“มีอันใดหรือ?”
โจวอวี่ชางที่ออกไปแล้วเห็นนางยืนนิ่งจึงหันกลับมา
เขามองตามสายตาของเวินซีไป
ขบวนแห่ศพเคลื่อนลงไปตามทางลาด ผู้คนพากันเดินตามไป ทำให้ร่างของหลานเยว่เฉิงหายไปในฝูงชน
“รีบไปกันเถิดเ้าค่ะ เหมือนว่าเราจะถูกจับได้แล้ว” เวินซีคว้าแขนเสื้อของโจวอวี่ชาง แล้วเดินสวนกับกลุ่มคน
ตามหลักแล้ว นางที่เป็น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของโจวอวี่ชาง การจะมาส่งเขานั้นเป็เื่ปกติ แต่สายตาของหลานเยว่เฉิงนั้น นางกลับรู้สึกว่าเขามองเื่ราวทั้งหมดออก
“ได้”
โจวอวี่ชางมองย้อนกลับไปที่ฝูงชนพลันรีบตามเวินซีออกไป
ผู้คนที่มาร่วมส่งศพนั้นมีเยอะมาก พวกเขากลับออกมานานแล้วแต่ก็ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหน ในหูยังมีเสียงคนของตระกูลเวินร้องไห้ดังแว่วมา
“อย่าเบียดสิ อย่าผลักข้า”
“อย่าเบียดมาสิ”
“สตรีทำตัวเกาะติดกับบุรุษก็เื่หนึ่งแล้ว เหตุใดยังหยาบคายไร้มารยาทเช่นนี้อีก”
...
ท่ามกลางเสียงบ่นด่า ในที่สุดเวินซีก็พาโจวอวี่ชางออกมาจากฝูงคนได้ นางไม่อยากจะเสียเวลาชักช้าจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินไปที่ร้านเครื่องหอม
ในอีกฝั่งหนึ่ง
ขบวนแห่ศพยังคงเคลื่อนตัวต่อไป โดยมีผู้คนมากมายเดินตามหลังขบวน
เวินเยียนมองดูแถวที่ยาวเหยียด ในใจของนางก็ยิ้มเยาะ ในระหว่างที่กำลังสังเกตผู้คนที่ตามขบวนศพอยู่นั้น สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นรถม้าด้านหลังขบวน
เมื่อเห็นว่าหลานเยว่เฉิงมีสีหน้าครุ่นคิด นางจึงค่อยๆ ถอยไปที่ด้านหลังขบวนเพื่อไปอยู่ข้างๆ เขา
“คุณชายซู มีอันใดหรือเ้าคะ? มีเื่ใดไม่สบายใจหรือเ้าคะ?”
“เ้าบอกว่าแม่ทัพต้านกับเวินซีมีความสัมพันธ์กันจริงหรือ? ตัวตนของจ้าวต้าน เรายังตรวจสอบมิได้” หลานเยว่เฉิงเม้มริมฝีปากมองนาง
“คุณชายซูเ้าคะ แม้เราจะฆ่าผิดไปเป็หมื่นแต่จะปล่อยคนนับพันไปมิได้นะเ้าคะ หากว่าจ้าวต้านคือแม่ทัพจ้าวล่ะเ้าคะ? ่นี้ท่านก็เห็นแล้วว่าเวินซีมิใช่คนธรรมดา”
“เราส่งคนออกไปตั้งมากมาย ไม่มีผู้ใดรอดกลับมารายงานเราสักครา”
เวินเยียนไม่สนใจหรอกว่าจ้าวต้านจะเป็แม่ทัพต้านที่หลานเยว่เฉิงบอกหรือไม่ นางสนใจเพียงว่าเวินซีและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องตายทุกคน
“มิใช่คนธรรมดาจริงๆ” หลานเยว่เฉิงเอ่ยอย่างไม่ชัดเจนนัก
เดิมทีเขาก็ไม่คิดอันใดกับเวินซี แต่เมื่อวานเขาได้รับข่าวจากลูกน้องว่าหอซุ่ยเฟิงถูกทำลายจนพังยับเยิน ด้วยฝีมือของนางเพียงผู้เดียว เช่นนั้นบ่อนพนันของเขาก็น่าจะปิดไว้ได้ไม่นาน
เป็สตรีที่แปลกมาก กล้าทำลายหอซุ่ยเฟิง
“คุณชายซู หรือว่า...” เวินเยียนกำลังยิ้มหวานอย่างออดอ้อน
