ทันทีที่พระราชนัดดาปรากฏตัว เปลวเพลิงแห่งความเชื่อมั่น ที่เกาเซียนจือได้จุดจนลุกโชน ดั่งถูกน้ำสายหนึ่งสาดจนมอดดับ
ทหารแปดแสนคน จ้องมองเกาเซียนจือด้วยสีหน้าว่างเปล่า คล้าย้าคำอธิบาย
ในขณะที่ทุกคนบนแท่นยกพื้น มีสีหน้าแตกต่างกันไป
ใบหน้าขององค์รัชทายาทซ่ง ไม่รู้ว่าสุขหรือเศร้ากันแน่
ดวงตาของหลินชงแดงก่ำ
เกาเซียนจือกลับตาเบิกโพลง ด้วยความตกตะลึง
แม้ทุกคนจะใ กับการปรากฏตัวของเขา แต่พระราชนัดดาก็ยังคงเดินตรงเข้าไป ใกล้ชานไม้ที่ท่านแม่ทัพอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
"เ้า... เ้าเป็ใครกัน?" เกาเซียนจือถามเสียงดัง พร้อมตาที่เบิกกว้างอย่างตะลึงลาน
"นี่ข้าเอง! ท่านแม่ทัพเกา ข้า ซ่งเจิ้งซี... เร็วเข้า รีบช่วยจับพวกโจรูเามาให้ได้ ข้าจะสังหารพวกมันทั้งหมด ข้าเกือบจะไม่ได้พบเสด็จพ่อแล้ว” ซ่งเจิ้งซีร้องด้วยความเจ็บใจ
“เป็ไปไม่ได้ โอรสของข้าถูกตัดหัวไปแล้ว ที่ทางเข้าตลาดในเมืองหลวงซ่งเฉิง เ้าเป็ใครกันแน่?” องค์รัชทายาทซ่งทำได้เพียงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว
"เสด็จพ่อ มิใช่ว่าท่านสั่งให้แม่ทัพเกาช่วยลูกหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ? ให้เขาสับเปลี่ยนเอาคนอื่นมาแทนลูกเงียบๆ ตอนที่กำลังจะถูกปะา?
นี่เป็ลูกจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่ทัพได้เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ลูกแค่เล่นไปตามฉากที่จัดไว้ เพื่อหลอกเ้าโง่พวกนั้น เท่านั้นเองพ่ะย่ะค่ะ
เสด็จพ่อ พระองค์มิทรงทราบหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ ฮ่าๆๆ! ดูเหมือนว่าแม่ทัพเกาจะยังมิได้บอกพระองค์" ซ่งเจิ้งซีร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น
เสียงสูดหายใจด้วยความตระหนกของทหาร ดังขึ้นทั่วสารทิศ
แม่ทัพเกาเป็ผู้จัดเตรียมทุกอย่าง? เป็การจัดฉาก? หลอกเ้าโง่พวกนั้น?
ซ่งเจิ้งซีมิได้รับรู้เลย ว่าทุกคำพูดของเขา ประหนึ่งมีดที่กรีดแทงเข้าไปในหัวใจของทหารทุกคนอย่างต่อเนื่อง
ข้าเป็แค่คนโง่เช่นนั้นหรือ? เกาเซียนจือเพียงจัดฉากให้เราดู? เพื่อหลอกลวง และส่งเราไปตาย?
สิ่งใดคือแผนร้ายของกู่ไห่ ทั้งหมดเกาเซียนจือล้วนหลอกลวงเรา กู่ไห่ผู้นั้นไฉนจะเก่งกาจถึงเพียงนี้? พระราชนัดดาที่อยู่เบื้องหน้า มิใช่ข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดหรอกหรือ?
ตัดหัวพระราชนัดดา ให้ความยุติธรรมกับทุกคน?
ฮ่องเต้ทรงมีพระราชโองการ ให้ลงโทษผู้ใดก็ตามที่ทำให้ทหารเดือดร้อน?
ครอบครัวของเราต้องถูกกลั่นแกล้งรังแกจากพวกขุนนาง เป็ส่วนหนึ่งในแผนการของกู่ไห่?
จดหมายของเรา ก็เป็แผนการของกู่ไห่?
ทั้งหมดล้วนเป็เื่โป้ปด ไร้สาระ!
ทันทีที่ซ่งเจิ้นซีปรากฏตัว จิติญญาแห่งการต่อสู้ที่พึ่งลุกโชน ก็สิ้นสูญ ชั่วพริบตา เมล็ดพันธุ์แห่งความหวาดระแวง ที่กู่ไห่ฝังไว้ในจิตใจของทุกคน ก็หยั่งรากและเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็ต้นไม้สูงตระหง่าน
ทุกคำพูด ที่ออกจากปากของซ่งเจิ้นซีนั้น ทิ่มแทงใจยิ่ง
“เด็กบ้า หุบปากเสีย!” องค์รัชทายาทแผดเสียง
สายตาของเหล่าทหารที่จับจ้องมา ล้วนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
"ข้าอยากกลับบ้าน... ข้าจะกลับบ้านไปดูแลครอบครัว!"
