จางเหล่ยมองหญิงสาวที่ตนเพิ่งลักพาตัวมาด้วยอารมณ์ขบขัน ทั้งที่ตอนนี้อยู่ในห้องนอนไม่มีที่ให้ซุกซ่อน แต่นางก็ยังวิ่งหนีเข้าไปซ่อนอยู่ข้างมุมห้องจนได้ คงคิดว่าอยู่ตรงนั้นแล้วจะรอดพ้นจากเงื้อมมือเขาไปได้
ชายหนุ่มอดหลุดขำออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นดวงตาดวงตากลมโตที่มองมายังเขา ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความหวาดระแวง และแฝงคำด่าทออยู่ในเวลาเดียวกัน
มองดูแล้ว นางช่างเหมือนลูกแมวตัวน้อยยิ่งนัก
ลูกแมวน้อยที่พยายามพองขนขู่ศัตรูให้กลัว แต่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น ช่างดูน่ารักชวนให้เข้าไปขยำขนปุย ลูบหัวลูบหางเล่นเสียมากกว่า
"ซินซินมานั่งนี่ก่อนเถอะ"
"คุณชายสวี่พาบ่าวกลับเรือนเถิดเ้าค่ะ หากคุณชายสามทราบว่าบ่าวหายตัวไป จะต้องเป็เื่ใหญ่แน่" หลานซินเลือกจะยืนอยู่มุมห้องไม่ขยับไปตามเสียงเรียก ขณะดวงตาส่ายสำรวจว่าถูกพามาที่ใดกันแน่
แม้จะอยู่ในความมืดตอนถูกพาลงยืนบนพื้นดิน แต่หลานซินมองออกว่าสถานที่ที่เขาพานางมา หาใช่จวนตระกูลสวี่ เพราะหากเป็ที่นั่นนางย่อมรู้จักและเคยไปมาก่อน แต่ที่แห่งนี้นางกลับไม่เคยมาสักเพียงครั้ง
"มานั่งเถอะ เดี๋ยวถึงเวลาข้าต้องพากลับอย่างแน่นอน ส่วนเื่อาเจียงก็ไม่ต้องห่วง ข้าช่วยพูดให้ก็สิ้นเื่แล้ว" จางเหล่ยลุกขึ้นเดินเข้าหาหญิงสาว จับรวบไหล่มนดันให้นางมานั่งยังเก้าอี้
แม้ร่างบางจะมีขัดขืนอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมมานั่งแต่โดยดี เมื่อเขาทำท่าจะอุ้มนางขึ้นอีกครั้ง
"คุณชายสวี่พาบ่าวมาที่นี่ทำไมเ้าคะ" หลานซินไม่เข้าใจว่าคุณชายสวี่ผู้นี้แท้จริง้าสิ่งใดจากสาวใช้อย่างนางกันแน่ ไม่เพียงฉวยโอกาส ยังลักพาตัวนางมาด้วยเช่นนี้
"เมื่อครู่เ้าเสียงดัง ทำให้ข้าใ เลยทำอันใดไม่ถูก"
หัวคิ้วเรียงสวยขมวดเข้าหากันในทันที หลังได้ยินคำตอบไร้สาระจากชายหนุ่ม เขากำลังจะบอกว่าที่พานางมาที่นี่ เพราะนางเสียงดังทำให้เขาใหรือ
ก็เขาทำลุ่มล่ามลวนลามเช่นนั้น จะไม่ให้นางใเสียงดังได้อย่างไร
หลานซินมองเพ่งพินิจชายหนุ่มตรงหน้า ไม่รู้ั้แ่เมื่อไหร่ที่เขาคอยมาวนเวียนวุ่นวายในชีวิต ทั้งที่นางเป็เพียงแค่สาวใช้ของสหายเขาเท่านั้น ผิดวิสัยคุณชายคนอื่นทั่วไปที่เคยพบเจอนัก
"ไม่ต้องกลัว พอข้าหายใแล้วจะพาเ้าไปส่งเอง" มุมปากจางเหล่ยลอบยกยิ้มเ้าเล่ห์ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่คิดจะดื้อร้นอีก แม้สายตายังเต็มไปด้วยความหวาดระแวงอยู่ แต่พอเขารินน้ำชาให้ดื่ม นางก็ยกขึ้นดื่ม
ใจจริงหลานซินอยากจะเถียงว่านางขอเดินกลับเองก็ได้ ไม่ต้องรอให้เขาไปส่ง แต่เพราะตอนนี้นางไม่รู้ว่ากำลังอยู่ตรงไหนของเมืองหลวงแสนกว้างใหญ่ ทั้งเวลานี้ยังเป็คืนเดือนมืด คาดเดาเส้นทางได้ยาก นางจึงทำได้แต่นั่งนิ่งเงียบด้วยความไม่ยินยอม