“ข้าส่งสัญญาณไปแล้ว คนของข้าซ่อนตัวอยู่ระหว่างทางกลับร้านของนาง” หลานเยว่เฉิงพูดอย่างสบายๆ
หากเวินซีสามารถหลบหนีจากนักฆ่าฝีมือดีของเขาได้อีก เช่นนั้นเขาจะลงมือด้วยตนเอง
แต่หากได้ตัวนางมารับใช้คงจะเป็เื่ดีที่สุด มิฉะนั้นคงมิอาจให้นางมีชีวิตอยู่ต่อได้ เขาจะไม่ปล่อยให้ตนเองมีอันตราย
“คุณชายซูปราดเปรื่องมากเ้าค่ะ เวินเยียนขอให้คุณชายซูทำสำเร็จนะเ้าคะ”
เมื่อเวินเยียนได้ยินว่าเขาได้ส่งนักฆ่าออกไปแล้ว นางก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อยราวกับได้เห็นภาพที่เวินซีโดนตัดหัวไปต่อหน้าต่อตา
ทางฝั่งของเวินซี ทั้งสองได้ขึ้นรถม้าเดินทางกลับไปที่ร้านเครื่องหอมแล้ว
โจวอวี่ชางเปิดมุมม่านหน้าต่างขึ้น คอยสังเกตสถานการณ์ด้านนอกอยู่ตลอด เมื่อก่อนมันเป็เพียงระยะทางสั้นๆ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกกังวลและหวาดกลัวอยู่ทุกวินาที
“ท่านพี่ ถือนี่ไว้เ้าค่ะ” เวินซีหยิบขวดหยกสองขวดออกมาจากอก
“นี่คือสิ่งใด?” แม้ว่าโจวอวี่ชางจะไม่รู้จัก แต่ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจก็ทำให้เขารับมันมาโดยไม่ลังเล
เขาเปิดฝาออก ถือไว้ใต้จมูกแล้วสูดดม กลิ่นของหญ้าเขียวโชยออกมา ไม่นานก็อบอวลไปทั่วทั้งรถม้า
“ยาสองขวดนี้ ขวดหนึ่งเป็ยาบำรุง ในคราที่ท่านาเ็หนักมันสามารถช่วยชีวิตท่านได้ อีกขวดเป็เครื่องหอมกร่อนกระดูกที่ข้าแก้ไขขึ้นมาใหม่ หากััโดนิั เสื้อผ้าหรือสิ่งใดก็แล้วแต่จะเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว”
“หากเข้าตาจะทำให้ตาบอด หากโดนผมจะทำให้ผมร่วง ในยามที่ท่านหมดหนทางต่อสู้ สาดมันออกไปจะช่วยท่านได้ แต่จำไว้ว่าท่านจะต้องไม่ััมัน”
คำพูดของเวินซีทำให้โจวอวี่ชางปิดฝาขวดลงอีกครา
เขามองดูขวดหยกด้วยความประหลาดใจ “สมกับเป็บุตรสาวของเวินอี๋เหนียง พิษเช่นนี้คนธรรมดาทำออกมามิได้หรอก”
เวินซีมิได้อธิบายใดๆ และยอมรับตามนั้น นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ มองออกไปด้านนอกอย่างเป็กังวล
นางกระสับกระส่าย มักจะรู้สึกว่าจะมีเื่ใหญ่เกิดขึ้น
ในขณะที่เวินซีกำลังคำนวณระยะห่างจากร้านเครื่องหอมอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้ามาจากทางหน้าต่าง นางหันหน้าออก ลูกธนูก็ปักลงบนไม้ ห่างจากหูของนางไปเพียงเล็กน้อย
รถม้าพลันหยุดลง ม้าที่ใเอาแต่ร้องครวญครางอยู่กับที่
เมื่อม้าร้องดัง ก็มีธนูยิงใส่จนมันล้มลง รถม้าทั้งคันพลันพลิกลงด้านข้าง
“ท่านพี่ ดูแลตัวเองดีๆ นะเ้าคะ” เวินซีพาโจวอวี่ชางะโออกมาจากรถม้าและเอ่ยกำชับเขา
ยามนี้หากไม่จดจ่อกับสถานการณ์เบื้องหน้า อาจทำให้เป็อันตรายถึงชีวิตได้
“ไม่ต้องห่วงข้า” โจวอวี่ชางหันหลังชนกับนาง มองไปรอบข้างอย่างระมัดระวัง
