เทียนเซียงเ้าสำนักเทียนเซียงหลิน หนิงเซียง หลันเซียง และผู้าุโระดับสูงของเทียนเซียงหลินต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก
พวกนางไม่เคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ที่มีพลังแกร่งกล้าเพียงนี้ ตบะเพียงแค่นี้กลับเอาชนะสิบสามศิษย์แห่งเทียนเซียงได้ เช่นนั้นหากเย่เฟิงบรรลุขั้นยุทธ์แท้สูงสุดก็คงน่าหวาดกลัวจนเกินที่จะจินตนาการ
“เด็กคนนี้สัตว์ประหลาดชัด ๆ ไม่เพียงแต่มีวิถีแห่งลวดลายเทวะที่ทรงพลัง แต่ยังมีพลังแห่งอำนาจขั้นกายาคู่ พลังต่อสู้ก็แข็งแกร่ง อัจฉริยะเช่นนี้หากอยู่ฝ่ายเทียนเซียงหลิน เมื่อเขาเติบใหญ่ บางทีอาจเปลี่ยนชะตากรรมของเทียนเซียงหลินก็เป็ได้”
ขณะที่เทียนเซียงมองเงาร่างนั้นก็คิดในใจเช่นนี้ ในฐานะเ้าสำนัก นางย่อมพิจารณาสถานการณ์โดยรวมของเทียนเซียงหลิน
ซวนหยวนจวิ้นที่อยู่ไม่ไกลเห็นเย่เฟิงชนะก็ตาเผยประกายเย็นเยียบ เย่เฟิงอยู่ขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 แต่กลับทำในสิ่งที่เขาทำได้ อีกอย่างในสองด่านแรก เย่เฟิงยังกำราบเขาอยู่หมัด มิหนำซ้ำยังแย่งชิงความเฉิดฉายที่ควรจะเป็ของเขาไปจนหมด เขาซวนหยวนจวิ้นจะยอมได้อย่างไร?
เย่เฟิงชนะสิบสามศิษย์แห่งเทียนเซียง นี่หมายความว่าเย่เฟิงคือคนที่สองที่ผ่านด่านทั้งหมด แต่ไม่รอให้เย่เฟิงกล่าวอะไรก็เห็นซวนหยวนจวิ้นเดินมาที่ใจกลางก่อนกล่าวพร้อมคำนับเทียนเซียง “ผู้าุโ เมื่อครู่ผู้เยาว์ผ่านด่านทุกด่านสำเร็จ จึงอยากพาเทพธิดาหนิงเซียงไปและเลือกวันแต่งงาน ไม่ทราบว่าผู้าุโจะเห็นด้วยหรือไม่?”
ก่อนหน้านี้ซวนหยวนจวิ้นถูกหนิงเซียงปฏิเสธ ครั้งนี้ซวนหยวนจวิ้นจึงไม่ขอความเห็นใด ๆ จากหนิงเซียง แต่ซักถามเทียนเซียงแทน ด้วยฐานะของเขา เขาเชื่อว่าเทียนเซียงต้องไว้หน้าเขา
“อภัยให้ข้าด้วยที่ต้องพูดตรง ๆ เ้าไม่เหมาะกับหนิงเซียง เชิญเลือกคนอื่นเถิด!” เทียนเซียงเห็นซวนหยวนจวิ้นเป็ฝ่ายเสนอก่อนก็นิ่งชั่วครู่ก่อนกล่าวเช่นนั้น
ผู้คนได้ยินเช่นนี้ต่างก็แปลกใจ และมองเทียนเซียงด้วยสีหน้าเกิดคาด ไม่รู้ว่าเ้าสำนักเป็อะไรไป ไม่คิดว่าจะปฏิเสธซวนหยวนจวิ้นตรง ๆ เช่นนี้
ซวนหยวนจวิ้นเผยสีหน้าดูไม่ได้ เขาเองก็ไม่คิดว่าเทียนเซียงจะพูดเช่นนี้ เมื่อเขาอยากเอ่ยปากเพื่อแก้ตัว กลับเห็นเทียนเซียงมองไปที่หนิงเซียง “หนิงเซียง ข้าคิดว่าในใจของเ้าน่าจะมีตัวเลือกแล้ว”
