายได้ฉันจะทำลายกระดูกทุกส่วนในร่างกายของนาย ตัดเส้นเอ็นนายและปล่อยให้นายรอดชีวิตถึงตอนนั้นนายจะขอร้องให้ฉันฆ่านายเอง”คำพูดของเสิ่นิดับภาพความหวังสุดท้ายของเฉินเฉียง
“ฉันพูดแล้ว! ฉันจะบอกนายทั้งหมด! ขอเพียงนายช่วยอยู่ห่างจากฉันก่อน!”เฉินเฉียงหดตัว เดิมทีเขาคิดจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อขอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมแต่ตอนนี้ขอแค่รอดชีวิตก็พอแล้ว
เสิ่นิคลายฝ่ามือออกปล่อยให้คนทั้งตัวทรุดนั่งลงไปกับพื้นเหมือนกับจมอยู่ในแอ่งโคลน แช่กองปัสสาวะของตัวเอง
“ฉันไม่รู้ชื่อของพวกเขาด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาไปไหนกันแล้วฉันเป็แค่คนขับรถ” เฉินเฉียงคลำลำคอของตนซึ่งเกือบหักเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเสิ่นิกำลังจะลงมืออีกครั้ง เขาก็รีบกลับลำ“แต่ตอนที่พวกเขาคุยโทรศัพท์กัน ฉันบังเอิญได้ยินคำภาษาญี่ปุ่นที่ปรากฏขึ้นหลายครั้งฉันอยากรู้อยากเห็น ในเวลาต่อมาจึงลองหาในพจนานุกรมดู จึงได้รู้ว่ามันหมายถึง‘ซากุระร่วงโรย’ ”
“ซากุระร่วงโรย...” เสิ่นิตกตะลึง ราวกับได้รู้ชัดถึงอะไรบางอย่าง
“ซากุระร่วงโรย หมายถึงอะไร?” เซี่ยวอี๋เริ่มประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
เสิ่นิไม่พูดอะไรสักคำเขาหันหลังและเดินออกไปจากห้องสอบสวน ไม่มีอะไรรั้งให้เขาอยู่ที่นี่แล้วชะตากรรมของเฉินเฉียง จะเป็หรือตาย ก็ไม่มีความหมายสำหรับเขาอีกต่อไปเนื่องจากเสิ่นิได้พบร่องรอยใหม่ของความแค้นของเขาแล้ว
เซี่ยวอี๋รีบกล่าวลาผู้กองจ้าวเธอหมุนตัวและวิ่งตามชายหนุ่มไป ตำรวจที่เหลือต่างก็พากันปากอ้าตาค้าง
“ผู้กองจ้าว ตอนนี้เอาอย่างไรดีครับ?” ตำรวจหน้าดำถามอย่างขวยเขิน
“สอบสวนต่อ” ผู้กองจ้าวคำรามด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ
“เปล่าครับ ผู้กองจ้าว กระจกมองด้านเดียวนั้นแพงมากผมเคยได้ยินจากฝ่ายการเงินว่ามูลค่ามันประมาณ 2 หมื่นกว่า...”ตำรวจหน้าขาวกล่าวด้วยความกระอักกระอ่วน
“...”ผู้กองจ้าวพูดไม่ออก
เมื่อออกมาจากสำนักงานรักษาความปลอดภัยฟ้าก็เริ่มมืด เสิ่นิไม่ได้ไปที่ลานจอดรถเพื่อเอารถแต่เขากลับเดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย
“เสิ่นิ!” เซี่ยวอี๋ขับรถตามไป เธอค่อยๆ เคลื่อนรถอย่างช้าๆไปพร้อมกับเสิ่นิ “ขึ้นรถ!”
เสิ่นินิ่งเหมือนไร้ิญญาเขาไม่ได้ยินเสียงเรียกจากสาวงาม
“ยังไงก็ขึ้นรถมาก่อนแล้วค่อยคุยกัน!” เซี่ยวอี๋เป็ห่วง
ผู้สัญจรไปมาต่างพากันตกตะลึงพวกเขาเคยแต่เห็นคุณชายผู้ร่ำรวยขับรถตื๊อสาวแต่ไม่เคยเห็นสาวสวยขับรถสปอร์ตตามตื๊อหนุ่มหล่อเลย?