"ให้คนอื่นมาใช้ห้องเ้าทำเื่เช่นนั้นได้อย่างไร"
"เ้าคะ อ่อ บ่าวไม่ใช่คนคิดอันใดมากเ้าค่ะ"
"ไม่คิดมาก หรือคิดคำนวณไว้หมดแล้วกันแน่"
ริมฝีปากบางอดจะเม้มเข้าหากันไม่ได้ เมื่ออีกฝ่ายรู้ทันว่านางกำลังทำสิ่งใด แต่เมื่อคิดได้ว่า ถึงเขาจะรู้แล้วจะทำอันใดนางได้ เพราะเขามิใช่เ้านายนาง ย่อมไม่มีสิทธิ์สั่งห้ามหรือลงโทษ ใบหน้าสวยจึงเชิดขึ้นด้วยความมั่นใจ
"คุณชายสวี่คงหายใแล้ว น่าจะไปส่งบ่าวได้แล้วนะเ้าคะ"
"เ้ายังไม่ปลอบประโลมข้าเลย จะให้ข้าหายใได้อย่างไร"
คิ้วเรียงสวยจากแค่ขมวดเข้าหากัน ตอนนี้เริ่มจะผูกแน่นจนยากจะคลายออกได้ หลังจากได้ยินเื่ไร้สาระที่ออกมาจากปากชายหนุ่มอีกครั้ง
ปลอบประโลม เหตุใดต้องให้นางปลอบประโลม
"จะทำอันใดเ้าคะ" ร่างบางเอียงกายหนี เมื่อร่างหนาอ้าวงแขนออกกว้างคล้ายเด็ก้าให้มารดาโอบกอด
หญิงสาวยังเต็มไปด้วยความหวาดระแวงในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ยอมตอบว่าจะทำสิ่งใด ทำเพียงพยักหน้าขึ้นลงคล้ายกำลังเรียกนางให้เข้าไปหา ทำให้หลานซินจำต้องอยู่ในท่าเก้ ๆ กัง ๆ ลังเลว่านางจะถอยหนี หรือเข้าไปหาเขาดี
ใบหน้าหล่อเหล่าประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างอีกครั้ง เมื่อร่างบางค่อย ๆ ตอบรับ เคลื่อนกายเข้ามาให้เขากอด แม้ทั้งร่างจะเต็มไปด้วยแรงแข็งขืนก็ตามที
ร่างหนาโอบกอดหญิงสาวไว้แน่นด้วยสองลำแขน เขาดึงร่างบางที่ยังลังเลจนแนบชิดแผงอกกว้าง ใช้ปลายคางกดไว้พอดีกับศีรษะเล็ก ไม่ให้นางถดกายหนีออกได้
หลานซินไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ว่าเหตุใดนางถึงยอมให้ชายหนุ่มโอบกอด ทว่ากว่านางจะรู้สึกตัว ทั้งกายก็จมอยู่ภายใต้วงแขนเขาจนยากจะหลีกหนีเสียแล้ว
หญิงสาวจากดิ้นร้นอยู่ ๆ ก็ยอมหยุดนิ่งไม่ขยับ หลังได้สูดดมกลิ่นกายหอมจากร่างหนา เป็กลิ่นกายที่พาให้หัวสมองนางรู้สึกปลอดโปร่ง
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ทามกลางป่าไผ่สุขสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนไม่อยากถอยหนี กระทั่งนางกลายเป็ฝ่ายฝั่งหน้าแนบชิดกับแผงอกแกร่งเองโดยไม่รู้ตัว
หลานซินหลุดจากการควบคุมอย่างไม่เคยเป็ ฝ่ามือเรียวขาวเริ่มลูบผ่านแผ่นหลังกว้าง ดั่งปลอบประโลมเด็กน้อยไม่ให้ตื่นกลัว ทั้งที่ดวงตายังหลับพริ้มเคลิบเคลิ้มกับกลิ่นกายของชายหนุ่ม
"ชอบหรือ"
"อืมม ชอบมาก" ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบยันกายถอยออกจากชายหนุ่มอย่างรวดเร็วในทันที หลังนางหลุดปากตอบรับเขาไปอย่างลืมตัว
"ไม่เ้าค่ะ ไม่ชอบ"
จางเหล่ยอมยิ้มในปฏิกิริยาตอบรับของหญิงสาว ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงก่ำ ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น แสดงออกว่านางกำลังเขินอายถึงขีดสุด