เพียงประโยคง่าย ๆ กลับแฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง แต่หนิงเซียงในฐานะอัจฉริยะแห่งเทียนเซียงหลิน นางจะไม่เข้าใจเ้าสำนักได้อย่างไร? ถึงอย่างนั้นในใจนางก็คิดเช่นนี้ ในที่แห่งนี้มีคนคนหนึ่งที่เหมาะสมกับตัวเองมากกว่าซวนหยวนจวิ้น และนางก็ค่อนข้างมีความเชื่อมั่น ถึงอย่างไรนางก็เป็ถึงอัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดของเทียนเซียงหลิน ไม่มีผู้ใดต้านทานเสน่ห์ของนางได้ หากนาง้าไปกับคนผู้นั้น เกรงว่าคนผู้นั้นคงปฏิเสธได้ยากเช่นกัน
“อืม”
เทียนเซียงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นหันไปมองเย่เฟิงพร้อมระบายยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “ใต้เท้ามีพร์โดดเด่น พลังต่อสู้ไร้เทียมทาน ทั้งยังสร้างสถิติใหม่ในสามด่านก่อนหน้านี้ เป็อัจฉริยะที่หาได้ยากในจักรวรรดิจิ่วโยว ข้าชื่นชมในความกล้าหาญของใต้เท้าเป็อย่างมาก”
ผู้คนต่างหันไปมองเทียนเซียงเป็ตาเดียวกัน และพวกนางยังััได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“หนิงเซียง อัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเทียนเซียงหลิน ไม่เพียงแต่หน้าตาสะสวย ทว่ายังมีพร์โดดเด่นเกินใคร หากได้ครองคู่กับใต้เท้า อนาคตคงรุ่งเรืองเป็แน่” เทียนเซียงกล่าวด้วยรอยยิ้ม นางเป็ฝ่ายแนะนำให้เย่เฟิงรู้จักกับหนิงเซียงก่อน ในความคิดนาง หนิงเซียงคืออัจฉริยะชั้นยอด หน้าตาสะสวยและสูงส่ง เป็คนที่ศิษย์เทียนเซียงหลินคนอื่น ๆ เทียบไม่ติด
แม้ก่อนหน้านี้เย่เฟิงบอกแล้วว่าเขามาเพราะคนผู้หนึ่ง แต่เทียนเซียงเชื่อว่า เย่เฟิงต้องยินดีกับคำแนะนำของนางและพาหนิงเซียงไป หนิงเซียงไม่เพียงแต่คู่ควรกับเย่เฟิง แต่ไม่ว่าชายใดก็ล้วนต้านทานเสน่ห์ของเทียนเซียงหลินไม่ได้
เมื่อผู้คนได้ยินคำพูดของเทียนเซียงต่างก็ใอีกครั้ง เ้าสำนักเทียนเซียงหลินเป็ฝ่ายแนะนำลูกศิษย์ให้ชายหนุ่มก่อน ซึ่งไม่เคยเกิดเื่เช่นนี้มาก่อนในรอบพันปี
“เ้าสำนักเป็อะไรไป? หรือชายขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ผู้นี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ จึงได้รับความสนใจจากเ้าสำนักเช่นนี้?” หญิงสาวเทียนเซียงหลินหลาย ๆ คนต่างคิดเช่นเดียวกันนี้
ซวนหยวนจวิ้นเผยหน้าเขียว เพลิงโทสะพวยพุ่งออกจากร่าง ก่อนหน้านี้เขาเสนอว่าจะพาตัวหนิงเซียงไป แต่กลับถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ
บัดนี้เ้าสำนักเทียนเซียงหลินเป็ฝ่ายแนะนำหนิงเซียงให้กับชายขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 ก่อน ทำซวนหยวนจวิ้นรู้สึกหน้าร้อนผ่าวราวกับมีใครตบหน้า อับอายขายหน้าจนไร้ซึ่งคำพูดใด ๆ