“ไปให้พ้น ผมไม่อยากคุยกับใคร”เสียงทุ้มของเสิ่นิเหมือนกับพนักงานขายที่กำลังแจกใบปลิว
“เสิ่นิ! พอได้แล้ว!” เซี่ยวอี๋เหยียบคันเร่งด้วยความขุ่นเคืองเธอหมุนพวงมาลัยรถสปอร์ต Z4 แฉลบไปบนทางเท้า หญิงสาวะโลงจากรถและขวางทางเสิ่นิไว้“ผู้ชายอกสามศอก! มีอะไรก็พูดออกมา ไม่ชอบใจก็โวยวาย ไม่สุขใจก็กรีดร้อง!นายดูละครน้ำเน่ามากเกินไปหรือเปล่า? ถึงได้ดราม่าใส่ฉัน!”
“ไม่ต้องสนใจผมได้ไหม ผมขอร้อง…” เสิ่นิดูอ่อนแอและหายใจไม่ออกราวกับว่าเขาเพิ่งเสร็จสิ้นการต่อสู้ที่เวกัส
“นายขอให้ฉันเป็ผู้ช่วยของนาย ฉันมีหน้าที่อยู่เคียงข้างนาย”ทักษะของเซี่ยวอี๋พัฒนาขึ้นมาก
“คุณถูกไล่ออกแล้ว” เสิ่นิพูดจบแล้วก็หันหลังเดินไปอีกทาง
“อย่าไป!” เซี่ยวอี๋คว้าไหล่ของเสิ่นิไว้ แต่ทันใดนั้นเสิ่นิก็หันกลับมาและดึงเธอเข้าไปกอดไว้แน่น
เสิ่นิออกแรงประหนึ่งจะกดเซี่ยวอี๋ให้แนบร่างของตนเขาเป็ทุกข์กระทั่งไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาบนไหล่ของเซี่ยวอี๋
“ผมมันไม่ได้เื่! มันเป็ความผิดของผมทั้งหมด! ถ้าคืนนั้นผมอยู่ต่อ!หวั่นเอ่อร์ก็คงไม่ถูกคนอื่นพรากตัวไป! สิบปี! ตอนนี้น้องอายุ 16 แต่ผมกลับคิดเสมอว่าน้องตายไปแล้ว! พ่อ ผมขอโทษ แม่ผมขอโทษที่ไม่ได้ดูแลน้อง ตอนนั้นผมคิดแต่จะฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! เท่านั้น ถึงอย่างนั้นผมก็ปล่อยให้มันรอดมาได้คนหนึ่ง! ถ้าผมซักถามพวกมันสักหน่อยก็คงจะรู้ความจริงไปแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้ถึงได้รู้ความจริง!”เสิ่นิตำหนิตนเอง ชายผู้เหมือนเช่นเหล็กกล้า ในขณะนี้เปราะบางเหมือนกับฟองสบู่แค่ใช้มือจิ้มเบาๆ เขาก็แตกสลายได้
เซี่ยวอี๋ไม่รู้ว่าจะปลอบชายตรงหน้าอย่างไรสิ่งที่เขาประสบอยู่นี้ช่างซับซ้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจถึงความเ็ปของเขาได้สิ่งเดียวที่เซี่ยวอี๋ทำได้ก็คือกอดเขาไว้ ให้เขาได้ร้องไห้อย่างสบายใจขึ้นอีกนิด
ชายหญิงยืนกอดกันอยู่ใต้แสงไฟริมถนนเป็เวลา30นาที เสิ่นิร้องไห้อยู่ 30 นาทีตำรวจจราจรที่มาจัดการเื่ที่จอดรถขวางทางผิดกฎหมายเป็พี่ชายคนหล่อของเซี่ยวอี๋เองหญิงสาวส่งสัญญาณว่าไม่ให้รบกวนพวกเขา
30 นาทีผ่านไป จู่ๆ เสิ่นิก็ผละออกจากเซี่ยวอี๋เขายกมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของตนเอง ท่าทางอันสงบนิ่งคืนกลับมา
“ขอบคุณ” เสิ่นิไม่รู้จะพูดอะไร
