ตามที่เยี่ยอ๋องซื่อจื่อและเมิ่งไหวจิ่นได้บอกนาง เฉิงชิงเองก็นึกออกมาได้อย่างหนึ่ง
เงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติถูกคนยักยอกไปแล้ว รวมถึงค่าใช้จ่ายในกองทัพของทางเยี่ยอ๋องที่ติดลบมากมาย มีคนใช้ความ ‘เหมาะสมชอบธรรม’ นำทั้งสองเื่มารวมเข้าด้วยกัน เยี่ยอ๋องตัดเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติส่วนใหญ่ไปเพื่อชดเชยกับส่วนที่ติดลบในค่าใช้จ่ายกองทัพ
ตามหลักการแล้วดูเหมือนจะไม่มีความผิดแปลก
สำหรับตัวเยี่ยอ๋องจะทำเช่นไรนั้น คาดว่าผู้ที่อยู่เื้ัก็ได้เตรียมการไว้อย่างชัดเจนแล้ว
อีกทั้งโอรส์เห็นว่าเื่นี้เกี่ยวพันถึงเยี่ยอ๋อง เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเยี่ยอ๋องก็ดี หรือเพราะความเกรงกลัวเยี่ยอ๋องภายในใจก็ช่าง จึงไม่ได้เตรียมที่จะตรวจสอบแล้ว
ผู้ที่อยู่เื้ัช่างสามารถคาดเดาความคิดของฝ่าา นำเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติไปป้ายความผิดให้เยี่ยอ๋อง ทำให้เยี่ยอ๋องถูกบีบบังคับไม่สามารถเอ่ยออกมาได้ จึงทำให้เกิดการผิดใจระหว่างจวนเยี่ยอ๋องและโอรส์ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายห่างกัน
เยี่ยอ๋องมีความทุกข์ที่ยากจะเอ่ย คิดจะอุทธรณ์ต่อโอรส์ว่าตนไม่ได้ตัดเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกระมัง ค่าใช้จ่ายในกองทัพก็เกิดติดลบขึ้นมาจริงๆ เฉิงชิงสามารถตรวจสอบรายการบัญชีจนกระจ่าง คนในกรมพระคลังย่อมสามารถตรวจสอบจนชัดแจ้งได้เช่นกัน
หากเยี่ยอ๋องนำบัญชีที่เกิดปัญหากองนี้ส่งออกไป ยิ่งไม่อาจอธิบายอย่างชัดเจนได้
สุดท้ายแล้ว เป็ทางเยี่ยอ๋องที่เกิดปัญหาจนทำให้ถูกคนจับได้นำข้อมูลมาโจมตี แต่ถ้ารายการบัญชีค่าใช้จ่ายในกองทัพถูกต้องแล้ว คิดจะใส่ร้ายเยี่ยอ๋องก็ไม่ง่ายแล้ว!
ต้องอุดรอยรั่วที่ตัวเยี่ยอ๋องก่อน เยี่ยอ๋องซื่อจื่อจึงจะสามารถออกไปต่อยตีกับผู้อื่นได้
ซื่อจื่อเองก็เป็คนมีความคิด นำรายการบัญชีหนึ่งกองจากสถานที่อันห่างไกลมาถึงยังหนานอี๋ เฉิงชิงรู้สึกว่านี่คือโชคชะตา และเป็สะพานที่ดีสำหรับการร่วมมือระหว่างนางและจวนเยี่ยอ๋อง
“เื่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของบิดาและอนาคตของตัวข้าเอง อีกทั้งมีความแค้นในการสังหารบิดารวมอยู่ในนี้ ไม่ว่ามือมืดที่อยู่เื้ัจะเป็ผู้ใด ข้าคือผู้ที่ไม่อาจเป็คนที่ถูกอีกฝ่ายซื้อตัวไปได้มากที่สุด ซื่อจื่อสามารถวางใจได้ตรงจุดนี้ ข้าไม่เพียงสามารถตรวจสอบบัญชีได้ ยังสามารถทำบัญชีให้ซื่อจื่อ ข้ากล้ารับประกันว่ารายการบัญชีที่ข้าทำแม้แต่ข้าหลวงในกรมพระคลังก็ไม่อาจจับผิดได้ ข้าหวังว่าตนเองจะสามารถทำประโยชน์ให้ได้!”