"ข้าเองก็อยากกลับบ้าน ให้ตายเถอะ ข้าอยากกลับบ้าน!"
“ไม่สู้แล้ว! เพื่อตระกูลซ่ง พวกเราต้องต่อสู้โดยเอาชีวิตเป็เดิมพัน แต่พวกเขากลับตอบแทน ด้วยการทำร้ายครอบครัวเรา สุดท้ายยังมาด่าว่าโง่อีก?”
ทหารแปดแสนคนเริ่มระส่ำระสาย ราวกับน้ำต้ม ที่ร้อนขึ้นช้าๆ เพียงไม่กี่อึดใจ ก็เดือดพล่าน
ตอนนี้คนที่เ็ปที่สุด เห็นจะเป็หลินชง
เขาหันศีรษะไปมองแม่ทัพเกา ด้วยดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลนอง
"ท่านแม่ทัพ ข้า หลินชง ติดตามท่านมาหลายปี และในการรบ มีหลายครั้งที่ต้องออกไปสู้อยู่แนวหน้า หลายครั้งที่ต้องเสี่ยงเป็เสี่ยงตายเพื่อท่าน เราสู้อย่างไม่กลัวตาย เพราะเชื่อมั่นในตัวท่านแม่ทัพ เชื่อว่าท่านจะทำให้เรามีอนาคตที่ดีขึ้น ได้รับการปูนบำเหน็จ คิดว่าท่านจะสามารถปกป้องเราได้!" หลินชงะโอย่างเคืองแค้น
ความชิงชัง และเสียงตะเบ็งของเขา ทำให้คนโดยรอบเงียบทันที
“แม้แต่ชีวิต เราก็มอบให้ท่านได้ แต่นี่เป็วิธีที่ท่านตอบแทนเราหรือ? ท่านแม่ทัพ วันนั้น ที่ข่าวร้ายของครอบครัวข้ายังมาไม่ถึง แต่พี่น้องสิบห้าคนได้รับแจ้งข่าวร้ายของครอบครัวพวกเขา เพื่อที่จะปกป้องพระราชนัดดา ท่านสั่งให้ข้าจัดการพวกเขาเสีย ให้ข้าสังหารพี่น้องทั้งสิบห้าคน เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวแพร่กระจาย!" หลินชงกล่าวเสียงดัง
"โอ้!"
ทันใดนั้น ทั้งค่ายก็ตกอยู่ในความโกลาหลอีกครั้ง
เดิมทีที่ได้ยินคำพูดของพระราชนัดดา ยังมีบางคนไม่เชื่อ แต่กับหลินชงนั้น ต่างออกไป เขาเป็คนสนิทของท่านแม่ทัพ สนิทจนท่านแม่ทัพสามารถบอกทุกอย่างให้หลินชงทราบได้
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดเคยคิด ว่ากลุ่มทหารที่ได้รับความทุกข์เข็ญและเดือดร้อน ซึ่งท่านแม่ทัพเอ่ยปากบอกว่าจะช่วยเหลือนั้น กลับเกือบถูกหลินชงสังหารแล้ว
บนชานไม้ ทหารทั้งสิบห้าคนที่เดิมทียืนอยู่ด้านหน้า เพื่อช่วยเกาเซียนจือเสริมสร้างขวัญกำลังใจทหาร เมื่อได้ยินคำพูดของหลินชง ทั้งหมดพลันสั่นสะท้าน หันไปมองเกาเซียนจือทันที
วันนั้น ท่านแม่ทัพคิดจะสังหารข้าเช่นนั้นหรือ? ใต้เท้าหลินถูกสั่งให้สังหารเราทิ้ง!
