ครู่หนึ่ง หลิ่วถงจึงเดินเข้ามา
“คารวะท่านเ้าตระกูล คารวะนายท่านใหญ่ คารวะนายท่านรอง!” หลิ่วถงก้มศีรษะคำนับอย่างนอบน้อม
“ไม่ต้องมากพิธี!” หลิ่วฮั่นชิงโบกมือตอบกลับ
“ขอบคุณท่านเ้าตระกูลขอรับ!”
“เ้าสามส่งเ้ามาหรือ?” เ้าตระกูลเห็นหลิ่วถงก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ใช่ขอรับ นายท่านสามได้ยินว่าเมื่อคืนวานท่านพบมือสังหาร ในใจร้อนรนยิ่งนัก ขอให้ข้าน้อยมาเยี่ยมแทนขอรับ!” หลิ่วถงพยักหน้าแล้วตอบอย่างตั้งใจ
“เฮอะ หากเป็ห่วงท่านพ่อจริง ทำไมเขาถึงไม่มาหาท่านด้วยตนเองเล่า?” หลิ่วไห่แค่นเสียงหยันอย่างไม่สบอารมณ์ อดจี้ความผิดของหลิ่วเหอไม่ได้
“นายท่านรองคงไม่ทราบขอรับ นายน้อยเจ็ดตอนนี้ไม่อาจลงจากเตียงได้ นายท่านสามจึงคอยเฝ้าอยู่ข้างกายทั้งวันทั้งคืน ปกป้องความปลอดภัย ดูแลการกินอยู่หลับนอนเสมอมา ครึ่งเดือนกว่าที่นายน้อยเจ็ดได้รับาเ็นี้ นายท่านสามผอมซูบลงและซีดเซียวลงไปมาก หากไม่ใช่ผละตัวมาไม่ได้ อย่างไรนายท่านสามต้องมาเยี่ยมท่านเ้าตระกูลเป็แน่ขอรับ!” หลิ่วถงเอ่ยอย่างจนปัญญา
“ช่างเถิด ข้าก็ไม่ได้เป็อะไร เ้ากลับไปเถอะ บอกเ้าสามว่าไม่ต้องห่วงข้า คอยดูแลเทียนฉีให้ดีๆ!” ได้ยินผู้เฒ่าตอบกลับมา หลิ่วฮั่นชิงย่อมไม่สะดวกตำหนิเพิ่ม
“ขอบคุณท่านเ้าตระกูลที่เข้าใจขอรับ นี่คือศิลาทิพย์สามแสนก้อน เป็ใจกตัญญูที่นายท่านสามมีต่อท่าน ขอท่านโปรดรับไว้ด้วยขอรับ!” หลิ่วถงพูดพลางนำถุงเก็บของใบหนึ่งออกมา ยกขึ้นเหนือศีรษะอย่างนอบน้อม
เมื่อหลิ่วเจียงได้ยิน ความริษยาลึกล้ำสายหนึ่งก็แล่นผ่านในดวงตา เ้าสามเป็ผู้ใช้ยันต์ขั้นสี่ มีความสามารถในการหาศิลาทิพย์มากที่สุด ส่วนตนเป็เพียงผู้ใช้ยันต์ขั้นสาม การหาศิลาทิพย์ยังคงสู้เ้าสามไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่เห็นเ้าสามเอาศิลาทิพย์มาทดแทนบุญคุณบิดาอย่างง่ายดาย เขามักโกรธจนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เพราะเมื่อเ้าสามนำศิลาทิพย์มอบให้มาก เขาก็ต้องเอาศิลาทิพย์จำนวนเดียวกันมอบให้ เพื่อให้บิดารู้สึกว่าเขากับเ้าสามล้วนมีใจกตัญญูเหมือนกัน แต่ก็เพราะเขายังเป็ผู้ใช้ยันต์ขั้นสาม ไยจะเอาศิลาทิพย์สามแสนก้อนออกมาได้ง่ายดายปานนั้นเล่า?