“นายดีขึ้นบ้างแล้วใช่ไหม? ไม่ว่าจะเ็ปแค่ไหนวันเวลาจะพามันผ่านไป นี่คือสิ่งที่พ่อฉันสอน อย่างน้อยก็มีข่าวดีน้องสาวของนายยังไม่ตาย องค์กรซากุระร่วงโรยนั้นคืออะไรกันแน่?” เซี่ยวอี๋ยังคงถามต่อไป
“องค์กรมือสังหารที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนมากเป็ชาวญี่ปุ่น พวกเขาทำการลอบสังหารมากกว่า 80% แต่เมื่อ10 ปีที่แล้วคนพวกนี้คงยังไม่ได้ขยายตลาดมาในประเทศ...ไปกัน! กลับบ้าน!”เสิ่นิกล่าวพลางะโขึ้นไปยังที่นั่งผู้โดยสารของ Z4 เซี่ยวอี๋ตามเขาเข้าไปนั่งยังที่นั่งคนขับเธอเหยียบคันเร่งเบาๆ และขับกลับบ้าน
เมื่อยานพาหนะเคลื่อนที่ไปเสิ่นิก็โทร.ไปหาเมาส์ “อย่าพูดเื่ไร้สาระกับฉัน ฉัน้าข้อมูลทั้งหมดของ‘ซากุระร่วงโรย’ รวมถึงสำนักงานใหญ่ของพวกมันด้วย จำนวนคน บอสใหญ่คือใคร?”
“เสิ่นิ คุณไปแตะ ‘ซากุระร่วงโรย’ ไม่ได้” เมาส์ไม่ได้พูดจาไร้สาระเขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“บนโลกใบนี้มีสององค์กรที่ผมจะไม่สอดมือเข้าไปยุ่งหนึ่งคือค่ายนิรวานของคุณ ส่วนอีกแห่งหนึ่งก็คือ ‘ซากุระร่วงโรย’ ”
ประวัติความเป็มาของพวกเขาต้องย้อนกลับไปถึงยุคาญี่ปุ่นในศตวรรษที่14พวกเขาเป็ลูกหลานของนินจา ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะเกิดวิวัฒนาการจนกลายเป็‘ซากุระร่วงโรย’ ในยุคปัจจุบันได้
องค์กรของพวกเขาลึกลับไม่ทราบจำนวนคนที่แน่ชัด นักฆ่าทั้งหมดถูกแบ่งตามระดับชั้น ชั้นต้น ชั้นกลางและชั้นสูง นักฆ่าระดับสูงก็เหมือนกับเหล่านิพพานอย่างคุณ พวกมันคือสัตว์ประหลาดที่เหมือนกับซูเปอร์แมน
ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่เหมือนค่ายนิรวานของคุณ ที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามเครือข่ายต่างๆนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมสามารถล่วงล้ำเข้าไปค้นหาข่าวของนายได้แต่คนกลุ่มนั้นยังคงใช้นกพิราบสื่อสารกันอยู่เลย ผมไม่อาจล่วงรู้ถึงที่ตั้งของสำนักงานใหญ่หรือข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงของพวกมันได้”
“เมาส์ พ่อแม่ฉันถูกพวกมันสังหาร น้องสาวฉันถูกพวกมันจับตัวไป...”เสิ่นิไม่ได้พูดอะไรมาก แค่ประโยคนี้ ฝ่ายตรงกันข้ามก็เงียบเสียงลง
“ผมจะลองคิดหาวิธีดู ขอเวลาผมสักหน่อย” ในสายนั้น เมาส์ยังคงเคาะแป้นพิมพ์เขาเข้าใจเสิ่นิดี ในเมื่อเหตุการณ์มันเกี่ยวข้องกับครอบครัวของตนต่อให้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็ประเทศทั้งประเทศเขาก็จะลบมันออกจากแผนที่ให้ได้ด้วยตัวเอง