"ท่านแม่ทัพ แล้วครอบครัวของข้าล่ะขอรับ? ท่านบอกว่าพวกเขาถูกกู่ไห่จับไป แล้วนี่มันอะไรกันขอรับ? เหตุใดท่านถึง้าสังหารเรา? เราทำงานถวายชีวิตเพื่อท่าน แต่ท่านกลับ้าสังหารเราหรือ?" ทหารทั้งสิบห้าคนพลันะโออกมา
"หลินชง เ้าหุบปากเสีย!" สีหน้าของเกาเซียนจือเปลี่ยนไปทันที พร้อมตวาดสั่งเสียงดัง
"หุบปาก? เช่นนั้นท่านบอกมา ว่าเื่ของซ่งเจิ้งซีเป็เช่นไรแน่? ท่านมิใช่บอกว่าจะตัดหัวเขา เพื่อให้รับโทษตามกฎหมายหรือ? มิใช่กล่าวว่าจะฆ่าเขา เพื่อคืนความเป็ธรรมให้เสี่ยวเตี๋ยหรือ? มิใช่บอกว่า... ฮือๆๆ!" หลินชงร่ำไห้ด้วยความเกลียดชัง
"ข้ามิได้ช่วยซ่งเจิ้งซี แต่เป็กู่ไห่ เป็กู่ไห่ที่ช่วยเขาไว้ หลินชงเ้าใจเย็นๆ ก่อน ทั้งหมดเป็แผนการของกู่ไห่!" เกาเซียนจือพูดเสียงดัง ด้วยใบหน้าเ็ป
เร็ว? สุดท้ายข้าก็ลงมือช้ากว่าแผนการของกู่ไห่เช่นเคย
กู่ไห่ไม่ให้เวลา แม้แต่จะพักกินอาหารสักมื้อ แค่กินอาหารมื้อเดียว ก็ทำให้สายไปเสียแล้ว! ภายในใจของเกาเซียนจือ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า แผนการของกู่ไห่นั้น ทั้งมากมายและรวดเร็วยิ่ง ทุกครั้งมันจะโจมตีตรงจุดที่เปราะบางที่สุดในหัวใจทุกคน
เกาเซียนจือเข้าใจแผนการของกู่ไห่ แต่เขาจะทำให้หลินชงเชื่อได้อย่างไร?
เพราะซ่งเจิ้งซี เป็หลักฐานที่มิอาจปฏิเสธได้
"พอแล้ว แผนการของกู่ไห่บ้าบออันใดอีก!" หลินชงตะเบ็งเสียงอย่างขมขื่น
ตอนนี้ เกาเซียนจือคล้ายกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู ใบหน้าหลินชงเต็มไปด้วยความโเี้
ซ่งเจิ้งซีที่อยู่ใต้ชานไม้ กลับเปิดปากพูดอีก "บังอาจนัก หลินชง เ้ากล้าพูดกับท่านแม่ทัพ โดยปราศจากความเคารพยำเกรงเช่นนี้ได้อย่างไร? แม่ทัพเกา ก่อนหน้านี้เ้าเคยพูดเอาไว้มิใช่หรือ ว่ารอจนข้ามาถึงค่ายแล้ว จะจัดการกับไพร่พวกนี้เสีย? ตอนนี้ข้าก็มาถึงค่ายแล้ว เช่นนั้น พวกหลินชงก็หมดประโยชน์แล้ว!"
เสียงซ่งเจิ้งซีที่ดังลั่น ราวกับเป็การจุดไฟในถังน้ำมัน
ทหารแปดแสนคน พลันร้องคำราม โทสะปะทุอย่างรุนแรง
ซ่งเจิ้งซีดวงตาเบิกโต ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น? นี่คงมิใช่สิ่งที่เสด็จพ่อและเกาเซียนจือจัดเตรียมเอาไว้ ใช่หรือไม่? เกิดสิ่งใดขึ้น?
"เกาเซียนจือ ข้าทำงานถวายชีวิตให้เ้ามานานหลายปี เ้ามันคนหน้าเนื้อใจเสือ ข้าจะฆ่าเ้า แก้แค้นให้เสี่ยวเตี๋ย!" หลินชงคำรามลั่น
เขาดึงกระบี่ยาวออกมา และพุ่งเข้าโจมตีเกาเซียนจือทันที
ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลินชงทุกคนที่ยืนอยู่ใต้ชาน ซึ่งคับแค้นแน่นอก ใกล้จะะเิอยู่รอมร่อ ก็ชักกระบี่ตามหลินชงโดยพลัน
"ฆ่า!"
“เฮ!”
จู่ๆ บนแท่นยกพื้นก็เกิดเหตุชุลมุน
"ปกป้องท่านแม่ทัพ!"
"ฆ่า!"
