เมื่อเผชิญหน้ากับราชันหั่วยวินเยาที่สูงเกือบสี่เมตร ร่างของเย่เฟิงก็ดูราวกับเด็กน้อย กระบี่เจินชี่สีเขียวเข้มในมือดูราวกับของเด็กเล่นที่ไม่อาจทำอันตรายฝ่ายตรงข้ามได้
หลังจากพลังถึงระดับยี่สิบปี กระบี่เจินชี่ของเขาก็ยังคงสีเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จากเมื่อครั้งก่อนที่เปลี่ยนจากสีฟ้า สีน้ำเงิน สีม่วง แต่ไม่เปลี่ยนสีหลังจากมีระดับพลังยี่สิบปีแล้ว คาดว่าสีของกระบี่คงจะเปลี่ยนอีกครั้งหลังจากมีระดับพลังยี่สิบห้าปีหรือไม่ก็สามสิบปี แน่นอนว่าสีของกระบี่จะเปลี่ยนหรือไม่ก็ไม่ต่างกันมากนัก เพราะความคมของกระบี่ในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว แม้ต้องเผชิญหน้าและโจมตีราชันหั่วยวินเยา ความคมของกระบี่เจินชี่ก็เพียงพอที่จะแทงร่างของอีกฝ่ายได้แล้ว
“เย่เฟิง...”
สามสาวหลบหลังยอดเขาที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เมื่อเห็นว่าเย่เฟิงปรากฏตัวข้างราชันหั่วยวินเยากะทันหัน ก็อดตื่นตระหนกกังวลใจไม่ได้ หากเกิดเื่ไม่คาดฝันแล้วพวกเธอจะทำอย่างไร?
ก่อนหน้านั้นพวกเธอฟังที่เย่เฟิงเล่า ราชันหั่วยวินเยามีระดับพลังหนึ่งร้อยปีเท่ากับอาจารย์ของเขาเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้เมื่อได้เห็นมันตรงหน้า แม้จะไม่ได้รู้สึกถึงความแข็งแกร่งมากอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ก็ไม่อาจประมาทได้
เย่เฟิงพุ่งเข้าไปหาศัตรูเช่นนั้น จะไม่เป็อะไรเหรอ?
เย่เฟิงอาศัยวิชากระบี่ไร้ตัวตน ปรากฏตัวตรงหน้าราชันหั่วยวินเยาในฉับพลัน แววตาแน่วแน่และทรงพลัง ทั้งยังเฉียบคมดุจดังใบมีด เขาเงยหน้ามองราชันหั่วยวินเยา
“ไอ้สวะ กล้ามาขวางราชันหั่วยวินเยาอย่างข้าเหรอ!”
ราชันหั่วยวินเยาคำรามเสียงดังสนั่น เปลวเพลิงบนร่างลุกโชนต่อเนื่อง อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเสื้อเชิ้ตสีดำของเย่เฟิงก็เริ่มถูกเผาไหม้ไปด้วย
เปรี๊ยะๆ~ เกิดประกายไฟบนร่างเย่เฟิง ความร้อนที่ราชันหั่วยวินเยาแผ่ออกมาทำให้เย่เฟิงไม่อาจทนไหว ราวกับร่างกายอยู่ท่ามกลางหินหนืดใต้เปลือกโลก ผ่านไปสักพักอุณหภูมิโดยรอบก็พุ่งสูงจนแทบละลาย
“หลบไป!”
เมื่อซูเฟยหยิ่งเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบรัด แขนเสื้อสีขาวโบกสะบัดตามลม มือคู่สวยสะบัด ปรากฏเส้นไหมขาวดังหิมะสองเส้น ส่งกลิ่นอายความเย็นะเื เส้นหนึ่งช่วยดึงเย่เฟิงกลับมา ส่วนอีกเส้นพุ่งหาราชันหั่วยวินเยาเพื่อดึงดูดความสนใจ
ในสายตาของซูเฟยหยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าตอนนี้เย่เฟิงยังไม่อาจต่อกรกับราชันหั่วยวินเยาได้ ทว่าเย่เฟิงกลับขบกรามแน่น เขาไม่สนใจการช่วยเหลือของซูเฟยหยิ่ง ชายหนุ่มโคจรพลังชี่ไปทั่วร่างอีกครั้ง ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมรอบกายทันที ในสายตาของเย่เฟิงปรากฏช่องว่างระหว่างมิติขึ้น
กระบี่ไร้ตัวตน!
