“เธอให้คนอื่นเห็นเธอในชุดนี้”
น้ำเสียงหลากหลายอารมณ์ของเขาดังขึ้นยังไม่ทันทีู่เี่อันจะนึกสงสัยว่าเขาหึงหรือเปล่าลู่เป๋าเหยียนก็ก้มลงมาเรียวปากเธอซะแล้ว
ััอุ่นร้อนที่ประทับลงมาลมหายใจถี่ที่รดลงบนใบหน้า ในไม่ช้าััทั้งหมดก็ครอบงำความรู้สึกของเธอไว้จนหมด
ราวกับว่านอกจากััของเขา เธอไม่อาจรับรู้ััอื่นๆ ได้อีกต่อไป
ตอนแรกเขาแค่จูบเพื่อลิ้มรสอ่อนหวานอย่างแ่เบาแต่ผ่านไปสักพักเขาก็เริ่มไม่พอใจเพียงแค่นั้น และรั้งตัวเธอเข้าไปในอ้อมกอดก่อนจะจูบอย่างดูดดื่ม
ูเี่อันเริ่มเจ็บริมฝีปากขึ้นมานิดๆแต่ลมหายใจของเขาที่รดอยู่ตรงใบหน้าเธอ ทำให้ลืมความเ็ปไปจนหมดเธอเผยอเรียวปากเพื่อต้อนรับััของเขาด้วยตัวเอง
การกระทำดังกล่าวของเธอทำให้ลู่เป๋าเหยียนแย้มยิ้มอย่างพอใจ เขาค่อยๆ จูบเธออย่างหนักหน่วงมือที่โอบเอวเธออยู่ก็ค่อยๆ เลื่อนขึ้นสูงเรื่อยๆ
ูเี่อันเพิ่งได้รู้ว่าการจูบช่างเป็ััที่แสนวิเศษยามดุดันก็เหมือนพายุที่พัดผ่าน แต่ขณะเดียวกันก็สามารถอ่อนโยนดั่งสายน้ำไหลพละกำลังของเธอเหมือนกับถูกััของเขาดูดซับเสียจนหมดสิ้นเธอทำได้แค่เพียงกอดเขาเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้
ลู่เป๋าเหยียนกระชับอ้อมกอดของตนไว้แน่นและเริ่มจูบอย่างดูดดื่มมากขึ้นเรื่อยๆ ูเี่อันชักจะหน้าแดงขึ้นมาอย่างอายๆ...การทำแบบนี้เหมือนประเคนตัวเองให้เขาชัดๆ
แต่ก่อนที่เธอจะดิ้นออกจากวงแขนเขาก็ผลักเธอให้ล้มลงไปบนเตียง และทาบทับลงมา
“ลู่เป๋าเหยียน...” ูเี่อันพูดอย่างใ
เธออยากจะเอ่ยคำปฏิเสธแต่ทำยังไงก็พูดไม่ออก
“หืม?”นิ้วเรียวของเขาลูบไล้ริมฝีปากเธอก่อนถาม “มีอะไร”
“นาย...”ูเี่อันกลืนน้ำลายพลางรู้สึกว่าเรียวปากของเธอในวันนี้ช่างไวต่อความรู้สึกเหลือเกิน
“นาย...”
ลู่เป๋าเหยียนจ้องมองเธอพลางคิดว่าจะแกล้งเธออย่างไรต่อดีแต่โทรศัพท์ในห้องทำงานกลับดังขึ้นเสียก่อน
ูเี่อันจึงใช้โอกาสนี้ผลักเขาให้ออกห่างก่อนพูดเตือน
“ผอ.ลู่นี่เป็เวลางานของคุณนะคะ”
ลู่เป๋าเหยียนขบกัดเรียวปากบางก่อนจะกระซิบลงที่ข้างหู
“ถ้ายังไม่เปลี่ยนชุดก็ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น”
ูเี่อันมองประตูห้องที่ปิดลงก่อนจะลุกออกจากเตียงเดินไปที่ริมหน้าต่าง สายรุ้งงามยังคงพาดผ่านฟ้าใสดังเดิม
นี่ไม่ใช่ความฝันการที่เธอได้อยู่กับเขานั้นเป็เื่จริงที่สวยงามเหลือเกิน
หลังเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดเดิมของตนและจัดเตียงนอนให้เรียบร้อยแล้วก็ใกล้ถึงเวลาเลิกงานพอดี
ตอนนี้คงไม่มีใครอยู่ออฟฟิศของลู่เป๋าเหยียนแล้วล่ะมั้ง?