ค่ายทหารทั้งหมดเริ่มเดือดพล่าน ทุกอย่างสับสนอลหม่าน เพราะทหารไม่ยอมฟังคำสั่ง
ไม่มีผู้ใดฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น ทั้งบางคนฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่น[1] เริ่มปล้นคลังของค่ายทหาร
เวลานี้ ค่ายทหารทั้งหมดมีแต่ความวุ่นวาย บางคนจะสังหารเกาเซียนจือ ขณะที่บางคนก็ปกป้องเขา คนบางส่วน้าสังหารองค์รัชทายาท และบางส่วนก็อยากปกป้องพระองค์ แม้แต่ซ่งเจิ้งซีก็ยังอยู่ในวงล้อมแห้งความสับสนวุ่นวายนี้ด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้น กองทัพแปดแสนนายก็พังทลาย
ทหารที่้ากลับไปหาครอบครัว เริ่มเก็บข้าวของ ขณะที่บางคนกำลังปล้นค่าย และสังหารกันเอง ค่ายทหารทั้งหมดตกอยู่ในความยุ่งเหยิง
ในเวลานั้นเอง กองทัพทหารห้าหมื่นนายก็พุ่งออกจากด่านหู่เหลา
และผู้นำก็มิใช่ใครอื่น เป็ฮ่องเต้เฉินพระองค์ใหม่ เฉินเหลี่ยงอี้
ที่ควบม้าอยู่ด้านข้างเฉินเหลี่ยงอี้ ก็คือเฉินเทียนซาน
"เหลี่ยงอี้ เมื่อครู่พลุพุ่งขึ้นฟ้าหนึ่งนัด ตามที่ท่านแม่ทัพบอก ว่าเป็สัญญาณจากกลุ่มโจรูเา ให้เรานำทหารห้าหมื่นนายบุกเข้าโจมตีค่ายทหารซ่งทันที แต่เหตุใดเ้าจึงต้องออกมาเองด้วย?" เฉินเทียนซานเอ่ยถาม พร้อมขมวดคิ้ว
“ตราบใดที่ท่านปู่อยู่เคียงข้าง ข้าย่อมปลอดภัยแน่นอน ท่านแม่ทัพให้ข้าเพิ่มขวัญกำลังใจทหาร ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจมาด้วยตนเอง ก่อนที่เสด็จพ่อจะสิ้นพระชนม์ ได้บอกให้ข้าฟังเขา เขาว่าอย่างไร ก็ให้ข้าจัดการทุกอย่างตามนั้น!" เฉินเหลี่ยงอี้กล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
"แต่นี่... มิใช่กล่าวเกินจริงไปหน่อยหรือ เขาบอกไม่เป็ไร แล้วจะไม่เป็ไรจริงๆ หรือ? เ้ามีทหารเพียงห้าหมื่นคน ฝ่ายนั้นมียอดฝีมือแปดแสนคน นอกจากนี้ เกาเซียนจือเองก็อยู่ที่ค่ายนั่น นี่... นี่มิเท่ากับส่งเ้าไปตายหรอกหรือ?" เฉินเทียนซานนิ่วหน้า
“ข้าเชื่อเสด็จพ่อขอรับ!” เฉิยเหลี่ยงอี้ขมวดคิ้ว พลางตอบ
"เฮ้อ! ช่างเถอะ ถึงเวลา ข้าจะใช้พลังทั้งหมดปกป้องก็แล้วกัน เ้าอย่าได้เดินซ้ำรอยพ่อล่ะ อย่าออกห่างจากข้ามากเกินไป ไม่เช่นนั้น แม้อยากช่วย ก็คงช่วยไม่ได้" เฉินเทียนซานกล่าว
เฉินเหลี่ยงอี้พยักหน้า ก่อนเปล่งเสียงกึกก้อง
"ทหารทุกคน อย่างที่พวกเ้าเห็นแล้ว ไอ้พวกกองทัพซ่งนั่นโเี้มาก แม้จะยอมสวามิภักดิ์ แต่ก็ถูกสังหารอยู่ดี เดิมทีพวกมันก็ตั้งใจจะไม่ปล่อยให้พวกเรารอดอยู่แล้ว พวกเ้าเห็นแล้วหรือยัง!"
สีหน้าของเหล่าทหาร เปลี่ยนเป็ไม่น่าดูทันที
"ตามที่คนของท่านแม่ทัพรายงานมา กองทัพซ่งได้รับคำสั่งให้บุกด่านหู่เหลา และกำจัดทุกคนที่อยู่ในนี้ บิดามารดาและบุตรชายของพวกเ้าจะถูกสังหาร ภรรยาและบุตรสาวจะกลายเป็ทาส ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกยึดไปแบ่งกัน
ข่าวจากแนวหน้า พวกเ้าก็น่าจะรู้แล้ว ว่าทหารหกแสนคนของกองทัพเฉินเรา ถูกสังหารทั้งหมด ยังรู้สึกว่าตนเองโชคดีอยู่หรือไม่?” เฉินเหลี่ยงอี้ะโถาม
“ไม่!” ทหารทุกคนตอบด้วยั์ตาแดงก่ำ
"เพื่อครอบครัวของเรา จงตามข้ามา สังหารกองทัพซ่ง ขอให้์คุ้มครอง ฆ่าพวกมันให้หมด แม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตาย แพ้ก็ตาย ยอมจำนนก็ตาย มิสู้ตามข้าไปรบแลกชีวิต ยังจะดีกว่า... ฆ่า!" เฉินเหลี่ยงอี้กู่ร้องอย่างเร่งเร้า
"ฆ่า!" ทหารห้าหมื่นคนคำรามเสียงดังพร้อมกัน
เคร้งๆ!