เื่ทำบัญชีปลอม เฉิงชิงไม่มีความกดดันทางศีลธรรมเลยแม้แต่น้อย
นางไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิดกับจวนเยี่ยอ๋องเพื่อหลอกเอาเงินจากราชสำนัก แต่ทำให้บัญชีสมดุลแทนเยี่ยอ๋องต่างหาก!
ส่วนตนเองจะช่วยคนช่วยก่อกรรมทำเข็ญหรือไม่… เฉิงชิงใส่ใจถึงขนาดนั้นไม่ไหว การที่นางทำบัญชีปลอมให้เยี่ยอ๋องซื่อจื่อก็เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็ธรรมแก่เฉิงจือหย่วน นี่คือเป้าหมายสำคัญที่สุด นอกเหนือจากนั้นสำคัญรองลงมา
ตนเองยังเอาตัวไม่รอด ไหนเลยจะเหลือกำลังไปดูแลผู้อื่น
กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา ที่เลวที่สุดชัดเจนว่าคือฆาตกรที่อยู่เื้ัการวางยาพิษสังหารและทำให้เฉิงจือหย่วนเป็แพะรับบาป!
เฉิงชิงอาสาตนเอง เมิ่งไหวจิ่นไม่ได้เอ่ยตอบอยู่นาน
ไม่รู้ว่าควรประเมินเฉิงชิงอย่างไรดีแล้วโดยสิ้นเชิง ตัวก็เตี้ย ร่างกายก็บอบบาง อายุก็ยังน้อย แต่กลับชิงกล่าวว่า้าทำบัญชีปลอมให้เยี่ยอ๋องซื่อจื่อ
นั่นคือรายการบัญชีค่าใช้จ่ายภายในกองทัพ เฉิงชิง้าจะช่วยทำบัญชีปลอมให้ซื่อจื่อไปหลอกลวงราชสำนัก… ความใจกล้าเทียมฟ้าของเฉิงชิงเหนือกว่าที่เมิ่งไหวจิ่นคาดการณ์ไว้ อีกทั้งเขาได้เห็นการตัดสินใจที่จะร้องทุกข์ขอความเป็ธรรมเพื่อบิดาของเฉิงชิงแล้ว
“…ข้าจะไปแจ้งต่อซื่อจื่อ ส่วนจะตัดสินอย่างไรนั้นล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของซื่อจื่อ”
“ขอบคุณขอรับศิษย์พี่!”
เมิ่งไหวจิ่นส่งเฉิงชิงถึงตรอกหยางหลิ่วแล้ว เฉิงชิงก็ฉีกยิ้มและโบกมือลาเขา รอรถม้าของเมิ่งไหวจิ่นหายลับไปตรงทางเข้าตรอก รอยยิ้มบนใบหน้าเฉิงชิงก็เลือนหายไปในทันที
นางไม่ได้กลับไปบ้านทันที แต่ไปยังบ้านโลงศพ
บ้านโลงศพในยามค่ำคืนมืดครึ้มน่าสะพรึงกลัว คนเฝ้าตอนกลางคืนบ่นไม่หยุดเมื่อเฉิงชิง้าคารวะบิดาผู้ล่วงลับกลางดึก
แต่หลังจากนางให้เงินแล้ว ท่าทีของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไป เฉิงชิงถามอะไรก็ยอมตอบ
“เรียนคุณชาย นอกเหนือจากบ้านห้าตระกูลเฉิงและคนในครอบครัวของคุณชายแล้ว ไม่มีผู้อื่นมาคารวะใต้เท้าเฉิงขอรับ”
“ข้า้าคารวะท่านพ่อผู้ล่วงลับเพียงคนเดียว”
“เชิญคุณชายตามสบาย เชิญคุณชายตามสบาย ข้าน้อยขอตัวก่อน!”