10 ปีก็ดี 50 ปีก็ดี ตราบใดที่เสิ่นิยังมีชีวิตอยู่เขาจะไม่มีวันหยุด
5 นาทีผ่านไป สำหรับเมาส์ถือได้ว่าเขาพยายามจนสุดตัวแล้ว“ผมพบเบาะแสของมือสังหารหลายคนแต่พวกเขาล้วนเป็นักฆ่าระดับล่างและระดับกลางทั้งหมดนักฆ่าปลายแถวอย่างพวกเขาไม่มีทางรู้ข้อมูลมากไปกว่าผม ยังไงก็ตามผมเจาะเข้าข้อมูลธุรกรรมล่าสุดบางส่วนของพวกเขาจากเว็บไซต์คำสั่งซื้อพิเศษซึ่งไม่ครอบคลุมในประเทศจีนและประเทศรายย่อยอื่นๆมีใบสั่งหนึ่งเป็งานในประเทศญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็ใบสั่งของพวกชั้นต้นในองค์กรหากคุณมีความสามารถปกป้องเป้าหมายนั้นได้และเอาชนะมือสังหารของพวกมันได้อย่างต่อเนื่องกระทั่งดึงดูดความสนใจของนักฆ่าระดับสูงของพวกมันได้ แต่จะดึงดูดได้มากขนาดไหน?ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณแล้ว”
“ขอบคุณนะ” เสิ่นิกล่าวด้วยความจริงใจ
“ไม่ต้องขอบคุณ ผมคิดเงิน เล่นกับซากุระร่วงโรยถือว่าผมแกว่งเท้าหาเสี้ยนแล้ว” เมาส์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ได้ เท่าไรก็ได้ ว่าราคามาเลย”
“สี่หมื่นหยวน น่าจะพอสำหรับการซื้อตั๋วเครื่องบินสองใบให้คุณกับผู้ช่วยของคุณบินไปที่โตเกียวว่าแต่ คุณจะไปที่นั่นเมื่อไร?” เรียกได้ว่าครั้งนี้เมาส์ใช้อารมณ์ในการทำงาน
“ยิ่งเร็วยิ่งดี”
“มีไฟลท์กลางวันพรุ่งนี้ ผมจองตั๋วให้คุณแล้วตอนนี้กำลังแฮ็คระบบคอมพิวเตอร์ของสถานทูตญี่ปุ่นและยื่นวีซ่าให้พวกคุณอยู่เสิ่นิ เราคบกันมาหลายปี ั้แ่ผมเกิดมา ผมก็มีเพื่อนไม่มากนักไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ คุณห้ามตายเด็ดขาด อยากได้อะไรบอกผม นอกจากเงินแล้วอย่างอื่นก็ไม่ต้องเกรงใจ” เมาส์เสนอตัวด้วยความจริงใจ
“ฉันซาบซึ้งใจ หากครั้งนี้ฉันรอดชีวิตกลับมาได้ ฉันเป็หนี้ชีวิตนาย”เสิ่นิเชื่อว่าเมาส์คือน้องชายของเขาในอดีตชาติ
“ผมส่งรายละเอียดไปในอีเมลของคุณแล้ว ดูเอาเองเถอะ” พูดจบก็วางสายไปทางด้านนี้ รถสปอร์ต Z4 ก็ขับเข้าไปจอดในโรงจอดรถของคฤหาสน์บริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่น
เสิ่นิไม่ลงจากรถเขาตรวจสอบข้อมูลในอีเมลทางโทรศัพท์ ข้อมูลนั้นซับซ้อนมากเมาส์รวบรวมข้อมูลจำนวนมากจากฟอรัมต่างๆ ไม่มีการแบ่งประเภทเสิ่นิอ่านมันอย่างเงียบๆ เซี่ยวอี๋ก็ไม่ได้เร่งให้เขาลงจากรถหญิงสาวแค่นั่งรอเป็เพื่อน ค่ำคืนผ่านไปอย่างเงียบงัน...