กำลังพลห้าหมื่นคนพึ่งข้ามเนินเขา ก็ได้ยินเสียงฆ่าฟันจากในค่ายกองทัพซ่งทันที
เมื่อกองทัพเฉินเข้าไปใกล้ค่ายทหารซ่ง กลับเห็นควันลอยขึ้นมาทั่วสารทิศ ทั้งค่ายตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายและแตกตื่น ทหารที่อยู่รอบๆ กำลังเข่นฆ่ากันเอง...
... มิใช่ว่ากองทัพซ่งเข้มงวดมากหรอกหรือ?
เฉินเทียนซานขยี้ตา "เรามาผิดที่หรือไม่? นี่ใช่ทหารยอดฝีมือแปดแสนคนหรือ?"
เฉินเหลี่ยงอี้กลับลิงโลดยิ่ง
"ทหารทุกนาย... บุก!" เฉินเหลี่ยงอี้กู่ร้อง
“เฮ!”
กองทัพเฉินห้าหมื่นคน ประหนึ่งเคียวของเทพแห่งความตาย พวกเขาทะยานเข้าไปในค่ายของพวกหัวมังกุท้ายั[2]เ่าั้ทันที
"จัดการศัตรูๆๆ กำจัดพวกมันให้หมด!" ใครบางคนะโออกมา
ขณะนี้จิตใจของเหล่าทหารซ่ง กำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย มีหรือจะรับมือศัตรูได้? พวกเขาคว้าอะไรได้ ก็วิ่งหนีทันที
เคร้งคร้างๆ!
ทันใดนั้นสถานการณ์าโดยรวม ก็เปลี่ยนไปทันที
ทหารเฉินห้าหมื่นนายไล่ล่าทหารซ่งที่หลบหนี กลายเป็การเข่นฆ่าแต่ฝ่ายเดียว าครั้งนี้ได้พลิกกลับแล้ว
บัดนี้ ทหารห้าหมื่นคนของกองทัพเฉิน ลงมือสังหารตามแต่ใจ แม้จะไม่เคยฆ่าฟันผู้ใด และไม่เคยทำามาก่อน แต่ตอนนี้เพื่อครอบครัวแล้ว การสังหารผู้คนที่กำลังหลบหนี กลับเป็เื่ง่ายดายและสมควรยิ่ง
เดิมกองทัพซ่ง มิใช่เช่นนี้นี่!
บนด่านหู่เหลา กู่ฉินพิงราวกั้น จ้องมองอยู่ไกลๆ ห่างออกไปสิบลี้ พลุพุ่งขึ้นฟ้า พร้อมเสียงร้องอันน่าสยดสยอง ที่แม้จะอยู่ห่างนับสิบลี้ ก็ยังได้ยิน
"มีใครอยู่บ้าง?" กู่ฉินเรียกเสียงดัง
"ขอรับ!" คนของจวนสกุลกู่หลายคน ตอบรับอย่างนอบน้อม
“ส่งนกพิราบสื่อสารไปยังหัวเมืองต่างๆ ของแคว้นเฉินที่อยู่โดยรอบ ว่าเกาเซียนจือแพ้แล้ว ทหารแปดแสนคนแตกพ่าย ส่วนตัวเกาเซียนจือไม่ทราบเป็หรือตาย มีทหารรอดไปได้บางส่วน คาดว่าคงจะหนีไปยังเมืองต่างๆ
สั่งให้ร้านสกุลกู่กระจายข่าวออกไป เพื่อกระตุ้นเหล่าประชาชน ให้ช่วยกันสังหารทหารซ่งที่ประจำอยู่ในเมืองต่างๆ สังหารหนึ่งคนได้ทอง สังหารสิบคนได้ตำแหน่ง
มีแค้นแก้แค้น ทหารเฉินหกแสนคนถูกเข่นฆ่า ทุกคนล้วนเป็เสาหลักของครอบครัว ถึงเวลาแก้แค้น เพื่อปลอบประโลมิญญาของพวกเขาแล้ว!