คนเฝ้าตอนกลางคืนจุดโคมไฟไว้แล้วจากไป เทียนสีขาว โลงศพไม้สีดำ บรรยากาศชวนขนลุกภายในห้องนี้กลับไม่ได้ทำให้เฉิงชิงรู้สึกหวาดกลัว
นางหมุนโลงศพไม้ของเฉิงจือหย่วน ปากก็พูดเองเออเอง
“ผีมีอะไรน่ากลัวกัน คนเป็ต่างหากที่น่ากลัวกว่าผี”
นางหลิ่วมักจะมาคารวะอยู่บ่อยๆ โลงศพไม้ก็เช็ดจนสะอาด เฉิงชิงมองไม่ออกว่าเป็ลูกเล่นอะไร แต่นางเคยลูบคลำทั่วโลงศพไม้อย่างละเอียดแล้ว มีตะปูสองตัวที่นูนออกมาไม่ถูกตำแหน่ง หลังจากนำเฉิงจือหย่วนลงโลงแล้วมีคนเปิดโลงศพอีกทีจริงๆ หรือ?
“เช่นนั้น ตรวจสอบศพก็คือเื่จริง…”
นอกเหนือจากการเลี้ยงดูบุตรสาวเยี่ยงบุตรชายแล้ว ในฐานะบิดา เฉิงจือหย่วนไม่มีจุดไหนที่บกพร่อง อย่างน้อย ‘เฉิงชิง’ ก็กล่าวเช่นนั้น ในบรรดาบุตรสี่คนในบ้าน เฉิงจือหย่วนรักและเอาใจใส่ ‘เฉิงชิง’ มากกว่าผู้ใด!
เฉิงชิงมีความทรงจำเ่าั้ครบถ้วน ราวกับว่านางประสบด้วยตนเอง
“ที่แท้ท่านก็ถูกคนวางยาพิษสังหาร”
“นอกเหนือจากร้องทุกข์ขอความเป็ธรรมแล้ว ข้ายังจะเปิดโปงฆาตกรด้วย ท่านวางใจ สองเื่นี้ข้าล้วนทำได้”
ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจหลีกหนีความตายไปได้ แต่ฆ่าตัวตายกับถูกคนวางยาพิษสังหารมีความแตกต่างอย่างใหญ่หลวง ฝากความหวังไว้ที่ทวยเทพลงทัณฑ์ฆาตกรก็ยังสู้นางชิงลงมือเองไม่ได้
นางจุดธูปให้เฉิงจือหย่วนแล้วตนเองก็ค่อยๆ เดินออกจากบ้านโลงศพ
ไม่รู้ว่าฝนโปรยปรายลงมายามใด ซือเยี่ยนกางร่มมาหนึ่งคัน รออยู่ที่ประตูทางเข้าของบ้านโลงศพอย่างอ่อนน้อม เมื่อเห็นเฉิงชิงออกมาแล้วก็รีบเอาร่มกางไว้เหนือศีรษะนาง ยอมให้ตัวเองเปียกแต่ไม่ยอมให้เฉิงชิงโดนละอองฝน
เฉิงชิงมายังบ้านโลงศพ เห็นชัดๆว่าไม่ได้แจ้งแก่ผู้ใด เด็กรับใช้ที่เอาใจใส่เช่นนี้เป็ของบ้านห้า… ใช่แล้ว เื่ที่เกิดขึ้นในอำเภอหนานอี๋ เพียงแค่นายท่านห้าเฉิง้าจะรู้ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถปิดบังเขาได้
“นายน้อยชิง นายท่านห้าเขา—”
ซือเยี่ยนคิดจะเอ่ยคำแต่ก็ยั้งไว้
นายท่านห้าให้เขาและซือโม่ไปรับใช้เฉิงชิง พวกเขาย่อมฟังคำสั่งของเฉิงชิง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลายเป็คนของเฉิงชิงไปแล้ว สัญญาขายตัวยังอยู่ที่บ้านห้า พวกเขายังคงต้องฟังคำสั่งของนายท่านห้าเฉิง