ส่วนหนิงเซียงที่อยู่ข้าง ๆ หน้าแดงระเรื่อ ั้แ่โบราณกาล หญิงงามมักจะครองคู่กับวีรบุรุษเสมอ นี่ถือว่าเป็เื่ปกติมาก
แม้หนิงเซียงจะดูแคลนเย่เฟิง กระทั่งพูดจาเหยียดหยามหลายครั้ง แต่หลังจากเย่เฟิงแสดงพร์ที่โดดเด่นของเขาในการบุกด่าน ความคิดที่หนิงเซียงมีต่อเย่เฟิงก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ชายหนุ่มขั้นยุทธ์แท้ที่ 4 อายุน้อยกว่าซวนหยวนจวิ้น บัดนี้บุกด่านได้เหนือกว่าซวนหยวนจวิ้นหลายเท่า ทั้งยังกำราบซวนหยวนจวิ้นจนอยู่หมัด นี่แสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นระหว่างสองคน ว่าซวนหยวนจวิ้นเทียบกับเย่เฟิงไม่ติด
นางหนิงเซียงคืออัจฉริยะผู้เก่งกาจแห่งเทียนเซียงหลิน มีผู้ชื่นชอบมากมาย คู่ครองของนางต้องเป็อัจฉริยะชั้นยอดเท่านั้น และเย่เฟิงคือคนนั้นที่เหมาะสมกับนางอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
นอกจากนี้เย่เฟิงยังฉลาด และมีความสามารถสูง ผู้หญิงหลาย ๆ คนจึงอดไม่ได้ที่จะสนใจเขา
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อยพลางเผยสีหน้าเกินคาด ก่อนหน้านี้สาเหตุที่เขาแสดงความแกร่งกล้า นั่นเพราะ้าให้ตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้พูดกับบุคคลระดับสูงของเทียนเซียงหลิน
แต่ไม่คิดว่าการกระทำของเย่เฟิงจะนำพาความคิดอีกแบบมาสู่เทียนเซียง นาง้าให้ศิษย์ผู้โดดเด่นที่สุดในสำนักครองคู่กับเขา และดึงเขาเข้าฝ่ายเทียนเซียงหลิน
อย่างไรก็ตามการเดินทางครั้งนี้ เย่เฟิงมาเพื่อช่วยชิงเซียง มีหรือจะคิดถึงเื่นี้ จากนั้นเห็นเย่เฟิงคำนับเทียนเซียงแล้วกล่าวว่า “ผู้เยาว์รู้ความหวังดีของท่าน แต่ผู้เยาว์มาเพื่อคนคนหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เทพธิดาหนิงเซียง”
เย่เฟิงกล่าวด้วยท่าทีสุภาพ แต่ก็เป็คำพูดจาที่ตรงไปตรงมา นี่ทำให้ทุกคนนิ่งอึ้ง ซึ่งไม่คาดคิดว่าเย่เฟิงจะตอบกลับเช่นนี้ หรือนี่คือการปฏิเสธ?
หนิงเซียงได้ยินคำพูดของเย่เฟิง รอยยิ้มบนใบหน้านางพลันแข็งทื่อ พร้อมใบหน้าซีดลงเล็กน้อย นางคืออัจฉริยะผู้โดดเด่น มีบุรุษมากมายที่ชื่นชอบนาง บัดนี้เ้าสำนักแนะนำนางให้เย่เฟิง แต่ไม่คิดว่าชายผู้นี้จะเ็าไร้ความรู้สึกเพียงนี้
เทียนเซียงนิ่งอึ้งพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย เมื่อถูกปฏิเสธต่อหน้าผู้คนมากมาย แน่นอนว่านางย่อมขายหน้าและเสียศักดิ์ศรี
บุคคลระดับสูงของเทียนเซียงหลินเผยสีหน้าไม่สู้ดี เ้าสำนักเป็ฝ่ายรุก แต่กลับถูกปฏิเสธ นี่คือความอัปยศอดสูชัด ๆ
“กำเริบเสิบสาน!”