นอกจากนี้ เมืองที่ถูกแคว้นซ่งยึดครอง ก็กระตุ้นเหล่าขุนนางและผู้มีอำนาจในพื้นที่ ให้พวกเขาตอบโต้ ยึดเมืองคืนมา ทุกคนจะได้รับรางวัลตามผลงาน และทุกอย่างในเมือง จะถูกจัดสรรอย่างเท่าเทียม ยิ่งลงมือมากเท่าใด ก็จะได้รับรางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ร่วมมือร่วมใจเพื่อบ้านเมืองของเรา!" กู่ฉินกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
"ขอรับ!" คนของจวนสกุลกู่ตอบรับทันที
ตอนนี้ทหารซ่งทั้งแปดแสนคน เป็ดั่งสุนัขจรจัด แตกพ่ายโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้อีก
ในทางกลับกัน กองกำลังห้าหมื่นคนของแคว้นเฉิน เหมือนดั่งทหาร์ ไม่ว่าผ่านไปที่ใด ล้วนไร้เทียมทานปราศจากผู้ต้าน
ฝ่ายหนึ่งต่อสู้ เผชิญความตายอย่างแกล้วกล้า อีกฝ่ายหมดสิ้นกำลังใจในการรบ าใกล้จะถึงบทสรุปแล้ว
เกาเซียนจือและองค์รัชทายาทซ่ง ซึ่งมีกลุ่มผู้ภักดีคุ้มครองอยู่นั้น ได้หลบหนีออกไปได้
อย่างไรก็ตาม แขนของเกาเซียนจือ ถูกหลินชงฟันจนเป็แผลขนาดใหญ่ เืไหลออกมาจำนวนมาก
แต่ความเ็ปจากาแที่แขน ยังไม่หนักเท่าการที่ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน ออกจากค่ายของตนเอง
ขณะพักอยู่ที่เชิงเขา เกาเซียนจือรู้สึกปวดใจยิ่งนัก เมื่อมองไปยังกองทัพซ่งซึ่งอยู่ไกลๆ นั่น
"ฮ่าๆๆๆ กู่ไห่! กู่ไห่!?” เขาแสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมา
ข้าห้อม้าไม่หยุด แต่ก็ยังไม่อาจตามกู่ไห่ได้ทัน กลยุทธ์นั่นรวดเร็วและฉับไวเพียงนี้เชียวหรือ? เป็ความจริง ที่ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด เมื่อเทียบกับสี่สิบปีก่อน กู่ไห่ที่ตอนนี้แก่ชรา กลับน่ากลัวยิ่งกว่าตอนนั้นเสียอีก
"จบสิ้นแล้วหรือ? ตอนนี้เราจะทำเช่นไรต่อไป?" องค์รัชทายาทซ่งถามด้วยสีหน้าท้อแท้
เกาเซียนจือถอนหายใจ กล่าวว่า "ไม่ช้าก็เร็ว ความจริงจะกระจ่าง โชคดีที่ข้าสังหารทหารเฉินไปหกแสนคน ขณะนี้กองทัพเฉินมีทหารน้อยมาก ไม่มีทางทำศึกใหญ่ได้ แม้ว่ากองทัพซ่งของเราจะกระจัดกระจาย ทหารเองก็สูญเสียขวัญกำลังใจไป แต่เรายังสามารถรวบรวมขึ้นมาใหม่ได้ เพียงแต่..."
“เพียงแต่?”
“ข้าสามารถเพิ่มขวัญกำลังใจกองทัพได้ ในเวลาอันสั้น เพียงแต่เกรงว่ากู่ไห่จะไวกว่า เขาลงมือเร็วยิ่ง!” เกาเซียนจือตอบกลับ ด้วยน้ำเสียงที่เ็ป
....
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ภายในเมืองชาง
นี่เป็เมืองที่กองทัพซ่งประจำการอยู่ ขณะนี้ยังคงมีทหารซ่งส่วนหนึ่งอยู่ในเมือง แต่เมื่อครู่ที่ผ่านมา มีข่าวออกมาจากร้านค้าบางแห่ง
กองทัพซ่งแตกพ่าย ทหารแปดแสนคนหนีกระเจิดกระเจิง เกาเซียนจืออยู่หรือตายยังไม่ทราบแน่ชัด แคว้นซ่งพ่ายแพ้แล้ว!