ูเี่อันค่อยๆเดินออกไปอย่างระมัดระวัง ลู่เป๋าเหยียนถือกระเป๋า CELINE ของเธอเดินมาพอดีเธอรับกระเป๋ามาสะพายก่อนถาม
“พวกเราจะกลับบ้านกันเลยหรือเปล่า”
“เธออยากจะไปไหน?”ลู่เป๋าเหยียนถาม
ูเี่อันอยู่นิ่งๆมาตั้งหลายวัน เธออยากจะออกไปเดินเล่นใจจะขาด แต่เมื่อมองลู่เป๋าเหยียนเธอก็ส่ายหน้า
“ช่างเถอะนายคงไม่ชอบ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ว่าอะไรเขาพาเธอลงไปชั้นล่าง ซึ่งอาเฉียนได้เตรียมรถไว้แล้วลู่เป๋าเหยียนพูดอะไรกับเขานิดหน่อยก่อนที่อาเฉียนจะพยักหน้าและยื่นกุญแจรถให้กับเขา
ูเี่อันมองอย่างงงๆลู่เป๋าเหยียนเหนื่อยกับงานมาทั้งวันแล้ว เขายังอยากจะเป็คนขับรถอีกเหรอ
แต่ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้เข้าไปนั่งในที่นั่งคนขับเขาเดินกลับมาหาเธอก่อนจะยื่นกุญแจรถให้
“เธอขับอยากไปไหนก็ได้ ตามใจเธอ”
ูเี่อันพยายามไม่ดีใจจนออกนอกหน้ามากนักและถามย้ำอย่างไม่อยากเชื่อ
“นายจะไปเป็เพื่อนฉัน?”
“อืมฉันจะไปเป็เพื่อนเธอ” ลู่เป๋าเหยียนยิ้มตอบ
ูเี่อันพยายามไม่กู่ร้องอย่างดีใจเธอวิ่งเข้าไปนั่งในรถ ส่วนลู่เป๋าเหยียนก็เข้ามานั่งตรงที่นั่งข้างคนขับูเี่อันสตาร์ทรถและมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมือง
เวลาเลิกงานแบบนี้ถนนคนเดินในย่านธุรกิจจึงเต็มไปด้วยผู้คน แต่เพราะูเี่อันคุ้นเคยกับที่นี่ดีทำให้ไม่นานก็หาที่จอดรถได้เธอจูงมือลู่เป๋าเหยียนให้เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่
ลู่เป๋าเหยียนรู้จักูเี่อันดีเธอไม่ใช่คนชอบช้อปปิ้งเหมือนลั่วเสี่ยวซีเขามั่นใจว่าูเี่อันคงไม่ได้พาเขามารูดบัตรเครดิตแน่นอน
แล้วก็เป็ไปตามที่คาดเธอไม่ปรายตามองบรรดาเครื่องประดับหรือเครื่องสำอางเลยสักนิดแต่กลับลากเขาเข้าไปในลิฟต์ และขึ้นไปยังชั้นบนสุด
ในลิฟต์มีหญิงสาวกลุ่มหนึ่งยืนอยู่แล้วตอนแรกูเี่อันก็ไม่รู้สึกอะไร แต่พวกเธอต่างพากันแอบมองลู่เป๋าเหยียนเป็ระยะจนไปๆ มาๆ กลายเป็จ้องเขาอย่างออกนอกหน้า
เอ่อนี่พวกเธอกำลังส่องสามีเธออยู่งั้นเหรอ
หญิงสาวสูงโปร่งและหน้าตาสะสวยที่สุดในกลุ่มเธอคือผู้กล้าที่เดินตรงเข้ามาหาลู่เป๋าเหยียน
“สุดหล่อเรามาแลกเบอร์กันไหม ฉันอยากเป็แฟนกับคุณ”
ูเี่อันเพิ่งเคยเห็นการจีบกันโต้งๆแบบนี้เป็ครั้งแรก เธอเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมา พลางคิดว่าจะหนีออกห่างลู่เป๋าเหยียนเธออยากรู้ว่าเขาจะรับมืออย่างไร
แต่ลู่เป๋าเหยียนกลับรั้งตัวเธอเข้าไปใกล้
“ผมแต่งงานแล้ว”
สายตาเย็นเยียบของสาวๆกลุ่มนั้นตวัดมองูเี่อันทันที จนเธอรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจนในขณะที่เธอยังช็อกไม่หาย ลู่เป๋าเหยียนก็โอบเอวเธออย่างใกล้ชิด จนพวกสาวๆ เดินออกจากลิฟต์ไปอย่างหงุดหงิด
ประตูลิฟต์ปิดลงอีกครั้งูเี่อันจ้องลู่เป๋าเหยียนอย่างพิจารณา
“คุณลู่เสน่ห์แรงไม่เบานะคะเนี่ย”
ลู่เป๋าเหยียนกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น
“งั้นเธอยังคิดจะหนีอีกไหม?”