ลูกธนูอีกดอกหนึ่งพุ่งมา เวินซีหลบได้และรีบวิ่งไปหาต้นทางของมัน
เมื่อรู้ตัวว่าถูกจับได้ นักฆ่าที่ยิงธนูก็ไม่หลบซ่อนตัวอีกต่อไป เขาเผยตัวตนทันที
จากนั้นยิงธนูออกไปอีกดอก เวินซีหลบได้อย่างเฉียดฉิว นางยังไม่ทันจะยืนได้มั่นคงก็เห็นว่ารอบๆ มีธนูพุ่งเข้ามาเช่นกัน จึงถอยหลังหลบ
“ระวัง” โจวอวี่ชางลากนางให้หลบพ้นการโจมตีที่มาจากด้านหลัง
เวินซีมองดูลูกธนูที่กองอยู่บนพื้น แววตาของนางดำมืด
ขืนเป็เช่นนี้ต่อไป นางคงไม่มีโอกาสเข้าใกล้พวกนักฆ่า และจะต้องถูกพวกเขายิงตายก่อนแน่
“ท่านพี่ อุดจมูกเ้าค่ะ” ขณะที่พูด เวินซีก็ใช้ไฟจุดเครื่องหอมเพื่อสร้างควัน
ควันจำนวนมากลอยออกมา ปกคลุมร่างของทั้งสองอย่างรวดเร็ว
นักฆ่าที่อยู่บนหลังคามองหน้ากัน พลันเริ่มยิงธนูออกไปมั่วๆ
นักฆ่าคนหนึ่ง ในขณะที่กำลังเปลี่ยนลูกธนูอยู่นั้นก็เห็นเวินซีออกมาจากกลุ่มควัน นางวิ่งมาหาเขา ทำให้เขาใจนลืมเปลี่ยนลูกธนู
“นางอยู่นี่”
เขาแจ้งตำแหน่ง แต่ก็ถูกเวินซีโยนธนูทิ้งไปในกลุ่มควัน
เวินซีต่อสู้กับเขา ร่างของทั้งสองเคลื่อนไหวอยู่บนหลังคา
ลูกธนูอีกดอกถูกยิงออกไป เวินซีมองทิศทางของมันอย่างเหลือเชื่อ
พวกเขาไม่กลัวเลยว่าจะทำร้ายพวกเดียวกันเอง
นักฆ่าใช้โอกาสตอนที่เวินซีเหม่อไป ดึงมีดสั้นออกมาแล้วพุ่งไปที่นาง ในขณะเดียวกันก็มีธนูอีกดอกพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง
เวินซีตั้งสติ คว้าตัวนักฆ่าไว้แล้วนำเขาไปเป็โล่กำบัง ลูกธนูจึงปักอกของนักฆ่าและล้มตัวกลิ้งตกจากหลังคา
เมื่อเห็นเช่นนั้น นางก็วิ่งไปหานักฆ่าอีกคน นักฆ่าผู้นี้ไม่อยากจะซ่อนตัว จึงประจัญหน้ากับนางตรงๆ
“มาช่วยข้าเร็วเข้า”
เขาสู้นางมิได้จึงะโเสียงดัง ทำให้นักฆ่าคนอื่นๆ ที่ซ่อนตัวอยู่พากันเข้ามา
พวกเขาแบ่งออกเป็สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งเข้าไปโจมตีเวินซี อีกกลุ่มเข้าไปโจมตีโจวอวี่ชาง
“ท่านพี่ระวังตัวด้วย”
มีแสงสะท้อนของดาบกวัดแกว่งไปมา เวินซีไม่รู้ความสามารถของโจวอวี่ชาง เกรงว่าเขาจะมีอันตรายจึงรีบไปหาเขา แต่กลับถูกนักฆ่ากลุ่มที่จะมาจัดการนางสกัดไว้
“เ้าดูแลตนเองให้ดีเถิด” มือสังหารเอ่ยขึ้นอย่างชั่วร้าย
นางไม่มีอารมณ์ที่จะสู้กับพวกเขา จึงหยิบยาพิษออกมาจากแขนเสื้อพลันสาดออกไป
แต่นักฆ่าเตรียมตัวไว้นานแล้ว พวกเขาหลบได้
“ในเมื่อจะใช้พิษ ข้าก็จะทำให้เ้าเห็นว่าสิ่งใดคือพิษที่แท้จริง”
นักฆ่าหัวเราะเยาะ หยิบธูปออกมาจากกระเป๋าแล้วจุดมัน ทันใดนั้นควันสีชมพูก็ลอยขึ้น
เวินซีขมวดคิ้วพร้อมกับปิดปากและจมูก เตรียมพร้อมตั้งรับนักฆ่าที่ใช้พิษ นางขยับตัวถอยหลังเล็กน้อย พลางสังเกตทางด้านของโจวอวี่ชางด้วยหางตา
มีดของนักฆ่าเ่าั้อยู่ห่างจากเขาเพียงแค่เอื้อม