เมื่อข่าวนี้มาถึง ประชาชนนับไม่ถ้วนในต่างสับสนอลหม่าน
ทั้งยังมีการกระตุ้นเร้า ให้ผู้คนยึดเมืองกลับคืนมา
ผู้มีอำนาจในเมือง และประชาชนต่างงุนงงสงสัย
ก่อนหน้านี้ มีการจุดประทัด และดอกไม้ไฟทุกวันเพื่อเฉลิมฉลอง เมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง ก็ได้ถูกฝังลึกในจิตใจของเหล่าผู้คน ที่สูญเสียสมาชิกในครอบครัวแล้ว
หลังสังหารบุตรชาย บิดา และผู้เป็เสาหลักของครอบครัวเราไป พวกเ้ายังร้องเพลงเต้นรำ จุดดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมฉลองอีกหรือ? นี่ไม่ต่างจากการโรยเกลือลงบนาแ
ชาวเมืองคับแค้นจนแทบอยากจะถลกหนัง กินเนื้อ ดื่มเื เคี้ยวกระดูกคนเ่าั้ให้สิ้น แต่ไม่มีกำลังพอ เพราะศัตรูแข็งแกร่งกว่า เหล่าชาวบ้านจึงได้แต่อดทนกับการถูกกดขี่ มองดูคนในครอบครัวถูกสังหาร และแอบหลั่งน้ำตาเงียบๆ เท่านั้น
ตอนนี้ เมื่อได้ยินข่าวจากร้านค้าสกุลกู่ ทันใดนั้น ความเคียดแค้น ความโกรธเคือง และรังสีสังหาร ที่เก็บซ่อนไว้ในใจก็ค่อยๆ เริ่มปะทุ
ทหารซ่งที่เหลืออยู่ในเมือง ไม่นานก็สังเกตเห็น ว่าสายตาของผู้คนที่จับจ้องพวกเขาในตอนนี้ ได้เปลี่ยนแปรไป ไม่เหมือนก่อน คล้ายความชิงชังที่เคยปกปิดไว้ ได้เผยออกมาทางแววตา
อย่างไรก็ตาม ข่าวยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจน แม้ว่าชาวบ้านและขุนนางในท้องที่ จะโกรธเกรี้ยวและปรารถนาในการล้างแค้นมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะลงมือกระทำสิ่งใด
แต่ตอนนี้ทหารหนีทัพชุดแรก เข้ามาในเมืองแล้ว
"แพ้แล้วๆ ทหารแปดแสนคนแพ้หมดแล้ว!"
หลังจากทหารหนีทัพรายแรก บอกผลของาที่แนวหน้า
หัวใจของเหล่าผู้มีอำนาจแห่งเมืองชาง พลันเต้นแรงขึ้นในชั่วพริบตา กองทัพซ่งพ่ายแพ้แล้ว ดังนั้น แคว้นเฉินก็สามารถพลิกกลับมาชนะได้! เกาเซียนจือยังไม่ทราบเป็หรือตาย เช่นนั้นผู้ใดเล่าจะสามารถขัดขวางกู่ไห่ได้? เมืองชางนั้น ในไม่ช้าก็คงได้กลับคืนสู่แคว้นเฉินกระมัง?
แล้วฮ่องเต้เฉินจะแบ่งผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมหรือไม่?
ในค่ำคืนอันเงียบสงัด ตลอดคืนนั้น ความปรารถนาและความชิงชังกำลังก่อตัว เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้นมาเยือน พร้อมเสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟัน ทั้งเมืองชางพลันเดือดพล่านขึ้นมา
“ข้าจะทุบไอ้สารเลวพวกนั้นให้ตาย ลูกชายของข้าถูกสังหารอย่างโเี้ ถูกฝังทั้งเป็ ข้าจะทุบตีพวกเ้าให้ตายๆ ฮือๆๆๆ”
"เ้าฆ่าพ่อข้า ข้าจะฆ่าเ้า!"
"คืนสามีข้ามา คืนสามีข้ามา!"
"พี่ชาย น้องชาย ข้าจะแก้แค้นให้พวกเ้าเอง!"
"หลังจากฆ่าลูกชายข้าไป พวกเ้ายังจุดพลุเฉลิมฉลองกันอีก? ข้าจะป่นกระดูก และถลกหนังของพวกเ้าเสีย!"
มีทหารซ่งไม่มากนัก ที่อยู่รักษาการณ์ในเมืองชาง
ภายใต้การนำของผู้มีอำนาจในเมือง กลุ่มฝูงชนต่างตื่นเต้นฮึกเหิม ทั้งจากผลตอบแทน และแรงผลักดันจากความอาฆาตแค้น าครั้งใหญ่จึงได้เริ่มขึ้น
นอกจากเมืองชางแล้ว ขณะนี้สิบแปดเมืองของแคว้นเฉินที่ถูกยึดครอง ก็เปิดฉากต่อสู้เช่นเดียวกัน
กองทัพซ่งที่เหลืออยู่ ไม่อาจหยุดความเคียดแค้นชิงชังอันมหาศาลนี้ได้
ฆ่าๆๆ ทำลายๆๆ!
ความโกลาหลปรากฏขึ้นทันที
...