และแล้วก็ถึงชั้นสิบสอง หลังจากประตูลิฟต์เปิดออกด้านหน้าของพวกเธอก็คือที่จำหน่ายตั๋วของโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง
ูเี่อันสำรวจสีหน้าของลู่เป๋าเหยียนก่อนถามอย่างสงสัย
“ฉันพานายมาดูหนังนะทำไมไม่ใเลยล่ะ”
ยังไม่ทันที่ลู่เป๋าเหยียนจะตอบชายหนุ่มในชุดสูทที่ห้อยป้ายพนักงานก็เดินเข้ามา
“ผอ.ลู่คุณนายลู่ ถ้าจะมาน่าจะแจ้งกันก่อนนะครับเนี่ยผมจะได้เตรียมการรับรองไว้ให้พร้อมที่สุด”
ูเี่อันนิ่งอึ้งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าห้างนี้ก็เป็ของเครือลู่เหมือนกัน ตอนที่เธอกดลิฟต์มาชั้นสิบสอง ลู่เป๋าเหยียนคงรู้อยู่แล้วว่าเธอจะมาดูหนังสินะมิน่าถึงไม่ดูประหลาดใจเลย
ลู่เป๋าเหยียนหันมาถามเธอ“อยากดูเื่อะไร”
ูเี่อันบอกชื่อหนังออกไปซึ่งเป็เื่ที่กำลังฮิตมากในตอนนี้ ยากที่จะมีที่นั่งว่าง
สีหน้าของผู้จัดการดูหนักใจตามคาดูเี่อันจึงรีบพูดเสริม
“ถ้าไม่มีที่นั่งก็ไม่เป็ไรค่ะพวกเราดูเื่อื่นก็ได้”
“ไม่เป็ไรครับนานๆ ทีผอ.ลู่จะมาสักครั้ง เื่ที่นั่งเดี๋ยวทางผมจะจัดการให้เองกรุณารอสักครู่นะครับ”
พูดจบผู้จัดการก็เดินไปก่อนจะกลับมาพร้อมตั๋วในมือสองใบ ซึ่งเป็ที่นั่งตรงกลางของแถวกลางอีกด้วย
“เชิญทางนี้เลยครับ”
อีกสิบนาทีก็จะถึงรอบฉายตอนนี้ผู้คนต่างพากันต่อแถวเพื่อตรวจตั๋วก่อนเข้าโรงถ้าผู้จัดการเป็คนพาพวกเธอเข้าไปคงจะเด่นเกินไป ูเี่อันจึงรีบพูดขึ้น
“ขอบคุณค่ะแต่เดี๋ยวพวกเราไปกันเองก็ได้ค่ะ”
ผู้จัดการหันไปมองลู่เป๋าเหยียนได้ข่าวว่าผอ.ลู่ที่เคารพรักของพวกเขาเป็คนตามใจศรีภรรยาที่สุด คิดได้ดังนั้นเขาจึงยื่นตั๋วใหู้เี่อัน ก่อนขอตัวเดินแยกออกไป
ูเี่อันกับลั่วเสี่ยวซีชอบมาดูหนังที่นี่เพราะป๊อปคอร์นของที่นี่อร่อยที่สุด แถมที่นั่งก็นั่งสบายสุดๆเพราะฉะนั้นเธอจึงเดินพาลู่เป๋าเหยียนเข้าไปในโรงอย่างคุ้นเคยก่อนจะถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“นายไม่ค่อยมาที่นี่งั้นเหรอผู้จัดการเจอหน้านายดูดีใจกว่าได้เจอเทพเ้าแห่งโชคลาภเสียอีก”
“ั้แ่ที่นี่เปิดทำการฉันเคยมาที่นี่แค่ครั้งเดียวในคืนคริสต์มาสอีฟปีที่แล้ว”ลู่เป๋าเหยียนตอบเน้นย้ำวันที่