เมื่อราชันหั่วยวินเยาหันไปรับมือเส้นไหมสีขาวของซูเฟยหยิ่ง เย่เฟิงก็เปิดฉากโจมตีทันที ร่างของเขาอันตรธานไปกลางอากาศ จากนั้นปรากฏลำแสงกระบี่ฟาดฟันทั่วร่างของราชันหั่วยวินเยาครั้งแล้วครั้งเล่า
เวลานี้เย่เฟิงอยู่ในอีกมิติทำให้การโจมตีใดๆ ไม่มีผลต่อเขา ไม่ว่าใครก็ไม่อาจโจมตีเขาได้ มีเพียงเขาที่สามารถโจมตีอีกฝ่าย
เมื่อรำกระบี่ไร้ตัวตนปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งราชันหั่วยวินเยาและซูเฟยหยิ่งที่กำลังปะทะกันก็ตกตะลึง
ซูเฟยหยิ่งถึงกับใจเต้นกระหน่ำ เมื่อเห็นการโจมตีแสนร้ายกาจของเย่เฟิง มือขาวรีบดึงเส้นไหมสีขาวกลับ ก่อนใช้วิชาเซียนออกมา
วิชาเซียน ผนึกเจ็ดดวงดาว!
ต้องมีระดับพลังห้าสิบปีขึ้นไปจึงจะสามารถใช้เคล็ดวิชานี้ได้ มันเป็เคล็ดวิชาสืบทอดของสำนักสุสานดวงดาว ซูเฟยหยิ่งเชี่ยวชาญในการใช้มันมาก ทันใดนั้นลำแสงเจ็ดดวงดาวก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า สีน้ำเงินเปล่งประกายราวกับแม่น้ำทั้งเจ็ดสาย ดวงดาวทั้งเจ็ดพุ่งเข้าหาราชันหั่วยวินเยาก่อนพันธนาการร่างของเขาเอาไว้
“แม่นางน้อย พันธนาการฉันไว้คิดว่าจะมีประโยชน์เหรอ!”
ราชันหั่วยวินเยาไม่ได้สังเกตการเคลื่อนไหวของเย่เฟิง เขาจึงไม่รู้ว่าชายหนุ่มสามารถใช้กระบวนท่ากระบี่ไร้ตัวตนได้ เขาคิดว่าคงเป็เพียงปราณกระบี่ธรรมดาไม่กี่กระบวนท่า
ในความคิดของเขา ซูเฟยหยิ่งเป็ภัยคุกคามมากกว่าเย่เฟิง จึงไม่สนใจปราณกระบี่ที่รายล้อมรอบตัว เขาจำเป็ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อหลุดพ้นจากผนึกเจ็ดดวงดาวให้ได้เสียก่อน ด้วยระดับพลังที่แข็งแกร่งของเขา ซูเฟยหยิ่งไม่อาจพันธนาการเขาได้นานนัก แต่หากเขาอยากหลุดจากพันธนาการนี้ก็จำเป็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร ซึ่ง่เวลาเ่าั้ก็เพียงพอที่เย่เฟิงจะใช้รำกระบี่ไร้ตัวตนจัดการเขาได้
เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
ร่างของเย่เฟิงแวบผ่านไปมา พร้อมกับปราณกระบี่ฟาดฟันร่างของศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่าในช่องว่างระหว่างมิติ ร่างของราชันหั่วยวินเยาถูกปราณกระบี่ฟาดฟันอย่างรวดเร็วทั้งหมดสิบสามครั้ง
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ราชันหั่วยวินเยาโคจรพลังชี่ออกมาเป็โล่วงกลมสีแดงเพลิงเพื่อเป็เกราะคุ้มกาย ซึ่งช่วยต้านทานปราณกระบี่ของเย่เฟิงได้อย่างน้อยสามครั้ง ทว่าปราณกระบี่อีกสิบครั้งที่ตามมาอย่างต่อเนื่องทั้งรุนแรงและดุดัน ความคมของปราณกระบี่ราวกับเป็กระบี่ที่คมกริบที่สุดในโลก ทำได้แม้กระทั่งตัดผ่านโล่วงกลมสีแดงเพลิงของราชันหั่วยวินเยา
“นี่มันเื่อะไรกัน?” ฉับพลันนั้นราชันหั่วยวินเยาก็ตอบสนอง เปลวเพลิงบนร่างพลันเกิดความผันผวน จนเขาคำรามเสียงดัง “บังอาจนักไอ้สวะ!”