“อืม เหอเอ๋อร์เป็บุตรชายที่กตัญญูที่สุดของข้าจริงเชียว!” หลิ่วฮั่นชิงพยักหน้าหลายหนอย่างพึงพอใจ เขายกมือขึ้น สายลมหอบหนึ่งพัดถุงเก็บของในมือหลิ่วถงขึ้นมา ให้ลอยร่วงในมือตน
“ขอบคุณท่านเ้าตระกูลที่ชมเชยขอรับ ข้าน้อยจะนำคำพูดของท่านไปบอกนายท่านสามอย่างไม่มีตกหล่นขอรับ!”
“อืม ดี เ้าไปเถอะ บอกเหอเอ๋อร์ว่าไม่ต้องเป็ห่วงข้า ดูแลเทียนฉีให้ดีก็พอ!” หลิ่วฮั่นชิงได้รับของทดแทนบุญคุณจากบุตรชาย สีหน้าพลันอ่อนโยนขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก คำพูดที่เอ่ยกับหลิ่วถงก็โอบอ้อมอารีอีกหลายส่วนเช่นกัน
“ขอรับ ท่านเ้าตระกูล!” หลิ่วถงรับคำ ค้อมกายถอยออกจากโถงรับแขกไป
หลิ่วเจียงกับหลิ่วไห่มองถุงเก็บของในมือหลิ่วฮั่นชิงพลันเงียบไปพร้อมกันอย่างมิได้นัดหมาย
ศิลาทิพย์สามแสนก้อน สำหรับเ้าสามเป็จำนวนที่วาดยันต์วิเศษขั้นสี่แค่ไม่กี่แผ่นก็หามาได้ แต่สำหรับหลิ่วเจียงกับหลิ่วไห่ มันไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย!
ยันต์วิเศษขั้นสามแผ่นหนึ่งขายได้แค่ไม่กี่พันศิลาทิพย์ จะหาศิลาทิพย์สามแสนก้อนได้ อย่างน้อยต้องวาดห้าสิบหกสิบแผ่นหรือถึงร้อยแผ่นเชียวนะ!
“เ้าใหญ่ เ้าส่งคนไปตรวจสอบสักหน่อย สืบให้ละเอียด ดูว่าคนของตระกูลหลิ่วเราในสิบกว่าปีนี้ ล่วงเกินผู้มากความสามารถระดับดวงปราณคนใดหรือไม่?”
“ทราบแล้วขอรับ ท่านพ่อ!” หลิ่วเจียงรับคำแล้วหมุนตัวจากไป
“เ้าสอง เ้าก็อย่าเอาแต่คอยหาเื่ฟ้องความผิดเ้าสามเลย มีเวลาว่างก็ยกระดับวิชายันต์ของเ้าเสียบ้าง พลังไปถึงระดับสร้างรากฐาน่ปลายแล้ว วิชายันต์เพิ่งขั้นสอง ไม่กลัวพูดไปแล้วถูกหัวเราะหรือ?”
ในบุตรชายสามคน พร์ด้านยันต์ของเ้าสามดีที่สุด สามารถไปถึงขั้นสี่ได้ ส่วนเ้าใหญ่พลังธรรมดา วิชายันต์ก็มีเพียงขั้นสามธรรมดา ส่วนเ้าสองมีวิชายันต์แย่ที่สุด วันนี้ก็ยังคงเป็ผู้ใช้ยันต์ขั้นสอง
“ขอรับท่านพ่อ ลูกขอตัว!” หลิ่วไห่รู้ชัด ตอนนี้เ้าสามมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ท่านพ่อ ในใจท่านกำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง ย่อมไม่มีทางฟังคำพูดของตนเข้าหู พูดจาว่าร้ายเ้าสามไปตอนนี้ก็ไร้ประโยชน์
“อืม ไปเถอะ!” หลิ่วฮั่นชิงโบกมือส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายออกไป