ไม่กี่วินาทีต่อมา สวี่ฮุ่ยก็รู้สึกตัว หน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที แล้วปิดประตูเสียงดังปัง เกือบกระแทกจมูกของลู่ฉี่เสียน
ลู่ฉี่เสียนรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย
สวี่ฮุ่ยเขินยิ่งกว่า อยากหายตัวไปจากตรงนี้เสียเดี๋ยวนั้น
เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าเธอจะสงบสติอารมณ์ลงได้ คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกไปจากที่นี่
แต่เสื้อผ้าของเธอตากอยู่บนระเบียงทั้งหมด เธอไม่ควรเดินเปลือยขาออกไปแบบนี้
สวี่ฮุ่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรวบรวมความกล้า เปล่งเสียงขอร้องให้ลู่ฉี่เสียนช่วยไปเก็บเสื้อผ้าของเธอที่ระเบียงแล้วส่งเข้ามาให้
ลู่ฉี่เสียนรีบไปเก็บเสื้อผ้าให้สวี่ฮุ่ยที่ระเบียงทันที
เมื่อเห็นชุดชั้นในของสวี่ฮุ่ย เขาก็ชะงักค้าง
เขาพอจะมองออกจากเสื้อผ้าว่าเด็กสาวคนนี้คงลำบากไม่น้อย แต่ไม่คิดว่าจะขัดสนขนาดนี้
ชุดชั้นในทำจากเศษผ้าก็แย่พอแล้ว ยังมีรอยปะอีก
เด็กสาววัยรุ่นควรสวมชุดชั้นในที่ดี ๆ เพื่อที่จะช่วยส่งเสริมให้หน้าอกได้พัฒนาดีขึ้น
แต่เด็กคนนี้…
ลู่ฉี่เสียนรู้สึกเห็นใจเธอมาก
เขาเก็บเสื้อผ้าของสวี่ฮุ่ยเสร็จแล้วเดินไปตรงหน้าห้องพักแขก เคาะประตูเบา ๆ “ฉันเอาเสื้อผ้ามาให้แล้ว”
สวี่ฮุ่ยขานรับ เปิดประตูเป็ช่องเล็ก ๆ ลู่ฉี่เสียนก็ยื่นเสื้อผ้าเข้าไปในช่องประตู
ไม่กี่นาทีต่อมาหลังสวี่ฮุ่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอกอดเสื้อเชิ้ตของลู่ฉี่เสียนไว้ กำลังจะไปซักที่ห้องน้ำ
ลู่ฉี่เสียนดึงเสื้อออกจากแขนเธอ “เดี๋ยวฉันซักเอง เธอไปเอาหวีในห้องมาหวีผมเถอะ”
สวี่ฮุ่ยใช้นิ้วสางผม มันพันกันยุ่งเหยิง
สวี่ฮุ่ยอยากแย่งเสื้อมาซักเอง “แค่สองตัว แป๊บเดียวก็ซักเสร็จแล้ว ฉันค่อยหวีหลังซักเสร็จก็ยังได้ค่ะ”
“เธอบอกเองนี่ว่าแค่สองตัว ฉันซักเองก็เหมือน ๆ กัน” ชายหนุ่มพูดพลางดันสวี่ฮุ่ยเบา ๆ
แต่สวี่ฮุ่ยจะแย่งคืนให้ได้
ท่ามกลางความชุลมุน ลู่ฉี่เสียนพลั้งมือผลักตรงหน้าอกของสวี่ฮุ่ย
ทั้งสองคนสบตากันอีกครั้ง รู้สึกอึดอัดใจถึงที่สุด
ลู่ฉี่เสียนรีบชักมือกลับราวกับถูกไฟช็อต แล้วหยิบเสื้อที่เปื้อนไปซักในห้องน้ำ
สวี่ฮุ่ยเสียใจจนอยากย้อนเวลากลับไป เธอจะไม่แย่งลู่ฉี่เสียนซักผ้าเด็ดขาด
เธอหันหน้าเข้าหากำแพง ใช้หัวโขกกำแพงไม่หยุด
ลู่ฉี่เสียนซักผ้าด้วยใจสับสน ฝ่ามือที่เผลอจับหน้าอกของสวี่ฮุ่ยยังทิ้งัันุ่มนิ่มไว้ ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
หลังจากซักผ้าเสร็จ เขาเห็นหญิงสาวหันหน้าชนกำแพง ก็อดขำปนสงสารไม่ได้ “พอแล้ว อย่าฝึกวิชาหัวเหล็กเลย รีบไปหวีผม ล้างหน้า แปรงฟัน เดี๋ยวฉนจะไปส่งกลับบ้าน”
สวี่ฮุ่ยรีบหันกลับมา ส่ายหัวรัวเหมือนกลองป๋องแป๋ง สีหน้ายังคงใกลัวเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันกลับเองได้”
เธอไม่อยากอยู่กับลู่ฉี่เสียนอีกแล้วจริง ๆ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์หน้าแตกยับอีก
ลู่ฉี่เสียนยกยิ้ม “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปส่งเธอหรอก พอดีวันนี้ฉันต้องกลับไปที่ตัวอำเภอ เลยจะแวะไปส่งเธอด้วยน่ะ”
เขาพูดมาขนาดนี้แล้ว ถ้าสวี่ฮุ่ยยังปฏิเสธอีกคงดูปั้นปึ่งเกินไป
เธอใช้หวีของลู่ฉี่เสียนหวีผม เปิดก๊อกน้ำรองน้ำบ้วนปาก ล้างหน้า แล้วเดินตามลู่ฉี่เสียนออกจากบ้าน
ที่บ้านลู่ฉี่เสียนมีแปรงสีฟันอันใหม่ เดิมตั้งใจจะให้สวี่ฮุ่ยใช้แปรงสีฟันอันใหม่แปรงฟัน
แต่กลัวเด็กสาวจะยื้อยุดกับเขาจนเกิดอุบัติเหตุจับหน้าอกเมื่อครู่อีก เขาเลยล้มเลิกความคิดนี้ไป
ทั้งสองลงมาที่ชั้นล่างแล้วก็กลายเป็จุดสนใจของบ้านพักพนักงานทันที นี่เป็ครั้งแรกที่พวกเขาเห็นลู่ฉี่เสียนเดินมากับผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่ใช่พี่สาวน้องสาวของตัวเอง
ทุกคนต่างถามลู่ฉี่เสียนว่าสวี่ฮุ่ยเป็ใคร
ลู่ฉี่เสียนอธิบายสั้น ๆ แล้วพาสวี่ฮุ่ยไปที่รถจี๊ป เปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้เธอเข้าไปนั่ง
แล้วเขาก็ขึ้นรถตามไปทีหลัง พอสตาร์ทรถก็ได้ยินเสียง “ปุ!” เหมือนยางรถเหยียบอะไรบางอย่างจนรั่ว
เขาลงจากรถไปตรวจสอบ ที่แท้ก็มีตะปูขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้นตำเข้าไปในยางรถ
เขาพูดกับสวี่ฮุ่ยอย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าเราจะต้องนั่งรถโดยสารทางไกลกลับไปที่ตัวอำเภอแล้วล่ะ”
สวี่ฮุ่ยโล่งอก “งั้นฉันไปก่อนนะคะ” สิ้นเสียงก็ลงจากรถจี๊ป
ลู่ฉี่เสียนเรียกเธอไว้ “ไม่กลับด้วยกันเหรอ?”
สวี่ฮุ่ยจึงจำใจต้องไปกับเขา
ลู่ฉี่เสียน้าไปกับสวี่ฮุ่ยเพราะมีจุดประสงค์หลัก คืออยากพาเธอไปกินซาลาเปาน้ำแกงจี้จี้เหม่ย
เมื่อวานเด็กสาวดูเหมือนจะชอบกินซาลาเปาจี้จี้เหม่ยมาก
เห็นชีวิตของหญิงสาวน่าสงสาร ก็อดนึกถึงเถาเถาไม่ได้
ราวกับว่าการดูแลสวี่ฮุ่ย จะทำให้เถาเถาที่ไม่รู้ว่าอยู่ไหนมีชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งสองยังไม่ทันเดินออกจากบ้านพักพนักงาน ก็เจอกับหลูเจียิ่ที่เพิ่งเลิกงานกะดึก
สายตาไม่เป็มิตร ถึงขั้นดุร้ายของเธอ กวาดมองใบหน้าสวี่ฮุ่ยผ่าน ๆ
แต่เมื่อมองลู่ฉี่เสียนก็เปลี่ยนจากนางั์เป็หญิงสาวแสนอ่อนโยน ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปในพริบตา
เธอยิ้มทักทายลู่ฉี่เสียนด้วยท่าทางสนิทสนม
แต่ลู่ฉี่เสียนไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก เขาเออออส่งๆ สองสามคำก็พาสวี่ฮุ่ยเดินจากไป
เดินทิ้งระยะห่างพอสมควร สวี่ฮุ่ยหันกลับไปมอง เห็นหลูเจียิ่ยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองเธอด้วยสายตาเ็า
สวี่ฮุ่ยรู้สึกว่าลู่ฉี่เสียนสร้างศัตรูให้เธอแต่เช้าเลย
หลูเจียิ่เดินกระฟัดกระเฟียดกลับบ้าน แม่ของเธอทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว มีโจ๊กข้าวขาว ผักดอง และเมี่ยนปิ่ง[1] นุ่ม
ครอบครัวสามคนนั่งลงกินข้าว
แม่หลูเจียิ่เห็นลูกสาวสีหน้าไม่สู้ดี ถามว่า “ิ่ิ่ เป็อะไรไป? ที่ทำงานมีใครทำให้ลูกไม่พอใจหรือเปล่า?”