เป็สีหน้าที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ช่างดูน่ารักน่าเอ็นดูมากนัก ชวนให้หัวใจรู้สึกคันยุบยิบแบบประหลาด
มือเรียวยื่นเข้าหาจับใบหน้าหญิงสาว ใช้นิ้วโป้งยาวเกลี่ยพวงแก้มเนียนนุ่มไปมา โดยไม่สนั์ตาดอกท้อที่กำลังมองเขาด้วยความหวาดระแวง ใบหน้าชายหนุ่มยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มละมุนไม่จาง
หลานซินนั่งหลังตรงนิ่งแข็ง เมื่อถูกััอ่อนโอนจากชายหนุ่ม เป็ััที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต จนนางโอนอ่อนตามแรงดึงของร่างหนา ให้เข้าไปแนบชิดใกล้กับเขาอีกครั้ง
ดวงตากลมโตหลับสนิท หลังจากถูกนิ้วเรียวเชยปลายคางขึ้น หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นรัวกระหน่ำ เมื่อคาดเดาได้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนี้
ทว่าหลานซินเกร็งริมฝีปากรออยู่นาน แต่กลับไม่เกิดอันใดขึ้น สุดท้ายจำต้องยอมเปิดดวงตามองว่าเขา้าทำสิ่งใดกันแน่
"ทำไม คิดว่าข้าจะจูบเ้าหรือ"
"ไม่ใช่สักหน่อย ปล่อยบ่าวได้แล้วเ้าค่ะ" ดวงหน้าขาวร้อนผ่าวขึ้นในทันที เมื่อถูกอีกฝ่ายจับความคิดได้
"เ้าคิดถูกแล้ว" จางเหล่ยไม่ปล่อยให้ร่างบางได้สะบัดใบหน้าหนี ฝ่ามือร้อนจับประคองท้ายถอยเล็กให้ใบหน้าสวยเงยขึ้น ก่อนจะจรดริมฝีปากร้อนมอบจุมพิตหวานล้ำให้แก่หญิงสาว
จางเหล่ยไม่ละโมบจนเกินไป เขาค่อย ๆ ละเลียดชิมริมฝีปากบาง ขบกัดปากล่างให้หญิงสาวได้คุ้นชินััจากเขา จากนั้นถึงเริ่มสอดเรียวลิ้นร้อนเข้าโพรงปากหวาน กวาดสำรวจจนถ้วนทั่วด้วยความชำหนิชำนาญ
แม้จะรู้สึกแปลกใจในตนเอง แต่หลานซินกลับยอมมอบจุมพิตแรกในชีวิตให้แก่ชายหนุ่มอย่างง่ายดาย ดวงตากลมโตหลับพริ้ม ดื่มด่ำกับรสจูบละมุน ริมฝีปากบางเผยอออกตอบรับเรียวลิ้นร้อน ปล่อยให้ปลายลิ้นสากกวาดลัดเลาะผ่านแนวฟัน หลงมัวเมากับรสจูบเร่าร้อนที่เขานำพา
"อื้อออ อืออ" หัวสมองหญิงสาวมึนเบลอคล้ายไม่เป็ตัวเอง ปล่อยให้ร่างหนา่ชิงลมหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า จนมุมปากเปียกชื้นไปด้วยน้ำใสที่ผลัดกันแลกเปลี่ยนจากริมฝีปากร้อน
"อื้มม เป็การปลอบที่ดียิ่งนัก" จางเหล่ยชิมริมฝีปากหวานจนพอใจ ถึงยอมปล่อยให้หญิงสาวได้เป็อิสระ
ชายหนุ่มจรดริมฝีปากร้อนบนหน้าผากมนอีกครั้ง ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวช่วยเช็ดคราบน้ำใสข้างมุมปากให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน จากนั้นถึงช้อนอุ้มร่างบางที่ดูสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไปส่งถึงภายในห้องนอนของนาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้