ไม่กี่วันหลังจากนั้น
ในห้องโถงใหญ่ สำนักชิงเหอ
หัวหน้าสำนักชิงเหอ และหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย ยืนแยกสองฝั่งพร้อมสาวกของตน
สาวงามในชุดบุรุษผู้นั้น ยืนอยู่ทางทิศเหนือกับใต้ซือหลิวเหนียน และผู้ติดตามอีกสามคน
ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา คือ เฉินเทียนซาน และสาวกของสำนักซ่งเจี่ย ซึ่งกำลังรายงานหญิงสาว ด้วยความนอบน้อมยิ่ง
"สามเดือนหรือ? ไม่... ยังไม่ถึงสามเดือน ทหารซ่งแปดแสนคนถูกทำลายสิ้น เกาเซียนจือก็ต้องหลบหนี เมืองของแคว้นเฉินเกินครึ่ง ถูกยึดคืนไปได้ นี่เขาใช้เวลาเพียงสามเดือนเองหรือ?" ใต้ซือหลิวเหนียนแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา
"ขอรับ!" เฉินเทียนซานตอบกลับไปอย่างตื่นเต้นยินดี
อีกด้านหนึ่ง เหล่าสาวกของสำนักซ่งเจี่ยกลับมีสีหน้าหดหู่
"เป็ไปได้อย่างไร กู่ไห่ใช้เล่ห์กลใดกัน?" หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยสบถเสียงดังอย่างโกรธเกรี้ยว
"ฮ่าๆๆ... ท่านหัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย อย่าโกรธไปเลย ฟังสิ่งที่พวกเขาพูดก่อน... ฮ่าๆๆ!" หัวหน้าสำนักชิงเหอกลับหัวเราะด้วยความสุขใจ
ดวงตาหญิงสาวในชุดบุรุษสว่างวาบ นางรู้ดีว่าเกาเซียนจือเก่งกาจเพียงใด ยังคิดถึงความเป็ไปได้มากมายในสมอง แต่คาดไม่ถึง ว่ากู่ไห่จะใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็สามารถจัดการทหารชั้นยอดของแคว้นซ่งได้เช่นนี้ ทั้งยังยึดดินแดนแคว้นเฉินเกินครึ่งกลับไปได้อีก? นี่... นี่เขาทำได้อย่างไรกัน?
...
เมืองหลวงซ่งเฉิง กู่ฮั่นรายงานข่าวจากแนวหน้าให้กู่ไห่ฟังอย่างตื่นเต้น
กู่ไห่กลับนั่งอยู่หน้ากระดานหมากล้อม ทั้งยังวางหมากตลอดเวลา กระดานหมากนั้นแปลกมาก หมากล้อมทั่วไปจะมีเส้นแนวตั้งและแนวนอนสิบเก้าเส้น แต่กระดานหมากล้อมที่อยู่ข้างหน้ากู่ไห่ กลับมีเส้นแนวตั้งและแนวนอนสามสิบเส้น
แถวพิเศษนั้น จะทำให้เกิดตัวแปรนับไม่ถ้วนบนกระดาน แต่กู่ไห่มีแถวพิเศษที่เพิ่มมายี่สิบสองแถว ทุกอย่างจึงดูแปลกยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น กู่ไห่มักจะเล่นกับตัวเอง ไม่เคยให้ใครร่วมเล่นด้วยเลยแม้สักครั้ง
"พ่อบุญธรรม เราทำสำเร็จแล้ว ฮ่าๆๆ! เกาเซียนจือพ่ายแพ้แล้ว กองทัพสูญเสียขวัญกำลังใจ หาก้ารวบรวมขึ้นมาใหม่ คงมิใช่เื่ง่ายแล้ว" กู่ฮั่นพูดพร้อมหัวเราะ
"แผนการทำลายซ่งขั้นแรก ลุล่วงแล้ว!" กู่ไห่กล่าว ขณะวางหมากขาวลงบนกระดาน
"ใช่ขอรับ ขั้นแรกทำลายขวัญกำลังใจทหาร! ต่อไปก็เป็ขั้นที่สองแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?" กู่ฮั่นจ้องไปยังกู่ไห่
"แผนทำลายซ่ง ขั้นที่สอง ทำลายขวัญกำลังใจของประชาชน!"
“เมื่อประชาชนสูญเสียขวัญ ใจประชาจะไม่มั่นคง พ่อบุญธรรม นี่ไม่ง่ายเลย ที่จะทำให้ประชาชนหมดขวัญกำลังใจ!” กู่ฮั่นพูด พลางขมวดคิ้ว
"เกาเซียนจือ องค์รัชทายาท และฮ่องเต้ซ่ง คงเกลียดชังข้าถึงแก่นแล้วใช่หรือไม่? ความชิงชังนี้ จะเป็รากฐานที่ทำให้ขวัญกำลังใจของชาวประชาลดลง ประชาชนคือรากฐานของชาติ เมื่อรากฐานไม่มั่น ชาติก็จะสั่นคลอน!” กู่ไห่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาปรากฏแววเย็นะเื ขณะพูด
-------------------------------------------
[1] จับปลาในน้ำขุ่น ใช้ประโยชน์จากความวุ่นวาย เพื่อกอบโกยผลประโยชน์โดยมิชอบ
[2] พวกหัวมังกุท้ายั หมายถึงสิ่งที่ไม่เข้ากัน แต่มาอยู่รวมกัน เมื่อเป็แบบนั้นจึงทำให้เกิดการแตกแยกได้ง่าย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้