เขาที่ท่องอยู่ในโลกเทวะมาหลายทศวรรษยังไม่เคยต้องาเ็เพราะเด็กหนุ่มเช่นนี้มาก่อน แต่ตอนนี้โล่จากพลังชี่ของเขากลับถูกเด็กหนุ่มทำลายจนสิ้น แม้จะเป็เพียงร่างภาชนะ... แต่สำหรับราชันหั่วยวินเยาแล้ว ถือเป็เื่น่าอัปยศอย่างยิ่ง
เพียงชั่วครู่เขาก็รับรู้ถึงภัยคุกคามจากเย่เฟิง แต่ถึงจะตระหนักได้ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว ภายใต้การกักขังโดยผนึกเจ็ดดวงดาวของซูเฟยหยิ่ง ร่างใหญ่โตของราชันหั่วยวินเยาไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย และหากเขา้าหลุดพ้นจากผนึกสีน้ำเงินนี่ก็จำเป็ต้องใช้เวลาสักหน่อย
ปราณกระบี่นับสิบสายพุ่งทำลายโล่สีแดงเพลิงจากพลังชี่ของฝ่ายตรงข้ามอย่างดุดันและรวดเร็ว เมื่อโล่ถูกทำลาย ร่างสูงใหญ่เกือบสี่เมตรของราชันหั่วยวินเยาก็ถูกปราณกระบี่กระหน่ำใส่อย่างต่อเนื่อง
แขน ไหล่ หน้าอก แผ่นหลัง ขา และจุดสำคัญอีกหลายจุดทั่วร่างกายของราชันหั่วยวินเยา ล้วนปรากฏรอยแผลที่เกิดจากปราณกระบี่นับสิบจุดในเวลาชั่วพริบตา
“กระบี่สุดท้าย!”
ทันใดนั้นร่างของเย่เฟิงก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับปราณกระบี่ ก่อนฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามอย่างรุนแรงและรวดเร็วดุจอสนีบาต โดยเล็งไปยังลำคอของราชันหั่วยวินเยา
ขณะนี้ราชันหั่วยวินเยาเ็ปจากาแทั่วร่าง ทำให้มีปฏิกิริยาโต้ตอบช้าลง จนไม่อาจต่อต้านคมกระบี่ของเย่เฟิงที่ฟาดฟันเข้าใส่
ฉัวะ!
ลำแสงสีเขียวของปราณกระบี่ตวัดผ่านลำคอของราชันหั่วยวินเยา พร้อมหัวของอีกฝ่ายหลุดลอยออกจากบ่า!
หัววัวที่มีเขาอันสง่างามทั้งสี่และมีเปลวเพลิงลุกโชนลอยไปทางสามสาวที่อยู่ไม่ไกล ดวงตาวัวที่ประดับบนหัวอันใหญ่เทอะทะราวกับระฆังใหญ่ทำให้หญิงสาวทั้งสามตื่นใ
กึก
เย่เฟิงร่วงจากกลางอากาศลงมายืนอยู่บนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง เสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนบนตัวของเขาถูกไฟเผาไหม้จนแทบไม่เหลือชิ้นดี ทำให้เขาดูราวกับเพิ่งหนีรอดมาจากกองเพลิง
ร่างสูงใหญ่ของราชันหั่วยวินเยาค่อยๆ ทรุดลงไปเป็กองเพลิงอยู่เื้ัเย่เฟิง ดูราวกับตึกขนาดใหญ่ค่อยๆ พังทลายช้าๆ ขณะทรุดลงไปกองที่พื้น เกาะทั้งเกาะก็ดูเหมือนเกิดการสั่นะเื
“ระวังตัวนะทุกคน”
ตอนที่เย่เฟิงและสามสาวรู้สึกโล่งใจ ซูเฟยหยิ่งกลับรู้สึกตื่นตัว สายตาเ็ากวาดมองเย่เฟิงและร่างของราชันหั่วยวินเยาที่อยู่เื้ัชายหนุ่ม
หลังจากร่างของราชันหั่วยวินเยาทรุดลงบนพื้น เปลวเพลิงบนตัวของมันกลับไม่มอดดับเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับลุกโชนขึ้นมาอย่างน่ากลัว!
“นี่เป็เพียงร่างหยางเสินแปลงกายของราชันหั่วยวินเยาเท่านั้น ระวังมันอาจะเิตัวเอง”
ซูเฟยหยิ่งรีบเตือนเย่เฟิงทันที พร้อมกับโบกมือขาวส่งเส้นไหมสีขาวราวหิมะออกไปอย่างรวดเร็ว ล้อมรอบหัววัวขนาดั์และโยนมันไปกลางทะเล
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ตอบสนองในทันที ทว่าทันทีที่เท้าของเขาเคลื่อนไหว เื้ัก็เกิดเสียงะเิรุนแรง!