“เอ๋? คริสต์มาสอีฟปีที่แล้วนายอยู่ที่นี่?” ูเี่อันถามอย่างประหลาดใจ“วันนั้นฉันก็มาดูหนังกับลั่วเสี่ยวซีเหมือนกัน คริสต์มาสอีฟของทุกปีคนมักจะมาดูหนังกันที่นี่จนเต็มโรงตอนที่ฉันมาถึงขนาดรอบเที่ยงคืนยังเต็มหมดแล้วเลย ดีนะที่พวกเราโชคดีมีคนสองคนติดธุระต้องออกไปก่อน พวกเขาเลยขายตั๋วให้กับพวกฉันนายว่าถ้าเราเจอกันเมื่อปีที่แล้วจะเป็ยังไง”
ความจริงแล้ววันนั้นลู่เป๋าเหยียนเห็นูเี่อัน
คืนคริสต์มาสอีฟที่หิมะตกหนักบรรยากาศแห่งคริสต์มาสอบอวลไปทั่วห้างสรรพสินค้า เธอใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาสวมหมวกไหมพรมปิดหูและพันผ้าพันคอรอบคอปิดขึ้นมายันริมฝีปากเพื่อให้ความอบอุ่นราวกับหมีตัวน้อยๆ ที่กลัวความหนาวมีเพียงั์ตาเท่านั้นที่โผล่ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นลู่เป๋าเหยียนมองแค่แวบเดียวก็รู้ทันทีว่าเป็เธอ
แต่ตอนหลังเขาก็แค่ยืนมองเธอเดินเข้าไปข้างใน เพราะฉะนั้น...
“ต่อให้เห็นก็คงไม่มีอะไร” เขาตอบ
ูเี่อันคิดแล้วก็เห็นด้วยต่อให้เจอกันในวันนั้น แต่เพราะพวกเธอไม่ได้เจอหน้ากันเป็สิบปีแล้วลู่เป๋าเหยียนอาจจะจำเธอไม่ได้ก็ได้ดีไม่ดีพวกเธออาจจะเคยเดินสวนกันโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนด้วยซ้ำ
แต่เื่นั้นไม่สำคัญอีกต่อไปสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือ
เธอดันลืมซื้อป๊อปคอร์นไปซะได้!
“รอเดี๋ยว...”ูเี่อันลากลู่เป๋าเหยียนเดินไปที่เคาน์เตอร์ขายของว่าง
“นายจะดื่มอะไรไหมฉันเอาโค้กกับป๊อปคอร์น!”
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้ว“ไม่ได้ เปลี่ยนเป็อย่างอื่น”
“ไม่เอานะ”ูเี่อันปฏิเสธเสียงแข็ง “กินโค้กกับป๊อปคอร์นตอนดูหนังนี่แหละเริ่ดที่สุดนายไม่ชอบกินโค้กใช่ไหม งั้นนายกินน้ำเปล่าแทนละกัน”
เธอสั่งน้ำแร่ยี่ห้อที่เขาดื่มเป็ประจำแต่เขาก็ยังทำหน้าไม่พอใจ ูเี่อันเขย่าแขนเขาเบาๆ
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะคราวหน้าฉันจะเชื่อฟังนาย”
ท่าทางออดอ้อนของเธอทำให้คนเห็นยากที่จะปฏิเสธลู่เป๋าเหยียนจึงไม่ได้ว่าอะไร เขาหารู้ไม่ว่าในใจของูเี่อันตอนนี้คิดแค่ว่า
‘คราวหน้าเธอจะไม่มาดูหนังกับเขาเด็ดขาดถ้าจะดูหนังต้องดูกับลั่วเสี่ยวซีถึงจะเริ่ดที่สุด!’