คำสั่งของนายท่านห้าอยู่เหนือกว่าความปรารถนาของเฉิงชิง……
แม้เฉิงชิงจะอายุยังน้อย แต่ก็เป็คนที่ยึดถือความคิดของตนมาก แม้จะไม่ได้เอ่ยความคิดเห็นใดๆ ออกมา แต่ก็ไม่ได้เชื่อใจเขาและซือโม่จริงๆ นี่เป็จุดที่ทำให้ซือเยี่ยนกระอักกระอ่วนใจ
ยังดีที่คืนนี้เฉิงชิงไม่สนใจรายละเอียด นางเช็ดหยาดฝนบนใบหน้าออกไป เพียงเอ่ยขอร้องซือเยี่ยนอย่างหนึ่ง
“ข้า้าพบท่านปู่ห้า พรุ่งนี้ไม่ได้ ต้องเป็คืนนี้เท่านั้น”
อำเภอหนานอี๋ไม่ใหญ่นัก ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เฉิงชิงก็มาปรากฏตัวยังภายในห้องหนังสือของนายท่านห้าแล้ว
ตรงหน้าของนางมีชาร้อนถ้วยหนึ่ง นายท่านห้าเฉิงมองนางอย่างเงียบเชียบ
“ชิงเกอเอ๋อร์ เ้าไม่ได้ไปสถานศึกษาสิบวันแล้ว เ้ายังจำได้หรือไม่ว่าตนเองมีความทะยานอยากที่จะสอบเข้ารับราชการ? เ้าเป็เด็กมีความทะเยอทะยาน แต่เ้าต้องรู้จักแยกแยะเื่หนักเบา!”
“ท่านปู่ขอรับ ท่านกลัวว่าข้าจะล่าช้าด้านการเรียน หรือ้าจะถามว่าในสิบวันนี้ข้าไปที่ใดกับศิษย์พี่เมิ่งมา… ท่านปู่ ข้าอยากจะบอกท่านเหลือเกิน แต่ข้าไม่อาจกล่าวได้ คนในตระกูลปฏิบัติต่อข้าไม่เลวเลย ท่านกับท่านย่าดูแลเอาใจใส่พวกข้าอย่างยิ่ง ข้ามีเื่ที่อยากจะกระทำด้วยตนเอง ข้ารับรองว่าจะไม่ให้เกี่ยวพันถึงคนในตระกูล หากวันนั้นมาถึงจริงๆ ท่านปู่สามารถขับไล่ข้าออกจากตระกูล ข้าจะไม่ถือโทษโกรธท่านเลย!”
มีอะไรน่าพูดกัน
นายท่านห้าย่อมรู้อยู่แล้วว่าเยี่ยอ๋องซื่อจื่อมาหนานอี๋
มองออกกลับไม่เอ่ยออกมา ไม่ว่าเยี่ยอ๋องซื่อจื่อจะ้าทำสิ่งใดก็ล้วนไม่เกี่ยวกับตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ เป็เพียงการติดต่อของเฉิงชิงเองเท่านั้น
เฉิงชิงคิดไปเองว่าใคร่ครวญเพื่อตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ แต่กลับทำให้นายท่านห้าเฉิงโกรธจนตบโต๊ะ
“เ้าอายุน้อยแค่นี้ไหนเลยจะรู้ถึงความอันตราย เมิ่งไหวจิ่นก็ก่อเื่ เ้าสองคนคิดว่าตนเองเอื้อมถึงคนใหญ่คนโตที่เก่งกาจแล้ว แต่ลืมคำว่า ‘ขอหนังจากเสือ[1]’ สี่คำนี้ไปเสียแล้ว!”
[1] ขอหนังจากเสือ หมายถึงเจรจาขอในสิ่งที่ขัดกับผลประโยชน์ของผู้อื่นที่มีกำลังเหนือกว่าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเป็เื่ที่เป็ไปไม่ได้