หลูเจียหง ลูกสาวคนเล็กมองหลูเจียิ่แล้วซดโจ๊กข้าวขาว พลางพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ใครกล้าทำให้พี่สาวฉันไม่พอใจ? พ่อฉันเป็วีรชนนะ!”
แม่ของหลูเจียิ่ถอนหายใจ “ถึงพ่อลูกจะเป็วีรชน แต่พี่สาวลูกจบแค่ชั้นมัธยมต้นก็ได้บรรจุในกรมตำรวจ ลูกคิดว่าไม่มีใครอิจฉาเหรอ?”
สิ่งที่หลูเจียิ่ไม่อยากพูดถึงที่สุดก็คือเื่นี้
ที่ทำงานมีคนนินทาเธออยู่ตลอดว่าเธอไม่เก่งทั้งบู๊และบุ๋น อาศัยเืเนื้อของพ่อมาหากินในหน่วยงาน
เธอพูดขัดแม่อย่างหงุดหงิด “ไม่มีใครทำให้หนูไม่พอใจหรอก เมื่อกี้ตอนกลับมา หนูแค่เจอพี่อาเสียนอยู่กับนางจิ้งจอกตัวหนึ่ง”
หลูเจียหงฉีกเมี่ยนปิ่งนุ่มครึ่งชิ้น ยัดเข้าปากแล้วพูดว่า “หนูกับแม่รู้มานานแล้ว เมื่อกี้ยังแอบเอาตะปูดอกใหญ่ไปวางไว้ที่ล้อรถพี่ลู่ด้วยล่ะ ขอแค่เขาสตาร์ทรถจี๊ป รับรองว่ายางต้องแตกแน่ ฮ่า ๆ! นี่คือบทเรียนที่เขาอยู่กับนางจิ้งจอกนั่น!”
แม่ของหลูเจียิ่ใช้ตะเกียบเคาะแขนลูกสาวคนเล็ก “ลูกโง่ ทำแบบนั้นได้ยังไง? ถ้าพี่อาเสียนรู้เข้า ยิ่งทำให้เขาไม่อยากใกล้ชิดกับบ้านเราเหรอ? ทำลายเื่ดี ๆ ของพี่สาวแกชัด ๆ!”
หลูเจียหงไม่พอใจ “พ่อก็เสียไปตั้งสี่ปีแล้ว ั้แ่สี่ปีก่อนจนถึงตอนนี้พี่ก็ยังจีบพี่อาเสียนไม่ติด แม่กลับมาโทษว่าฉันทำลายเื่ดี ๆ ของพี่เนี่ยนะ!”
หลูเจียิ่ถลึงตาใส่เธอ “เธอจะรู้อะไร! ในใจพี่อาเสียนมีคนอื่นอยู่แล้ว เขาไม่ได้อยากมีแฟนสักหน่อย เธอจะให้ฉันจีบเขายังไง?”
หลูเจียหงหัวเราะเยาะ “ในใจมีคนอื่น? ไม่อยากมีแฟน? แล้วทำไมถึงให้นางจิ้งจอกนั่นไปนอนที่บ้านเขาเมื่อคืนล่ะ? หนูว่านะ ไม่ใช่พี่อาเสียนไม่อยากมีแฟนหรอก แต่ไม่อยากมีแฟนเป็พี่มากกว่า!”
คำพูดแทงใจดำของเธอทำให้หลูเจียิ่เ็ป
เธอทำหน้าบึ้ง กินเมี่ยนปิ่งเงียบ ๆ
หลูเจียหงกินอาหารเช้าไปเรื่อย ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าฉันเป็พี่ ฉันคงยอมแพ้หรือไม่ก็ทำให้ข้าวสารกลายเป็ข้าวสุกไปเลย ยังต้องกลัวพี่อาเสียนไม่รับผิดชอบอีกเหรอ?”
แม่ของหลูเจียิ่ใช้ตะเกียบเคาะเธออีกครั้ง พูดอย่างโมโห “พูดจาเหลวไหลอะไร?”
แต่พอยกโจ๊กขึ้นมากิน ก็เอาแต่นึกถึงคำพูดของลูกสาวคนเล็ก
[1] เมี่ยนปิ่ง หมายถึง ขนมปังแบบจีน ทำจากแป้งผสมเครื่องปรุง เช่นต้นหอมซอยหรือไม่ก็เป็เปล่าๆ ยัดไส้ไว้ตรงกลางแล้วเอาลงจี่ในกะทะ