หลังจ่ายเงินเรียบร้อยทั้งสองคนก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ตรวจตั๋ว ซึ่งขณะนี้มีคนต่อคิวเป็แถวเรียงยาวพวกเธอเดินเข้าไปต่อคิวตามปกติ แต่ก็มีคนไม่น้อยที่หันหน้ากลับมามอง
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครเข้ามาจีบลู่เป๋าเหยียนอีกูเี่อันจึงคล้องแขนเขาเอาไว้อย่างแสดงความเป็เ้าของ
ไม่ว่าในภายภาคหน้าพวกเธอจะเป็อย่างไรแต่ในตอนนี้ลู่เป๋าเหยียนเป็ของเธอ เพราะฉะนั้นใครหน้าไหนก็ห้ามแตะ!
ลู่เป๋าเหยียนมองคนที่เกาะแขนเขาอย่างกับหมีโคอาล่าอย่างูเี่อันพลางยิ้มบางเขารับป๊อปคอร์นจากมือเธอมาถือ ก่อนจะยื่นตั๋วให้พนักงาน และเดินเข้าไปนั่งในโรง
ที่นั่งตรงกลางของแถวกลางหาไม่ยากหลังพวกเธอนั่งลงก็มีหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาถามลู่เป๋าเหยียน
“สวัสดีค่ะไม่ทราบว่าแถว K อยู่ตรงไหนเหรอคะ”
ูเี่อันยิ้มตาหยีก่อนชี้ไปที่ด้านหลัง
“แถวหลังสุดเลยค่ะ”
เห็นได้ชัดว่าหญิงคนนั้นนึกไม่ถึงว่าลู่เป๋าเหยียนจะมากับูเี่อันเธอถึงกับหน้าตึงก่อนจะเดินจากไป ูเี่อันล้วงป๊อปคอร์นส่งเข้าปาก ก่อนจะเคี้ยวอย่างหงุดหงิด
ต่อไปเธอจะไม่พาเขามาในสถานที่ที่คนพลุกพล่านแบบนี้อีกแล้วคนแอบมองเขาเยอะเหลือเกิน
หลังผู้ชมเข้ามานั่งจนใกล้จะเต็มโรงหนังก็เริ่มฉาย ูเี่อันเป็แฟนคลับของหนังแนวนี้มาโดยตลอดเธอกินป๊อปคอร์นไปพลางดูหนังไปพลางอย่างเพลิดเพลิน
เธอนั่งอยู่ทางขวามือของลู่เป๋าเหยียนเพื่อให้เธอหยิบป๊อปคอร์นได้สะดวก ลู่เป๋าเหยียนจึงใช้มือขวาถือมันไว้ แต่อยู่ๆ มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็สั่นเบาๆเขาเปลี่ยนไปใช้มือซ้ายถือถังป๊อปคอร์น ก่อนที่จะหยิบมือถือออกมา ดังนั้นเมื่อูเี่อันยื่นมือมาจะหยิบป๊อปคอร์นดังเดิมจึงคว้าอากาศเข้าให้มือของเธอปัดป่ายไปตามตัวเขาอย่างมั่วซั่ว
เพราะกำลังอินกับภาพยนตร์ตรงหน้าทำใหู้เี่อันไม่ได้ละสายตาจากจอแม้แต่น้อย จนกระทั่งผ่านไปได้สักพักเธอจึงหันกลับมามองหน้าเขา ลู่เป๋าเหยียนกำลังมองเธอด้วยสายตาเย็น
ในขณะที่มือของเธอ...
เอ่อเมื่อกี้มือเธอจับไปโดนส่วนไหนของเขากัน?!