ผู้าุโหญิงคนหนึ่งของเทียนเซียงหลินตาเผยประกายเย็นเยือก ก่อนจะตวาดใส่เย่เฟิงเช่นนั้น พร้อมปลดปล่อยพลังขั้นยุทธ์เทวะหมายลงมือจัดการเย่เฟิง
“ถอยไป!”
แต่ขณะเดียวกันผู้าุโคนนั้นกลับถูกเทียนเซียงขวางไว้ ทั้งยังสั่งให้นางถอยไป แน่นอนว่าผู้าุโคนนั้นเชื่อฟังแต่โดยดี แต่ยังชำเลืองมองเย่เฟิงแวบหนึ่งด้วยสายตาเย็นเยือก
“หนิงเซียงนางคือศิษย์ที่เก่งกาจที่สุดของเทียนเซียงหลินข้า เ้าไม่พิจารณาหน่อยหรือ?”
เทียนเซียงมองไปที่เย่เฟิงอีกครั้งก่อนกล่าวเช่นนั้น ในความคิดของนาง หนิงเซียงคือ คนนั้นที่เหมาะสมกับเย่เฟิงมากที่สุด
“ไม่จำเป็” เย่เฟิงตอบกลับอย่างเ็าและยังไม่สนใจหนิงเซียงที่อยู่ใกล้ ๆ หญิงผู้งดงามในสายตาของคนอื่น ๆ ไม่แตกต่างจากหญิงธรรมดาที่อยู่ในสายตาของเย่เฟิง ก่อนหน้านี้หนิงเซียงยังพูดจาดูถูกหลันเซียง เย่เฟิงจึงยิ่งไม่ชอบนาง
“ข้าอยากรู้ว่า คนนั้นที่ทำให้ใต้เท้าถึงกับมาบุกด่านเยี่ยงนี้เป็ใคร?” เทียนเซียงเอ่ยถาม นางไม่รู้ว่าผู้ใดกันที่มีเสน่ห์ยิ่งกว่าหนิงเซียง
“ชิงเซียง ผู้าุโโปรดอนุญาตให้ข้าพานางไป” เย่เฟิงกล่าวบอกตรง ๆ พลางแววตาส่องประกายคมกริบ
ทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็รู้สึกเกินคาด พวกนางคิดมาตลอดว่าเย่เฟิงกับหลันเซียงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เขาอาจมาที่นี่เพราะหลันเซียง แต่ไม่มีผู้ใดคิดว่าผู้ที่ทำให้เย่เฟิงมาที่นี่ก็คือชิงเซียง สาวงามผู้เ็าแห่งเทียนเซียงหลิน
บัดนี้ชิงเซียงถูกขังอยู่ในคุกเพราะปกป้องคนนั้นที่ชิงผลึกเจตจำนงแรกเริ่ม และนางจะถูกลงทัณฑ์ด้วยไฟสังเวยในอีกสองวัน แต่ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้ากลับเอ่ยถึงชิงเซียง เช่นนั้นชายผู้นี้เป็อะไรกับชิงเซียงกันแน่ มันคุ้มค่าแล้วหรือที่เขาทำเช่นนี้?
ในบรรดาผู้าุโเทียนเซียงหลินเคยมีคนไปอาณาจักรจ้าวพร้อมกับชิงเซียงและหลันเซียง นางจึงเริ่มคาดเดาตัวตนของเย่เฟิงในใจ
“เ้าคือใครกันแน่?” เทียนเซียงเอ่ยถามพร้อมรูม่านตาหดแคบลง และเริ่มสงสัยใคร่รู้ตัวตนของเย่เฟิงมากขึ้นกว่าเดิม
